วัตถุ# SCP-1700
ระดับ: Euclid
มาตรการกักกันพิเศษ: ณ วันที่ 6/17//19██, SCP-1700 นั้นถือว่าถูกกักกันได้แล้ว แม้ว่าตัวอย่างของ SCP-1700-A จะมีจำนวนและการแพร่กระจายที่มากเกินไปจนไม่สามารถทำการกักกันได้เต็มรูปแบบ การที่มันนับว่าไม่เป็นอันตรายก็ทำให้การทำการกักกันระดับมหภาคนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและคงจะไม่สามารถกระทำได้ด้วย หากว่าพบตัวอย่างใดๆอีกก็อาจทำการกักกันหรือจะทำลายทิ้งก็ได้เพราะสถาบันมีตัวอย่างเก็บไว้เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ได้ทำการประกาศเรียกเก็บผลิตภัณฑ์คืนแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลนัก
SCP-1700-B นั้นจะต้องถูกควบคุมไว้โดยปิดบังว่าเป็นโรงไฟฟ้า ศพทั้งหมดที่อยู่ข้างในนั้นให้ทำการเผาทำลายทั้งหมดพร้อมๆกับ SCP-1700-A บุคลากรที่ได้รับมอบหมายกับ SCP-1700-B นั้นอาจขอรับการลบความทรงจำหลังจากที่ย้ายไปแล้วได้
ให้ทำการปิดกั้นสิ่งปลูกสร้าง SCP-1700-C ทั้งหมดและให้ทำการสอบสวนพลเรือนที่พบในนั้นแล้วทำการลบความทรงจำแบบ C ห้ามมิให้นำศพของมนุษย์เข้าไปใน SCP-1700-C โดยเด็ดขาด ส่วนที่ได้รับผลกระทบจาก SCP-1700-C แล้วนั้นให้เอาออกมาจาพื้นที่แล้วเผาเสีย บุคลากรระดับ4ขึ้นไปนั้นอาจยื่นคำร้องขอใช้ SCP-1700-C เพื่อการวิจัยหรือเก็บข้อมูลให้หัวหน้าโครงการได้
ในขณะนี้ นายอนุปัม กุณวัตรเฐนา และ นายหวังไต้ซิงนั้นอยู่ในการควบคุมตัวของสถาบัน พวกเขาถูกคุมตัวโดยไม่มีกำหนดในห้องขังระดับ 2 ส่วนนายสุพรีฑ จันทรเสครัณนั้นขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่และไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด สถาบันได้แจ้งไปยังรัฐบาลอินเดียแล้วว่าเขาเป็นบุคคลต้องสงสัยและขอให้ส่งตัวมาให้สถาบันควบคุมตัวหากจับกุมได้
รายละเอียด: SCP-1700 เป็นรหัสรวมของสิ่งผิดปกติซึ่งเชื่อมโยงกับบริษัทแฟชันซันฟาบริคส์จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้าพันคอที่มีฐานการผลิตหลักอยู่ในอินเดียแม้ว่าจะมีโรงงานสาขาอยู่ในประเทศจีนและไทยด้วยเช่นกัน สถาบันทราบเรื่องของบริษัทแฟชันซันฟาบริคส์จำกัดผ่านการติดต่อจากรัฐบาลอินเดียซึ่งทราบเรื่องลักษณะผิดปกติของ SCP-1700-C ระหว่างการบุกทลายโรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งร่วมในการโจมตีครั้งนั้นได้รับการลบความทรงจำแบบAแล้วปล่อยตัวไปแล้วและเจ้าของกิจการสองในสามคนก็ถูกจับกุมตัวแล้วส่งมาให้สถาบัน
SCP-1700-A เป็นผ้าพันคอซึ่งผลิตโดยบริษัทแฟชันซันฟาบริคส์จำกัด พวกมันดูเหมือนผ้าพันคอไหมปกติคุณภาพปานกลางซึ่งมีสีและรูปแบบต่างๆกันไป พวกมันไม่แสดงผลผิดปกติใดๆจนกว่าเจ้าของของมันจะเสียชีวิต หากว่าทั้งศพและผ้าพันคอยังอยู่ในสภาพดีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีใครสังเกตการอยู่ในเวลา 24 ชั่วโมงหลังการเสียชีวิต ทั้งสองอย่างก็จะหายไปและปรากฏขึ้นที่ SCP-1700-B โดยไม่ทราบวิธีการ
SCP-1700-B เป็นโกดังขนาดใหญ่ซึ่งมีปล่องที่ศพซึ่งSCP-1700-Aเก็บมาจะปรากฏขึ้น ก่อนหน้าที่สถาบันจะเข้าควบคุมนั้น ศพเหล่านี้จะถูกจัดใส่รถบรรทุกซึ่งจะแจกจ่ายพวกมันไปตามอาคารSCP-1700-Cต่างๆ ในขณะนี้ปล่องนี้ต่อยังเตาเผาเพื่อไม่ให้มีศพสะสมไว้
SCP-1700-C เป็นกลุ่มของโรงงานกรรมกรซึ่งจัดไว้เพื่อผลิตSCP-1700-A มี SCP-1700-C อยู่สิบเอ็ดโรง เรียกว่า SCP-1700-C-1 ถึง SCP-1700-C-11 ในจำนวนนี้ SCP-1700-C-4 กับ SCP-1700-C-10 นั้นอยู่ในประเทศจีน SCP-1700-C-2 นั้นอยู่ในประเทศไทย ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ในอินเดีย บันทึกการจัดผังเมืองนั้นบ่งบอกว่าอาคารเหล่านี้เดิมทีก็เป็นโรงงานกรรมกร แต่ไม่มีอะไรที่ระบุว่าพวกมันเคยมีลักษณะผิดปกติใดๆก่อนที่บริษัทแฟชันซันฟาบริคส์จะซื้อไป
ศพมนุษย์ใดๆที่ยังสภาพดีอยู่นั้นเมื่อถูกพาเข้าไปใน SCP-1700-C ก็จะเคลื่อนไหวได้ตราบเท่าที่ยังอยู่ในอาคาร ศพเหล่านี้จะยังคงความทรงจำสมัยที่ยังมีชีวิตและบุคลิกบางส่วนของตน ยังไม่พบกลไกที่ชัดเจนเกี่ยวกับส่วนนี้ พวกมันไม่ต้องการอาหาร เครื่องดื่ม การนอนหลับ หรือการหายใจ
ภาคผนวก 1700-36: ส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์นายกุณวัตรเฐนาหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เขาถูกจับได้ การสัมภาษณ์นายหวังในภายหลังนั้นช่วยยืนยันข้อมูลของเขาได้
ดร.คอร์แมน: ทำไมถึงใช้ศพของพวกที่ซื้อผ้าพันคอของนาย? หาเอาจากแถวๆนั้นไม่ง่ายกว่าเหรอ?
นายกุณวัตรเฐนา: ก็อาจจะนะแต่มันน่าสงสัยเกินไป ผ้าพันคอของเรามีจำหน่ายไปทั่วโลก ถ้าศพหลายๆศพหายไปจากสองสามจังหวัดมันก็จะเป็นรูปแบบขึ้นมา แต่จำนวนเดียวกันกระจายไปห้าทวีปน่ะเหรอ? ก็แค่เรื่องลี้ลับที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน อีกอย่างนึง ความย้อนแย้งตรงนี้มันถูกใจสุพรีฑน่ะ
ดร.คอร์แมน: หมายความว่าไง?
นายกุณวัตรเฐนา: พวกแกนี่ทำตัวสูงส่งยิ่งใหญ่กับเรื่องไอ้กระบวนการผลิตอย่างมีศีลธรรมแล้วก็สิทธิแรงงานนัก ให้ได้มาเจอว่าของจริงมันเป็นยังไงก็ยุติธรรมดีแล้วน่ะนะ
ดร.คอร์แมน: มันยุติธรรมยังไงเหรอน่ะ?
นายกุณวัตรเฐนา: ก็ได้ มันตลกดี ดีขึ้นมั้ย?
ดร.คอร์แมน: ต่อนะ จากที่เราทดลองกับโรงงานนั่น ศพที่ฟื้นขึ้นมาไม่ได้เชื่อฟังมากไปกว่าตอนมีชีวิตเลย พวกนายให้พวกมันทำงานได้ยังไง
นายกุณวัตรเฐนา: หลักๆก็ไม้ต้อนควายน่ะ แล้วนานๆทีก็จัดการให้ดูเป็นตัวอย่างหน่อย ถ้ามันแย่จริงๆเราก็ขายไอ้ที่ขายได้แล้วเผาทิ้งให้หมด
ดร.คอร์แมน: ศพที่โดนผลของโรงงานนั่น-รู้สึกเจ็บด้วยเหรอ?
นายกุณวัตรเฐนา: แน่นอน เราออกแบบมันไว้อย่างนั้นนี่
ดร.คอร์แมน: แต่ว่าแค่ใช้ความเจ็บปวดข่มขู่นี่…ได้ผลขนาดนั้นเลยเหรอ?
นายกุณวัตรเฐนา: ก็นะ เราก็ยังมี-ว่าไงดี-รางวัลไว้ใช้คู่กับไม้เรียว ถ้วพวกนั้นทำผ้าพันคอได้ห้าร้อยผืน แล้วก็ไม่พยายามหนีหรือทำร้ายผู้จัดการ เราก็จะปล่อยมันไป
ดร.คอร์แมน: ปล่อยไป?
นายกุณวัตรเฐนา:ใช่ เราพามันไปนอกอาคารให้พวกมันตายอีกที แล้วก็เผาศพซะ
ดร.คอร์แมน: ฉัน เอ่อ เข้าใจล่ะ