สู่ลีกใหญ่

"ขอบัตรประจำตัวด้วยครับ"

คุณยื่นบัตรประจำตัวให้กับหน่วยรักษาความปลอดภัยอย่างตระหนก รปภ.สแกนบาร์โค้ดด้วยเครื่องมือถือ ตรวจภาพใบหน้า แล้วยื่นบัตรประจำตัวคืนให้คุณพร้อมพยักหน้า ไม่ว่าการประชุมนี้มันคืออะไร มันต้องสำคัญมากกว่าที่คุณคิด คุณรู้ว่างานวิจัยของคุณไม่ได้สำคัญอะไรกับสถาบันเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่จะถูกเรียกประชุมด่วน แต่เมื่อดูจากระบบรักษาความปลอดภัยระดับนี้มันบอกว่าคุณคิดน้อยเกินไปแล้ว

ห้องประชุมเป็นห้องที่ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเร้นส์ได้ ในห้องเป็นโต๊ะยาวมีเก้าอี้อยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ เก้าอี้หันหน้าหาอีกด้านหนึ่งที่มีจอขนาดเท่าผนังติดอยู่ คุณเห็นชื่อของคุณติดอยู่หน้าเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ด้านไกลของโต๊ะ หลังจากรีบนั่งประจำที่ ต่อแล็ปท๊อปแล้วเปิดโปรแกรม e-meeting แล้วคุณกวาดสายตามองผู้เข้าประชุมคนอื่นๆคุณก็แทบจะอยากวิ่งหนีออกจากห้องนี้ทันที ผู้ชายและผู้หญิง (รวมทั้งสุนัข โดยเฉพาะที่อยู่ในหุ่นยนต์) เหล่านี้เป็นคนที่ทุกคนในสถาบันเห็นหน้าแล้วรู้จักทันที เป็นชื่อที่นักวิจัยตำแหน่งเล็กๆได้แต่กระซิบเพราะกลัวว่าเจ้าของชื่อจะโผล่มาเหมือนกับกลัวจะเรียกปิศาจจากโลกมืด ความรู้สึกพวกนี้ถ่าโถมเข้าใส่แล้วคุณก็นึกว่า นักวิจัยแถวหน้าของสถาบันต้องการอะไรจากนักธรณีวิทยาตัวเล็กๆอย่างคุณ

จากที่นั่งตรงกลางโต๊ะ ดร.เกียร์มองมาที่คุณ แล้วกลับไปมองจอแล็ปท็อปตรงหน้าแล้วพูดว่า "เมื่อทุกคนมาครบแล้ว ผมคิดว่าถึงเวลาเริ่มประชุม" หลังจากนั้นเขาก็ส่งคำสั่งเข้าคอมพิวเตอร์แล้วจอบนผนังก็สว่างขึ้นแสดงภาพห้องเหมือนกับห้องประชุมนี้ ในห้องนั้นมีคนเข้าประชุมสิบสองคน ใบหน้าของทั้งสิบสองคนถูกเบลอด้วยคอมพิวเตอร์ ที่นั่งของพวกเขาไม่มีป้ายชื่อ แต่ถูกกำกับด้วยตัวเลข คุณเริ่มสงสัยว่ามีคนเอายาหลอนประสาทระดับ SCP ใส่ในกาแฟให้ดื่มเมื่อ O5-03 พูดขึ้นว่า

"สวัสดีทุกคน ผมคิดว่าทุกคนคงสงสัยว่าทำไมคุณถึงถูกเรียกประชุมด่วน และเพื่อนร่วมงานบางคนของเรายังไม่ทราบสถานการณ์อย่างชัดเจน เราคิดว่าควรจะมีการสรุปสั้นๆให้ฟังก่อนเป็นเบื้องต้น ด็อกเตอร์เกียร์ รบกวนด้วย"

เกียร์พยักหน้า "ขอบคุณครับท่าน เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีพลเรือนหลายคนส่องกล้องดูดาวแล้วพบสิ่งที่คาดว่าจะเป็นอุกาบาต มันมีเส้นทางโคจรที่จะชนกับโลกในอนาคตอันใกล้ เราพบสิ่งเดียวกันนี้ด้วยการดูในช่องทางปกติ และเรายืนยันว่าเป็นหินอุกาบาต และมีกำหนดชนโลกในอีกเก้าวัน ข้อมูลต่างๆอยู่ในไฟล์บนหน้าจอของทุกท่านแล้วรวมทั้งภาพถ่าย รายงาน รายงานการคำนวณ และข้อมูลอื่นๆ"
"ผมถือวิสาสะยืมข้อมูลแบบจำลองด้านภูมิศาสตร์ของด็อกเตอร์ฟิลเบิร์ต" นี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อวานคุณใช้คอมพิวเตอร์ไม่ได้ "และถ้าการแปลข้อมูลของผมถูกต้อง เรากำลังพบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติระดับ IK-class จะมีผู้เสียชีวิตถึงสามพันล้านคนในอีกสิบปีข้างหน้า ด็อกเตอร์ฟิลเบิร์ต,คุณเห็นด้วยหรือไม่?"

เอาล่ะ ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าทำไมคนพวกนี้ถึงเรียกคุณมาที่นี่ คุณรีบอ่านผลที่ด็อกเตอร์เกียร์รันออกจากโปรแกรม GeoMod ดูเหมือนทุกอย่างถูกต้องเรียบร้อยดี "ผม…เอ่อ…ใช่ครับท่าน ผมเห็นด้วย" พูดตะกุกตะกักระหว่างดูข้อมูลไปด้วย แล้วเริ่มสั่งให้ GeoMod ประมวลข้อมูลเพิ่มอย่างเร่งด่วน

"ถ้านี่เป็นวัตถุธรรมชาติ" O5-10 ขัดขึ้น "ทำไมเราต้องคุยเรื่องนี้กันด้วย มันอาจเป็นโศกนาฏกรรม แต่เราต้องจัดการกับสิ่งของและสิ่งมีชีวิตที่อันตรายกว่าหินก้อนนึงมากนะ"

"ด้วยทรัพยากรพิเศษที่เรามี เราสามารถป้องกันภัยพิบัตินี้ได้ นอกจากนั้น จุดประสงค์เบื้องหลังการดำเนินงานของสถาบันและการศึกษาสิ่งผิดปกติที่เราทำอยู่คือการปกป้องมนุษยชาติ ความล้มเหลวที่จะบรรเทาภัยพิบัติจากสถานการณ์ระดับนี้ ถือว่าขัดกับจุดประสงค์หลักของการมีอยู่ของสถาบัน" เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอ่านความคิดของดร.เกียร์ แต่คุณสาบานได้ว่าเขาเพิ่ง "สั่งสอน" พวกระดับสูง มันชัดเจนว่าพวกแถวหน้าเล่นด้วยกฎเกณฑ์ที่ต่างออกไป และนี่เป็นเวลาที่ GeoMod ประมวลผลเสร็จและส่งผลที่คุณต้องการหาออกมา

"เอ่อ…ท่านครับ" คุณเข้าขวางการสนทนาอย่างตระหนก ทุกคนในห้องประชุมหันเก้าอี้มาจ้องคุณ "ผมใช้การคำนวณของดร.เกียร์เทียบกับข้อมูลบันทึกของสถาบัน จากแบบจำลองดังกล่าว ถ้าเราไม่ทำอะไรกับเหตุการณ์นี้ มีโอกาส 40% เป็นอย่างน้อยที่การควบคุมในพื้นที่ 4 จะแตก" และนั่นทำให้พวกเขาสนใจ คุณไม่ได้อยู่ในระดับที่จะรู้ได้เลยว่าอะไรถูกเก็บไว้ในพื้นที่ 4 บ้าง แต่คุณรู้ว่าไม่ว่า SCP ตัวไหนในนั้นถ้าหลุดออกมาจะฆ่าคนได้เป็นล้าน แล้วถ้าทุกตัวออกมาล่ะ…

หลังพูดจบทั้งสองห้องประชุมมีเสียงคุยเบาๆดำเนินเป็นเวลาหลายวินาที ในที่สุด O5-7 ก็พูดขึ้น "ถ้าการคำนวณของด็อกเตอร์ฟิลเบิร์ตถูกต้อง เราคงไม่มีทางเลือก เราต้องจัดการอะไรบางอย่างกับอุกกาบาตนี่ สิ่งที่ยังเป็นคำถามคือ จะจัดการอย่างไร? ใครมีความเห็นบ้างมั้ย?"

สิ่งที่เกิดขึ้นหลักจากนี้ถ้าจะให้บรรยายอย่างสุภาพก็คงเรียกได้ว่า "การถกเถียงอย่างมีสปิริต" ถ้าบรรยายแบบไม่สุภาพก็เรียกว่า "ก้อนคำที่ฟุ้งกระจาย" นักวิจัยหลายคนเสนอความคิดแล้วก็ถูกนักวิจัยคนอื่นปัดทิ้ง ขอให้ 343 ช่วยได้มั้ย? ลองแล้ว เขาบอกว่าไม่. ยิงด้วย 044? ไม่มีทางที่จะเพิ่มพิสัยได้ มันไปไม่ถึงวงโคจรหรอก.

ความคิดเดียวที่ทุกคนเห็นด้วยคือการใช้อาวุธของหน่วยงาน Mare Imbrium โชคร้ายที่การใช้หัวรบที่ทรงพลังพอจะเบี่ยงวงโคจรให้พ้นจากโลกจะทำให้เกิดประกายจ้าที่เห็นชัดแม้แต่ตอนกลางวัน จะทำให้ครึ่งโลกเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์นี้ เมื่อคิดว่าวัตถุอยู่ใกล้โลกแค่ไหน เวลาที่ใช้เตรียมหัวรบ ทำให้มีโอกาสเพียงครั้งเดียว การถกเถียงเปลี่ยนประเด็นไปเป็น คุ้มหรือไม่ที่จะประกาศการมีอยู่ของสถาบันต่อโลก ทั้งสองขั้วความคิดเห็นก็ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนความคิดของตนเลย ระหว่างการตะโกนตอบโต้กันในห้องประชุม มีความคิดแล่นเข้ามาในหัวคุณ คุณเริ่มคีย์ตัวเลขลงเพื่อดูว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ กลศาสตร์วงโคจรไม่ได้เป็นสาขาที่คุณเชี่ยวชาญ แต่เมื่อเทียบกับแบบจำลองแรงสั่นสะเทือนพุ่งผ่านตัวแปรส่วนประกอบหิน การคำนวณวงโคจรจากการตกกระทบมันง่ายเหมือนปอกกล้วย ในที่สุดคุณก็ได้คำตอบ

มันเป็นไปได้

"เราทำให้มันตกในมหาสมุทรได้" คุณโพล่งออกมา พนักงานระดับสูงที่กำลังทะเลาะกันหยุด และหันหน้ามามองคุณ สีหน้าพวกเขามีตั้งแต่แปลกใจเล็กๆจนถึง "ไอ้บ้านี่มันเป็นใครถึงพูดออกมาวะเนี่ย" คุณพูดต่อ "การยิงด้วยกำลังน้อยจะเบี่ยงวิถีของอุกาบาตพอให้ตกลงในมหาสมุทรแทนที่จะเป็นพื้นดิน คนบนโลกก็ไม่เห็นประกายแสงถ้าไม่มีกล้องโทรทัศน์ นี่ไม่ใช่ตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบเมื่อคิดถึงขนาดของสึนามิที่จะเกิด แต่อย่างน้อยเราก็รักษาพื้นที่ควบคุมไว้ได้ เราไม่ต้องแก้ไขความทรงจำของนักดาราศาสตร์ และเมื่อพวกเขาไม่มีข้อมูลที่เรามี พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น"

สายตาที่มองด้วยความแปลกใจเปลี่ยนไปเป็นความคิดใคร่ครวญ "เป็นไปได้" นักวิจัยพูด "เราใช้มหาสมุทรแอตแลนติกไม่ได้ เราไม่อยากเสี่ยงกับการปลุก 169" นักวิจัยอีกคนพูดและปล่อยให้คุณงงว่าอะไรคือ SCP-169 และทำไมอุกาบาตตกจึงทำได้แค่ปลุกเจ้าสิ่งนี้

"ผมคิดว่า" ดร.เกียร์พูด "เราควรนำเรื่อง SCP-169 มาพิจารณาด้วย มหาสมุทรอินเดียหรือแปซิฟิกตอนเหนือน่าจะเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดที่จะให้อุกาบาตตก ด็อกเตอร์จอห์นน่าจะสร้างแบบจำลองสึนามิได้ดีพอเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ที่จะถูกสึนามิถล่มได้ ขณะเดียวกันเราควรเตรียมมิสไซล์ของ Mare Imbrium และส่งข่าวไปที่ดีเมเตอร์กับการ์เดี้ยนเพื่อเตรียมการอพยพฉุกเฉิน เราจะพาพวกเขาไปพื้นที่ปลอดภัยก่อนเวลาอุกาบาตตก แผนนี้ยอมรับได้มั้ย?"

หลังจากนักวิจัยเกือบทุกคนพนักหน้า O5-03 ก็พูดขึ้น "เราต้องการเวลาเพื่อดูข้อเสนอของพวกคุณอีกครั้ง แต่จะเป็นการดีถ้าพวกคุณเริ่มเตรียมการทันที ผู้ที่รับหน้าที่สำคัญจะได้รับคำสั่งว่าให้ดำเนินการหรือยกเลิกทันทีที่พวกเราตัดสินใจได้" หลังจากนั้นจอภาพก็ดับหมายถึงจบการประชุม ขณะที่คุณปิดโปรแกรมและถอดสายจากแล็ปท็อปคุณคิดได้ว่าตัวคุณเพิ่งส่งสึนามิไปยังพื้นที่ชายฝั่งที่ประชากรหนาแน่นที่สุดของโลก นี่คือความรู้สึกของการรับมือกับภัยระดับ Keter หรือ? พวกพนักงานระดับสูงคงจะทำเรื่องพวกนี้ตลอดเวลา คุณจินตนาการไม่ออกเลยว่าพวกนั้นจะมีความรู้สึกยังไง แล้วคุณก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยข้างหลังคุณ

"อืม.. ใครจะไปกินข้าวกลางวันกันบ้าง?"

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License