วัตถุ# SCP-057-TH กำลังแก้
ระดับ: Safe
มาตรการกักกันพิเศษ: เอกสารและข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับSCP-057-TH จะถึงเก็บไว้อย่างแน่นหนาที่[ข้อมูลถูกปกปิด]และตัว"อุปกรณ์" นั้นถูกเก็บไว้ที่ ศูนย์[ข้อมูลถูกปกปิด] ศูนย์[ข้อมูลถูกปกปิด]นั้นต้องทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลของSCP-057-TH รั่วไหลเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าจะเป็นการกำจัดตัวข้อมูลทิ้งก็ตามหากจำเป็น บุคคลากรทุกคนที่เคยอ่านการทดลอง หรือ รู้เรื่องของ SCP-057-TH จะถูกลบความทรงจำหรือกำจัดทิ้งทันที บุคคลอื่นหากไม่ได้รับอนุญาติจากO5-7ห้ามเข้าถึงข้อมูลต่อไปนี้เป็นอันขาด

ข้อความ
รายละเอียด: SCP-057-TH นั้นเป็น"อุปกรณ์"คล้ายเครื่องMRI แต่แตกต่างตรงที่มีหมวกที่มีสายไฟหลายจุดเชื่อมต่อเข้ากับส่วนหัวของผู้ใช้ เพื่อใช้ช็อตกระแสไฟฟ้าเข้าไปในสมองเพื่อ[ข้อมูลปกปิด] และมีจอมอนิเตอร์ขนาด3นิ้วอยู่ข้างๆ เพื่อใช้ฉายภาพ SCP-057-TH เป็นสิ่งประดิษฐ์ของ ดร.โทมัส ฮาเปอร์ เขาสร้างขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่าโลกหลังความตายมีจริงหรือไม่ ทางสถาบันได้เข้าเก็บกู้เมื่อวันที่13/11/2016 ณ บ้านของ นักฟิสิก ดร.โทมัส ฮาเปอร์ ภายในพบศพลูกชายของเขา วิล ฮาเปอร์ นอนอยู่ข้างๆSCP-057-TH โดย ดร.โทมัส ติดต่อเข้ามาทางสถาบัน และนำเอกสารทั้งหมดให้สถาบันเก็บรักษาไว้ (ผมตัดใจทำลายมันไม่ได้มันคือส่วนหนึ่งของวิล ถ้าผมทำลายมันก็เท่ากับทำลายวิล
ได้โปรดช่วยเก็บมันไว้ในที่ๆ จะไม่มีใครได้เห็นมันอีกเลย) ปัจจุบันดร.โทมัส ฮาเปอร์ เสียชีวิตแล้ว
ข้อมูลเอกสารทั้งหมดของSCP-057-TH ระบุชัดเจนว่าชีวิตหลังหลังความตายมีอยู่จริง โดยอ้างอิงจากหลักฐานทั้งหมดและความน่าเชื่อถือของข้อมูล ทางO5-7ยืนยันแน่นอนแล้วว่าข้อมูลของ SCP-057-TH-2a และ SCP-057-TH-2b เป็นความจริงและมีความน่าเชื่อถือมาก
เอกสาร SCP-057-TH-2a:
บันทึกการทดลอง 1
วันที่22/6/2016 18:07 น.
ผม วิล ฮาเปอร์ กับ พ่อผม โทมัส ฮาเปอร์ ได้ทำการทดลองตามหาชีวิตหลังความตายมาเกือบ40ปี ซึ่งตอนนี้มันกำลังจะได้ผล
เราสร้างเครื่องที่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าชีวิตหลังความจายมีอยู่จริง เราขาดแค่ตัอย่างในการทดลองเท่านั้น
วันที่ 22/6/2016 23:47 น.
เราขโมยศพจากโรงพยาบาลมาเพื่อนำมาทดลอง ชายคนนี้มีชื่อว่า คอนเนอร์ อายุ 62 ปี ตายเพราะหลอดเลือดอุดตัน
เราเดินเครื่องทำการทดลองกับศพก่อนในตอนแรก เราเปิดเครื่องและช้อตกระแสไฟไปที่สมองของเค้า ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เกิดเป็นภาพขาวดำสั่นๆ ซึ่งคาดว่าเกิดจากคลื่นไฟฟ้าที่เราช้อต มันน่าตื่นเต้นมากเลย
ภาพที่เราเห็นคือ

ข้อความ
เป็นภาพวิดีโอในมุมมองของนายคอนเนอร์ช่วงแรกของภาพนั้นเขากำลังขับรถอยู่ขณะฝนตก เหมือนเขากำลังจะไปที่ไหนซักแห่ง เขาขับรถมาหยุดตรงโรงพยาบาลและ เขาเข้าไปในตัวอาคาร
สอบถามพนักงานก่อนจะเดินเงียบๆไปที่ห้องพักคนไข้ ห้อง407 เขายืนนอกห้องมองผ่านหน้าต่างประตูบานเล็กๆ
ภายในห้องมีผู้ป่วยนอนอยู่และมีผู้หญิงยืนอยู่ข้างๆ เขามองอยู่พักนึงก่อนที่เธอจะเดินไปเปิดประตูและ
เริ่มบทสนทนา
หญิงสาว:"นายจะเข้าไปดูไหม…หรือจะทำเฉยเมยต่อไปอีก"ผู้หญิงคนนั้นเปิดประตูและถามขณะที่ทั้งสองอยู่นอกห้อง
นายคอนเนอร์:"ฉัน..ทำไม่ได้จริงๆ..ขอโทษนะ"เค้าพูดก่อนหันหลังแล้วเดินหนีไป
หญิงสาว:"แน่สิแกไม่เคยทำอะไรได้ซักอย่าง…เอาแต่หนีและปล่อยให้ชั้นจัดการกับปัญหาคนเดียว"เธอกร่นด่าไล่หลังเขาไป
และภาพก็ถูกตัดออก เพราะว่ากระแสไฟฟ้าไหลเข้าไปมากเกินไป ทำให้สมองเขาเกิดการไหม้ ผมกดปิดเครื่องก่อนที่สมองเขาจะไหม้มากไปกว่านี้ ในขณะที่ห้องเต็มไปด้วยความเงียบผมกับพ่อมองหน้ากัน เราสองคนไม่ดีใจแม้แต่นิดเดียว ที่การทดลองสำเร็จ เราค่อนข้างแปลกใจมากกว่าเพราะ เรานึกว่าจะได้เห็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ แสงสีขาวจ้า หรือสวรรค์นรกอะไรทำนองนั้น แต่มันไม่ใช่ สิ่งที่เห็นเป็นเสมือนแค่ความทรงจำในอดีตของ นาย คอนเนอร์ ฟิลิปส์ เท่านั้นเอง
วันที่28/6/2016 9:21 น.
พ่อกับผมตัดสินใจไปที่โรงพยาบาลแห่งนั้น เราเดินตามวิดีโอไปเรื้อยๆจนไปหยุดตรงกำแพง แต่ในวิดีโอเขากลับเดินไปต่อและไปหยุดที่ห้อง407 เราสอบถามภารโรงคนนึงพบว่าตึกโซนนั้นถูกปรับปรุงรื้อถอนไปมากกว่า10ปีแล้ว นี้เราดูภาพความทรงจำของคนจริงๆเหรอเนี้ย การตายคือการละลึกถึงเรื่องในอดีตเพียงแค่นี้เหรอ มันเหมือนทฤษฎีที่ว่าก่อนตายภาพความทรงจำทั้งหมดในชีวิตจะฉายซ้ำอีกครั้งนึง พ่อดูท้อไปมาก แต่ผมไม่
วันที่ 17/7/2016 11:01 น.
ผมต้องการพยานบุคคล ที่ยืนยันได้จริงว่าคอนเนอร์ไปโรงพยาบาลจริงๆ พยานคนนั้นก็คือผู้หญิงในวิดีโอนั้นดูเหมือนเธอจะเป็นคนในครอบครัวเขานะ ผมตามที่อยู่จากใบมรณะของคอนเนอร์ และไปสิ้นสุดลง ที่บ้านเก่าของเขา โชคยังเข้าข้างผม ผมได้เจอกับเธอพยานบุคคลของผม ทราบภายหลังว่าเธอคือน้องสาวของ คอนเนอร์ ฟิลิปส์ เธอชื่อ เจสซิก่า ฟิลิปส์ ผมจึงหลอกถามข้อมูลจากเธอ โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนกับพี่ชายเธอ
บันทึกการสนทนา
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"คือว่า.ฉันไม่ได้เจอพี่ชายมาหลายปีแล้ว"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"แม่ฉันก็คงจำพี่ไม่ได้เหมือนกัน"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"แม่เป็นอัลไซเมอร์หนะค่ะ"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"แม่อาการทรุดลงมากหลังจากที่พ่อตายไป"
วิล ฮาเปอร์:"คุณฮาเวีย"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"รู้จักพ่อฉันด้วยเหรอค่ะ"
วิล ฮาเปอร์:"คอนเนอร์พูดถึงเขาน่ะครับ เขาบอกว่าไปเยี่ยมพ่อคุณ ก่อนที่เขาจะตาย"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"ใช่พ่อตายและ…แม่อาการทรุดลงเรื่อยๆ"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"ตอนนี้ฉันกับสามีเป็นเจ้าของบ้านนี้ แล้วและ…"
วิล ฮาเปอร์:"คุณจะจัดงานศพให้พี่คุณไหมครับ"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"ชั้นบอกไม่ถูกค่ะ"
วิล ฮาเปอร์:"เอ่อขอโทษที่ถามนะครับอาจฟังดูแปลกหน่อย…แต่คุณดูไม่เสียใจเลยที่รู้ว่าพี่ชายของคุณตาย"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"คืออย่างนี้นะคะ"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"เหมือนคุณจะเป็นเพื่อนพี่ชายฉัน คุณคงเห็นข้อดีในตัวเขา คุณอาจจะชอบเขา"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"ฉันขอโทษด้วยนะ"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"แต่สำหรับเราเขาเป็นคนสารเลว ที่ทิ้งน้องสาวให้ดูแลพ่อที่เป็นมะเร็งใกล้ตาย และแม่ที่จำอะไรไม่ได้ซักอย่าง"
วิล ฮาเปอร์:"แปปนึงนะครับ เอ่อคือ..ครั้งสุดท้ายที่คุณเจอ พี่ชายคุณ..คือตอนที่เขาไปเยี่ยมพ่อคุณที่โรงพยาบาลใช่ไหมครับ"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"ฉันไม่รู้หรอกนะว่า เขาหลอกคุณว่าอะไรมาบ้าง แต่เขาไม่เคยมาเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลเลย "
วิล ฮาเปอร์:"…."
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"ถ้าเขาบอกอย่างนั้นแสดงว่าเขาโกหกคุณ"
เจสซิก่า ฟิลิปส์ :"เขาแค่โทรมาบอกว่าจะมาเยี่ยม แต่ก็ไม่เคยโผล่หัวมา"จบการสัมภาพ
เอกสาร SCP-057-TH-2b:
บันทึการทดลอง 2
วันที่/27/7/2015 14:25น.
พ่อยังคงวุ่นอยู่กับการปรับแต่งให้เครื่องจ่ายไฟให้สเถียรขึ้น พ่ออยู่ในห้องทดลองคนเดียว
เรื่องที่ผมเจอ เจสซิก่าน้องสาวของ คอนเนอร์ ทำให้ผมได้รู้ว่า อุปกรณ์นี้มันไม่ได้ฉายภาพความทรงจำ
แต่มันคืออะไรกันนะ
ขณะที่ผมคิดอยู่นั้นสัญญาณเตือนการใช้อุปกรณ์ก็ดังขึ้น ผมติดไว้เผื่อมีใครพยายามจะใช้มันโดยไม่ได้รับอนุญาติ เช่นตอนนี้ ผมรีบวิ่งไปยังห้องทดลองทันที ผมเข้าไปในห้องพบว่า พ่อของผมเชื่อมต่อตัวเองเข้ากับเครื่อง เหมือนพ่อจะช็อตไฟตัวเองให้หัวใจหยุดเต้น ผมดูที่เจอมอนิเตอร์ ตอนนี้พ่อตายไปได้ 15 วินาทีแล้ว
ขณะที่ผมกำลังจะกดหยุดเครื่องนั้น ภาพก็ฉายขึ้นทางมอนิเตอร์

ข้อความ
มันเป็นภาพเมื่อตอนนั้น มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายปีก่อน ตอนนั้นที่แม่ฆ่าตัวตาย
วันนั้นพ่อทำงานหนักมากแม่เรียกพ่อไปกินข้าวเย็น พ่อไม่ได้พูดอะไร คงไม่ได้ฟังแม่ด้วยซ้ำ และแม่ก็ขึ้นไปชั้นบน เธอขึ้นไปอาบน้ำในอ่าง และเธอก็ตายที่นั้น หลังจากนั้นเราก็ย้ายออกจากบ้านและเริ่มทำการค้นคว้าเรื่องนี้
พ่อทำให้แม่ตาย นี้คือความจริง
แต่สิ่งที่ฉายบนมอนิเตอร์คือ
พ่อยอมออกจากห้องทำงานหยุดแม่ไม่ให้ไปขึ้นไปชั้นบนและทั้งสองก็กินข้าวด้วยกัน นี้มันอะไรกันเนี้ย ความจริงพ่อไม่ได้ออกจากห้องทำงานด้วยซ้ำ
ก่อนที่จะไม่ทันการผม กดหยุดเครื่องก่อนที่สมองพ่อจะหยุดทำงานจริงๆ และผมก็ทำการปั้มหัวใจเพื่อฟื้นคืนชีพ
วันที่27/7/2015 14:32น.
เราเข้าไปคุยกันในห้องนอนพ่อ ผมเอาวิดีโอเมื่อกี้ให้พ่อดู
บันทึกการสนทนา
โทมัส ฮาเปอร์::"ฉันรู้สึกเหมือนเห็นแม่แก ฉันรู้สึกได้…มันเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน เราจำอะไรไม่ได้เลย"พ่อลุกขึ้นนั่งบนขอบเตียง
วิล ฮาเปอร์:"พ่อครับมันคืออะไรกันครับ"
โทมัส ฮาเปอร์:"ในความจริงคือฉันไม่ได้ออกจากห้องทำงาน ฉันปล่อยให้เธอขึ้นไปข้างบน"
โทมัส ฮาเปอร์:"จากนั้นแม่แกก็อาบน้ำ และ.."
วิล ฮาเปอร์:"ผมรู้"
วิล ฮาเปอร์:"ในวิดีโอของ คอนเนอร์ เขาไปเยี่ยมพ่อของเขาแต่ในความจริง เขาไม่ได้แม้แต่ไปเยี่ยมด้วยซ้ำ"
โทมัส ฮาเปอร์:"วิล..ฉันพูดเสมอว่า ชีวิตหลังความตายเป็นเหมือนการเริ่มใหม่"
โทมัส ฮาเปอร์:"แต่"พ่อลุกขึ้นยืนและตรงไปที่โต๊ะทำงาน
โทมัส ฮาเปอร์:"เป็นไปได้ไหม ว่าตัวตนเราเหมือนเดิมแต่อยู่ในโลกใบใหม่"
วิล ฮาเปอร์:"โลกคู่ขนาดเหรอครับ"
โทมัส ฮาเปอร์:"ไม่ใช่..โลกเดียวกันนี้แหละ แต่รูปแบบต่างออกไป"
โทมัส ฮาเปอร์:"เช่นไปเยี่ยม พ่อที่กำลังใกล้ตาย"
โทมัส ฮาเปอร์:"ขัดขวางไม่ให้แม่แกขึ้นไปข้างบน เพื่อไปฆ่าตัวตาย"
โทมัส ฮาเปอร์:"ตอนเราตายเป็นไปได้มั้ย ว่าเราเดินทางย้อนไปในโลกที่แตกต่างไปจากชีวิตเรา "
โทมัส ฮาเปอร์:"เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด เพื่อโอกาศครั้งที่สอง"
วิล ฮาเปอร์:"…เพื่อให้เราไม่ต้องยอมรับความเสียใจที่ฝังรากลึก….ในชีวิตหลังความตายเราเปลี่ยนมันได้ และอยู่ในโลกที่เราไม่ต้องเสียใจ"
โทมัส ฮาเปอร์:"ใช่"
วิล ฮาเปอร์:"….ถ้าจะให้พูดกันตรงๆก็คือ ถ้าเป็นอย่างที่พ่อพูดจริงและเอกสารเหล่านี้เล็ดลอดออกไป…ผู้คนมากมายจะ.."
โทมัส ฮาเปอร์:"เราต้องทำลายอุปกรณ์นี้ซะ"
วิล ฮาเปอร์:"ไม่ได้นะพ่อ เรายังมีเรื่องอีกมากมายที่เรายังไม่รู้เช่นถ้าตายอีกครั้งละเราจะไปไหน และการเริ่."
โทมัส ฮาเปอร์:"วิล ปล่อยวางมันซะ เรื่องที่พ่อกับ แกศึกษาอยู่นี้มันอันตรายเกินไป เราไม่ควรที่จะรู้ด้วยซ้ำ "
โทมัส ฮาเปอร์:"เราต้องทำลายมันซะ"จบการบันทึก
คุณลองนึกเล่นๆดูว่าหากทุกคนบนโลกนี้รู้ว่าตายไปแล้วจะสุขสบายกว่าที่เป็นอยู่
ความตายก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวที่ต่อไป นั้นฟังดูดีใช่ไหมละ แต่มองกลับกัน
ผู้คนมากมายคนจะพากันฆ่าตัวตาย หรือ แย่ไปกว่านั้นคนบางกลุ่มจะคิดว่าการฆ่าคือการปลดปล่อยผู้อื่นให้ไปอยู่ในที่ๆดีกว่า
โลกนี้คงจะวุ่ยวายกันฉิบหายเลยว่าไหม
O5-7
ภาคผนวก SCP-057-TH-1 : ผลสรุปการทดลอง
เนื่องจาก อุปกรณ์นี้จะปรากฎภาพออกมา 1:32 นาที เท่านั้นหากนานกว่านี้สมองจะตายและจะไม่เห็นภาพใดๆอีก
วันที่ 28/6/2016
ผู้รับการทดลอง D-0140
เรื่องที่อยากแก้ไขที่สุด "อ้อถูกจับเข้าคุกเนี้ยแหละ"
ผลการทดลอง D-0140 ในวัยเด็กห้ามไม่ให้พ่อของเขาทำร้ายแม่ของเขา
หลังการทดลอง "ถ้านั้นคือโลกหลังความตาย งี้ข้าก็ช่วยปลดปล่อยคนอื่นไว้เยอะเลยละสิ เอาหละปล่อยข้าไป นี้ข้าเป็นคนดีนะเนี้ย" D-140 ถูกกำจัดทิ้ง
วันที่ 29/6/2016
ผู้รับการทดลอง D-1072
เรื่องที่อยากแก้ไขที่สุด "ยาเสพติดมั้งถ้าผมย้อนเวลาได้ผมจะไม่แตะมันเลย"
ผลการทดลอง ภาพของD-1072 นั้นกลับไปเป็นตอนที่เขาอายุ 16 ตอนนั้นเขากำลังจะลองยาเสพติด แต่เขาก็หยุดและโยนมันทิ้ง
หลังการทดลอง D-1072 "ให้ตายสิถ้ายาอะไรวะแรงชะมัดเห็นเป็นภาพๆเลยแฮะ" D1072 ถูกกำจัดทิ้ง
วันที่ 7/7/2016
ผู้รับการทดลอง D-855
เรื่องที่อยากแก้ไขที่สุด "ลูกๆของผมถ้าวันนั้นผมไม่เมาละก็พวกเขาคงไม่ตาย"
ผลการทดลอง ภาพของD-855 นั้นไปปาตี้ของบริษัท เขาเอาลูกไปด้วยอายุน่าจะประมาณ 6กับ7ขวบ ในงานเขาดื่มไปเพียง2แก้วและขอตัวกลับก่อน พวกเขาถึงบ้านและพาลูกๆไปนอนอย่างปลอดภัย
หลังการทดลอง D-855 ขอให้ฆ่าเขาแบบไม่เจ็บปวด คำขออนุมัติ
วันที่ 15/7/2016
ผู้รับการทดลอง เด็กอายุ 4 ขวบ
เรื่องที่อยากแก้ไขที่สุด ไม่มี
ผลการทดลอง ไม่มีภาพใดๆปรากฎขึ้น
หลังการทดลอง เนื่องจากไม่มีสิ่งใดที่อยากแก้ไข เราจึงไม่เห็นภาพใดๆทั้งสิ้น มันอาจจะเป็น[ข้อมูลปกปิด]
วันที่ 16/7/2016
ผู้รับการทดลอง ดร.[ข้อมูลปกปิด]
เรื่องที่อยากแก้ไขที่สุด เขาอ้างว่าเขาไม่มีสิ่งที่อยากแก้ไข
ผลการทดลอง เกิดเป็นภาพของเขาขณะที่ทานอาหารกับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา
หลังการทดลอง ดร.[ข้อมูลปกปิด] นั้นไม่มีครอบครัว เป็นไปได้ไหมว่า โลกหลังความตายไม่ใช่แค่ให้เรากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด แต่ถึงขนาดเริ่มชีวิตใหม่ที่ดีกว่าให้ ดร.[ข้อมูลปกปิด]ขอให้ลบความทรงจำเขา คำขออนุมัติ
การทดลองอื่นๆนอกเหนื่อจากนี้ถูกระงับโดยO5-7
[[/collapsible]]