SCP-414-TH
rating: +6+x
blank.png
วัตถุ#: 414-TH
ระดับ5
ระดับการกักกัน:
euclid
ระดับย่อย:
none
ระดับความเป็นภัย:
ekhi
ระดับความอันตราย:
danger

วัตถุ # : SCP-414-TH
ระดับ : Euclid (อยู่ระหว่างการพิจารณาฉุกเฉินเป็น Thaumiel)


มาตรการกักกันพิเศษ:

ทางสถาบันได้ประสานงานกับรัฐบาลอินเดีย จีน บังกลาเทศ และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการกำหนดพื้นที่หวงห้ามการปล่อยจรวดและขีปนาวุธเหนือชั้นบรรยากาศโลกใดๆทั้งสิ้นในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฝั่งแผ่นดินใหญ่ จีนตอนใต้ ปากแม่น้ำคงคา และรัฐทั้งเจ็ดแห่งตะวันออกของอินเดียโดยใช้โครงการเพื่อสันติภาพเป็นฉากบังหน้าถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของสถาบัน

ทางสถาบันได้จัดตั้งสถานีอวกาศ ณ วงโคจร 410 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก เพื่อสังเกตการณ์ SCP-414-TH และ SCP-414-TH-T เนื่องจากข้อจำกัดในการบันทึกภาพผ่านกล้องทุกประเภท สถาบันจึงจัดตั้งให้สถานีอวกาศดังกล่าวจำเป็นต้องมีผู้สังเกตการณ์อย่างน้อย 3 คนและผลัดเปลี่ยนรอบทุกๆ 6 เดือน เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง และติดต่อกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นโลก

เกาะ ███████ ████ ในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้จะถูกใช้เป็นสถานที่ทำการทดลองที่เกี่ยวข้อง SCP-414-TH-T สถาบันได้มอบหมายให้หน่วยปิดบังข้อมูลช่วยป้องกันไม่ให้การมีอยู่ของเกาะดังกล่าวรั่วไหลไปยังสาธารณะ

การแก้ไขรายละเอียดหลังเหตุการณ์ U0797 – สถาบันได้ประสานงานกับกลุ่มพันธมิตรสิ่งลี้ลับโลก เพื่อเริ่มการวิจัย ออกแบบ และก่อสร้างดาวเทียมที่จะเป็นหน่วยเสริมการป้องกันให้กับ SCP-414-TH และ SCP-414-TH-T ในกรณีที่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรในระดับนานาชาติ และความร่วมมือระหว่างหลายองค์กร


รายละเอียด:

FPHWpAg.jpg

ภาพถ่าย SCP-414-TH จากกล้องบนสถานีอวกาศ

SCP-414-TH คือโครงสร้างทรงกลมที่ไม่เป็นที่รู้จัก ที่มีความกลมแบบอุดมคติอย่างแท้จริง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1200 เมตร ทำจากวัสดุไม่ทราบชนิดซึ่งมีค่าดัชนีหักเหแสงประมาณ 1.03, SCP-414-TH จะรักษาระดับการลอยตัวที่ 80 กิโลเมตรจากพื้นโลกในชั้นบรรยากาศ Mesosphere และเคลื่อนที่เป็นวงกลมผ่านพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำหรือปากแม่น้ำทั้งหมด 4 แห่งตามเข็มนาฬิกา ได้แก่ บริเวณลุ่มน้ำเสฉวน (นครเฉิงตู-ฉงชิ่ง) ปากแม่น้ำจูเจียง (นครกว่างโจว-เสินเจิ้น-ฮ่องกง) ปากแม่น้ำโขง (กรุงพนมเปญ-โฮจีมิน) และปากแม่น้ำคงคา (กรุงธากา) โดยมันจะใช้เวลา 24 ชั่วโมงในการวนครบรอบ 1 ครั้ง

SCP-414-TH ทำหน้าที่เป็นตัวขึง และควบคุมเส้นใยเรืองแสงสีเหลือง-ขาวไม่ทราบวัสดุ ซึ่งคลอบคลุมโลกทั้งใบเอาไว้ในระดับความหนาแน่นที่บางพอที่จะยังทำให้มองเห็นพื้นผิวโลกจากดวงจันทร์ สถาบันค้นพบถึงการมีอยู่ของเส้นใยเหล่านี้ผ่านจากคำให้การของนักบินอวกาศขณะสำรวจบนพื้นผิวดวงจันทร์ในปี 1969 การเก็บตัวอย่างโดยตรง หรือกระทั่งการสังเกตการณ์ในระยะใกล้นั้นดำเนินการได้อย่างยากลำบากเพราะชั้นบรรยากาศ Mesosphere นั้นเบาบางเกินกว่าที่จะส่งโดรนหรือบอลลูนขึ้นไป แต่หนาแน่นเกินกว่าที่จะใช้ดาวเทียมโคจร สถาบันจึงจำเป็นต้องศึกษามันผ่านกล้องหรือบุคลากรบนจรวดที่ถูกส่งขึ้นไปเหนือชั้นบรรยากาศโลก

จากการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 50 ปี พบว่าไม่มีกล้องบันทึกภาพชนิดใดที่สามารถบันทึกภาพหรือร่องรอยของเส้นใยดังกล่าวได้ มีเพียงแค่ดวงตามนุษย์ที่สามารถมองเห็นมัน แต่สามารถใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ไม่มีการดัดแปลงภาพควบคู่กันได้ และมนุษย์จะสามารถเห็นมันได้เมื่ออยู่เหนือพื้นโลกมากกว่า 400 กิโลเมตรขึ้นไปเท่านั้น จรวดหรือดาวเทียมทุกประเภทที่มนุษย์ส่งขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศส่วนบนหรือวงโคจรรอบโลกนั้นไม่มีผลกระทบต่อระบบเส้นใย

ในช่วงแรกนักวิจัยได้ลงความเห็นว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่ SCP-414-TH สร้างขึ้นมาและส่งผลต่อมนุษย์เท่านั้น แต่หลังจากมีการส่งบุคลลากรขึ้นไปตรวจสอบ พบว่าความหนาแน่นของประชากรในแต่ละภูมิภาคจะแปรผันตรงกับความหนาแน่นของเส้นใยที่ถักทอกันบนน่านฟ้าของภูมิภาคนั้น นักวิจัยจึงส่งคำร้องให้เริ่มดำเนินการการทดลองเพิ่มเติมเพื่อศึกษาปรากฏการณ์ของ SCP-414-TH ดังกล่าว และจำกัดความให้เส้นใยนี้เป็น SCP-414-TH-T


รายการการทดลอง:

การทดลอง A001: สถาบันได้ส่งบุคลากรกลุ่มแรกจำนวน 3 คนขึ้นไปสังเกตการณ์บนสถานีอวกาศที่วงโคจร 410 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก และกลุ่มที่สองจำนวน 2 คนไปยังเกาะ ███████ ████ที่อยู่ห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ พบ SCP-414-TH-T 2 เส้นเคลื่อนที่ไปยังบริเวณเกาะดังกล่าวตามบุคลากรสองคน ทำให้สถาบันสามารถพิสูจน์ได้ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง SCP-414-TH-T และมนุษย์ที่มีอยู่จริง

ในระหว่างการสังเกตการณ์พบว่า SCP-414-TH-T สองเส้นดังกล่าวพันกันอยู่และเริ่มเคลื่อนไหวแล้วสร้างเส้นใยใหม่ขึ้นมาเป็นเส้นที่สาม จากการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่าบุคลากรทั้งสองบนภาคพื้นโลกนั้นมีความสัมพันธ์ทางความรัก โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทางสถาบันทราบ และฝ่ายหญิงนั้นตั้งครรภ์ขณะทำการทดลอง

การทดลอง A005: สถาบันได้ส่งบุคลากรจำนวน 1 คนและสุนัขจำนวน 3 ตัว ไปยังเกาะดังกล่าว พบว่ามี SCP-414-TH-T 4 เส้นเคลื่อนที่ไปยังเกาะดังกล่าว

การทดลอง A006 – A035: พบว่ามีแค่สัตว์ที่มีการรับรู้ถึงการมีอยู่ของตนเองเท่านั้นที่มี SCP-414-TH-T เป็นของตนเอง (อาทิ มนุษย์ สุนัข แมว โลมา ช้าง และหมึก)

การทดลอง A033: สถาบันได้ส่งบุคลากรจำนวน 1 คนไปยังเกาะดังกล่าว แต่ในระหว่างทำการทดลองเกี่ยวกับแมลง บุคลากรดังกล่าวได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายในห้องพัก ทันทีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลุ่มผู้สังเกตการณ์บนสถานีอวกาศได้สังเกตเห็น SCP-414-TH-T เหนือเกาะเปลี่ยนเป็นสีดำ ขาดลงและไหลกลับเข้าไปใน SCP-414-TH นอกจากนี้เส้นใยทั้งหมดที่ถูกถักทอพันกับ SCP-414-TH-T ที่กลายเป็นสีดำนั้นถูกกระชากและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมในภายหลังพบว่าบุคลากรดังกล่าวประสบภาวะโรคซึมเศร้าระหว่างที่ทำการทดลอง โดยสถาบันไม่ทราบมาก่อนหน้า จากการสังเกตการณ์บนสถานีอวกาศพบว่าความเสียหายของระบบเส้นใยที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งถาวร และส่งผลให้ SCP-414-TH ต้องจัดเรียงและถักทอเส้นใยที่เกี่ยวข้องใหม่เกือบทั้งหมด

การทดลอง A050: สถาบันส่งบุคลากรที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและสมัครใจเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองนี้ไปยังเกาะดังกล่าว เมื่อเขาเสียชีวิตแล้ว SCP-414-TH-T ของบุคลากรคนดังกล่าวได้หดกลับเข้าไปใน SCP-414-TH โดยไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น และไม่มีการเปลี่ยนสี

การทดลอง B001 – B104: สามารถสรุปการทดลองทั้งหมดได้ว่า การกระทำของมนุษย์และสัตว์ที่มีสติสัมปชัญญะในเชิงความสัมพันธ์ทุกรูปแบบส่งผลต่อการถักทอกันของ SCP-414-TH-T แต่ในขณะเดียวกันการถักทอของ SCP-414-TH-T ก็สามารถส่งผลถึงเหตุการณ์หรือองค์ประกอบของความสัมพันธ์นั้นได้เช่นกัน นักวิจัยจึงลงความเห็นว่า SCP-414-TH และมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อกันอย่างลึกซึ้ง และขอให้มีการทดสอบและทดลองเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


เหตุการณ์ U0797:
เกิดปรากฎการณ์การก่อตัวของสสารไม่ทราบชนิดสีดำไร้การสะท้อนแสง เป็นวงกลมแนวราบ เหนือชั้นบรรยากาศโลกที่ระดับวงโคจรประมาณ 10,000 กิโลเมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 กิโลเมตร บริเวณรัฐฉานตอนบนของสหภาพเมียนมาร์ เวลาเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นคาบสมุทรอินโดจีน กล้องบันทึกภาพจากดาวเทียมและสถานีอวกาศของทางสถาบันสามารถจับภาพสสารสีดำขนาดประมาณ 1 ไปจนถึง 25 เมตร เป็นจำนวนมากทะลักออกมาจากระนาบวงกลมดังกล่าวและพุ่งเข้าหา SCP-414-TH-T

ทันทีที่ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นผู้สังเกตการณ์ได้มองเห็น SCP-414-TH ชักเครือข่าย SCP-414-TH-T ทั้งหมดที่ลอยตัวเหนือชั้นบรรยากาศโลกกลับลงไปยังระดับที่ต่ำกว่าชั้น Stratosphere (นักวิจัยคาดการว่าเป็นการอำพรางเครือข่าย SCP-414-TH-T ทั้งหมดลงไปในกลุ่มเมฆ และเพิ่มระยะทางเพื่อลดโอกาสในการถูกพุ่งชน) และปล่อยแสงพลังงานสูงสีขาวออกมาเป็นระยะ พุ่งไปยังกลุ่มก้อนสสารดังกล่าว การปะทะกันของแสงพลังงานสูงและสสารสีดำทำให้สสารศูนย์สลายไปและแสงดังกล่าวจะย้อนกลับเข้าไปยัง SCP-414-TH

ปรากฏการณ์ดังกล่าวก่อตัวขึ้นเป็นเวลา 4 ชั่วโมงก่อนที่ระนาบวงกลมนั้นจะหายไป จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีสสารสีดำส่วนหนึ่งที่หลุดรอดจากการโต้กลับของ SCP-414-TH พุ่งเข้าชนเครือข่าย SCP-414-TH-T และบริเวณที่ถูกชนนั้นกลายเป็นสีดำและเสียหายอย่างหนัก SCP-414-TH ต้องรื้อ SCP-414-TH-T บางส่วนกลับเข้าไปในตัวมัน และถักทอมันขึ้นใหม่ แต่ความเสียหายนั้นยังคงอยู่อย่างถาวร คาดการณ์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำจากลักษณะความเสียหายที่คล้ายคลึงกันในบริเวณอื่นๆ

การตรวจสอบเพิ่มเติมถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สถาบันพบว่าอัตราการฆ่าตัวตาย การก่อคดีความฆาตกรรมและวินาศกรรมเพิ่มขึ้น 10 ถึง 50 เท่าตัวในภูมิภาคที่ SCP-414-TH-T ได้รับความเสียหายเหนือภาคพื้นดิน และกินเวลานานมากกว่า 5 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักวิจัยหลายคนลงความเห็นเดียวกัน และส่งคำร้องไปยังสภา O5 เพื่อเปลี่ยนแปลงระดับ SCP-414-TH จาก Euclid เป็น Thaumiel และขอให้อนุมัติการศึกษาสสารสีดำดังกล่าวเพื่อจัดตั้งมันลงบนฐานระบบข้อมูลของสถาบันอย่างเร่งด่วนที่สุด

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License