งานอาหารมื้อกลางวัน

“รออยู่ในรถซะ ฉันได้อันนี้มาแล้ว” ฮาร์เคนเอ่ย

เครมเมอร์จ้องมองที่เขาด้วยสายตาอันเย็นชาจากเครื่องแสดงคลื่นกระแสไฟฟ้าสีเขียวของเธอ “ฉันช่วยนายจากตรงนี้ไม่ได้” เธอเอ่ย

“ถ้าฉันต้องใช้สินค้าสำรองของเธอล่ะก็ นั่นก็หมายความว่าฉันได้ตายห่ามากพอที่โดนฆ่าดีกว่าไปบอกพวก O5 ว่าเกิดอะไรขึ้น รออยู่ในรถเชี้ยเนี่ยแหล่ะ ฉันจะกลับมาภายในครึ่งชั่วโมง”

เครมเมอร์หันหน้าออกไปจากทางเขาและมองดูหน้าต่างด้านผู้โดยสารที่มุมของเธอจากข้างรถตู้มินิแวนสีม่วงแดงในที่จอดรถถัดออกไป ไซเบอร์เนติกส์ภายในของเธอได้ส่งเสียงเสียงหึ่ง ๆ และส่งเสียงดังกริ๊กเมื่อเธอขยับตัว นิ้วมือต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยข้อต่อที่มีจำนวนเยอะแยะมากเกินไปได้งอและคลายตัว ลำแสงดาบเลเซอร์คม ๆ ทั้งสองด้านที่มีความยาวเป็นนิ้ว ๆ ได้สะบัดเข้าและออกจากภายใต้ปลายนิ้วของเธอ เธอดูราวกับเป็นเจ้าเหมียวที่เคร่งเครียดตัวหนึ่งที่พร้อมจะกระโดดดีดตัวออก เธอได้ทำแบบนั้นมาตลอดเลย

ฮาร์เคนชอบเครมเมอร์ เขาทำแบบนั้นจริง ๆ แต่คู่หูและเอเย่นต์ที่ร่วมงานกับเขาได้เป็นค้อนอันหนึ่งที่เห็นทุก ๆ สิ่งรอบ ๆ ตัวเธอเป็นตะปู ในบางสถานการณ์อย่างเช่นแบบนี้ต้องการชั้นเชิงมากขึ้นมาหน่อยบ้าง ขอบคุณที่ชั้นเชิงก็เป็นสิ่งที่เขาทำ “ไม่ต้องห่วงหรอก” เขาเอ่ย “นี่ก็น่าจะชิว ๆ นะ”

ชายผู้หนึ่งในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินเข้มที่สวมใส่ผ้าคลุมที่มีความยาวถึงระดับเอว เขาเปิดประตูหน้าสำหรับเขาเมื่อเขาเข้าใกล้ประตูหน้าของโรงแรม ฮาร์เคนเดินก้าวขายาว ๆ ผ่านเขาตรงไปยังลิฟต์ เขาแสดงบัตรสีดำที่มีตัวอักษรสีทองและลวดลายแฟร็กทัลขนานไปกับเส้นขอบให้กับพนักงานถือกระเป๋าในโรงแรม พนักงานถือกระเป๋าในโรงแรมพยักหน้าและแตะปุ่มควบคุมบนลิฟต์ตัวที่หก ลิฟต์ตัวที่ไม่เคยทำงานยกเว้นสำหรับบางครั้งบางคราวที่ไม่ค่อยได้เลือกบ่อย ๆ เท่านั้น

แม้ว่าโรงแรมมีสามสิบชั้นแต่มันมีปุ่มกดแค่สองปุ่มสำหรับลิฟต์ตัวนี้ เขากดปุ่มด้านบนและตรวจตรากระเป๋าเสื้อและกางเกงของเขาสำหรับการสูบบุหรี่ พวกเขายังอยู่ที่นั่นดังนั้นมั่นใจได้เลย เขาพิงหลังแนบไปกับกำแพงและผิวปากในทำนองที่สนุกสนานมีชีวิตชีวาในขณะที่ตัวลิฟตุ์ม่งหน้าไปยังชั้นที่สามสิบเอ็ด

ประตูลิฟต์เปิดออกและฮาร์เคนเผชิญหน้ากับชายสูงใหญ่ผู้หนึ่งที่มีกล้ามเนื้อนูน ๆ ขนาดเท่าลูกฟุตบอล ผู้ที่คล้ายราวกับว่าเขาอาจบีบศีรษะคน ๆ หนึ่งได้ราวกับเม็ดสิวเม็ดหนึ่ง ชายสูงใหญ่ยักษ์ได้โบกไม้แสกนเหนือลำตัวของเอเย่นต์ เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อไม้แสกนได้มีเสียงเตือน ฮาร์เคนล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทของเขาอย่างระมัดระวังและดึงไฟแช็กรุ่นซิปโป้ออกมา “แค่อันนี้น่ะ” เขาเอ่ยพร้อมทั้งพลิกไฟแช็กให้เปิดออกและจุดไฟ “ไว้สำหรับสูบน่ะ”

ชายสูงใหญ่ยักษ์พยักหน้าและถือถาดสีเงินขนาดเล็กออกมา ฮาร์เคนพยักหน้าและวางไฟแช็กของเขาไว้ “ฉันจะอยากได้คืนตอนที่ออกมานะ” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ชายสูงใหญ่ยักษ์ดูท่าว่าจะไม่ตลกขบขำด้วย

ผ่านทางประตูเข้าไปซึ่งเป็นห้องรับประทานอาหารที่มีกำแพงสีขาวและพื้นหินอ่อน ภายในห้องรับประทานอาหารได้มีชายผู้หนึ่งซึ่งมีรูปร่างเรียวยาวซีดผอมที่แต่งกายด้วยชุดสีขาวล้วน เขาถือส้อมและมีดสีเงินในนิ้วมืออย่างประณีตบรรจงของเขา และเขาหั่นอกไก่ย่างเป็นชิ้นเล็ก ๆ อย่างพิถีพิถันที่เขานำใส่ปากและเคี้ยวด้วยนักเต้นรำกระสุนที่อ่อนช้อยล้วน ๆ ตรงนั้นได้มีแก้วไวน์คริสตัลตรงหน้าของเขาที่ฮาร์เคนรู้ว่าแก้วได้เติมเต็มไปด้วยน้ำกลั่น น้ำกลั่นที่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่นายคัตทริดช์เคยดื่มมาเลย

“เอเย่นต์ฮาร์เคน” คัตทริดช์เอ่ยเมื่อเขาวางมีดกับส้อมลงและเช็ดริมฝีปากด้วยผ้าเช็ดปากที่เป็นผ้าไหม “ผมแปลกใจจริง ๆ ที่ผมได้เจอคุณอีกครั้ง”

“คัตทริดช์” ฮาร์เคนเอ่ย เขาโน้มตัวลงไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่มีพนักพิงหลังสูง ๆ และหยิบบุหรี่กับกล่องไม้ขีดไฟออกมา “เป็นยังไงบ้าง”

“ก็เรื่อย ๆ และคาดหวังไว้ได้ หน่วยผมได้คาดหวังจะได้สินค้าบางชิ้นใหม่ ๆ ในอนาคตอันใกล้ที่ผมเชื่อว่าผมจะได้ขอบคุณคนของคุณ”

“ไม่ใช่หน่วยผมหรอก” ฮาร์เคนเอ่ยพร้อมกับจุดบุหรี่ เขาเป่าควันลากยาวและเป่าควันบุหรี่ก้อนใหญ่ออกมาในอากาศ “ไม่มีอะไรถ่ายถอดจากผมหรอก ถามผมเลยสิว่าผมสนมั้ย”

“คุณอาจจะไม่สนเรื่องการขาดทุนที่บริษัทคุณกำลังพบเจอ แต่ผมสนเรื่องที่คุณที่กำลังสูบบุหรี่ในบ้านผม ผมไม่ชอบ…”

“โอ้ อย่ามายุ่งกับผมเลย คัตทริดช์ ผมได้เจอกับอาทิตย์ที่เชี้ย ๆ มากที่สุดในช่วงชีวิตทั้งหมดของผมเลย อย่างน้อยที่คุณทำได้ก็คือให้ผมสูบบุหรี่ในระหว่างที่พวกเราคุยกัน” ฮาร์เคนเป่าควันลากยาวจากบุหรี่และเป่าวงแหวนควันที่ใบหน้าของคัตทริดช์ เขารู้สึกเอิ่มเอมใจที่เห็นชายผู้หนึ่งกำลังพยายามกลั้นใบหน้าของเขาที่จะไม่ให้ไอจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

“เยี่ยมมากเลย” คัตทริดช์เอ่ยพร้อมกับน้ำเสียงที่เปราะบางและขุ่นเคือง “ผมจะให้คุณปล่อยตัวปล่อยใจกับบุหรี่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ แต่พูดให้ไว ๆ และออกไปให้ไว ๆ กว่านี้ด้วย ความอดทนอดกลั้นของผมอยู่แค่ภายในคืนนี้นะ”

“งั้นผมจะพูดง่าย ๆ เลยละกันว่า พรรคพวกผมโดนยิงสาหัสมาก เอาง่าย ๆ ก็มีเลือดอยู่ในน้ำและพวกฉลามกำลังแหวกว่ายเป็นวงกลม ตอนนี้ผมรู้ว่าคุณได้มองหาโกดังสินค้าเล็ก ๆ ในตัวเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งสนุก ๆ ที่ทำให้คุณคัตทริดช์ดังมากแน่นอนพร้อมกับหัวหน้าเขาที่มาร์แชล คาร์เตอร์ แอนด์ดาร์ค ผมรู้ว่าคุณได้พูดเรื่องนี้กับพวกหัวหน้าที่เคยพูดถึงเมื่อก่อนนั้น ผมอยากให้คุณระวังตัวไว้บ้าง เอาลูกน้องคุณไว้ที่บ้านสำหรับเรื่องนี้ซะ อยู่เงียบ ๆ ไป อย่าก่อเรื่อง วัตถุต่าง ๆ ที่หนีออกมาได้ก็ยังพอได้อยู่ อย่าโลภมากและพยายามปล่อยไปให้มากกว่านี้นิดหน่อยซะนะ”

นายคัตทริดช์ได้เงียบลงเป็นเวลานาน “ไม่” เขาเอ่ยอย่างห้วน ๆ

“เอาจริงดิ หลังจากที่ผมบอกคุณเนี่ยนะ หลังจากที่ผมได้ตั้งประเด็นนี้ตลอดเวลากับคุณไปยังวัตถุต่าง ๆ ที่ทำให้คุณทำกำไรได้เยอะเลยน่ะหรอ”

“คุณได้ตั้งประเด็นให้ผมเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่าองค์กรคุณไม่เต็มใจที่จะพยายามรักษาความปลอดภัยสำหรับตัวพวกเขาเอง ไม่ เอเย่นต์ฮาร์เคน ผมเชื่อแบบนั้นสำหรับครั้งนี้ แบบนั้นก็คือผมที่กำลังเถียงจากตำแหน่งที่เหนือกว่า สถาบันนายป้องกันตัวพวกเขาเองไม่ได้เลยแม้กระทั่งจากกลุ่มนักศึกษามหาลัยตัวเล็ก ๆ ด้วยความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง แล้วพวกเขาจะหวังให้ป้องกันจากพวกเราได้ยังไงล่ะ”

“ดี” ฮาร์เคนถอนหายใจ “ถ้าอย่างนั้น ก็รอสามนาทีแล้วพวกเราจะดูว่าใครกำลังเถียงจากตำแหน่งที่เหนือกว่ากัน”

“อะไรนะ”

ฮาร์เคนดึงบุหรี่ของเขาออกมาไปวางไว้บนจานรองถ้วยน้ำชา “ควันสูบของผมเอาชนะกับเอเย่นต์จอมหงุดหงิด ผมน่ะมีเชื้อแล้วแต่คุณน่ะยังไม่มี ยาที่คุณได้รับไปน่าจะออกฤทธิ์ร้ายแรงถึงตายอีกไม่กี่นาที”

ดวงตาของคัตทริดช์โปนออกมา และเขากระโจนขึ้นจากเก้าอี้ของเขาพร้อมกับกระแทกไปบนเก้าอี้ด้วยความรีบเร่งของเขา “อัก—”

มีการระเบิดเกิดขึ้นภายในห้องโถง ฮาร์เคนเผยรอยยิ้ม “มันเจ๋งที่พลาสติกที่คุณห่อให้กลายเป็นที่จุดบุหรี่ได้มากน้อยแค่ไหนในระหว่างที่คุณอยากจะลองจริง ๆ ล่ะนะ” เขาครุ่นคิด

คัตทริดช์อ้าปากหายใจหอบและใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง พร้อมกับจับลำคอของเขาและทำเสียงหายใจหอบฮืดฮาดที่น่ารังเกียจในขณะที่ฮาร์เคนโน้มตัวลงบนตัวเขา เอเย่นต์หยิบขวดเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยของเหลวสีฟ้าอ่อนออกมาจากกระเป๋าเสื้อตัวนอก “ตอนนี้มียาแก้นะ” ฮาร์เคนเอ่ย “แต่ถ้าคุณอยากได้คุณต้องตกลงกับข้อตกลงของผม อยู่บ้านไปสำหรับเรื่องนี้ซะ ตกลงมั้ย”

คัตทริดช์พยักหน้า ฮาร์เคนยื่นขวดให้เขาและเขากระชากมาเปิดและกลืนของเหลวสีฟ้าลงไปอึกหนึ่ง ฮาร์เคนเผยรอยยิ้มและตบบนใบหน้าของเขาเบา ๆ “แล้วเจอกันนะเลียม” เขาเอ่ย

เขากำลังเดินผ่านร่างที่กำลังไหม้คุกรุ่นของชายสูงใหญ่ (ที่ล้มลงตรงที่โต๊ะแผนกต้อนรับพร้อมกับการมองที่ประหลาดใจในดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเขา) เมื่อเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยแต่เป็นเสียงที่ไม่น่ารื่นรมย์ของปืนพกสั้นที่กำลังง้างนกสับเตรียมพร้อมที่จะลั่นไกจากทางด้านหลัง เขาก็ถอนหายใจ “ปล่อยไปไม่ได้รึไงห้ะเลียม” ฮาร์เคนเอ่ย

“ปล่อยแกให้มีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่ใช่เพราะตอนที่แกได้คิดจะเดินดุ่ย ๆ เข้ามาในบ้านฉันและเกือบจะฆ่าฉัน” คัตทริดช์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและโหดร้าย “มันไม่ดีสำหรับธุรกิจต่างหาก”

“ใช่ ฉันเข้าใจ” ฮาร์เคนพึมพำ “ผู้คนอาจจะคิดว่ามีเลือดในน้ำล่ะนะ”

คัตทริดช์หัวเราะ ฮาร์เคนก็หัวเราะเช่นกัน

คัตทริดช์ยังหัวเราะอยู่เมื่อเขาลั่นไกใส่ตัวเองและเสียชีวิตลง

“นั่นมันผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปสีฟ้ายี่ห้อคูลเหรดต่างหาก ไอ้ตูดหมึกเอ้ย” ฮาร์เคนเอ่ย

เขาลองกดปุ่มลิฟต์และประหลาดใจที่เห็นว่าปุ่มกดยังทำงานอยู่ “พระเจ้าคุ้มครองบริษัทโอทิส” เขาพึมพำ การเดินทางลงสู่เบื้องล่างดูท่าจะยาวไกลมาก เขาบังคับตัวเองให้เดินออกจากโรงแรมด้วยฝีเท่าอันมั่นคง

เครมเมอร์ยังจ้องมองที่ภาพสะท้อนของเธอในรถตู้มินิแวนเมื่อเขาปีนกลับเข้ามาในรถและสตาร์ทเครื่อง “เป็นไงบ้าง” เธอเอ่ยถาม

“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย” ฮาร์เคนเอ่ย “น่าเศร้าที่ธุรกิจจำนวนย่อย ๆ ตั้งใจจะทำการกุศลเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุก ๆ วันนี้ได้ยังไง แล้วรายต่อไปล่ะ”

“มีเอเย่นต์คู่นึงจาก UIU กำลังสำรวจโกดังสินค้าที่เกิดไฟไหม้ พวกเราต้องเช็คให้แน่ใจว่าพวกมันไม่ได้สำรวจอะไรมากเกินไป”

“อ่า วุลแฟรมและยุคเกอร์ คู่เด็กดีนี่นา แบบนี้ก็น่าจะง่ายนะ”

รถยนต์ได้เคลื่อนตัวออกจากที่จอดรถของโรงแรมและขับไปยังจุดหมายต่อไป

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License