SCP-407-TH
rating: +11+x

วัตถุ# SCP-407-TH

ระดับ: Safe

มาตรการกักกัน: นอกเหนือจากการทดสอบแล้วให้เก็บ SCP-407-TH ไว้ในโรงเก็บพาหนะในไซต์-██ และล็อกล้อไว้ ให้ทำการตรวจสภาพ SCP-407-TH ทุกสัปดาห์ ระหว่างการตรวจสภาพนี้ให้พนักงานหนึ่งคนนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสารจนกว่าจะตรวจสภาพเสร็จ ทั้งนี้ผู้ดูแลโครงการอาจพิจารณาการพ่นสีรถใหม่หลังการทดลองแต่ละครั้งเพื่อลดโอกาสที่บุคคลภายนอกจะจำ SCP-407-TH ได้ นักวิจัยระดับ 2 ขึ้นไปสามารถยื่นเรื่องทำการทดลองกับ SCP-407-TH ได้ โดยให้ขนย้ายไปยังพื้นที่ทดสอบที่จัดเตรียมไว้นอกไซต์ อนุญาตให้ใช้บุคลากร D-คลาสทำหน้าที่คนขับในการทดลองเท่านั้น ซึ่ง D-คลาสที่ใช้ในการทดลองนี้จะต้องใช้สายนิรภัยโยงไว้กับ SCP-407-TH ไม่ให้หลบหนีไปได้ หลังจากที่ SCP-407-TH กลับมาแล้วนั้น ให้ทีมเก็บกู้ติดตามสัญญาณ GPS ไปและขนย้ายกลับมาตามความเหมาะสม

รายละเอียด: SCP-407-TH เป็นรถโดยสารไม่ประจำทางแบบสามล้อเครื่องซึ่งในเมืองไทยนั้นเรียกว่า "รถตุ๊กๆ" ภายในรถมีจอ GPS ติดมาด้วย ด้านหลังเบาะนั่งคนขับมีสติ๊กเกอร์แปะไว้ว่า"รับประกันความปลอดภัยตลอดการเดินทาง" และ "งดสูบบุหรี่" ในตอนที่เก็บมานั้นมันมีป้ายทะเบียนหมายเลข ██.███ ซึ่งตรวจสอบแล้วว่าเป็นทะเบียนของรถที่ถูกแจ้งสูญหายไปเมื่อปี 2550 ในขณะนี้ยังไม่สามารถสืบหาตัวบุคคลซึ่งเป็นชื่อเจ้าของทะเบียนได้

SCP-407-TH จะแสดงความผิดปกติออกมาเมื่อมีบุคคลซึ่งสภาพร่างกายสามารถขับรถได้ขึ้นไปนั่งในที่นั่งคนขับโดยที่ที่นั่งผู้โดยสารว่างอยู่1ได้ระยะหนึ่ง ช่วงเวลาที่ความผิดปกติจะเกิดขึ้นนั้น ที่บันทึกไว้ในขณะนี้เร็วที่สุดคือ 15 วินาที โดยผู้ทดลองจะพบว่าตนเองไม่สามารถลุกขึ้นจากที่นั่งได้และสิ่งอื่นๆก็จะไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ของรถได้เลย2 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บันทึกภาพทั้งที่ติดตั้งไว้ในรถและที่อยู่นอกรถนั้นจะไม่สามารถบันทึกภาพใดๆของ SCP-407-TH ระหว่างที่เกิดความผิดปกติได้เลย แต่อุปกรณ์บันทึกเสียงรวมถึงวิทยุสื่อสารจะยังทำงานตามปกติ3

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ผู้ถูกผลกระทบก็จะมองเห็นบุคคลปรากฏขึ้นตรงที่นั่งของผู้โดยสารซึ่งจะบอกจุดหมายให้ผู้ทดลองไปส่ง4 การพยายามให้บุคคลอื่นนอกจากผู้ถูกผลกระทบสื่อสารกับผู้โดยสารนั้นล้มเหลวทั้งหมด ถึงตอนนี้ ทางเดียวที่ผู้ทดลองจะลงจากรถได้ก็คือต้องขับรถไปยังจุดหมาย ผู้โดยสารดูจะไม่สนใจหากว่าผู้ทดลองปฏิเสธไม่ไปส่งและจะนั่งรออยู่อย่างนั้น ระหว่างการเดินทางนี้จะมีความผิดปกติด้านมิติเกิดขึ้นเสมอและจอ GPS ก็จะสามารถแสดงเส้นทางไปยังที่หมายได้แม้ว่าผู้โดยสารอาจจะไม่บอกตำแหน่งชัดเจนก็ตาม (ดูรายละเอียดในบันทึกการทดลอง) การติดตาม SCP-407-TH ระหว่างเดินทางนั้นล้มเหลวทั้งหมด โดย SCP-407-TH มักจะหายไปเมื่อคลาดสายตาทีมเก็บกู้พร้อมกับที่สัญญาณ GPS หายไปด้วย การพยายามขับรถออกนอกเส้นทางนั้นไม่ประสบความสำเร็จ โดยเครื่อง GPS จะเพียงแต่คำนวณเส้นทางใหม่ซึ่งไม่ว่าผู้ถูกผลกระทบจะเปลี่ยนเส้นทางอย่างไรหรือแม้แต่ขับออกจากถนนก็จะเข้าไปใกล้ที่หมายเรื่อยๆอยู่ดี การพยายามหยุดรถก่อนจะถึงจุดหมายก็ล้มเหลวทั้งหมดด้วยเช่นกัน5 หลังจากถึงจุดหมายซึ่งผู้ทดลองระบุว่าผู้โดยสารจะหายตัวไปแต่จะทิ้งสิ่งของบางสิ่งที่คาดว่าเป็นค่าโดยสารไว้เสมอ ถึงตอนนี้จะสามารถตรวจจับสัญญาณ GPS ของ SCP-407-TH ได้อีกครั้ง และผู้ทดลองก็จะสามารถลงจาก SCP-407-TH ได้ SCP-407-TH นั้นจะกลับมาในบริเวณที่ห่างไกลผู้คนและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยมีพยานพบเห็นในตอนที่มันกลับมา ผู้ทดลองทุกคนก็บอกว่าไม่สามารถระบุได้ว่าตนกลับมาได้อย่างไร หากว่าผู้ทดลองยังคงนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับแล้วก็ยังคงมีโอกาสที่จะเกิดความผิดปกติขึ้นอีกแต่ใช้เวลานานกว่าเดิมมาก ในขณะนี้ที่เร็วที่สุดที่บันทึกไว้คือ 1 ชั่วโมง และยังดูเหมือนว่าความผิดปกติด้านมิติเวลาที่ป้องกัน SCP-407-TH นั้นยังจะอ่อนลงเมื่อเกิดผลกระทบซ้ำในลักษณะนี้ (ดู การทดลอง 407-4) จึงได้พิจารณาแล้วว่าไม่น่าจะเป็นโอกาสให้บุคลากร D-คลาสใช้ในการหลบหนีได้

ทั้งนี้ ในช่วงที่ความผิดปกติดำเนินอยู่นั้นไม่ว่าระหว่างการเดินทางนั้นจะเกิดเหตุการณ์อย่างไร SCP-407-TH ผู้ถูกผลกระทบ และผู้โดยสารก็จะปลอดภัยจากอันตรายภายนอกทั้งหมดเสมอ แต่เมื่อผลกระทบยุติลงแล้ว SCP-407-TH และคนขับก็อาจได้รับอันตรายตามปกติ SCP-407-TH ที่เสียหายจนไม่สามารถแล่นได้นั้นจะไม่ทำให้เกิดความผิดปกติ การถอดซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนของ SCP-407-TH นั้นกระทำได้ตามปกติ ชิ้นส่วนของ SCP-407-TH นั้นเมื่อนำไปเปลี่ยนให้รถคันอื่นก็จะไม่เกิดความผิดปกติใดๆด้วย

บันทึกการเก็บกู้: สถาบันทราบเรื่องของ SCP-407-TH จากเจ้าหน้าที่แฝงตัวในสำนักงานตำรวจ หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุจากวัด███████ จังหวัด█████ ในวันที่ ██/██/████ ว่าพบรถตุ๊กๆไม่มีเจ้าของถูกจอดทิ้งไว้หลายวันแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ตรวจสอบและพบว่าไม่มีวัตถุระเบิดหรือสิ่งของผิดกฏหมายอื่นๆแล้วจึงให้สิบตำรวจตรี███ █████ขับไปไว้ที่สถานีตำรวจ แต่ได้หายไประหว่างทาง จนกระทั่งหนึ่งชั่วโมงต่อมา สิบตำรวจตรี███จึงได้แจ้งว่าตอนนี้ตนอยู่ในในอาคารจอดรถของศูนย์การค้า██████ สาขา██████ ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกินกว่าที่รถตุ๊กๆจะสามารถขับไปถึงได้ในช่วงเวลาดังกล่าว และบันทึกภาพของกล้องรักษาความปลอดภัยนั้นก็ไม่พบว่าเขาขับ SCP-407-TH เข้าไปตั้งแต่เมื่อใด เมื่อสถาบันได้เข้าสอบสวน สิบตำรวจตรี███บอกว่าระหว่างที่รอออกรถนั้นเขาเห็นชายวัยกลางคนชาวต่างชาติสวมเครื่องแต่งกายแบบผู้ดีอังกฤษสมัยก่อนขึ้นมาและบ่นเรื่องความคับแคบของรถ แต่เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆไม่มีปฏิกิริยากับชายคนนี้และเขาเองก็ลงจากรถไม่ได้ ประกอบกับที่ที่นั่นเป็นวัดและอยู่ใกล้กับสุสาน เขาจึงคิดว่าเขาเห็นผีและทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยหวังว่าเดี๋ยวมันจะหายไปเอง "ผี"ตนนั้นบอกให้เขาขับไปส่งที่โรงแรม█████6 ซึ่งเครื่อง GPS ก็แสดงเส้นทางขึ้นมาในทันที สิบตำรวจตรี███พยายามไม่สนใจและขับกลับไปที่สถานีตำรวจแต่ก็พบว่าตนเข้าไปใกล้จุดหมายเรื่อยๆ เขายังรายงานว่าสภาพอาคารบ้านเรือนข้างทางนั้นก็ดูแปลกตาไป ดูเก่าคล้ายกับที่เขาเคยเห็นในภาพถ่ายสมัยก่อน จนกระทั่งเมื่อถึงจุดหมาย "ผี" ตนนั้นจึงได้หายตัวไปและเขาก็พบว่าตนไปอยู่ในอาคารจอดรถนั้นได้อย่างไรก็ไม่ทราบ พยานทุกคนในเหตุการณ์นี้ถูกลบความทรงจำแล้ว ทั้งนี้ สถาบันยังได้เก็บกล่องไม้มะฮอกกานีมาจากที่นั่งผู้โดยสารของ SCP-407-TH ซึ่งภายในนั้นเต็มไปด้วยจดหมายโต้ตอบระหว่างชายชาวอังกฤษชื่อ████ ████████กับลูกสาวของตน ยกเว้นแต่ใบสุดท้ายซึ่งเป็นโทรเลขที่แจ้งว่าเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว

บันทึกการทดลอง: บางส่วนของข้อมูลการทดลองที่น่าสนใจของ SCP-407-TH สำหรับบันทึกการทดลองฉบับเต็มนั้นให้ดูในเอกสาร 407-TH-LOG

การทดลอง 407-1

ผู้ทดลอง: นักวิจัยผู้ช่วยคริ้ว (การทดลองนี้ได้ดำเนินการก่อนจะจำกัดให้ใช้ D-คลาสเป็นผู้ทดลองเท่านั้น)

ผู้โดยสาร: สตรีในช่วงวัยรุ่นซึ่งบอกให้ไปส่งที่งานแต่งงานของพี่ชายของเธอ

ผลการทดลอง: นักวิจัยคริ้วได้ขับ SCP-407-TH ออกไปได้โดยคงระดับความเร็วไว้ที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและให้ทีมเก็บกู้ติดตามไป ประมาณ 10 นาทีหลังจากที่เริ่มออกรถ ทีมเก็บกู้ก็คลาดสายตากับ SCP-407-TH และ สัญญาณ GPS ของ SCP-407-TH ก็หายไปจนกระทั่ง 20 นาทีต่อมาซึ่งสัญญาณของ SCP-407-TH ได้ปรากฏขึ้นซึ่งอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นไปประมาณ 120 กิโลเมตร ในตอนที่ไปเก็บคืนนั้นพบว่าที่นั่นเป็นซอยเล็กๆหลังโรงงานบำบัดน้ำเสียแห่งหนึ่ง นักวิจัยคริ้วบอกว่าเมื่อถึงที่หมายผู้โดยสารก็หายตัวไปแล้วและยืนยันว่าตนคงระดับความเร็วไว้ที่ 60 กิโลเมตรตลอดการเดินทาง โดยเขาบอกว่าการเดินทางราบรื่นดี แม้ว่าเขาจะสังเกตเห็นว่าไม่มีพาหนะแล่นบนถนนเลยในช่วงเวลาที่ SCP-407-TH หายไปและสองข้างทางก็เป็นทุ่งนาซึ่งผิดไปจากที่ควรจะเป็น ในตอนที่เขาไปถึงนั้นไม่เห็นโรงงานแต่เป็นโครงสร้างเหมือนรังมดหรือจอมปลวกขนาดใหญ่มากจนตอนแรกนั้นเขาเข้าใจว่าเป็นภูเขาจนกระทั่งเห็นคนคลานเข้าออกตามช่องต่างๆ

สิ่งที่ทิ้งไว้: ก้อนโลหะหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม เมื่อนำไปตรวจสอบพบว่าทำจากทองแดงและนิกเกิลหลอมรวมกัน

การทดลอง 407-3

ผู้ทดลอง: นักวิจัยผู้ช่วยคริ้ว (การทดลองนี้ได้ดำเนินการก่อนจะจำกัดให้ใช้ D-คลาสเป็นผู้ทดลองเท่านั้น)

ผู้โดยสาร: ไม่แน่ชัด ประเมินจากคำบรรยายของนักวิจัยผู้ช่วย คริ้วได้ว่าเป็นมนุษย์เพศหญิง

ผลการทดลอง: SCP-407-TH หายไปหลังจากที่ออกจากจุดเริ่มต้นได้ประมาณ 2 นาที ตั้งแต่ที่ผลกระทบเริ่มต้นนั้นนักวิจัยผู้ช่วย คริ้วเอาแต่สนทนาเชิงเกี้ยวพาราสีกับผู้โดยสารโดยที่แทบจะไม่สนใจการติดต่อกับฝ่ายบัญชาการเลย ที่จับใจความได้จากการสนทนานั้นพูดถึงแนวประการังขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถมองเห็นยอดได้ ปราสาทที่ตั้งอยู่บนหลังของสัตว์สี่เท้าขนาดใหญ่ และวัตถุทรงกลมซึ่งเป็นพืชดอกขนาดใหญ่มากซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ

ประมาณ 7 นาทีหลังจากที่ SCP-407-TH หายไป สามารถจับสัญญาณ GPSได้อีกครั้ง นักวิจัยผู้ช่วย คริ้วยังคงไม่ยอมตอบสนองต่อการสื่อสารและเอาแต่นั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ พูดแต่ว่าเขาอยากจะเจอเธออีกครั้ง จากการตรวจสอบตำแหน่งของ GPS ในภายหลังนั้น พบว่าที่นั่นเป็นที่พักตากอากาศ[ข้อมูลปกปิด] ซึ่งในขณะนั้นไม่มีใครอยู่นอกจากยามเฝ้าทางเข้าและคนดูแลบ้าน ได้ทำการลบความทรงจำพยานทั้งหมดแล้ว

สิ่งที่ทิ้งไว้: ดู การทดลอง 407-4

หมายเหตุ 1: การทดลองครั้งนี้ทำให้ตระหนักถึงความเป็นไปได้ว่า SCP-407-TH จะมีผลโน้มน้าวทางจิต ซึ่งในการทดลองหลังจากนั้นบ่งชี้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น แต่เป็นไปได้ว่าตัวตนซึ่งเป็น"ผู้โดยสาร"ของ SCP-407-TH อาจส่งผลกระทบดังกล่าวได้

หมายเหตุ 2: เนื่องจากข้อมูลการคงอยู่ของบ้านพักตากอากาศแห่งนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อสถาบันได้ จึงได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการ O5 พิจารณาทำการสืบสวนเพิ่มเติมแล้ว

การทดลอง 407-4

ผู้ทดลอง: นักวิจัยผู้ช่วยคริ้ว (นักวิจัยผู้ช่วย คริ้วได้ดำเนินการทดลองครั้งนี้โดยมิได้รับอนุญาตโดยการไม่ยอมลงจากที่นั่งคนขับจนเกิดความผิดปกติขึ้นอีกครั้งในเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากการทดลอง 407-3)

ผู้โดยสาร: ผู้ชายหนึ่งคน แต่งกายแบบวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สมัยโบราณ นุ่งโจงกระเบน ไม่สวมเสื้อ ผิวสีแดง มีเขาเล็กๆสองข้าง ผู้โดยสารบอกจุดหมายแค่ว่าให้ไปส่งที่ทำงาน

ผลการทดลอง: ดูเหมือนว่านักวิจัยผู้ช่วยคริ้วจะได้สติหลังจากที่เห็น"ผู้โดยสาร" SCP-407-TH หายไปหลังจากที่ออกจากจุดเริ่มต้นได้ประมาณ 4 นาที นักวิจัยผู้ช่วยคริ้วรายงานมาทางวิทยุว่าสภาพแวดล้อมข้างทางเปลี่ยนไปเป็นที่รกร้างที่มีแต่ก้อนหินดินทราย ก่อนจะบอกว่าเขารู้สึกร้อนอบอ้าวขึ้นเรื่อยๆและทัศนวิสัยในขณะนั้นแย่มาก รอบรถมีหมอกหนาจนมองอะไรไม่เห็น น่าสังเกตว่าในการทดลองครั้งนี้ฝ่ายบัญชาการสามารถได้ยินเสียงกรีดร้องจากนอกรถได้ ต่างจากการทดลองอื่นๆซึ่งไม่สามารถได้ยินอะไรนอกจากเสียงเครื่องยนต์รถและผู้ทดลอง

ประมาณ 40 นาทีหลังจากที่ SCP-407-TH หายไป สามารถจับสัญญาณ GPS ได้อีกครั้ง นักวิจัยผู้ช่วยคริ้วรายงานว่าผู้โดยสารหายไปแล้วและเขากลัวมากจึงคิดจะขับรถย้อนกลับไปทางเดิมดู ทันใดนั้นเองได้เกิดเสียงระเบิดดังมาก ทีมงานได้ยินเสียงนักวิจัยผู้ช่วยคริ้วกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและตะโกนเรียกฝ่ายบัญชาการ แต่ไม่ตอบสนองต่อที่เรียกไปเลย ทีมเก็บกู้ไปพบ SCP-407-TH จอดอยู่ข้างถนนบนเขา█████ ห่างจากจุดเริ่มต้นไปประมาณ 300 กิโลเมตร ยางรถทั้งหมดระเบิดซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเพราะโดนความร้อนสูง และได้พบว่านักวิจัยผู้ช่วยคริ้วพลัดตกเขาเสียชีวิตแล้ว โดยในตอนที่ไปพบนั้นศพของเขาถูกสัตว์กัดกินไปบ้างแล้ว ผลการชันสูตรระบุว่าเขาเสียชีวิตจากที่คอหักและนอกจากบาดแผลที่เกิดจากการพลัดตกแล้ว ยังมีเลือดออกจากหูทั้งสองข้างและมีแผลไฟลวกอยู่ตามใบหน้าและมือ คาดว่าหลังจากที่ความผิดปกติยุติลงแล้วความร้อนใน"จุดหมาย"ที่ให้ไปส่งที่ยังคงอยู่หลังจากนั้นคงจะทำให้ยางรถระเบิดและเสียงระเบิดนั้นก็ทำให้แก้วหูของเขาฉีกขาด จากนั้นนักวิจัยผู้ช่วยคริ้วที่ตื่นกลัวและเริ่มรู้สึกถึงความร้อนคงจะหนีลงไปจากรถแต่อาการหูบาดเจ็บทำให้เขาเสียการทรงตัวและพลัดตกเขา

สิ่งที่ทิ้งไว้: ถุงผ้าซึ่งเต็มไปด้วยฟันมนุษย์ขนาดต่างๆกัน นับจำนวนได้ 400 ซี่ กับ ซองเอกสารบรรจุภาพของสิ่งมีชีวิตซึ่งไม่รู้จักหนึ่งคู่ โดยหนึ่งในนั้นสะพายสิ่งที่คาดว่าคงจะเป็นเครื่องดนตรีอยู่โดยใช้หนวดระยางค์ประคองไว้ มีลายเซ็นอยู่ที่มุมหนึ่งของภาพด้วย

หมายเหตุ: หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ให้ใช้บุคลากร D-คลาสเป็นผู้ทดลองเท่านั้น

การทดลอง 407-7

ผู้ทดลอง: D-4834

ผู้โดยสาร: บุคคลซึ่งสวมผ้าคลุมขาดๆปิดไว้จนมองไม่เห็นส่วนใดๆของร่างกาย D-4834 รายงานว่าน่าจะเป็นผู้ชายแต่เสียงแหบมากจนเขาจับความไม่ได้ แต่เครื่อง GPS ก็บอกเส้นทางไปได้

ผลการทดลอง: SCP-407-TH หายไปหลังจากที่ออกจากจุดเริ่มต้นได้ประมาณ 6 นาที D-4834 รายงานมาว่าตอนนี้เขาขับรถอยู่ในอุโมงค์และมันมืดมาก เท่าที่เขาเห็นนั้นดูเหมือนจะมีเมืองทั้งเมืองอยู่ในอุโมงค์นี้ อาคารเล่านั้นดูเป็นอาคารสมัยใหม่แต่มันร้างและดูทรุดโทรมมาก 20 นาทีต่อมา D-4834 บอกว่าตอนนี้เขากำลังขับรถเลียบหลุมขนาดใหญ่มาก แสงไฟรถส่องไม่เห็นอีกด้านของหลุม เขาตั้งข้อสังเกตจากสิ่งของที่เห็นตามขอบหลุมว่ามันน่าจะเป็นหลุมขยะ เมื่อสามารถจับสัญญาณ GPS ได้อีกครั้งใน 5 นาทีต่อมา D-4834 รายงานมาว่าผู้โดยสารหายไปแล้วก่อนจะสำลักและขาดการติดต่อไป ทีมเก็บกู้ไปพบ SCP-407-TH ติดอยู่ในถ้ำซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยค้นพบ ภายในถ้ำนั้นเต็มไปด้วยกำมะถันและ D-4834 ก็เสียชีวิตแล้ว

สิ่งที่ทิ้งไว้: ข้าวหอมมะลิที่สีแล้ว 1 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสปิดผนึกไม่มียี่ห้อ

การทดลอง 407-13

ผู้ทดลอง: D-7762

ผู้โดยสาร: สิ่งที่ดูไม่เหมือนมนุษย์ เท่าที่ประติดประต่อจากคำบรรยายของ D-7762 นั้นมันดูเหมือนดอกทานตะวันแต่ทุกส่วนเหมือนจะทำจากเนื้อ ส่วนดอกไม้นั้นเป็นอวัยวะเหมือนช่องปากที่มีฟันแบบมนุษย์เรียงรายอยู่เต็มและมีลิ้นยาวซึ่งดูแข็งและกลวง ปลายลิ้นนั้นแหลม สวมชุดนักธุรกิจ ด้วยความตื่นกลัว D-7762 จึงไม่ได้ฟังว่ามันบอกให้ไปที่ไหน แต่เครื่อง GPS ก็ระบุเส้นทางไปแล้ว

ผลการทดลอง: SCP-407-TH หายไปหลังจากที่ออกจากจุดเริ่มต้นได้ประมาณ 19 นาที D-7762 รายงานมาว่าตอนนี้เขาขับรถอยู่ในอุโมงค์และกำลังลงไปเป็นแนวตั้งฉากกับพื้น ที่นั่นมืดและมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว D-7762 ยังบอกว่าล้อลื่นมากและรู้สึกหยุ่นๆ ครู่ต่อมา D-7762 ก็ตระหนกและบอกว่าเขากำลังอยู่ในตัวของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่มาก น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบทางเดินอาหาร ฝ่ายบัญชาการได้ปลอบให้เขาสงบสติอารมณ์โดยบอกว่าเขาจะปลอดภัยตราบเท่าที่ยังอยู่ในรถ 5 นาทีต่อมา D-7762 บอกว่าผู้โดยสารหายไปแล้วและเนื้อที่อยู่รอบๆกำลังบีบรัดเข้ามาก่อนจะตะโกนไม่ได้ศัพท์ ทีมเก็บกู้ไปพบ SCP-407-TH จอดอยู่ข้างโรงฆ่าสัตว์ร้างในจังหวัด█████โดยมีร่องรอยความเสียหายจากการกดทับเล็กน้อยรอบตัวรถ ส่วน D-7762 นั้นแม้จะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและสลบไปเพราะความกลัวแต่ก็ปลอดภัย

สิ่งที่ทิ้งไว้: กองหินสีขุ่นขนาดต่างๆกัน ก้อนที่ใหญ่สุดนั้นวัดขนาดได้ประมาณ 15 เซนติเมตร เมื่อนำไปตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นก้อนนิ่วของวาฟ

การทดลอง 407-25

ผู้ทดลอง: D-8099 ก่อนการทดลองครั้งนี้ D-8099 ถูกปลูกฝังสื่อมีมมือสังหารแบบกระตุ้นทางเสียง โดยหลังจากที่ D-8099 บอกว่าเริ่มถูกผลกระทบก็ได้กำจัดเขาทิ้งทันที

ผู้โดยสาร: ไม่ทราบ

ผลการทดลอง: ครู่หนึ่งหลังจากที่ D-8099 ถูกกำจัด SCP-407-TH ก็เริ่มเคลื่อนที่และหายไปหลังจากที่ออกจากจุดเริ่มต้นได้ประมาณ 3 นาที สามารถตรวจจับสัญญาณ GPS ของ SCP-407-TH ได้อีกครั้งในเวลา 2 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งมันแช่น้ำอยู่ในเขตน้ำตื้นของอุทยานแห่งชาติหาด██████ จังหวัด███ ศพของ D-8099 ที่ยังพบอยู่ในรถนั้นมีร่องรอยว่าถูกวัตถุบางอย่างแทงเข้าไปตามปลายนิ้วมือทั้งสิบและส้นเท้าทั้งสองข้างลึกถึงข้อมือและเข่า

สิ่งที่ทิ้งไว้: แท่งโลหะที่ดูเหมือนขาแมลงขนาดใหญ่ มีข้ออยู่ตรงกลาง วัดความยาวเมื่อเหยียดออกได้ประมาณ 80 เซนติเมตร ในตอนที่พบนั้นมันยังมีของเหลวเหมือนเลือดสีเขียวเข้มไหลออกมาจากรอยที่เหมือนถูกตัดมาใหม่ๆ

การทดลอง 407-34

ผู้ทดลอง: D-1012

ผู้โดยสาร: ผู้ชายไทยอายุประมาณ 40 ปี ดวงตาถูกควักออกทั้งสองข้างจนเห็นเป็นรูโบ๋ ร่างกายเหมือนศพซีดผอม สวมเสื้อกาวน์แบบนักวิทยาศาสตร์ สะพายอุปกรณ์ที่ไม่รู้ว่าคืออะไรอยู่ข้างหน้า เนื้อตัวมอมแมมราวกับไม่ได้อาบน้ำมาเป็นปีๆและมีกลิ่นตุๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่ GPS ก็ได้ระบุเส้นทางเอาไว้แล้ว

ผลการทดลอง: SCP-407-TH หายไปหลังจากออกจากจุดเริ่มได้ 8 นาที ก่อนที่ D-1012 จะรายงานมาว่ารอบๆตัวนั้นมืดสนิทมากจนมองไม่เห็นอะไรเลยในตอนนี้ แถมยังบอกอีกว่าไฟหน้ารถอาจจะเสียเพราะมันติดแค่ไฟท้ายกับไฟในตัวรถเท่านั้น หลังจากรายงานจบ D-1012 ก็เหมือนจะคุยกับผู้โดยสารถึงสภาพแวดล้อมที่นี่ก่อนที่การสนทนาจะจบลงอย่างรวจเร็วพร้อมกับความเงียบเป็นเวลานานและเสียงสะอื้นเบาๆจาก D-1012 ในอีก 10 นาทีต่อมา D-7762 จึงบอกว่าผู้โดยสารหายไปและเงียบไปอีก หลังจากนั้นสามารถตรวจจับสัญญาณ GPS ของ SCP-407-TH ได้อีกครั้งในเวลา 4 ชั่วโมง 18 นาทีต่อมาและมันจอดอยู่ในลานจอดรถในไซต์-██ ของสถาบันในจังหวัด███████

สิ่งที่ทิ้งไว้: ธนบัตร 100 บาท จำนวน 2 ใบ ที่ซีดและเก่ามากๆ ภาพที่อยู่บนธนบัตรไม่เหมือนบุคลใดในโลกนี้

หมายเหตุ: หลังจากที่ D-1012 กลับมาได้ไม่นานเขาก็ควักลูกตาของตัวเองออกและได้บอกกับเจ้าหน้าที่ถึงสิ่งที่ผู้โดยสารบอกกับตนว่า ถ้าตนไม่ดับไฟก็ให้ตนหลับตาถ้าไม่อยากเห็นสิ่งที่ไม่ควรจะเห็นที่นี่ การตรวจสอบร่างกายของ D-1012 นั้นเขาไม่ได้โดนผลกระทบอะไร สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความกลัวของ D-1012 เองที่ไปเห็นอะไรเข้ามากกว่าแต่ D-1012 ก็ไม่ได้บอกว่าเขาเห็นอะไร

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License