SCP-1666
lp.jpg

SCP-1666

วัตถุ:# SCP-1666

ระดับ: Safe

มาตรการกักกันพิเศษ: SCP-1666 จะต้องถูกเก็บในห้องเก็บของที่หนาแน่นของสถาบันโดยให้ใส่อยู่ในซองเก็บแผ่นเสียงเดิมของมันและครอบด้วยซองโพลิเมอร์ ตัวแผ่น SCP-1666 นั้นจะต้องถูกเก็บไว้ให้ห่างจากความร้อนและความชื้นและสามารถทดลองได้โดยต้องอนุญาตกับเจ้าหน้าที่ระดับ 4 เสียก่อน การทดสอบทั้งหมดนั้นจะต้องไม่มีการเปิดเสียงให้บุคคลภายนอกได้ยินนอกจากผู้ทดลองเท่านั้น อุปกรณ์เครื่องเสียงนั้นจะต้องถูกตรวจสอบโดยผู้อำนวยการไซต์ก่อนเสมอ ทุกครั้งก่อนการทดลอง เสียงในรูปแบบดิจิตอลและอนาล็อคที่บันทึกจาก SCP-1666 นั้นให้สามารถใช้ทดลองได้แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากบุคลากรระดับ 3 เสียก่อน

รายละเอียด: SCP-1666 คือแผ่นเสียงไวนิลชนิด “LP Album” ของ ████ ████████ ชื่ออัลบัมว่า ████████ ██ ███ และถูกจัดทำโดยบริษัท ███ Records ในช่วงปี 198█ ภายในสหรัฐอเมริกา ฉลากที่แปะบนซองใส่แผ่นและตัวซองเองนั้นไม่มีความผิดปกติใดๆ ซึ่งเหมือนกับแผ่นเสียงอัลบัมเดียวกันที่ถูกผลิตพร้อมกัน ซึ่งปัจจุบันนั้นยังไม่พบแผ่นเสียงอัลบัมเดียวกันที่มีความผิดปกติเหมือน SCP-1666

ความผิดปกติของ SCP-1666 นั้นยังคงตรวจสอบจนถึงทุกวันนี้ SCP-1666 นั้นมีการบันทึกเสียงร่องเสียงบนหน้าแผ่นนั้นผิดแปลกและผิดหลักการบันทึกแผ่นไวนิลอย่างมาก ซึ่งความผิดแปลกในการบันทึกนั้นมีเฉพาะเพลงที่ 5 เท่านั้น ซึ่งเพลงที่ 5 ในแผ่นที่ไม่มีความผิดปกติคือเพลง “███████ ████████” ซึ่งในร่องของ SCP-1666 เพลงที่ 5 นั้นผิดแปลก มีการบิดผิดเพี้ยนซึ่งทำให้เกิดรูปทรงหลายเหลี่ยมขึ้นไปจนกระทั้งพบแถมโมบิอุสจำนวนมาก นั่นเป็นผลทำให้เมื่อแผ่นเสียงเล่นเพลงตั้งแต่เริ่มต้น ไปจนถึงเพลงที่ 4 เครื่องเล่นแผ่นเสียงจะข้ามเพลงที่ 5 ไปทันทีและเล่นเพลงที่ 6 แทน เมื่อวางเข็มแผ่นเสียงลงบนตำแหน่งของเพลงที่ 5 เครื่องเล่นเพลงจะเล่นเพลงที่ 5 ซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่สิ้นสุดซึ่งจะเล่นเพลงที่ไม่มีความผิดปกติใดๆ เมื่อเพลงที่ 5 เล่นจบ เครื่องเล่นแผ่นเสียงจะเริ่มย้อนเข็มเล่นเสียงโดยตัวเอง ซึ่งปัจจุบันสถาบันยังไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

ความผิดปกติจะเกิดขึ้นเมื่อเพลงที่ 5 ถูก "เล่นกลับหลัง" เพลงดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นอีกเพลงหนึ่งอย่างสิ้นเชิง เพลงนั้นจะถูกแทนที่ด้วยเนื้อร้องใหม่,เครื่องดนตรีที่ไม่มีในเพลงต้นฉบับ เสียงร้องนั้นไม่ตรงกับภาษาใดๆในโลก และยังมีชุดเสียงที่มีความถี่สูงจำนวนมากซ่อนอยู่ในเพลง ซึ่งเสียงความถี่สูงนั้นจะได้ยินแต่ในบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเท่านั้น

เมื่อฟังเสียงบันทึกที่ผิดปกตินั้นจะมีความรู้สึก "กลัว","ไม่สบายใจ" และบุคคลที่ได้ยินเสียงความถี่ซ่อน อาการดังกล่าวจะยิ่งทวีคูณขึ้น ในบางกรณีอาจจะมีความรู้สึกหดหู่,พารานอยด์,กระสับกระส่าย,เกรี้ยวกราดและอาจจะมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายด้วย

อาการข้างต้นนั้นมักจะเป็นผลพวงจากอาการที่ "ไม่สามารถแยกโลกความเป็นจริงได้" ซึ่งอาการนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะรู้สึกสับสนว่าโลกที่ตนกำลังเห็นนั้นเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งอาการนี้จะรุนแรงยิ่งขึ้นหากผู้ได้รับผลกระทบสามารถได้ยินชุดเสียงความถี่สูงที่ซ่อนอยู่ ในบางกรณี ผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นสามารถแยกแยะได้ทันทีว่าโลกที่ตนมองเห็นนั้นไม่ใช่โลกความเป็นจริงโดยไม่มีอาการสับสนใดๆ โลกที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบมองเห็นนั้นจะมีลักษณะที่เป็น "ภาพหลอนแบบคลุมเครือ" โดยผู้ทดลองได้ระบุว่า "เป็นภาพหลอนที่ไม่รู้สึกสบายจิตใจ" ซึ่งภาพที่มองเห็นนั้นจะประกอบไปด้วย

  • พื้นดินและสิ่งก่อสร้างนั้นถูกทำขึ้นด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่ไม่มีจริงและไม่สามารถระบุเป็นคำอธิบายได้ว่ารูปทรงเป็นอย่างไร คาดว่าเป็นผลพวกมากจากการที่รูปทรงเป็นรูปทรงหลายมิติที่ถูกมองเห็นด้วยตามนุษย์ที่รับได้เพียง 3 มิติ เท่านั้น
  • สิ่งรอบตัวที่ประกอบไปด้วยสิ่งที่ "มีตัวตน" โดยมีลักษณะที่ตรงตามหลักความเชื่อในหลายๆรูปแบบและขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงในมุมมองของผู้ทดลอง ผู้ทดลองอธิบายว่าเป็นสิ่งที่ "เห็น และ ไม่เห็น" , "มีชีวิต และ ไม่มีชีวิต" , "มีตัวตน และ ไม่มีตัวตน"
  • การกระทำใดๆในภาพหลอนที่ผู้ทดลองมองเห็นนั้นจะสัมพันธ์กับอาการเจ็บที่ผู้ทดลองได้รับ ซึ่งมักจะเป็นอาการที่คล้ายคลึงกับไมเกรนอย่างรุนแรง
  • ภาพหลอนเหล่านี้มักจะเป็นสิ่งที่ "เหนือความจริง" ต่อผู้ทดลองที่ได้รับความผิดปกติ

เมื่อผู้ทดลองตระหนักได้ถึงภาพหลอนเหล่านั้น ภาพหลอนเหล่านั้นจะครอบงำและทำให้ประสาทสัมผัสของผู้ทดลองยิ่งทวีคูณในการตอบสนองต่อภาพหลอนเหล่านั้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งผู้ทดลองนั้นจะรับรู้ภาพหลอนเหล่านั้นอย่างสมบูรณ์แบบ และจะไม่สามารถแยกโลกแห่งความเป็นจริงได้ไม่ว่าจะใช้สารเคมีหรือการผ่าตัดใดๆที่จะทำการรักษาอาการเหล่านั้นล้มเหลวทั้งหมด ประสาทสัมผัสเหล่านั้นจะแทรกแซงเข้าไปในจิตใต้สำนึกของผู้ทดลองและจะทำให้ผู้ทดลองไม่สามารถรับรู้ถึงโลกความเป็นจริงได้อีกต่อไปและจะมีปฎิสัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่ในภาพหลอนเท่านั้น

อาการเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อฟังเพลงในรูปแบบ “เสียงบันทึก” ที่เล่นปกติและเล่นแบบกลับหลัง แต่ความผิดปกตินั้นจะไม่รุนแรงเท่ากับเพลงที่เล่นกลับหลังจากแผ่นเสียงโดยตรงและเสียงบันทึกในรูปแบบดิจิตอลนั้นไม่มีอันตรายใดๆ

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License