Credits
พระเจ้า |
ฉันคือดร.ไคล์ ซึ่งตอนนี้กำลังทำหน้าที่ ที่เกี่ยวกับโครงการ เเนวคิดของสิ่งมีชีวิตภายในโรงงานเก่าของสถาบัน SCP สาขาไทยเเห่งนี้
ณ ทางเข้าของโรงงานเก่า ดร.ไคล์ก็ได้พบกับชายปริศนา สวมเสื้อฮู้ดขนาดใหญ่ ครอบคลุมทั่วทั้งตัวตรงหน้าทางเข้าโรงงานเก่าของสถาบัน
ดร.ไคล์ได้ทำการเดินเข้าไปหาเขา พร้อมพูดขึ้นว่า
"เห้…เห้ คุณที่อยู่ตรงนั้นน่ะ มาทำอะไรในที่ตรงนี้ ไม่ใช่ว่าที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับนักวิจัยระดับ 4 ไม่ใช่หรอ?"
จู่ๆ ชายคนนั้นก็เดินปรี่มาหาดร.ไคล์ ทำให้ดร.ไคล์ต้องทำการนำปืนไฟฟ้าจากกระเป๋ากางเกงออกมา เเล้วหันกระบอกปืนไปทางชายคนนั้น
"ใจเย็นๆ ก่อนผมไม่ใช่คนไม่ดีซะหน่อย ผมเเค่เห็นว่าในโรงงานมีของที่ผมต้องการอยู่น่ะ เเต่ผมเข้าไปไม่ได้เพราะมีเจ้าหน้าที่ทำงานกันอยู่ ผมก็เลยต้องยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้า"
ดร.ไคล์ ได้ทำการสอบถามชายคนนั้น
"ที่ตรงนี้มันอันตราย ฉันเกรงว่าคุณควรออกไปจากที่ตรงนี้โดยเร็วที่สุด"
ชายปริศนาก็ได้เริ่มพูดอะไรบางอย่างให้กับดร.ไคล์ฟัง
"หารู้ไหมว่า พระเจ้ามักจะถูกมองว่าเป็นสัตภาวะสูงสุดผู้สร้างและเป้าหมายหลักของความเชื่อ ในความคิดที่ไม่นับถือ พระเจ้าองค์เดียว พระเจ้าคือ วิญญาณหรือสิ่งที่เชื่อว่าควบคุมบางส่วนของจักรวาลหรือชีวิต และมักถูกบูชาเพราะทำเช่นนั้น หรือบางสิ่งที่เป็นตัวแทนของวิญญาณหรือสิ่งมีชีวิตนี้"
ดร.ไคล์ก็ได้ตอบกลับไปว่า "ฉันก็เชื่อนะว่าพระเจ้าเป็นอย่างนั้น"
เเละชายคนนั้นก็ได้เริ่มพูดต่อ
"การแทรกแซงจากสวรรค์": ในโลกที่มักคิดว่าพระเจ้าเป็นเพียงแนวคิดนามธรรมที่ห่างไกล จู่ๆ ชายคนหนึ่งก็เริ่มได้รับข้อความจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่เขาพยายามถอดรหัสข้อความและทำความเข้าใจว่าพระเจ้าต้องการอะไรจากเขา เขาก็พัวพันกับแผนสมคบคิดที่อันตรายซึ่งคุกคามความสมดุลของอำนาจในโลก
"สนามเด็กเล่นของพระเจ้า": พระเจ้าได้สร้างจักรวาลที่มีดาวเคราะห์ต่างๆ มากมายนับไม่ถ้วน แต่ละดวงมีสิ่งมีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่เมื่อดาวเคราะห์ดวงหนึ่งถูกครอบงำด้วยความชั่วร้ายและความมืดมิด พระเจ้าทรงเลือกกลุ่มบุคคลจากโลกที่แตกต่างกันมารวมตัวกันและปกป้องมันจากการถูกทำลาย ระหว่างทางพวกเขาจะพบกับความท้าทายต่างๆ และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตนเองและความศรัทธาของพวกเขา
"ความโกรธเกรี้ยวของพระเจ้า": ในเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของอเมริกา กลุ่มคริสเตียนนิกายฟันดาเมนทัลลิสต์เริ่มเชื่อว่าพวกเขาได้รับเลือกจากพระเจ้าให้ทำตามพระประสงค์ของพระองค์บนโลก แต่เมื่อพวกเขากลายเป็นความเชื่อและการกระทำที่สุดโต่งมากขึ้น ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสนใจในอำนาจและการควบคุมมากกว่าการปฏิบัติตามคำสอนของพระเจ้าอย่างแท้จริง เมื่อความตึงเครียดเพิ่มขึ้นและความรุนแรงปะทุขึ้น เมืองก็จมดิ่งสู่ความโกลาหล และจะต้องใช้ปาฏิหาริย์เพื่อแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง
"การทดลองพระเจ้า": ทีมนักวิทยาศาสตร์และนักปรัชญามารวมตัวกันเพื่อสร้างการทดลองที่จะพิสูจน์หรือหักล้างการมีอยู่ของพระเจ้า แต่เมื่อพวกเขาดำดิ่งลึกลงไปในความลึกลับของจักรวาล พวกเขาเริ่มตระหนักว่าอาจมีพระเจ้ามากกว่าที่พวกเขาเคยจินตนาการไว้ ขณะที่พวกเขาต่อสู้กับคำถามเกี่ยวกับความเชื่อและเหตุผล พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับคำถามอคติและสภาวะอคติของตนเองเพื่อที่จะเข้าใจพระลักษณะของพระเจ้าอย่างแท้จริง
"การพิพากษาครั้งสุดท้าย": เมื่อวันสิ้นโลกใกล้เข้ามา พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์มายังโลกเพื่อรวบรวมกลุ่มผู้ที่ได้รับเลือกซึ่งจะช่วยกำหนดชะตากรรมของมนุษยชาติ แต่ในขณะที่พวกเขาต้องต่อสู้กับน้ำหนักของความรับผิดชอบและความใหญ่หลวงของงานในมือ พวกเขาเริ่มสงสัยว่าพวกเขาคู่ควรกับการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่เช่นนี้จริง ๆ หรือไม่ ในท้ายที่สุด พวกเขาจะต้องตัดสินใจว่าจะแสดงความเมตตาหรือการพิพากษา และเลือกว่าจะช่วยมนุษยชาติหรือปล่อยให้มันพินาศ
ดร.ไคล์ก็ได้ถามขึ้นมาว่า "โหว…คุณไปได้ข้อมูลพวกนี้มาจากไหน
ชายปริศนาได้ตอบกลับไปว่า "ทั้งหมดนี้เป็นข้อความที่ข้าได้รับมาจากสวรรค์ เเต่เพียงผู้เดียว"
เเละเขาก็เริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง "ทุกสิ่งที่กล่าวมามันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งเเต่อดีตจนถึงอนาคต ถ้าวันไหนได้เจอกันอีกครั้ง เดี๋ยวข้าคนนี้จะมาบอกเจ้าอีก"
หลังจากพูดคุยกันเสร็จ ดร.ไคล์ก็ได้เข้าไปยังโรงงานเพื่อทำหน้าของตนต่อไป
ส่วน ชายคนนั้นก็เดินออกไปจากพื้นที่ตรงนี้เเละก็ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย