SCP-1210
scp1210.jpg

บังเกอร์หลังทีี่สองที่อยู่ใกล้ๆกับ SCP-1210-2

วัตถุ #: SCP-1210

ระดับ: Euclid

มาตรการกักกันพิเศษ:ให้นำเรือสำหรับการทดลองของสถาบันและเรือลาดตระเวนอีก 2 ลำ ลาดตระเวนอยู่โดยรอบ SCP-1210 ในระยะที่ไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตรจาก SCP-1210 ในขณะที่ SCP-1210-2 กำลังทำงาน การทดลองหรือคำขอที่จะขึ้นไปบน SCP-1210-1 ที่มีระยะเวลาเกินกว่าห้า (5) ชั่วโมงหลังจากการกระจายสัญญานนั้นจะต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ระดับ 4 อย่างน้อย 2 คน รูปถ่ายอินฟาเรดที่ถ่ายโดยดาวเทียมรักษาความปลอดภัยจะต้องถูกบันทึกหลังจากการกระจายสัญญานทันที

บริเวณโดยรอบของ SCP-1210 ในระยะ 15 กิโลเมตรถูกระบุให้เป็น “เขตห้ามเข้า” บนแผนที่ทั่วๆไป
และการสังเกตการผ่านเรดาห์นั้นจะต้องใช้อุปกรณ์สังเกตการณ์ระยะไกล (UAVs) เท่านั้น หากบุคคลทั่วไปพยายามที่จะเข้าไปใน SCP-1210 จะถูกจับและสอบสวนอย่างหนักทันที

รายละเอียด SCP-1210-1 คือเกาะที่ไม่ถูกระบุบนแผนที่ อยู่ห่างออกไปจากชายฝั่ง [ข้อมูลถูกลบ] ของประเทศรัสเซีย ประมาณ 31 กิโลเมตร โดยมีเนื้อที่ 3.4 ตารางกิโลเมตร คาดว่าเกาะเคยมีพื้นที่มากกว่าปัจจุบันอันเนื่องมาจากรูปทรงของเกาะที่ฝั่งตะวันออกถูก “ฉีกออก” ด้วยสาเหตุที่ไม่ทราบและทิ้งรอยที่ถูกฉีกอย่างเรียบเนียน ในจุดที่ถูกฉีกยังคงมีตึกหลายหลัง , ถนน , และท่อจ่ายสาธารณูปโภคยังคงอยู่ แต่ถูกฉีกออกไป

SCP-1210-2 คือสถานีเรดาห์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาหลักที่อยู่บน SCP-1210-1 ประกอบไปด้วย เสารับสัญญานเรดาห์ขนาดใหญ่ และ บังเกอร์ควบคุมที่มีอุปกรณ์อ่านสัญญาน จากภาษารัสเซียจึงทำให้ทราบว่าสถานีชื่อ [ข้อมูลถูกลบ] แต่ทว่าไม่พบเอกสารหรือหลักฐานใดๆที่ระบุการมีตัวตนอยู่ของสถานีนี้ สถานีมีการเสื่อมสภาพอย่างชัดเจนอันเนื่องมาจากถูกทิ้งร้างหลายทศวรรต แต่ทว่ายังคงมีบางห้องที่สภาพอยู่ดีอันเนื่องมาจากอยู่ในบังเกอร์ที่ปิดมิดชิด จากการสำรวจและวิเคราะห์ พบว่ามนุษย์ที่เคยอยู่ในบังเกอร์นั้นถูกบังคับให้ทิ้งบังเกอร์อย่างรีบร้อนและมุ่งหน้าไปที่ฝั่งตะวันออกของเกาะที่ถูกคาดว่าเป็นที่ตั้งของสถานีจ่ายพลังงานและที่พักอาศัย

ถึงแม้ว่า SCP-1210-2 นั้นไม่ถูกจ่ายกระแสไฟฟ้าใดๆมาอย่างน้อย 50 ปี SCP-1210-2 นั้นยังคงทำงานและยังมีการจ่ายพลังงานในระดับต่ำเป็นระยะๆอีกด้วย ระยะที่เรดาห์ส่งสัญญานนั้นจะอยู่ประมาณ 9 กิโลเมตรจากเกาะซึ่งระยะเวลา,เวลาการส่งสัญญานและความถี่นั้นไม่แน่นอนแต่ความถี่นั้นจะอยู่ในช่วง ██ ไมโครวินาที และจาก ██ ถึง ██ เฮิร์ช และการส่งสัญญานเหล่านี้นั้นผิดปกติและมักจะส่งสัญญานทุกๆ 6 ชั่วโมง และมีโอกาสไม่มากนักที่จะส่งสัญญานทุกๆ 7 วัน

ในระหว่างการส่งสัญญานของวัตถุนั้นบริเวณโดยรอบของ SCP-1210-2 ที่สัญญานครอบคลุมนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพไปอย่างสิ้นเชิงซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนจะเป็นภูมิประเทศใต้ทะเล,ไหล่ทวีปและพื้นสมุทรรวมไปถึงพืชพรรณ,สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลยังรวมไปถึงสารเคมี,สารชีวภาพ,ที่เป็นองค์ประกอบของน้ำทะเลด้วย ในช่วงเวลาการกักกันปัจจุบันนั้น บุคลากรที่อยู่ในระยะได้รายงานว่า ในขณะการส่งสัญญานนั้น สามารถรู้สึกถึงการ ”กระเพื่อม” ซึ่งจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนในระยะสั้นและจะทำให้เกิดอาการเจ็บเสียวไปอีกหลายวัน ในบางครั้งได้รับรายงานว่ามีจำนวนน้อยที่เกิดอาการเสียความทรงจำและอ่อนเปลี้ยทันที และปัจจุบันมีการรายงานถึงเจ้าหน้าที่ของสถาบัน 2 คนได้หายสาบสูญจากความผิดปกติของวัตถุและไม่สามารถระบุตำแหน่งได้จนถึงปัจจุบัน

บันทึกเหตุการณ์ที่ 1210-1: ในวันที่██/█/██ วัตถุได้ส่งสัญญานออกมาในขณะที่เจ้าหน้าที่ของสถาบัน 2 คนกำลังอยู่บนเรือขนาดเล็กในน่านน้ำที่สัญญานของ SCP-1210-2 ส่งถึง เรือลาดตระเวน SCP เทร็คการ์ ได้รับสัญญานจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองที่มีอาการแตกตื่นอย่างมากและขาดการเชื่อมต่อไปหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อทำการสืบสวน เรือ เทร็คการ์ ได้พบชิ้นส่วนของเรือขนาดเล็กที่เสียหายอย่างหนักโดยมีการเจาะทะลุ ซึ่งรอยความเสียหายนั้นตรงกับรอยฟันของ เมกาโลดอน ซึ่งเป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันการร้องขออุปกรณ์เพิ่มเติมในการรับมือกับสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วหรือสัตว์ที่มีความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของ SCP-1210 นั้นกำลังรออยู่ระหว่างการอนุมัติ

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License