วัตถุ# SCP-347
ระดับ: Euclid (อาจเปลี่ยนเป็น Safe ได้ในอนาคต ถ้ามีการปรึกษากันมากพอ)
มาตรการกักกันพิเศษ: ปัจจุบัน SCP-347 อยู่กักตัวที่ศูนย์-17 ในห้องขนาด 5x5 เมตร ที่มีกล้องอินฟราเรดจับตาดูอยู่ พร้อมห้องน้ำที่มีฝักบัวกับอ่างอาบน้ำให้ ตกแต่งตามที่ขอมา ซึ่งมีเตียงนอนขนาดควีนไซส์ เฟอนิเจอร์ยี่ห้อ SUMO หลายชิ้น เก้าอี้เท้าแขนสองตัว โต๊ะกับเก้าอี้หมุน ชั้นหนังสือ โทรทัศน์ และเครื่องเล่น DVD ชั้นหนังสือนั้นบรรจุหนังสือไว้ต่างๆกัน ส่วนใหญ่แล้วเป็นนิยายผจญภัย นิยายรัก แล้วก็หนังสืองานศิลป์ เธอได้รับอนุญาตให้ดู DVD ของภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ที่เผยแพร่ก่อนการถูกกักกันได้ และอาจยื่นคำร้องขอของใหม่ๆได้เป็นระยะ แม้ว่าปกติแล้ว SCP-347 จะไม่สวมเสื้อผ้า แต่เธอก็มีตู้เสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าตามที่ขอมา และเครื่องสำอางกับวิกผมให้ใช้เล่นสนุก เธอจะได้รับอาหารสามเวลาตามปกติ และอาจยื่นคำร้องขออาหารพิเศษที่ต้องการได้ เธอชอบขนมปังแอปเปิล ทับทิม และช็อกโกแล็ตแช่แข็ง
ให้ล็อกห้องของ SCP-347 เมื่อเธออยู่ในห้องเสมอ และให้พนักงานอย่างน้อยสองคนตรวจสอบสภาพของกุญแจทุกชั่วโมง อาจปลดล็อกประตูได้เมื่อพนักงานจะเข้าหรือออกจากห้อง SCP-347 ชอบพูดคุยกับคนอื่นๆ และมักหยอกล้อกับพนักงานที่เอาอาหารหรือของฝากอื่นๆไปให้ แต่ให้พนักงานทุกคนระวังตัวอย่าให้ผูกพันธ์กันมากนัก
SCP-347 ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องได้ถ้ามีบุคลากรระดับ 2 ขึ้นไปอย่างน้อยหนึ่งคนตามไปด้วย และต้องทาหน้ากับสวมถุงมือ เพื่อบอกตำแหน่งของมือทั้งสองข้างและแสดงสีหน้า ขอแนะพนักงานทุกคนว่าไม่ต้องพูดอะไรถ้าเธอจะเปลือยกายออกจากห้อง และการใช้คำหยาบโลนนั้นก็ไม่เหมาะสมด้วย หาก SCP-347 พยายามใช้กำลังหลบหนี ให้จับตัวไว้ทันทีและพากลับไปล็อกขังไว้ในห้อง
ถ้า SCP-347 หายตัวไปโดยที่พนักงานไม่รู้ตัวได้ ให้ดำเนินการแจกจ่ายกล้องอินฟราเรด และให้รายงานเหตุการณ์ประหลาดในศูนย์ทันทีโดยถือว่าเป็นร่องรอยของเธอ ในขณะนี้ SCP-347 ไม่ได้รับอนุญาตให้พบ SCPs ตัวอื่นๆ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
รายละเอียด: SCP-347 เป็นหญิงสาวหรือเด็กสาว สูง 164 ซม. หนัก 55 กก. แม้จะดูเหมือนว่าเธอจะเป็นผู้หญิงธรรมดาอายุประมาณ 19-25 ปี แต่ SCP-347 ล่องหนอยู่ ซึ่งรวมถึงอะไรก็ตามที่อยู่ในตัวเธอด้วย แม้ว่าสิ่งขับถ่ายกับน้ำลายจะสามารถมองเห็นได้เมื่อออกมาจากตัวแล้ว แต่ตัวอย่างของเลือด ผิวหนัง และเส้นผมนั้นจะยังล่องหนอยู่ จากการทดสอบระบุว่าเธอมีสายตาปกติ แม้ว่าจริงๆแล้วกรวยประสาทตาของมนุษย์นั้นต้องมองเห็นเพื่อจะใช้ดูอะไรๆได้ก็ตาม SCP-347 บรรยายว่าเธอเป็นผู้หญิงเชื้อสายผสมธรรมดา ตาสีน้ำตาล ผมดำเป็นลอน และชื่อคลอเดีย แต่เชื่อได้ว่านั่นเป็นชื่อปลอมที่เอามาจากคล็อด เรน นักแสดงนำในเรื่อง มนุษย์ล่องหน ตัวจริงของเธอนั้นยังไม่ได้รับการยืนยัน
นอกจากการล่องหนแล้ว SCP-347 ไม่มีความสามารถพิเศษอื่นอีก นอกจากฝีมือสะเดาะกุญแจชั้นยอด การลักขโมย และมีการพบเห็นเธอกลืนของเล็กๆเพื่อให้มันล่องหน ซึ่งเธอสามารถขย้อนมันออกมาภายหลังได้โดยไม่อาเจียนทุกอย่างในท้องออกมา เป็นลูกเล่นที่เธอบอกว่าได้มาจากที่เห็นสตีวี สตาร์ แสดงในรายการรอบดึก
SCP-347 ถูกพบที่████████████ หลังจากที่ข่าวท้องถิ่นและเสียงร่ำลือเรื่องบ้านร้างผีสิงทำให้เจ้าหน้าที่ของสถาบันสนใจ หลังจากที่ใช้กล้องอินฟราเรดพบว่าเธอยังมีความร้อนจากร่างกายเหมือนมนุษย์ SCP-347 ก็ถูกจับอย่างรวดเร็ว และหลังการพูดคุยกันก็ยอมให้สถาบันควบคุมตัวอย่างเต็มใจ โดยแลกกับอาหารอุ่นๆกับที่พักหลบแดดหลบฝน เชื่อว่าเธอใช้ชีวิตข้างถนนและตามบ้านร้างมาหลายปีแล้ว แม้ว่า SCP-347 จะปฏิเสธไม่ยอมพูดเรื่องนี้อย่างแข็งขัน เชื่อว่าเธอน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ ’ปรากฏการณ์ผี’ หลายๆกรณีและการเสียชีวิตของคนสองคนด้วย
ตอนที่เจอครั้งแรกนั้น SCP-347 มีสภาพจิตใจที่แปรปรวนและฉุนเฉียว รวมทั้งชอบลักขโมยและไม่ยอมพูดอะไรอยู่หลายวัน การให้คำปรึกษาตามปกติช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการเหล่านั้นได้ และเชื่อว่าที่สุดแล้วเธอก็จะหายจากสภาพจิตใจบอบช้ำซึ่งเกิดจากการที่ไม่มีใครมองเห็นและอยู่โดดเดี่ยวมาหลายปี
มีข้อเสนอให้เธอได้พบกับ SCPs อื่นๆ เพราะการพบปะกับมนุษย์นั้นน่าพอใจ และเธอก็ดูจะมีความสุขมากที่มีคนรู้จักเธอโดยไม่เห็นเธอเป็นตัวประหลาด ตอนที่ไม่มีคนสนใจนั้น SCP-347 ก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่มักแกล้งโดยแอบย้ายหรือซ่อนสิ่งของต่างๆ ถ้าเธออยู่คนเดียวกับคนที่หลับอยู่หรือสนใจอย่างอื่น เธอจะชอบลูบตัวคนที่หลับ พับผ้าห่ม และทำเรื่องเล็กน้อยอื่นๆ SCP-347 บอกว่าที่ทำไปนั้นเป็นสิ่งที่เธอคิดว่าน่าทำ แต่คนที่โดนเข้าบอกว่า ”สะดุ้ง” เลยทีเดียว
แม้ว่าจะมองไม่เห็น SCP-347 ในสภาพแสงปกติ ก็ยังใช้แสงอินฟราเรดหรืออุลตราไวโอเล็ตสังเกตการณ์เธอได้
ภาคผนวก: ดร.ไรท์ขอให้บุคลากรชายทุกคนที่ข้องแวะกับ SCP-347 ปฏิเสธการเกี้ยวพาราสีใดๆ (ดู เอกสาร 347-01)
เอกสาร 347-01 แม่นั่นเป็นมนุษย์ล่องหนจอมมือไวนะ เมื่อคุณออกมาหลังจากนั้น คุณจะรู้ตัวช้าไปสามวินาทีว่ากุญแจไม่อยู่ในกระเป๋าคุณแล้ว และคุณต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น อีกอย่างนึง สิ่งสุดท้ายที่เราอยากให้มีก็คือการตั้งครรภ์ล่องหน – ดร.ไรท์