“สวัสดีครับ ไอศกรีมเอดดี้ส์ พวกเรามีรายการพิเศษ-”
“คนตายเต้นระบำ”
“อะ-อะไรนะ คุณครับ ผมคิดว่าคุณได้-”
“ACC 119998256”
“…กรุณารอซักครู่…”
“…”
“…ผมจะต่อสายท่านไป”
“…”
“การบันทึกส่วนกลาง แล้วแผนกล่ะ”
“ข่าวกรอง”
“กำลังโอนสาย”
“…”
“นี่คือแผนกข่าวกรอง ยังไง…โอ้ ให้ตายสิ นายต้องการอะไรเนี่ยฮาร์เคน”
“การยืนยันตัวเป้าหมาย ก็แค่นั้นแหล่ะ”
“…สภาพการบันทึกของพวกเราระบุว่านายมีข้อมูลภารกิจเป้าหมายอันตรายทั้งหมดที่นายต้องการ”
“ภารกิจรอง เงียบมาก ๆ แค่นึกออก”
“อ่าฮะ ได้เลย เอาล่ะบอกฉันเรื่องการส่งคนออกไปที่มาจากตัวเอลวิสเองหน่อยสิ”
“นายแค่บอกฉันมาว่าใช่หรือไม่ใช่กัน”
“…เป้าหมายล่ะ”
“หัวข้อที่เกี่ยวข้องหมายเลข B112674 ปฏิบัติการ MC&D ‘บูมเมอร์’”
“…นายมีสถานที่ที่แนะนำมั้ย”
“โรงงงานฟอร์ดเก่าใกล้กับตำแหน่งปัจจุบันของฉันมากที่สุด”
“…ได้ ฉันจะไม่ถามเลยว่ายังไงหรือทำไม-”
“ไปละ เจอกัน”
“เดี๋ย-”
เครมเมอร์มองไปที่กระดาษโน้ตที่แปะอยู่ตรงกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอน่าจะตั้งใจมากกว่านี้แต่เธอได้เป็นกลางกับการจู่โจมที่ไม่คาดฝันของปฏิบัติการศาสนจักรและเธอได้หมดเรี่ยวแรงที่เธออาจเกือบจะยืนได้ ตอนนี้ชิ้นส่วนที่มีชีวิตเล็ก ๆ รู้สึกบอบช้ำและเจ็บปวดที่ไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของเธอที่กำลังอ่านโน้ต
เครมเมอร์-
มีบางอย่างนึกออกขึ้นมาได้ซึ่งต้องวิ่งออกไป กาแฟอยู่ในถ้วยและมีขนมปังเดนิชอยู่ในกล่อง เก็บเอแกลร์ให้ฉันหน่อยนะ ถ้าฉันไม่เช็คอินภายในตอนเที่ยงหรืออย่างนั้นล่ะก็จะต้องให้พวกเขาดึงไมโครชิปและส่งคนนึงไป ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ล่ะก็งั้นฉันเดาว่ามันไม่มีเหตุผลจริง ๆ ที่จะกังวลไป ขอล่ะว่าอย่าทำลายทุก ๆ อย่างที่สำคัญเมื่อฉันกลับมา
ฮาร์เคน
เธอถอนหายใจพร้อมกับเปิดกล่องและกัดแทะขนมอบอย่างไม่ใส่ใจเมื่อเธอเดินเข้ามาในครัวเล็ก ๆ ความจริงพร้อมกับตรงที่ (ถ้าจำกัดของเขต) ควบคุมที่ตั้งใจของระบบร่างกายส่วนสำคัญส่วนใหญ่ของเธอ เธอไม่ได้ต้องการสารคาเฟอีนมากมายนักแต่ตัวพิธีการของมันเองบางครั้งก็สำคัญมากกว่าสิ่งของที่แท้จริง เธอล้มตัวลงบนเก้าอี้โซฟาสีเทาพร้อมกับจ้องมองไปที่นาฬิกา เธอโค้งงอตัวในชุดกางเกงวอร์มและคลุมหัวชุดนอนส่วนบนพร้อมกับจิบกาแฟร้อน ๆ
“เที่ยง ๆ นะฮาร์เคน งั้นฉันจะหานายและจะทำลายทุกอย่างที่นายเหลือเอาไว้ซะ”
หมอบลงในท่ามกลางการแผดเผาของพระอาทิตย์ยามเช้า ฮาร์เคนก็ถูกความสั่นสะท้านหวาดเสียวจับกุมในทันทีโดยที่ไม่รู้สึกตัว เขาสะบัดมันออกและเพ่งความสนใจอีกครั้งไปที่อาคารเตี้ย ๆ ยาว ๆ ที่อยู่ตรงอีกฝั่งของที่จอดรถที่ร่วนซุย ที่รกร้างที่มีหน้าต่างแตกร้าวเป็นบางบาน วัชพืชได้กลืนกินทะเลสีเทาของวัสดุราดบนถนนอย่างช้า ๆ ซึ่งดูราวกับว่าไม่มีอะไรเอามาก ๆ ฮาร์เคนเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ กระพริบตาปัดกวาดเหงื่อจากดวงตาของเขา พื้นที่ด้านหลังของกระท่อมป้องกันภัยเก่า ๆ ได้ดูราวกับว่ามีไอเดียดี ๆ ในเมฆหมอกสลัว ๆ ของยามเช้า แต่ดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นเตาอบ เขายังไม่กล้าที่จะขยับ บูมเมอร์มีสัมผัสที่หกสำหรับอันตรายราวกับแมลง
เขามองผ่านไปยังรอยแตกบนกำแพงกระท่อมบาง ๆ เขากำลังจ้องมองหน้าต่างบานเกล็ดเก่า ๆ ที่ท่าเรือบรรทุกสินค้า มันได้อยู่ใกล้ ๆ เกือบสามชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่ชายร่างท้วมได้ออกไปและฮาร์เคนกำลังเริ่มจะยอมแพ้กับความหวัง เขาอาจหมดกะทำงานแล้วและไปที่ไซต์ข้าง ๆ ที่อาจทำให้ฮาร์เคนอยู่ในอันตรายที่ควบคุมไม่ได้เนื่องจากบูมเมอร์ชอบระเบิดงานไซต์เก่าเอามาก ๆ เพื่อเป็นของขวัญอำลา สิ่งนี้ยังรู้สึกได้อย่างถูกต้อง ชายร่างใหญ่ก็ยังอยู่ที่นี่ซึ่งเขายังซุ่มดูอยู่ เขาอาจได้เห็น—
ตรงนี้
เดินเตาะแตะไปรอบ ๆ ด้านหลังซึ่งด้านร่มเงาของโรงงานมีเค้าโครงที่ใหญ่เทอะทะของความอ้วนกลมที่วิกลจริต การจ้องมองดูเขาในร่มเงาที่เยือกเย็นและมืดมิดทำให้มือของฮาร์เคนบีบรัดเป็นก้อนในกระเป๋าเสื้อสูทของเขา หยาดเหงื่อไหลรินลงมายังด้านหลังและบนใบหน้าของเขาแต่เขาไม่รู้สึกอะไรเลยในตอนนี้ ดวงตากำลังเบิกกว้างซึ่งตรงข้ามกับเข็มที่ทิ่มแทงความเค็ม บูมเมอร์เอนตัวลงและคว้าที่จับด้ามของประตูลูกกรงเหล็ก อย่างน่าจะเป็นไปได้ว่ามีน้ำหนักร้อยปอนด์หน่อย ๆ ชายร่างใหญ่ยกขึ้นมาราวกับว่าเขากำลังเปิดหน้าต่างอยู่ เขาเลื่อนไปข้างในเพื่อให้มันได้ร่วงหล่นลงไปด้านหลังด้วยเสียงกระแทกที่ดังกึกก้องไปทั่วพื้นที่ว่างสีดำ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฮาร์เคนลื่นไถลข้ามบานหน้าต่างบานหนึ่งที่แตกราวกับเงามืด
บูมเมอร์ยกถังน้ำมันใบสุดท้ายลงในตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้าตู้เก่า ๆ มันเป็นกลุ่มสุดท้ายแล้วและแม้ว่าด้วยความรื่นรมย์ทั้งหมดของอาคารและการทดสอบระเบิดซึ่งเขารู้สึกเหนื่อย เขาบิดสายไฟเส้นสุดท้ายที่ด้านบนและเริ่มจะตั้งค่าที่ตัวรีโมท นี่ก็ได้ดีมากกว่าที่จะทำรถยนต์หรือไปโผล่ที่สำนักงานของนายดาร์ค เหล่าบรรดาผู้คนแห่งศาสนจักรที่แสนดีเหล่านั้นกำลังจับจ่ายได้ดิบได้ดีและนายดาร์คก็ไม่ได้อยากจะรู้ แล้วสิ่งใดที่เป็นอันตรายกันล่ะ นอกจากนี้พวกเขาชอบระเบิดลูกใหญ่ ๆ ระเบิดเพลิงซึ่งเป็นระเบิดชนิดที่เขาแทบจะไม่เคยลืมที่จะทำเลย ริมฝีปากใบหนาได้แยกออกมาเป็นรอยยิ้มแยกเขี้ยวซึ่งระลึกถึงระเบิดไฟลูกแรกของเขา…บ้านถูกเผาไหม้อย่างไร…น้องชายเลี้ยงของเขากรีดร้องอย่างไรซึ่งผิวหนังที่หลั่งไหลลงมาราวกับขี้ผึ้งของเขา—
เสียงเล็กแหลมซึ่งดังเปรี้ยงดังผ่านไปยังพื้นโรงงานร้าง
บูมเมอร์หมุนวนไปรอบ ๆ ซึ่งตกใจอย่างสุดขีดอย่างรวดเร็วสำหรับชายร่างใหญ่ ในระยะไม่กี่หลาได้มีชายผู้หนึ่งที่หายใจหอบและชุ่มไปด้วยเหงื่อที่สวมใส่ชุดสูทที่สกปรกได้ยืนอยู่ เขาถือสิ่งที่ดูราวกับสนับมือสองชุดพร้อมกับติดใบมีดซึ่งมือข้างขวาชี้ขึ้นไปด้านบนส่วนมืออีกข้างหนึ่งชี้ลงไปด้านล่าง ดวงตาของเขาจ้องมองด้วยความเกลียดชังซึ่งปากชิดสนิทในรอยยิ้มแยกเขี้ยวที่ไม่มีความตลกขบขันแม้แต่น้อย เขาชี้ที่บูมเมอร์ด้วยมีดที่อยู่ด้านขวามือ
“แกทำขากรรไกรฉันหักนะโว้ย”
พวกเขาจ้องมองกันชั่วขณะหนึ่งจากนั้นบูมเมอร์โยนฝาถังราวกับจักรที่ใช้ขว้างไปที่ฮาร์เคน ฮาร์เคนเอี้ยวตัวแต่จับขอบด้วยแขนของเขาได้ซึ่งสร้างเสียงร้องครวญครางที่ความเจ็บปวดอันแหลมคม บูมเมอร์ขยับเขยื้อนตัวแล้วกระแทกไปที่โต๊ะช่างของเขา เขาล้มไปรอบ ๆ อย่างรุนแรงซึ่งเก็บให้ชายอีกผู้หนึ่งที่ริมขอบสายตาของเขาเมื่อมือทั้งสองข้างปีนป่ายตะกายไปบนม้านั่งยาว ฮาร์เคนตามหลังไปสด ๆ ร้อน ๆ ซึ่งก้มหลบอย่างแนบเนียนหมดจดเมื่อบูมเมอร์โยนค้อนอันหนึ่ง เมื่อเขาใกล้กับช่องว่างบูมเมอร์ก็ลงมือตีโดยทันทีและกระแทกอย่างแรงด้วยความยาวของท่ออันหนึ่ง ฮาร์เคนลงต่ำซึ่งเขารู้สึกว่ามันมีเสียงหวดใกล้ศีรษะจากนั้นก็กระแทกอย่างแรงที่ข้อเท้าหนา ๆ ของบูมเมอร์ด้วยมีด
บูมเมอร์ร้องครางเสียงแหลมจากนั้นก็เตะออก เขาจับฮาร์เคนตอนเผลอโดยไม่ระวังตัวซึ่งผลักเขาออกจากเท้าและนอนกางแขนกางขาไปที่พื้น ชายร่างท้วมหายใจหอบฮืดฮาดซึ่งเสียงร้องไห้แหลมรั่วไหลออกมาจากริมฝีปากหย่อนยานเมื่อเขาเห็นเลือดเริ่มไหลรินลงมาจากขา เขายกท่อขึ้นราวกับขวานและถือไปปะทะลงที่ท่านอนคว่ำของฮาร์เคน ฮาร์เคนม้วนตัวและยกสนับมือเหล็กซึ่งจับท่อด้วยเสียงดังแคร๊งที่ก้องกังวาน บูมเมอร์เดินโซซัดโซเซไปด้านหลังซึ่งฮาร์เคนผลิกเท้าของเขาแม้ว่าเขารู้สึกว่ามือของเขากำลังชาจากการปะทะ
บูมเมอร์หวดท่ออีกสองครั้ง ฮาร์เคนก็คอยออกจากระยะอย่างง่ายดายซึ่งกำลังจ้องมองไปที่ชายร่างท้วม เขาดึงท่อกลับมาผลักมันกลับราวกับกระบองซึ่งกำลังรอคอย ฮาร์เคนหมอบลงและลื่นไถลไปด้านหน้าด้วยความเรียบนุ่มนวลราวกับน้ำมันซึ่งการโจมตีแบบกลลวงด้วยมีดใบต่าง ๆ กำลังจ้องมองบูมเมอร์งอตัวและลื่นไหลไปด้านหลัง เลือดจากบาดแผลแรกได้ลื่นไหลรินลงมาเรียวยาวตามใบมีดซึ่งไหลรินลงไปในฝ่ามือที่กำแน่นของฮาร์เคน ความร้อนของเขาเองทำให้ที่จับด้ามรู้สึกว่ามันร้อนซึ่งลื่นเป็นมันราวกับปลาไหลในขณะที่เขาถือไปด้านหน้า มันเป็นการโจมตีที่แย่มากแต่ยังขุดร่องตรงด้านช่องท้องที่ใหญ่โตของบูมเมอร์ซึ่งนำพาให้เกิดเสียงกรีดร้องแหลมอีกเสียงหนึ่ง
ฮาร์เคนกดเข้าไปซึ่งกระแทกหมัดของเขาต่ออีกครั้งและอีกครั้ง แถบเหล็กได้เปิดแผลกว้างด้วยการโจมตีแต่ละครั้ง เขานำมีดด้านซ้ายลงตรงต้นขาอ่อนของบูมเมอร์ในขณะที่ชายร่างท้วมต่อยหมัดของเขาที่ศีรษะของฮาร์เคน เอเย่นต์ถูกส่งลงไปนอนกางแขนกางขาแต่บูมเมอร์เกือบจะล้มซึ่งจับขาอ่อนของเขาแน่น เขากำลังจ้องมองเลือดไหลท่วมระหว่างนิ้วมือซึ่งไหลรั่วซึมบนลงพื้น ศีรษะของเขาแหวกว่ายและวิ่งบนเส้นทางมากมายหลายเส้นทางเกินไป ความเจ็บปวดอันแสนหวานแหลมคมของเงินและเนื้อหนังสดที่ถูกเจาะรูเติมเต็มศีรษะของเขาด้วยเสียงกรีดร้อง
ฮาร์เคนลุกขึ้นสะบัดศีรษะ จุดต่าง ๆ ได้แหวกว่ายเบื้องหน้าสายตาของเขา เขาพลิกมีดกริชด้านขวาที่ตอนนี้กำลังถือทั้งคู่ลง มือทั้งคู่ของเขาชาและลื่นไหลเป็นมัน เขารู้สึกว่ามีรอยฟกช้ำที่ก่อตัวขึ้นในฝ่ามือของเขาเรียบร้อยแล้ว ใต้ลิ้นของเขารู้สึกแหลมและเต็มไปด้วยหนามจากการหายใจหอบ บูมเมอร์ลุกขึ้นเดินโซซัดโซเซและหายใจหอบ เขากำลังกุมขาและกำลังจ้องมองที่ฮาร์เคน พวกเขาจ้องมองกันและในชั่วขณะหนึ่ง ฮาร์เคนมองเห็นเด็กทารกที่กำลังร้องไห้ที่กำลังพยายามจะทำลายโลกที่เขาเกลียดชังและไม่เข้าใจให้พังพินาศ
เขาขู่ฟ่อบางสิ่งบางอย่างและขดตัวที่จะจู่โจมออกไปอีกครั้ง เขากำลังจ้องมองที่จุดแม่นยำบนลำคอหย่อนหยานของบูมเมอร์ที่เขาจะฝังมีด เขาแค่เตรียมพร้อมที่จะทำเมื่อบูมเมอร์เริ่มจะหัวเราะคิกคักผ่านทางฟันซี่ที่ขบแน่นไปด้วยเลือด ฮาร์เคนตัวแข็งทื่อ เขากำลังจ้องมองไปที่ความไม่ชอบมาพากลของมันซึ่งเขากำลังมองดูในขณะที่ชายร่างใหญ่ถือและกำมือแน่นรอบ ๆ…บางสิ่งบางอย่าง ก้อนสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ของ—
ปุ่มสวิตช์เดดแมน
เชี้ย
เขาเริ่มลื่นไถลไปด้านหลังอย่างรวดเร็วซึ่งกำลังต้องการให้กระจ่างชัดเจนแต่เขาก็ไม่ยอมหันหลังให้กับชายร่างใหญ่ บูมเมอร์หายใจหอบฮืดฮาดและหัวเราะคิกคัก เขาเดินโซซัดโซเซเข้าไปใกล้ ๆ กับตัวอาคารที่มีโพรงมากขึ้น “ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ อะ-ไอ้เชี้ยฮาร์เคน! มาจับฉันสิฮาร์เคน! เด็กน้อย! ฮ่ะ!” คำเอ่ยเยาะเย้ยฟูมฟายออกมาของบูมเมอร์ก็ได้บดบังใบหูของฮาร์เคนโดยเสียงแหลมเบา “ปิ้ง” ของชิ้นส่วนโลหะที่มีขนาดเท่ามือที่ร่วงหล่นลงบนพื้น
เขากำลังออกตัววิ่งแล้วในตอนนี้ เขาไม่สนใจแล้วถ้าหากถูกยิงที่บริเวณแผ่นหลังในจุด ๆ นี้ ตรงนั้นได้มีหลายวินาทีของความเงียบเชียบ ฮาร์เคนกำลังรู้สึกราวกับถ้าหากเขามีหมวกกันน็อคของประสาทสัมผัสเปิดของเขาเอง รอยฟกช้ำบนใบหน้า ฝ่ามือและหลังของเขา ปอดของเขากำลังไหม้ รสเข้มข้นของความเจ็บปวดภายใต้ลิ้นจากการหายใจแรงเกินไป หยาดเหงื่อและเลือดภายในดวงตาของเขา เท้าทั้งสองข้างของเขาต่อยด้วยทุก ๆ การฟาดลงบนพื้นคอนกรีตหนา ๆ แสงแวววาวของแสงไฟจากหน้าต่างบานหนึ่งราวกับแสงไฟที่อยู่สุดปลายทางของอุโมงค์ยาวหลายพันไมล์ ละ—
และทันใดนั้นยกขึ้นไปซึ่งทำให้งงงวย หน้าต่างเข้าหามาเร็วเกินไปมาก ขาทั้งสองข้างเลื้อยราวกับธงยาวที่ใช้การไม่ได้ มีคลื่นเผาไหม้เกรียมคลื่นหนึ่งที่หลังของเขาและตอนนี้ผ่านทางมีดโกนเล็ก ๆ เฉือนบนตัวเขา เขากำลังรู้สึกไร้การเชื่อมต่อ ไร้การดำเนินต่อ ไร้การ…บางสิ่งบางอย่างหรือสิ่งอื่น ๆ พื้นดินอันอบอุ่นและการต้อนรับจากบรรยากาศเก่า ๆ และนอนหลับไหลในตอนนี้
เขาตื่นขึ้นมาจากเสียงแตกหักและกลิ่นควัน และสำหรับการคาดเดาครั้งที่สองเขาเดาว่าได้ผล็อยหลับลงไปในกองไฟอีกครั้ง และนั่นมารดาได้แตะเขาให้ตื่นขึ้นเพื่อกลับบ้าน ความเป็นจริงได้ฉวยกลับในจุดสำคัญด้วยความเจ็บป่วย ลูกกรงเอียง และฮาร์เคนงอตัวอย่างช้า ๆ พร้อม ๆ กับทำเสียงขู่ฟ่อ เขาได้ยินเสียงครวญครางอันเลือนรางของรถดับเพลิง ณ ที่ใดที่หนึ่ง…ดังนั้นเขาไม่สามารถออกไปข้างนอกนานเกินไปได้ สนับมีดรู้สึกเฉอะแฉะและร้อนดังนั้นเขาทิ้งสนับมีดเหล่านั้นไป เขาเช็ดหน้าและมองดูมือของเขาที่เลือดไหลรินออกมา ใบหน้าของเขาอาจจะเต็มไปด้วยใบหญ้าที่ตัดแล้ว
เขาโอดครวญพร้อมกับพยายามล้วงหาโทรศัพท์มือถือ มือรู้สึกเจ็บและใกล้จะยืดหยุ่นราวกับกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่ หน้าอกและแผ่นหลังรู้สึกราวกับว่าเขาได้ปะทะระหว่างกระทะใบใหญ่สองใบ เขาเดินโซซัดโซเซออกมายังระบบรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องของเส้นสายระโยงระยาง เขากำลังมองดูควันและไฟที่กำลังลุกโหมกระหน่ำอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามนิ้วของเขากำโทรศัพท์มือถือในลำดับขวา ซึ่งเขาไอและกลืนกินเลือดเสียจำนวนหนึ่งลงไป
“เชี้ย ฮาร์เคน ห่าอะไรเนี่ย”
“ขอโทษนะ”
“นายทำห่าอะไรเนี่ย นายอยู่ไหนวะ”
“ฉันได้หลอกบูมเมอร์ ฉันแค่…คิดว่าฉันน่าจะตามมันไป”
“นายน่าจะตายไปซะ! นายคิดเชี้ยอะไรอยู่เนี่ย พวกเราทำงานเป็นทีมเพื่อเหตุผลเชี้ย ๆ พวกเราหนุนหลังให้กันและกัน พวกเราแจ้งให้กันและกัน พวกเรา—”
“ฉันขอโทษนะ เครมเมอร์”
“พวกเราพยายาม…ว่าไงนะ”
“ฉันบอกว่าฉันขอโทษ มันโง่มาก ฉัน…ฉันแค่รู้สึกว่าฉันควรจะทำน่ะ”
“…เขาตายมั้ย”
“…ไม่น่านะ ระเบิดอาคาร ฉันฟันเขาสาหัสน่าดู”
“นายเป็นอะไรมั้ย”
“…ฉันยังอยู่ดี”
“ฉันไม่ได้ถามถึงตรงนั้นซักหน่อย”
“…ฉันยังทำงานได้ เธอและคนอื่น ๆ ทุกคนนี่ก็ควรจะขอบคุณซะ”
“…คำสั่งกำลังจะโดนขัดเอานะ”
“ที่จริงแล้วฉันไม่คิดแบบนั้นหรอก ดูเหมือนว่าบางสิ่งบางอย่างที่ใหญ่โตกำลังอยู่ในงาน เสียงดังระเบิดมากมายเลยเนี่ยแต่มันดูเหมือนแม้ว่าจะย้ายออกไปแล้วก็ตาม ใครบางคนอยากให้บางสิ่งบางอย่างได้ระเบิดตูมตามอย่างเลวร้ายโครต ๆ ฉันจะไปเรียกคนทำความสะอาดหลังจากเธอ ให้พวกเขาจัดการมันซะ ฉันเจ็บตัวอยู่นะ”
“ฉันพนันได้เลย”
“เธอมารับฉันได้มั้ย ฉันอยู่ที่โรงงานฟอร์ดเก่า ๆ หลังที่เก้า ใส่ชุดเหมือนกับตำรวจ”
“ได้ ๆ ”
“…ฉันเจ็บมือ ฉันคิดว่าต้องนอนซักงีบแล้ว”
“ได้ ๆ ฮาร์เคน อย่าไปไหนล่ะ”
“….ขอบใจนะที่ไม่ขู่ฉันด้วยเรื่องเจ็บตัวอีก”
“ใครอยากจะขู่ล่ะ แค่เดาต่างหาก”
“วันนี้ฉันได้บอกเธอรึยังว่าฉันรักเธอนะ เครมเมอร์”