เข้ารับตำแหน่งแล็บ

“ยินดีต้อนรับเข้าสู่การเข้ารับตำแหน่งของพนักงานวิจัยแล็บระดับ 1 ฉันชื่อ ดร. ไอเซนเบิร์ก ตอนนี้พวกนายทุกคนคงอาจจะกำลังถามตัวเองอยู่ว่า ‘มันเป็นใครกันฟระ’ และก็ ‘ทำไมคนบางคนอย่าง ดร. เกียร์ไม่มาแนะนำกับพวกเราแทนล่ะ ก็เขาเป็นหัวหน้าไซต์นี้นี่นา’ เอาอย่างนี้ดีกว่า เจ้าลิงที่พวกนายเห็นที่ห้องโถงข้างล่างน่ะ นั่นน่ะคือ ดร. ไบร์ท ก็เหมือนกับ ดร. เกียร์ ที่เขาเป็นพนักงานวิจัยระดับ 4 นั่นก็หมายความว่าเขาได้รับการพิจารณาแล้วว่าเขาก็มีความสำคัญประมาณสองสามห้องเต็ม ๆ ของพวกนายที่นี่… ก็รวมถึงฉันด้วย นั่นก็ยังหมายความว่าพวกนั้น เอิ่ม โดนลดงานบริหารลงและพวกระดับ 3 ก็ด้วย เรื่องเชี้ย ๆ ก็ถล่มลงมากันตลอด… เดี๋ยวพวกนายก็จะรู้ แต่มันก็ไม่ได้แย่มากหรอก

“ตอนนี้พวกนายทุกคนที่นี่เข้าสถาบันเพราะพวกเราจ่ายหนี้ กยศ. ให้ จ่ายเงินเดือนดี ๆ ให้และให้พวกนายได้ปริญญาเอก พวกเราก็คล้าย ๆ กับกองทัพนั่นแหล่ะ แค่พวกเราไม่ได้ให้ใครคนไหนไปเดินสวนสนามที่ยอดเขาเหมือนไอ้โง่หรอก

“เอาล่ะ ข่าวดีก็คือพวกเราไม่สนใจว่าพวกนายจบมาจากที่ไหนตราบใดที่พวกนายฉลาดและตัดสินใจได้ดี อย่างแรกเลยนะ อย่างที่พวกนายทุกคนน่าจะเคยได้ยินมา สิ่งที่พวกเราได้มานี่ไม่ใช่แค่ยัดแม่งกับกายภาพ มันก็ทำเรื่องกามของมัน งั้นก็มีงานทดลองหลาย ๆ ร้อยงานที่ต้องทำและนั่นเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการพวกนาย และอย่างที่สอง พวกนายจะได้ทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยคนอื่น ๆ ที่จะสรุปงานของพวกนายในวิธีที่ไม่ต้องให้พวกนายใช้ทฤษฎีหลาย ๆ เรื่องหรอก พวกนายทำตามวิธีการทดลองไป พวกนายเขียนสิ่งที่เจอลงไปอย่างระมัดระวังและอะไรก็ตามที่เหนือความคาดหมายดี ๆ นะ และนั่นก็มากพอสำหรับ 90% ของเวลาเลยล่ะ

“แต่ว่ามันก็ไม่ได้ง่ายไปซะทีเดียว และฉันอยากจะบอกอะไรซักหน่อยนึงที่จะช่วยให้พวกนายมีชีวิตรอดจนถึงวันที่เงินเดือนออก เห็นมั้ยว่าพวกนายอาจจะได้ยินเรื่องสำคัญที่คนอื่น ๆ บ่นกันถึงเรื่องความยากและความเสี่ยงในงานของพวกนั้น แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าพวกนักวิจัยก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่น ๆ หรอก คนที่ฉลาดก็แค่มองสิ่งของจากที่ไกล ๆ ถ้า MTF เห็นบางสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบ พวกเขาจะ ‘ถอย’ แต่พวกเราไม่นะแค่ไม่มีที่ไปถ้าไอเชี้ยไปตีแฟน ๆ พวกเราต้องเอาอะไรก็ตามที่พวกเขาเอามาและภูมิใจจนกระทั่งพวกเรารู้ว่ามันทำอะไรแล้วจริง ๆ และก็วิธีป้องกันมันจากการกระทำที่ควบคุมไม่ได้ งั้นก็ตั้งใจฟังซะ

“เอาล่ะ อย่างแรกก็พวกตัว SCPs… พวกมันอาจจะบอกใจความสำคัญกับพวกนายสำหรับสิ่งที่พวกเราทำนี่ในการสรุปหลัก ๆ กับคนอื่น ๆ ด้วยอย่างสมมุติว่า บ้านเอ็มดีและเจมส์ บอนด์ และก็ จอร์น แรมโบ้ งั้นฉันก็ไม่ต้องพูดถึงเชี้ยนั่นทั้งหมดนะ เอาล่ะ ถ้าพวกนายได้จับวัตถุระดับ Keter โดยตรงล่ะก็พวกนายก็อาจจะจบเห่ และเอ่อ พวกระดับ Euclid ที่พวกนายจะไปเจอแค่ช่วงการกักกันในช่วงแรก ๆ และมีข้อแนะนำหน่อย ๆ ที่ฉันจะบอกพวกนายสำหรับนั่นได้ ที่ฉันจะพูดถึงน่ะเป็นพวกระดับ Safe พวกข้าราชการหน้าฝาชีที่คิดชื่อนั่นขึ้นมาอาจจะไม่เคยเห็นซักอันเลย

อย่าทำเชี้ย ๆ กับตัว SCP ระดับ Safe และที่สำคัญก็อย่าลืมระวังตัวพวกนายเอง เวลาที่อันตรายที่สุดระหว่างที่วิจัยวัตถุนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกนายอยู่รอบ ๆ ตัวมัน เป็นรอบที่กว่า ๆ ที่พวกนายจะโดนใช้ให้ไปเก็บข้อมูลชุดนึง คิดว่าพวกนายรู้แน่ ๆ ว่ามันทำอะไรได้บ้างและก็ไม่ระวังตัวเอง ตอนนี้อาจจะดูแปลก ๆ แต่พวกนายจะเริ่มคิดแบบนั้น ไม่ว่าของที่พวกนายทำงานอยู่จะแปลกประหลาดแค่ไหนก็ตาม มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ บางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับบรรทัดฐานทางด้านจิตวิทยาแต่ฉันน่ะเป็นคนแยกโลหะออกจากแร่ ไม่ใช่จิตแพทย์ ฉันเดาว่ามันเป็นแบบนั้นตั้งแต่ที่ส่วนใหญ่ในโลกถ้าบางสิ่งบางอย่างทำเรื่อง A ไปตั้งห้าร้อยครั้ง มันก็ไม่เป็นเรื่อง B ไปตั้งห้าร้อยครั้งในครั้งนึงหรอก

“เอาล่ะตรงนี้ไม่มากมายหรอก มันก็คือวิธีที่ครึ่งนึงของสิ่งที่อยู่ในการกักกันได้เรียกกันว่าเป็น ‘Euclid’ อย่างเช่น พนักงานสองคนที่กินน้ำเชี้ย ๆ ของพวกนั้นจนตายเพราะเจ้าหนึ่งเก้าแปดที่เป็นถ้วยแปลงร่างจากพระแม่แห่งปีศาจที่พวกเราคิดว่าพวกเราได้กักกันแล้ว หนึ่งในพวกนั้นก็เป็นนักวิจัยเหมือนกับพวกนายและทั้งหมดที่เขาทำสำหรับสิ่งที่เขาคิดก็คือ มันเป็นกระติกน้ำร้อนของเขาบนโต๊ะตรงหน้าที่มาเปิดสิ่งเชี้ย ๆ ให้มันย้ายไปมาบ่อย ๆ

“อย่างที่สอง D-Class ที่เป็นพวกใช้แล้วทิ้ง พวกในชุดหมีสีส้มที่รับมาจากพวกนักโทษประหาร จุดประสงค์อย่างเป็นทางการก็คือจัดการกับวัตถุระดับ Keter งั้นพวกเราก็ไม่ต้องไปทำ นั่นก็มากพอที่พวกนายได้ยินตอนที่สรุปสั้น ๆ พวกมันโดนใช้สำหรับการทดลองที่ต้องใช้มนุษย์กับพวกวัตถุ SCPs เอาล่ะ ฟังให้ดีนะ และนายตรงที่อยู่ข้างหลังตรงนั้น พยายามมองให้ดูไม่ค่อยน่ากลัวหน่อย พวกเราไม่ใช่พวกเชี้ยชุทซ์ชทัฟเฟิลนะเห้ย

“เอาล่ะ เอกสารทางการบอกว่าพวกมันจะโดนกำจัดทุก ๆ สิ้นเดือนและยังไงก็จะตายอยู่ดี เอาล่ะ ฉันจะเดาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ว่าการที่ให้จำนวนของพวกมันเป็นคู่ที่ฉันจะใช้และตั้งแต่ที่พวกนายยังไม่สมองตาย พวกนายก็คงจะเดาได้เหมือนกัน พวกนายคงไม่เต็มใจแม้กระทั่งได้กำจัดพวก D-Class ที่พวกนายจะได้ใช้ไปในการทดลอง

“ให้ฉันยกตัวอย่างที่ใช้ได้จริงนะ หนึ่งในวัตถุ SCPs ประเภท memetic ที่พวกเรามีภายในไซต์ค่อนข้างจะไม่อันตราย เป็นเสียงกรุ๊งกริ๊งหรือพวกเพลง ตรงนี้กับพวกสายเอี้ยมดึงกางเกงเรอะ meme คืออะไร ฉันจะใส่มันได้ยังไง… meme เป็นไอเดียร้าย ๆ พวกมันทำลายโปรแกรมความคิดของพวกนายถ้าพวกมันอ่านอยู่จากทุก ๆ แหล่งที่มา ประเภทเหมือนกับไวรัสคอมพิวเตอร์เบื่อหน่ายกับพวกเด็ก ๆ บัลแกเรียที่เขียนน่ะ ไม่ว่าถ้ามันจะมาจากแผ่นบันทึกหรือแนบติดกับอีเมล์มันก็ทำเหมือนกันถ้ามันกำลังโชว์ข้อความงี่เง่า หรือทำให้ฮาร์ดดิสของพวกนายพังเรียบ ตรงนั้นหรอ อะไรนะ นั่นมัน cognitohazard ไม่ใช่ meme นี่ นายคงจะถูกแล้ว ฉันไม่ได้ทำงานกับพวก… ยังไงก็ตามสิ่งที่มันทำก็สำคัญมากกับที่มันโดนเรียกนะ

“ยังไงก็ตาม นักวิจัยที่ทำการทดลองจะ ‘เห็นอกเห็นใจ’ เขาไม่ได้รู้ดีไปมากกว่านั้นเลย เขาส่ง D-Class ที่เขาใช้ในกองกลางกลับไปไม่มีแม้กระทั่งโน้ตที่เกี่ยวกับสิ่งที่ทำไปแล้ว สองสามวันต่อมาพวกเรากักกันวัตถุ SCP ประเภท memetic อีกอันนึง อันที่ฆ่าคนน่ะมันคือรูปภาพ นักวิจัยอีกคนที่ทดลองอันนั้นเอา D-Class คนเดียวกันไปโดยบังเอิญ ในความคิดของเขายังไงก็ตาม meme สองอันก็ผสมกัน จากภาพจากกล้องวงจรปิดชายคนนั้นเริ่มจะพูดพล่ามแล้วฉีกกระชากหลอดลมของเขาออกมา และต่อมานักวิจัยกับยามอีกสองคนก็มา

“ใช่ล่ะ นั่นล่ะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกระดาษของพวกมันมีสรุปสั้น ๆ สำหรับสิ่งที่พวกมันโดนตัดสินมา นอกจากที่เลือกประวัติทางกายภาพที่เหมาะเจาะสำหรับการทดสอบวัตถุ SCP แล้วนะ อ่านไปทั้งหมดเลย และเวลาไหนก็ตามที่พวกนายจะคืน D-Class ที่ใช้แล้วกลับไปกองกลางโดยด่วน คิดกับตัวเองนะว่า ‘การยืดเวลาชีวิตของนักข่มขืนน่ะมันคุ้มค่ากับความเสี่ยงในชีวิตของเพื่อนร่วมงานกับเพื่อน ๆ ของฉันมั้ย’

“เอาล่ะ นั่นก็หมดแล้วจริง ๆ สำหรับฉัน มีคำถามมั้ย

“นายกับหน้าตาแบบนั้นเรอะ ลดขั้นเป็น D-Class น่ะหรอ อ่าเชี้ยเอ้ย ใครบอกนายกันเนี่ย ฉันก็คิดงั้นนะ… ดูนั่นสิและหน้าที่ระดับ Keter ก็เป็นหนึ่งในชิ้นส่วนไร้สาระที่พวกเราขู่พวกอ่อนหัดให้กลัว เอาล่ะ ดูสิ… วิธีส่วนใหญ่ที่นายจะติดแหง็กเชี่ย ๆ นี่ พวกเราจะไม่ให้ใครโดนลงโทษและเอาข้อมูลที่อ่อนไหวออกไป พวกเขาจะฆ่านายเพราะแบบนั้นในทุก ๆ ที่

“คนต่อไป ทำไมนายถึงต้องอยู่ในไซต์ล่ะ อยู่ช่วงโปรจริงดิ สำหรับหกเดือนนับจากนี้ พวกคนที่ผ่านไปได้พวกนายจะได้รับระดับการเข้าถึงถาวรระดับ 1 และจะได้ใช้เวลาไปในทุก ๆ ที่ ส่วนคนที่ไม่ผ่าน… พวกนายจะได้รับการลบความจำระดับ B และจะลืมทุก ๆ อย่างที่พวกนายเคยได้มีประสบการณ์ที่นี่ ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่ตามที่ได้ยินหรอก พวกเรายังให้เงินเดือนกับพวกนายอยู่นะ

“นายคนที่ใส่เสื้อโปโลน่ะหรอ ที่ไหนดีที่สุดที่จะเจอพวกสาว ๆ ในนี้น่ะหรอ ก็ในเน็ตไง… อ่ะล้อเล่นนะ ลองไปดูในส่วนประวัติของพนักงานในห้องพักผ่อนดูสิ มีสาว ๆ น่ารักอยู่เต็มเลยอย่างเช่นไรท์น่ะ

“เธอตรงนั้น สาวน้อยใส่แว่นน่ะหรอ ทำไมพวกเราไม่วิจัยวัตถุต่าง ๆ ที่ทำให้พวกเขาช่วยมนุษยชาติน่ะหรอ คือ ฉันบอกได้ว่า… ห่าเอ้ย รู้มั้ย เธอก็ทำได้ ถ้าเธอทำสำเร็จและพัฒนาทฤษฏีที่อธิบายและก็อปปี้วัตถุขึ้นมา มันจะโดนจำแนกใหม่เป็น SCP-EX รั่วไหลไปในที่สาธารณะและเธออาจจะได้เลื่อนขั้นจากมัน จนทุกวันนี้ฉันเคยได้ยินว่ามีประมาณห้าคนที่ทำสำเร็จ… จากศตวรรษที่แล้ว ห่าเอ้ย ฉันกำลังพยายามจะทดลองสิ่งที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโครงสร้างโรคมะเร็ง และในหกคนของพวกเราก็ได้ยุ่งอยู่กับมันไปสองปีแล้วในตอนนี้

“คำถามต่อไปเลย นายต้องการอะไรบ้างในการได้เลื่อนขั้นน่ะหรอ ความทะเยอทะยานไง ไม่ใช่เรอะ เอ่อ ไปตามนี้นะ นายเรียนมหาลัยให้จบ และจากนั้นนายก็จะออกไปด้วยชุดปกติธรรมดา ๆ หรือไม่ก็อยู่กับพวกเรา เซ็นสัญญาถาวรและได้ระดับการเข้าถึงระดับ 2 หลังจากนั้น มันก็จะเป็นเรื่องของโชคและแอสคลามเบอรี่ และเมื่อฉันไม่มีทั้งคู่เลย ฉันก็ยังติดแหง็กกับการเป็นนักวิจัยอยู่

“ผู้หญิงอีกคนหรอ หมาตัวที่เข้าไปอาบน้ำในไซต์ก็ตามน่ะเรอะ นั่นอาจจะเป็นศาสตราจารย์คราวน์ ถ้าคราวหน้าเขาทำแบบนั้นนะ ขโมยแว่นเลย

“ยังไงก็เถอะพวกนายทุกคนไปได้แล้ว ซักพักนึงยามจะพาพวกนายไปส่งกับพวกนักวิจัยที่พวกนายจะทำงานให้ ในระหว่างนี้ก็มีกาแฟกับโดนัทด้วยนะ บริการตัวเองกันเอาเองล่ะ”

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License