เราต้องคุยกันเรื่องห้าสิบห้า
rating: +2+x

by qntm

"ขอสูบบุหรี่ได้ไหม?"

ครั้งนี้พนักงานต้อนรับหรี่ตามาที่มาริออน “ไม่” เธอพูด “คุณ— ไม่ คุณไม่สามารถสูบบุหรี่ในทุกที่ของไซต์ 200 แค่เพราะนี้เป็นตึกฝ่ายบริหารไม่ได้แปลว่าเราไม่มีปอด หรือกฏหมายแรงงาน”

มาริออนสังเกตเห็นความหงุดหงิดบนใบหน้าของหญิงสาว “ฉันได้ถามคุณไปก่อนหน้านี้ ใช่ไหม?”

“สองรอบแล้วใน 15 นาทีนี้” พนักงานตอบรับพูด “คุณคงอยากสูบจริงๆ” หญิงสาวไม่เข้าใจถึงการถามคำถามซ้ำๆแบบนั้น และเธอก็ปกปิดความสงสัยของเธอได้ไม่ดีนัก

"เธอคิดว่ามันเหมือน Memento ใช่ไหม?" มาริออนเสนอขึ้นมา "คุณคิดว่าฉันไม่มีความทรงจำระยะยาว และถ้าอยู่ที่เดิมนานเกินไปฉันจะลืมว่าทำไมต้องมาอยู่ตรงนั้น"

พนักงานต้อนรับมีอายุมากพอแค่ที่จะจำหนังเรื่องนั้นได้ “ฉัน…เดาว่างั้น?”

มาริออนยิ้มอย่างเข้าใจและส่ายหัวของเธอ มันไม่ใช่อะไรเข้าใจง่ายแบบนั้น

หลายนาทีผ่านไป เธอจดจ่ออยู่กับการเขี่ยไฟแช๊คไปมา ปีนี้เธอก็อายุห้าสิบแล้วและก็เริ่มมีผมหงอก กำลังเริ่มเปลี่ยนจาก “สาวน้อย” กลายเป็น “หญิงชราน้อย” โทรศัพท์ในกระเป๋าแจ้งเตือนว่ามันถึงเวลากินยา แต่เธอก็เลื่อนเวลาแจ้งเตือนไปภายหลัง นิ้วของเธอสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เพราะอาการจากอายุ มันเป็นแค่ความเครียดปกติ เธอกังวลเพราะเธอมาที่นี่เพื่อพบ O5 และพวก O5 น่ากลัว พวก O5 ไม่เคยอยากจะเจอคุณด้วยเหตุผลเล็กๆน้อยๆ มันต้องเป็นคือจุดจบของโลกหรือไม่มีอะไรเลย

ในที่สุด สายไปสี่สิบนาที ประตูสำนักงานด้านในก็เปิด พนักงานชั้นสูงของสถาบันสี่ห้าคนก็เดินออกมา ถือแล๊ปท็อปหรือซองเอกสาร เดินไปเป็นกลุ่ม พวกเขาเดินผ่านจุดรับรองและขึ้นไปบนรถซึ่งกำลังรออยู่ มาริออนจำหน้าบางคนได้— ผู้อำนวยการไซต์ 19 หัวหน้าฝ่ายจัดหาโซนยุโรปตะวันตก ไม่มีใครมองมาทางเธอเลยแม้แต่คนเดียว

เมื่อพวกเขาไปหมดแล้ว ผู้ช่วยของ O5-8 โผล่หัวออกมาจากทางประตู เขาอายุราวๆยี่สิบกว่า ดูหนุ่มอย่างไม่น่าเป็นไปได้ เหมือนวัยรุ่นแอบใส่ชุดธุรกิจของพ่อตัวเอง ทรงผมของเขาแถบจะไม่เป็นระเบียบ มือข้างหนึ่งถือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์โชว์ตารางงานของเขา มันอัดแน่น เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นแถบจะไม่ได้นอนเลย

“มาริออนใช่ไหม? คุณเข้ามาได้แล้ว”

*

ประตูสำนักงานปิดตามหลังด้วยกลไกที่หนักผิดปกติ แกร็ก ราวกับว่าทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักรที่ติดตั้งในผนังสำนักงาน ขณะที่มาริออนนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ถูกบอกให้นั่งและวางกระเป๋าลง ผู้ช่วยก็หันหลังและทำบางอย่างกับประตู ทำให้มีเสียงแปลกๆ ตามมาอีกหลายเสียง พวกO5 ต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

สำนักงานนั้นกว้างขวาง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างกลับถูกทำให้มืดได้ แม้จะมีหน้าต่างใหญ่สองบานและแสงจ้าอยู่ข้างนอก กำแพงทั้งหมดเป็นชั้นหนังสือและกรุด้วยไม้สีเข้ม สวยงามมีสไตล์ แต่เป็นสไตล์จากยุค 90 เก่าไปหน่อย แต่ก็ไม่เก่าพอที่จะกลับมานำแฟชั่นได้อีกรอบ

สำหรับพวกเราชาวหลังโต๊ะ O5 ไม่ได้เหมือนกับที่คุณจินตนาการไว้หรอก

มาริออนสูดหายใจเข้าลึกๆ “แล้วหัวข้อคืออะไร? ทั้งหมดที่ฉันได้มีแค่จดหมายเชิญพบ ไม่มีวาระการประชุมหรือประเด็น ฉันหมายถึง ถ้า O5 บอกให้ ‘กระโดด’ คุณก็กระโดด แต่- -”

มองไปทางขวาของเธอ เธอเห็นว่าผู้ช่วยคนนั้น โดยไม่พูดหรือส่งเสียงอะไร ได้วางแท็บแล็ตของเขาลงบนโต๊ะ หยิบปืนขึ้นมาและเล็งไปที่หัวของเธอ มาริออนหยุดพูด เธอยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกสักพัก สนใจอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของจังหวะ ให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นราวกับนกฮัมมิ่งเบิร์ดและเริ่มช้าลงอีกครั้ง

“โอเค?” เธอกำลังอยู่ในอันตราย เธอเลียริมฝีปากตนเองและจับที่วางแขน แต่นอกจากนั้นก็ยังนิ่งสนิทในท่าเดิม เตรียมรอเหตุการณ์ฉับพลันอื่นๆ ใบหน้าของผู้ช่วยในตอนนี้นั้นไร้อารมณ์ เหมือนกับนี้เป็นวิธีที่การประชุมควรจะเป็น บางทีก็อาจจะใช่ สำหรับคนที่นี้

“เธอเป็นใคร?” O5-8 ถามเธอ

มาริออนกระพริบตา “อะไรนะ? โอ้ พระเจ้า”

“ให้ผมทวนอีกรอบนะ” O5-8 พูด “มาริออน วีลเลอร์ อายุสี่สิบเก้า มีสามีที่น่ารักและลูกชายอีกสองคน ชอบตั้งแคมป์ ปีนเขาและปักษีวิทยา แม่ผู้น่าเบื่อพร้อมด้วย ประวัติและการเงินที่สมบูรณ์แบบไร้ช่องโหว่ ก็เท่าที่พวกเราตรวจสอบได้ละนะ และคุณก็ได้การรับรองเต็มที่จากสถาบันโดยที่เราไม่เคยมีปัญหา รวมถึงการเข้าถึงรายการกองทหารและที่พักซึ่ง… สถานที่บางอย่างไม่มีตัวตนจริง หรือไม่ก็ถูกปิดไปเมื่อหลายสิบปีก่อน มีอย่างน้อยหนึ่งอันที่ยังไม่ถูกก่อสร้าง และคุณก็มีกุญแจประตูหน้าสำหรับมันแล้ว นั้นยังไม่ได้พูดถึง การเข้าถึงการควบคุม SCP ของคุณ ซึ่งผมบอกนิยามได้แค่ว่า “เยอะจนน่ากลัว”

“ดังนั้น คุณเป็นสปาย เป้าหมายของคุณไม่ตรงกับเรา และเคลย์ก็อยากจะให้ใช้ Xi-3 จัดการกับคุณซะ แต่ผมก็ชะลอเขาไว้ก่อนได้ ผมไปคุยกับเขาตัวต่อตัว ผมคิดว่ามันมีโอกาสเล็กน้อยที่ถ้าเราล็อกคุณไว้ในห้องกันระเบิดและก็ถามคุณดีๆ คุณอาจจะมีเหตุผลดีๆที่จะช่วย ‘ส่วนที่เหลือ’ ของคุณได้”

แมริออนหยุดฟังไปนานแล้ว “ไอ้บื้อเอ้ย” เธอพูดในตอนนี้เธอก็พูดได้ซะที “ฉันเป็นหัวหน้าแผนกแอนติมีมมิติกของนาย”

“เราไม่มีแผนกแอนติมีมเมติกส์” เคลย์พูด

“ใช่ นายมี เรา มี”

O5-8 พูด “เรามีแผนกมีมเมติกส์ แผนกกักกันพลังทางจิต หน่วยดับเพลิง ทีมปฏิบัติการ-A ทีมปฏิบัติการ-B ฝ่ายบุคคล ฝ่ายบุคลากร-D และก็อื่นๆอีกสองโหล เราไม่มีแผนกแอนติมีมเมติกส์”

“เรามีแผนกเหน็บแนมไหมเนี่ย?” มาริออนถาม เธอไม่มั่นใจอย่างคาดหวัง “ไม่หรอ? ดีแล้ว งั้น ลองนี้ ทำไมนายถึงคิดว่าแผนกแอนติมีมเมติกส์จะโชว์อยู่ในรายชื่อ?”

“นี้มันก็แค่การปกปิดเรื่อง” เคลย์พูดกับ O5-8 โดยไม่ละสายตาไปจากมาริออน “มันเป็นเรื่องปกปิดที่ดี แต่เธอก็แค่เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว”

“เคลย์ เงียบไปก่อน” O5 พูดขึ้น

แม้ไม่เต็มใจ แต่เคลย์ก็ทำตามนั้น

มาริออนผ่อนคลายลงเล็กน้อย “มันมี SCP หลายตัวที่มีคุณสมบัติทางมีมเมติกส์ที่อันตราย” เธอพูด “มันเป็นแนวคิดที่ติดต่อได้ซึ่งต้องการการกักกันเหมือนกับภัยทางกายภาพอื่นๆ พวกมันเข้ามาในหัวนายและควบคุมจิตใจนายเพื่อไปยังจิตใจอื่นๆใช่ไหม?”

“ใช่” O5-8 พูด เขาสามารถไล่เลขของ SCP หลายตัวที่ตรงกับคำอธิบายได้โดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ

“มันมี SCP หลายตัวที่มีคุณสมบัติทาง แอนติมีมเมติกส์” มาริออนพูดต่อ “มันเป็นความคิดที่ไม่อาจเผยแพร่ได้ พวกมันเป็นตัวและปรากฏการณ์ที่เก็บเกี่ยวและกลืนกินข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับตัวพวกมันเอง นายถ่ายรูปโพลาลอยด์มารูปหนึ่งและมันไม่มีทางชัดขึ้นมา นายเขียนคำอธิบายลงไปด้วยปากกาบนกระดาษและส่งให้ใครซักคน— แต่อะไรก็ตามที่เขียนลงไปกลับออกมาเป็นอักษรภาพที่ไม่มีใครอ่านออก ไม่แม้แต่นาย นายสามารถมองตรงไปยังซักตัวและมันก็ไม่ได้ล่องหนด้วยซ้ำ แต่นายก็ยังมองว่ามันไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น ความฝันที่ไม่อาจจับต้องได้ และความลับที่ไม่อาจบอกใคร และคำโกหก และการสมรู้ร่วมคิดที่มีชีวิต มันเป็นวัฒนธรรมย่อยทางความคิด เกี่ยวกับความคิดที่กลืนกินความคิดอื่นๆ และ…บางครั้ง…บางส่วนของความเป็นจริง บางครั้ง ผู้คน

“ซึ่งทำให้พวกมันเป็นภัย นั้นแหละทั้งหมดที่บอกได้ ความจริงแล้ว แอนติมีม นั้นอันตรายและพวกเราไม่เข้าใจมัน ฉะนั้น พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ดังนั้นในแผนกของฉัน เราต้องคิดออกนอกเรื่องซึ่งจำเป็นในการต่อสู้กับบางอย่างที่กินการฝึกการต่อสู้ของนายได้แบบตรงตามตัวอักษร”

O5-8 จ้องเธอกลับอยู่ครู่หนึ่ง เคลย์กระสับกระส่าย ไม่ชอบและสงสัยในเรื่องราว แต่ O5 ดูเหมือนจะเปิดใจกับแนวคิดนี้

“บอกชื่อมาตัวหนึ่ง” เขาพูด “บอกชื่อ SCP แอนติมีมเมติกส์มา”

“ "SCP-055” มาริออนตอบอย่างรวดเร็ว

“มันไม่มี SCP-055” เคลย์แย้งกลับ

“อีกครั้ง ใช่มันมี” มาริออนพูด

“มันไม่มี” เคลย์ยืนยัน “หมายเลข SCP ไม่ได้ถูกกำหนดอย่างต่อเนื่องกัน มันมีช่องว่าง เลขที่ไม่เคยมีการกำหนด มันไม่ใช่ความงมงาย เรามีเรื่องให้ใส่ใจเยอะกว่าความลึกลับทางเลขอาราบิก เรามี SCP-666 และ SCP-013 แต่มันไม่มี SCP-001 และไม่มี SCP-055”

“เคลย์” O5-8 พูด “นายควรดูนี้” เขาหันหน้าจอของตัวเองเพื่อให้เคลย์สามารถเห็นไฟล์ที่เขาพึ่งกู้มาได้ เคลย์โน้มตัวมาและอ่านมันจากล่างขึ้นบน งงงวย เขาเลื่อนกลับไปและอ่านมันเป็นครั้งที่สอง

“แต่…”

“ไฟล์นี่มาจาก ปี2008” O5-8 พูด “ มีสัญลักษณ์และลายเซ็นที่ถูกต้องทั้งหมด ถูกลงกุญแจและเข้ารหัส มันเป็นของจริง"

“คุณเคยเห็นอันนี่มาก่อนหรอ?” เคลย์ถามเขา

“ไม่เคยเลยในชีวิต” O5-8 พูด “ก็เท่าที่จำได้ละนะ ยังไงก็ตาม ถ้าเนื้อหามันแม่นย้ำ พวกเราทั้งคู่คงเคยมาแล้วหลายสิบรอบ”

เคลย์มองไปที่ มาริออน “นี้เป็นไปไม่ได้”

มาริออนแถบจะถ่มน้ำลาย “เห็นแก่พระเจ้าเถอะ เคลย์ นายทำงานที่นี่มานานแค่ไหน?”

“แต่ ถ้า SCP มันทรงพลังขนาดนี้” เขาเริ่มพูด

“ว่า?”

“ใครเขียนไฟล์นี้?” O5 ต่อจนจบ “และเรื่องสำคัญ, การสัมภาษณ์ดำเนินการอย่างไร และใครคือ 'บาร์โธโลมิว ฮิวจ์ส'? และสำคัญที่สุด คุณทำยังไง คุณนายวีลเลอร์ ถึงได้ยังมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ได้?”

“บาร์ธ ฮิวจ์ส เขียนไฟล์นี้ เขาตายแล้ว” มาริออนตอบ

“เกิดอะไรขึ้นกับเขา”

“นายไม่อยากรู้หรอก”

มันเกิดการเว้นช่วงนาน ระหว่างที่ทั้งO5-8 และผู้ช่วยของเขาตอบโต้ต่อสิ่งนี้ ความจริงแล้ว พวกเขาหยุดไปนานมาก และในขณะที่หยุดสิ่งอื่นๆก็ดำเนินไปพร้อมกัน เกิดความขุ่นเคืองกับการกระทำที่ดูเหมือนจะหยาบคาย ความสับสนในคำเตือนของวีลเลอร์ต่อหน้าผู้บังคับบัญชาที่มุ่งร้าย แปลกใจกับความชัดเจนของสิ่งที่อ้าง ความไม่เชื่อที่บริสุทธิ์ เริ่มตะหนักได้ และสุดท้าย ความหวาดผวา

“อะไร…” O5-8 ถามอย่างระวัง “จะเกิดขึ้นถ้าเรา ดันไป รู้”

“มันก็จะเกิดขึ้นกับนายเหมือนกัน” มาริออนตอบ อย่างราบเรียบ “…และสำหรับคำถามที่เหลือของนาย เราจัดการเรื่องนั้นด้วยเภสัชกรรม นายรู้ว่าเรามี ยาลบความทรงจำ คลาส-A ไว้ใช้สำหรับคนที่เราต้องการโคตรๆ ให้ลืมบางสิ่ง ใช่ไหม? แน่นอนนายจำได้ ใครจะลืมเกี่ยวกับยาลบความทรงจำคลาส-A? โอ้ สำหรับแอนติมีมเมติกส์ เราใช้ยาตัวอื่น สำหรับคนที่อยากจะจำ ในสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะจำด้วยวิธีอื่น ยากระตุ้นความทรงจำ (Mnestics) คลาส W X Y และ Z เหมือนกับรากคำภาษากรีก 'mnemonic' ตัว M ไม่ออกเสียง

ในกระเป๋าของเธอ โทรศัพท์แจ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง

ด้วยการพยักหน้าอนุญาตจาก O5 มาริออนเอื้อมเข้าไปในกระเป๋าและปิดโทรศัพท์ รับรู้ถึงการแจ้งเตือนในคราวนี้แทนที่จะเลือนการแจ้งเตือนออกไป เธอดึงแผงยามาจากกระเป๋ากางเกงอีกข้างและดันยาออกมา มันเป็นทรงหกเหลี่ยม,และมีสีเขียว เธอถือมันไว้ และพึ่งพอใจที่ได้เห็นแสงหริบรี่ของความทรงจำบนหน้าของ O5-8 เขาเริ่มที่จะประกอบมันกลับเข้าที่

มาริออนพูด “นี้คือยากระตุ้นความทรงจำคลาส-W อ่อนแอสุด เหมาะกับการใช้อย่างต่อเนื่อง สองเม็ดต่อวัน ลองไปที่ส่วนจ่ายยาของไซต์และถามดู เภสัชกรจะบอกว่าพวกเขาไม่มียาพวกนี่ พวกเขาจำผิด บอกให้พวกเขาเช็คอีกรอบ”

O5-8 ถอนหายใจ “และตอนนี้ ผมคิดว่า ผมพอเข้าใจแล้ว เห็นแล้วว่าทำไมเราถึงมีการสนทนานี้ขึ้นมา”

“ใช่เลย” มาริออนพูด ดึงยาเม็ดที่สองออกมาและยื่นมาให้เขา “มันเป็นเพราะนายลืมกินยา นายควรที่จะกินมันเหมือนกับฉันและพนักงานทุกคนของฉัน มันเป็นทางเดียวที่เราจะทำงานได้ นายลืมกินยา หลังจากนั้นนายก็ลืมทุกข้อมูลที่ยาจะช่วยให้นายจำได้ นายลืมว่าทำไมถึงต้องกินมัน ใครเอามันให้นายไปรับมันเพิ่มได้ที่ไหน นายลืมเกี่ยวกับฉัน และก็ทั้งแผนกของฉัน และตอนนี้ฉันก็ต้องมาเร่งให้นายตามทัน”

“และถ้าผมกินนี้” O5-8 พูด “ผมจะจำการสนทนาทั้งหมดนี่ได้และเราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก?”

“หวังว่าคงจะไม่ต้อง” มาริออนพูด

เคลย์เอ๋ยขึ้น “เออ ผมควรกินไอ้นั่นด้วยไหม?”

“โทษที ไอ้หนู” O5-8 พูด “ไว้นายค่อยรู้ที่หลัง บางทีคงตอนนายได้เป็น O5 แล้ว” เขากลืนยานั้นเข้าไป มาริออนก็กลืนของเธอเหมือนกัน

“สรุปแล้วอะไรคือ SCP-055?” O5-8 ถาม

“SCP-055 นั้นไม่เป็นอะไรเลย” มาริออนพูด ตอนนี้เธอผ่อนคลายเต็มที่แล้ว “SCP-055 นั้น เหมือนที่ระบุไว้ในไฟล์ ตัวยับยั้บข้อมูลอัตโนมัติที่ทรงพลัง เท่าที่การทดลองค้นพบ มันสามารถถูกพูดถึงได้แค่ศัพท์เชิงเท็จ เราบันทึกได้แค่สิ่งที่ ไม่ใช่ เรารู้ว่ามันไม่ใช่ Safe หรือ Euclid เรารู้ว่ามันไม่ใช่ทรงกลม หรือเหลี่ยม หรือสีเขียวหรือเงิน เรารู้ว่ามันไม่ได้ โง่ และเราก็รู้ว่ามันไม่ได้ มีตัวเดียว ถ้าที่เรารู้คือมันนั้นอ่อนแอ มันอ่อนแอเพราะว่ามันเป็น ตัวแทนเอนติมีมมิติกตัวเดียวที่เรามีบันทึกทางกายภาพอยู่ในไฟล์ เรามีเอกสารของเจ้าสิ่งนี้ เรามีมาตราการกักกัน มันไม่ปลอดภัย แปลว่ามันอันตราย… แต่มันถูกกักกันได้

O5-8 กระพริบตา “คุณมีมาตราการหรอ? เก็บไว้ที่ไหน?”

มาริออนชี้ไปที่หัวของเธอ

“แล้วมันมีแอนติมีมตัวอื่นอยู่อีกเท่าไหร่? พวกมันอันตรายมากแค่ไหน?”

“ที่ฉันรู้ก็สิบตัว” มาริออนพูด “ตามสถิติแล้ว น่าจะมีอย่างน้อยห้าตัวที่ฉันไม่รู้ นี่ไม่นับตัวตนเอนติมีมที่เดินไปมาในทางเดินอย่างอิสระ ไม่ได้ถูกกักกัน มีอย่างน้อยสองตัวอยู่ในห้องกับเราในตอนนี้ อย่ามอง ฉันบอกว่าอย่ามอง! มันไม่มีผล!”

O5-8 ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการควบคุมตัวเอง ให้ความสนใจของเขาจดจ่ออยู่กับมาริออนเท่านั้น เคลย์ทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก และกวาดไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว มองดูกระทั้งหลังของเขา ทำตัวเองขายหน้า และสุดท้าย เขาก็ไม่เจออะไร เขาดูมึนงงไปหมด

“มันมีสัตว์ประหลาดล่องหนที่คอยตามฉันไปมาและชอบที่จะกินความทรงจำของฉัน” มาริออนอธิบาย อย่างอดทน “SCP-4987 ไม่ต้องค้นหามัน มันไม่มีอยู่ในนั้น ฉันเรียนรู้วิธีที่จะควบคุมมัน มันเหมือนกับสัตว์เลี้ยงที่ต้องคอยตามใจ ฉันสร้างความทรงจำอร่อยๆให้มันเพื่อที่มันจะไม่ได้กินอะไรที่สำคัญ อย่างรหัสผ่านหรือวิธีทำกาแฟ”

“แล้วอีกตัวละ?” เคลย์ถาม

ด้วยการพยักหน้าอนุญาตอีกครั้งจาก O5-8 มาริออนก็เอื้อมไปในกระเป๋าของเธออีกรอบ คราวนี้เธอดึงปืนออกมาและยิงไปหัวใจของเคลย์สองครั้งซ้อน

จากความตกตะลึงมากกว่าความเจ็บปวด เคลย์ล้มกระแทกตู้หนังสือข้างหลังเขา ก่อนจะดึงศีรษะให้หมุนหันไปเผชิญหน้ากับมาริออน เขาพยายามพูด "แก— รู้ได้ไ—"

มาริออนลุกขึ้น เล็งให้ดีกว่าเดิมและยิงเขาเป็นครั้งที่สาม,คราวนี้ที่หัว

O5-8 อีกครั้ง ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการไม่ตอบสนองอะไร “นั้นปืนของเคลย์” เขาพูดอย่างไร้อารมณ์ “คุณขโมยมันมาจากเขา”

“มันยากที่จะขโมยปืนที่หนักขนาดนี้จากใครบางคนโดยไม่ให้พวกเขารู้ตัว” มาริออนอธิบาย ปลดกระสุนออกและค่อยๆวางมันลง “แต่ขโมยปืนแล้วค่อยขโมยความทรงจำของการปล้นมันง่ายกว่าหน่อย เหมือนที่ฉันบอกนั้นแหละ สัตว์เลี้ยง พวกมันบางตัวก็โง่พอที่จะถูกฝึกได้”

“ก็ใช่” O5-8 พูดอย่างราบเรียบ “พวกนั้นผมพอเดาได้ แต่ทำไม?”

“เพราะนายควรจะกินยากระตุ้นความทรงจำ คลาส-W” มาริออนพูด “นายข้ามการกินยากระตุ้นความทรงจำ คลาส-W ไม่ได้ ฉันเคยลองแล้ว นานผลัดเวลาเวลากินได้ แต่นายลืมกินไม่ได้ ยกเว้นจะมีใครขัดขวางนายจากการกินมัน และก็มีแค่คนเดียวที่จะเข้าใกล้นายได้ขนาดนั้น และนั้นคือผู้ช่วยนายและจำตอนที่ฉันถามเขาว่าทำงานที่นี่มานานแค่ไหนได้ไหม?”

“เขาไม่ได้ตอบ” O5-8 พูด “ผมก็นึกว่าคุณแค่เหน็บแนม”

“เขาไม่ได้ทำงานที่นี่” มาริออนพูด “เขาเป็นแอนติมีม เมื่อไหร่กันที่นายมีผู้ช่วย? นายไม่มีผู้ช่วย เบรนต์ ดูห้องทำงานนี่สิ นายมีโต๊ะแค่ตัวเดียว นายมีพนักงานต้อนรับอยู่ข้างนอก เธอเป็นคนที่กรองการติดต่อและจัดตารางเวลาของนาย เคลย์นั่งอยู่ที่ไหนกันแน่? เขามีงานอยู่ที่ไหนกัน? อย่าโทษตัวเองเลย นายเป็นมนุษย์ และสิ่งพวกนี้เป็นร่างจุติของการปกปิดข้อมูล คุณต้องคิดเหมือนเอเลี่ยนเพื่อที่จะเข้าใจพวกมัน

O5-8 ถามคำถามซึ่ง ในที่ทำงานอื่น คงจะเป็นเรื่องไร้สาระ “นั้นเขาตายรึยัง?”

“อาจจะ” มาริออนพูด “ฉันสามารถเอาศพเขาเข้าตารางการวิจัยของเราได้แล้วเราจะได้ดูว่าเมื่อเราผ่าเขาออก มันมีสิ่งตรงกันข้ามอยู่ตรงนี้ ยังไงก็ตาม พวกมันเป็นเหมือนจักรวาลคู่ขนานที่ใช้พื้นที่รวมกัน มันเป็นนามธรรมปะทะรูปธรรม สิ่งอุปมาปะทะกายภาพ มันไม่ปกติมากที่สิ่งเหล่านี้ข้ามมารวมกัน ฉันไม่รู้ว่าเคลย์เคยเป็นอะไร แต่เขามีร่างมนุษย์ ซึ่งทำให้เขาแปลก แม้กับมาตราฐานของเรา เหมือนปกติ การหาทางตันก็ยังดำเนินไปอยู่ ฉันจะแจ้งให้นายรู้ถ้าเราเข้าใกล้มากขึ้น”

“ยาพวกนี้มีผลข้างเคียงอะไรไหม?” O5-8 ถาม

“มันทำให้คลื่นไส้ เสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนมากขึ้น” มาริออนพูด “และก็ทำให้ฝันร้ายด้วย”

ถัดไป: แอนติมีมเมติกส์ เบื้องต้น

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License