SCP-1682
ภาพประกอบ#: 1682-H
Prominence.jpg
ภาพจากกล้องโทรทัศน์ S-18/EUI สามารถมองเห็นส่วนหนึ่งของSCP-1682 เป็นแนวโค้งสีขาวได้ใกล้กับการประทุของดวงอาทิตย์
ภาพประกอบ วันที่ ██/██/10
ภาพประกอบ#: 1682-I
Prominence2.jpg
SCP-1682 ซึ่งมืดกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดในภาพนี้กำลังกลับลงไปใต้ชั้นโฟโตสเฟียร์ ความเร็วของมันจะลงลงมาและมืดลงอย่างมากก่อนจะมุดกลับลงไป
ภาพประกอบ วันที่ ██/██/11
ภาพประกอบ#:1682-A
pilgrim.jpg
ภาพของอุกกาบาต██████ จากกล้องโทรทัศน์ S-18/EUI ซึ่งเชื่อว่าเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ SCP-1682 ก่อนจะ'ชน'กับดวงอาทิตย์
ภาพประกอบ วันที่ ██/██/86

วัตถุ# SCP-1682

ระดับ: Neutralized

มาตรการกักกันพิเศษ: เนื่องจากขนาดและระยะทางจากโลกจึงนับว่า SCP-1682 นั้นถูกกักกันไว้แล้ว เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่า SCP-1682 นั้นดูเหมือนจะไม่สามารถหลุดพ้นจากแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์และก็ไม่ไม่ท่าทีจะพยายามทำเช่นนั้นด้วย จึงไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการกักกันรั่วไหล SCP-1682 นั้นเคลื่อนที่แบบวนเวียนไปมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากองค์ประกอบหลายๆอย่างรวมถึงแรงโน้มถ่วง ด้วยเหตุนี้จึงสามารถพยากรณ์ถึงการปรากฏตัวแต่ละครั้งของ SCP-1682 จึงได้อย่างแม่นยำก่อนจะพบตัวมันจริงๆ

พลเรือนซึ่งสามารถหาเครื่องมือ EUI ซึ่งมีพลังพอที่จะมองเห็น SCP-1682 ได้นั้นไม่นำมาเป็นประเด็นในการกักกันเนื่องจากราคาและความเฉพาะเจาะจงของเครื่องมือดังกล่าว สถาบันได้ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวไว้ในองค์กรและหน่วยงานต่างๆซึ่งมีเครื่องมือดังกล่าวไว้ตั้งแต่ก่อนจะได้อุปกรณ์เหล่านั้นแล้ว หากว่ามีภาพอยู่ในการครอบครองของพลเรือนก็ให้ดำเนินมาตรการปิดบังข้อมูล 1029-Wanambi แต่เพราะว่าการเห็นตัวมันทำได้ยากและลักษณะที่เหมือนกับปรากฏการสุริยะโดยทั่วไป สิ่งนี้จึงน่าจะไม่จำเป็นและคงจะไม่ต้องใช้มาตรการปิดบังข้อมูลด้วย

รายละเอียด: SCP-1682 นั้นเชื่อว่าเป็นตัวตนเหมือนหนอนปล้องขนาดใหญ่ซึ่งอยู่บนดวงอาทิตย์ เชื่อว่าสิ่งนี้มีความยาวประมาณ 28,075 กม. ข้อมูลนี้ได้มาจากการตรวจวัดระยะเวลาตั้งที่ที่มันเริ่มปรากฏตัวจนหายไปจากชั้นโฟโตสเฟียร์การปรากฏตัวของ SCP-1682 ใกล้กับการประทุของดวงอาทิตย์นั้นเชื่อว่าเป็นเหตุบังเอิญ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างการปรากฏตัวของมันกับสิ่งนี้ไม่มีความสม่ำเสมอ

ภาพประกอบ#:1682-H นั้นแสดงให้เห็นรูปแบบการมุดและหมุนวนโดยทั่วไปของ SCP-1682 ดูเหมือนว่ามันจะเที่ยวไปตามผิวหน้าของชั้นโฟโตสเฟียร์เป็นเวลา 3-4 เดือนก่อนจะหายลงไปข้างใต้อีกเป็นระยะเวลา 8-12 เดือน ระยะเวลาที่หายไปซึ่งยาวนานขึ้น ความสว่างเมื่อขึ้นมา และมุมกับความเร็วของสิ่งนี้เมื่อเทียบกับพื้นผิวโดยรวมของชั้นโฟโตสเฟียร์บ่งบอกถึงการสัมผัสกับชั้นรังสีภายในดวงอาทิตย์อย่างสั้นๆ

ตั้งแต่ที่ SCP-1682 มาเยือนในปี 1986 นั้นก็ยังไม่พบความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของดวงอาทิตย์ ธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งนี้นั้นก็เป็นสิ่งที่จับตาดูต่อไป

ภาคผนวก 1682-N: ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2011 SCP-1682 ได้ออกมาจากชั้นโฟโตสเฟียร์ด้วยความเร็ว 1045.5 กม.ต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วหลุดพ้นวงโครจรดวงอาทิตย์ SCP-1682 ผ่านดาวพลูโตไปเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2011 และเขตเฮลิโอสเฟียร์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2011

ภาคผนวก 1682-N-2 หมายเหตุจากนักวิจัยบรีน:

ผมบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าช่วงหลายปีนั่นเกิดอะไรขึ้นบนดวงอาทิตย์ และว่าผมก็ไม่ได้อยากรู้หรอก

ผมกับทีมงานเชื่อว่าเจ้าตัวนี้…ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร มัน'เติมเชื้อเพลิง'สำหรับเดินทางไปดาวอื่น ที่ไหนสักแห่ง ตอนนี้มันไปแล้ว ทุกคนดูจะโล่งอก แต่ผมก็สลัดความกังวลที่ว่าเกิดอะไรบางอย่างที่เลวร้ายแล้วนี่ไม่ได้จริงๆ

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License