วัตถุ# SCP-300-TH
ระดับ: Euclid
มาตรการกักกันพิเศษ: มาตรการกักกันนี้เป็นฉบับปรับปรุงหลังจาก เหตุการณ์ 300-TH
ให้ขัง SCP-300-TH ไว้ในโรงเพาะชำที่ก่อสร้างพิเศษภายในอาคารเดี่ยวของไซต์-20 โดยมีชั้นเกลือหินอยู่ระหว่างเมมเบรนกันซึมกับพื้นคอนกรีตที่อยู่ใต้โรงเพาะชำ ที่เพดานของโรงเพาะชำนั้นมีระบบแสงไฟและหัวฉีดน้ำซึ่งสามารถพ่นน้ำออกมาได้ทั่วพื้นที่กักกัน โดยปกติแล้วระบบไฟจะเปิดให้แสงสว่างตั้งแต่ 6 นาฬิกา ถึง 18 นาฬิกาก่อนจะหรี่ไฟลงเป็นโหมดกลางคืน ส่วนหัวฉีดน้ำจะปล่อยน้ำออกมาเป็นเวลา 5 นาที วันละสามครั้ง อากาศและน้ำภายในพื้นที่กักกันนั้นจะต้องผ่านระบบกรองก่อนจะถ่ายเทออกมาภายนอกได้ (ดูรายละเอียดในคู่มือปฏิบัติการ 300-TH) ภายในเรือนเพาะชำจะไม่มีของตกแต่งใด แม้ว่า SCP-300-TH นั้นจะรับประทานอาหารได้เช่นเดียวกับมนุษย์ แต่มันก็ไม่ต้องการอาหารในการยังชีพแต่อย่างใด หากว่ามันประพฤติตัวดีแล้ว ก็อาจให้อาหารเป็นผักผลไม้ ถั่ว ซากสัตว์ หรือปุ๋ย เป็นรางวัลได้
น้ำดื่มของบุคลากรภายในอาคารกักกัน SCP-300-TH นั้นให้ใช้น้ำดื่มจากภาชนะที่ปิดมิดชิดและแน่ใจได้ว่าไม่มีผู้อื่นเปิดมาก่อนเท่านั้น บุคลากรที่เข้าไปในห้องกักกันของ SCP-300-TH นั้นจะต้องสวมชุด HAZMAT ตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง การซ่อมบำรุงซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับ SCP-300-TH นั้นหากเป็นไปได้แล้วให้ดำเนินการในเวลากลางคืน หากว่าวัตถุมีท่าทีคุกคาม ให้เจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์หรี่ไฟลงเป็นโหมดกลางคืนได้ทันที ในกรณีที่วัตถุไม่สงบลงและอาจมีอันตราย หรือบุคลากรตั้งใจถอดชุด HAZMAT ออกแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ใช้ระบบน้ำบนเพดานฉีดยากำจัดวัชพืชออกมาโดยทั่วโรงเพาะชำในทันที บุคลากรที่มีโอกาสปนเปื้อนสปอร์ของ SCP-300-TH นั้นให้นำไปกักตัวเพื่อดูอาการ และหากจำเป็นแล้วก็ให้กำจัดทิ้งก่อนเผาทำลายศพ หากว่าพบความเสียหายที่เกิดจากรากไม้กับพื้นห้องกักกันแล้ว ให้ตัดรากไม้ดังกล่าวทิ้งก่อนนำไปเผาทำลายและแจ้งผู้อำนวยการโครงการในทันที
หากว่าเกิดการกักกันรั่วไหล หรือ SCP-300-TH แสดงลักษณะว่ามีความต้านทานต่อยากำจัดวัชพืชที่ใช้งานอยู่ในขณะนี้แล้ว ผู้ดูแลโครงการอาจใช้ถังเก็บฝนเหลืองที่ผ่านการปรับปรุงโดยสถาบันซึ่งได้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ SCP-300-TH นั้นมีความกลัวไฟอย่างรุนแรงตามสัญชาตญาณ แต่เนื่องจากมีโอกาสที่ไฟจะลุกลามสูงเกินไปจึงนับว่าเสี่ยงเกินกว่าจะใช้ในการควบคุมพฤติกรรมของมันได้
SCP-300-TH-1 นั้นถูกกักตัวไว้ในห้องพยาบาลพิเศษที่[ข้อมูลปกปิด] บุคลากรพยาบาลที่ต้องเข้าไปในห้องพยาบาลนั้นจะต้องสวมชุด HAZMAT ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน หากว่า SCP-300-TH-1 เสียชีวิต ให้นำศพไปเผาทำลาย ในขณะนี้ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการจริยธรรมให้พิจารณาถึงการให้ SCP-300-TH เปลี่ยนบุคลากร D คลาสเป็น SCP-300-TH-1 เพิ่มหากว่าอดีตนักวิจัยแกมมาเสียชีวิตแล้ว
SCP-300-TH ได้รับอนุญาตให้เก็บ SCP-300-TH-2 ทั้งหมดไว้ในโรงเพาะชำได้ แม้ว่าในขณะนี้ SCP-300-TH-2 ทั้งหมดยังไม่แสดงความผิดปกติที่ชัดเจนออกมา หากว่าพวกมันแสดงความผิดปกติหรือเติบโตจนเสี่ยงต่อการกักกันรั่วไหลแล้ว ให้แจ้งหัวหน้าโครงการเพื่อพิจารณารับมือในทันที
รายละเอียด: SCP-300-TH เป็นตัวตนที่มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์เพศหญิงซึ่งมีใบหน้าเป็นดอกไม้ซึ่งในขณะนี้ยังไม่รู้จัก ผิวหนังบางส่วนของมันนั้นมีอวัยวะแบบพืชอย่างกิ่งก้านหรือใบไม้งอกออกมาซึ่งทำให้มันสวมเสื้อผ้าได้ยาก ส่วนเท้าของ SCP-300-TH นั้นมีระยางค์คล้ายกับรากไม้งอกออกมาซึ่งมันสามารถใช้ดูดซึมสารอาหารได้เช่นเดียวกับพืชตามปกติ SCP-300-TH นั้นสามารถทำให้รากไม้ดังกล่าวงอกออกมาจากส่วนอื่นของร่างกาย อย่างเช่น ปลายนิ้วมือ หรือ ฝ่ามือ ก็ได้เช่นกัน SCP-300-TH นั้นสามารถเร่งอัตราการเติบโตของรากไม้ดังกล่าวได้โดยการฝังรากลงไปในดินหรือวัตถุอื่นโดยตรง SCP-300-TH นั้นมีประสาทสัมผัสตามปกติ แต่จะไม่รู้สึกเจ็บเมื่อเกิดความเสียหายทางกายภาพต่ออวัยวะแบบพืชของมันทั้งหมด ส่วนที่เหมือนเปลือกไม้ของมันยังมีความทนทานในระดับเดียวกับไม้ยืนต้นโดยทั่วไป แม้ว่า SCP-300-TH จะพูดไม่ได้แต่มันก็แสดงออกว่าสามารถได้ยินเสียงและมีสติปัญญาในระดับเดียวกับเด็กมนุษย์ซึ่งไม่เคยได้รับการศึกษา รวมถึงมีอารมณ์คล้ายกับมนุษย์ มันหวาดกลัวเปลวไฟอย่างมาก โดยจะดับไฟที่มีขนาดไม่ใหญ่โตนักในทันทีที่ทำได้และจะไม่ยอมเข้าใกล้เปลวไฟที่มีขนาดใหญ่พอสมควรเลย
เมื่อ SCP-300-TH เดินบนดินตามปกตินั้น จะมีพืชงอกขึ้นมาจากรอยเท้าของมันอย่างรวดเร็วอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่า SCP-300-TH นั้นจะสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของพืชที่สัมผัสรวมถึงเห็ดราได้ ซึ่งระหว่างการกักกันนั้นมันจะใช้ความสามารถดังกล่าวเร่งการเจริญเติบโตของพืชจนเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มสารอาหารในดินให้ตนเอง วงจรชีวิตประจำวันของ SCP-300-TH นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณแสงสว่าง โดยเมื่อมีแสงสว่างในระดับเดียวกับแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันนั้นมันก็จะตื่นตัวและกระฉับกระเฉงมาก หากไม่มีแสงสว่างเพียงพอแล้วมันก็จะมีอาการเซื่องซึมจนกระทั่งสงบนิ่งเหมือนหลับภายในเวลาไม่นานนัก
หลังจากเหตุการณ์ 300-TH จึงได้ทราบว่า SCP-300-TH นั้นสามารถฉีดพ่นสปอร์ของเห็ดราบางชนิดจากใบหน้าและมือของมันได้ ซึ่งเมื่อมนุษย์หายใจเอาสปอร์ดังกล่าวเข้าไปนั้นมันก็จะเข้าไปงอกเติบโตในระบบทางเดินหายใจ ผู้ถูกผลกระทบเพศชายจะเกิดอาการประสาทหลอนและจะทำตามความต้องการของ SCP-300-TH โดยไม่มีเงื่อนไข ณ วันที่ ██/██/20██ นั้น ยังมีผู้ถูกผลกระทบจากสปอร์ของ SCP-300-TH (จากนี้ไปจะเรียกว่า SCP-300-TH-1) ซึ่งยังคงมีชีวิตอยู่เพียงคนเดียวคืออดีตนักวิจัยแกมมา ซึ่งสถาบันตั้งใจรักษาชีวิตไว้เพื่อใช้ในการสื่อสารกับ SCP-300-TH โดยทั่วไปแล้ว อาการประสาทหลอนจากสปอร์ของ SCP-300-TH จะทำให้รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ความเจ็บป่วยและอาการบาดเจ็บที่มีอยู่จะหายไป1 และจะได้ยินเสียงของ SCP-300-TH ซึ่งบรรยายว่า "ไพเราะมาก" และมองเห็น SCP-300-TH ว่ามีลักษณะที่เหมือนมนุษย์เพศหญิงที่สวยงาม2 ทั้งนี้ SCP-300-TH-1 มีอาการหวาดกลัวเปลวไฟเช่นเดียวกับ SCP-300-TH
น่าสังเกตว่า มนุษย์เพศหญิงหรือสัตว์ที่หายใจเอาสปอร์ของ SCP-300-TH เข้าไปนั้นแม้จะมีอาการประสาทหลอนแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงหรือแสดงความเชื่อฟังต่อ SCP-300-TH เหมือน SCP-300-TH-1 และจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วจากที่เห็ดราลุกลามจนทางเดินหายใจอุดตัน
ในขณะนี้ยังไม่สามารถหาทางกำจัดเห็ดราที่ขึ้นในระบบทางเดินหายใจโดยที่ผู้ถูกกระทบยังมีชีวิตได้
SCP-300-TH ยังสามารถแพร่หลั่งของเหลวจากตัวมันผสมลงไปในน้ำได้ เมื่อมองอย่างผิวเผินนั้นน้ำดังกล่าวจะดูเหมือนน้ำเปล่าธรรมดา3 แต่ผู้ที่ดื่มน้ำนี้เข้าไปในก็จะเกิดอาการประสาทหลอนเช่นเดียวกัน อาการประสาทหลอนจากการดิ่มน้ำนั้นจะหมดไปภายในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง และหากไม่ถูกสปอร์เสียก่อนแล้วก็สามารถหายเป็นปกติได้หากได้รับการบำบัดอาการเสพติดหลังจากนั้น
หลังจาก เหตุการณ์ 300-TH ของเหลวจากตัวมันซึ่งรวมถึงสารคัดหลั่งและเลือดนั้นสามารถทำให้พืชที่ไม่เป็นที่รู้จักงอกได้ ซึ่งเป็นลักษณะที่ก่อ่นหน้านี้ไม่ปรากฏมาก่อน แม้ว่าพืชเหล่านี้จะยังไม่แสดงลักษณะผิดปกติอย่างชัดเจนแต่ก็ให้จับตาดูเป็นพิเศษ โดยในขณะนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็น SCP-300-TH-2 ไว้ก่อน น่าสังเกตว่า SCP-300-TH นั้นมีปฏิกิริยาทางอารมณ์โดยแสดงความเป็นห่วง SCP-300-TH-2 อย่างผิดกับพืชอื่น ๆ โดยมันจะไม่เร่งการเติบโตของพืชเหล่านี้และบางครั้งก็จะ"ป้อน"สารอาหารให้ SCP-300-TH-2 โดยหลั่งน้ำเลี้ยงต้นไม้ออกมาจากรากที่งอกบนตัวของมัน มันยังแสดงท่าทีขอร้องไม่ให้พนักงานนำ SCP-300-TH-2 ออกไปจากโรงเพาะชำ เนื่องจาก SCP-300-TH นั้นแสดงพฤติกรรมร่วมมือมากขึ้นเมื่อมี SCP-300-TH-2 อยู่ด้วย4 จึงอนุญาตให้เก็บไว้ในโรงเพาะชำได้โดยต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
เหตุการณ์ 300-TH:
ในวันที่ ██/██/2014 [ข้อมูลปกปิด]ซึ่งเป็นพื้นที่กักกันในขณะนั้นของ SCP-300-TH ได้ขาดการติดต่อไป หลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นทำให้ทราบว่าบุคลากรจำนวนหนึ่งรวมถึงนักวิจัยแกมมาซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการในขณะนั้นได้ยึดพื้นที่ไว้โดยปฏิเสธการสื่อสารกับบุคลากรของสถาบัน เคราะห์ดีของสถาบันที่มีบุคลากรจำนวน █ คนเหลือรอดอยู่และสามารถติดต่อสถาบันได้ จากปากคำของบุคลากรเหลือรอดอยู่นั้น พวก SCP-300-TH-1 ได้โจมตีบุคลากรอื่นอย่างก้าวร้าวโดยไม่มีวี่แววมาก่อน แม้ว่าพวกมันจะมีปฏิกิริยาที่เชื่องช้าอย่างเห็นได้ชัด แต่พวกมันก็ทนทานต่ออาการบาดเจ็บมากราวกับไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด นอกจากนั้นยังพบว่า SCP-300-TH ได้แพร่รากและเถาวัลย์ของมันไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของอาคารแล้ว ซึ่งรากและเถาวัลย์เหล่านี้สามารถงอกดอกไม้ซึ่งพ่นละอองสปอร์ออกมาควบคุมบุคลากรได้
จากข้อมูลดังกล่าว สถาบันจึงสามารถทำการกักกันวัตถุใหม่อีกครั้งได้สำเร็จ โดยทีมเก็บกู้ได้ใช้ชุดป้องกันกับเครื่องพ่นยากำจัดวัชพืชและเครื่องพ่นไฟในการทำลายรากไม้และเถาวัลย์ของ SCP-300-TH ที่ขัดขวางในระหว่างปฏิบัติการ ทั้งนี้ ฝ่ายบัญชาการได้อนุญาตให้ใช้กำลังกับบุคลากรที่ถูกผลกระทบได้ตามความเหมาะสม (รายละเอียดของปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงความเสียหายทางทรัพยากรและผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นอยู่ในเอกสารฉบับเต็มของ เหตุการณ์ 300-TH ผู้ที่สนใจสามารถยื่นเรื่องขอเข้าถึงเอกสาร ได้จากผู้อำนวยการไซต์-20)
สรุป: หลังจากที่สยบมันด้วยน้ำยากำจัดวัชพืชได้แล้ว ทีมเก็บกู้ก็สามารถตัด SCP-300-TH ออกจากรากที่แทรกซอนเข้าไปในตัวอาคารและจับตัวมันไปกักกันใหม่ได้ SCP-300-TH นั้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นานนักหลังจากที่ถูกนำตัวไปกักกันในพื้นที่ปัจจุบัน SCP-300-TH-1 ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ทั้งหมดนั้นได้นำไปคุมตัวในสถานพยาบาล[ข้อมูลปกปิด] สำหรับอดีตนักวิจัยแกมมานั้น [ข้อมูลปกปิด]5ซึ่งถูก SCP-300-TH ใช้รากสอดเข้าไปดูดสารอาหารนั้นได้รับความเสียหายอย่างมาก ทำให้ร่างกายท่อนล่างของเขาเป็นอัมพาตและไม่อาจช่วยเหลือตนเองได้อีก
น่าสังเกตว่า SCP-300-TH-1 คนอื่นนอกจากอดีตนักวิจัยแกมมานั้นเสียชีวิตทั้งหมดภายในเวลาหนึ่งเดือนต่อมาแม้ว่าบางคนจะติดเชื้อในระดับที่รุนแรงน้อยกว่ามาก
ภาคผนวก: จากการตรวจสอบเอกสาร SCP-300-TH ฉบับดั้งเดิมที่เขียนโดยนักวิจัยแกมมานั้นได้พบกับพิรุธหลายประการ อย่างเช่น ลักษณะของวัตถุที่แตกต่างจากในความเป็นจริงอย่างมาก หรือการที่ระบุถึงครอบครัวของ SCP-300-TH ในรายงานการค้นพบโดยไม่มีการตรวจสอบหรือตามหาบุคคลดังกล่าวเลย6 หรือพฤติกรรมที่ไม่เป็นมืออาชีพอย่างยิ่งทั้งของ O5-47และนักวิจัยแกมมาเอง จึงเชื่อได้ว่าอดีตนักวิจัยแกมมาน่าจะถูกผลกระทบเป็น SCP-300-TH-1 ตั้งแต่แรกแล้วและเขียนเอกสารทั้งหมดตามอาการเพ้อหลอนจากเห็ดราที่ขึ้นในระบบทางเดินหายใจ (มีการกล่าวโทษบุคลากรผู้ดูแลในขณะนั้นว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่องจากที่ไม่สังเกตเห็นความหย่อนยานดังกล่าวจนทำให้เกิดความเสียหายจากเหตุการณ์ 300-TH บุคลากรที่สนใจสามารถยื่นเรื่องขอเอกสาร รายงานการตรวจสอบภายใน TH-2014 ได้) ณ เวลานี้ จึงนับว่าไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับที่มาของ SCP-300-TH อยู่เลย