ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง เลือดไหลจากจมูกที่แตกละเอียดของแฮโรลด์ จาค็อบส์ ไปบนพื้นแผ่นกระเบื้องที่มันเงา เขาอ่อนกำลังที่จะพยายามแหงนมองขึ้นขณะที่ได้ยินเสียงไอแห้ง ๆ แต่พวกอันธพาลของวัลเล่ย์ได้ทำงานของพวกเขาได้อย่างดีเกินไป เสียงติ๊ก ๆ ที่รบกวนมาจากชายผู้ที่รั้งตัวจาค็อบส์ไว้ ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก วัลเล่ย์ไออีกครั้งและจาค็อบส์เห็นรูปลักษณ์ที่แก่และเหี่ยวย่นพยักหน้าให้กับชายที่ทำเสียงติ๊ก ๆ เสียงของเขาดูเหมือนเสียงไอของเขาซึ่งแหบห้าวและฉับพลัน ราวกับทุก ๆ ประโยคที่ออกมาจากปากของวัลเล่ย์อาจเป็นคำพูดสุดท้าย ด้วยสภาพของเขาในตอนนี้น่ะก็อาจจะจริงก็เป็นได้
“เอาที่นั่งให้แขกของเราหน่อยสิ คุณติ๊ก”
จาค็อบส์รู้สึกประหลาดใจกับพละกำลังของนายติ๊กเมื่อเขามากระแทกใส่ตัวเขาบนเก้าอี้ไม้ เขาได้เยาะเย้ยเมื่อนายคาร์เตอร์บอกเขาเกี่ยวกับคนรับใช้ของวัลเล่ย์ ผู้ชายคนนี้คือเชื้อโรคร้าย ในนามของพระเจ้า เขาเป็นภัยคุกคามได้อย่างไรกัน เมื่อจาค็อบส์พยายามจ้องมองที่วัลเล่ย์ผ่านทางดวงตาข้างซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บ เขานึกขึ้นได้ว่าเขาได้คิดผิดมานานมาก
“คุณจาค็อบส์” น้ำเสียงวัลเล่ย์เป็นน้ำเสียงที่เยาะเย้ย เขาวางกระดาษโน้ตใบหนึ่งจากกระดาษโน้ตของนายคาร์เตอร์ลงบนโต๊ะเบา ๆ ด้วยแขนข้างที่ผอมบางราวกับไม้ “แกอยู่ที่นี่เพื่อมาโกงฉันเรอะ” จากนั้นเขาวางกล้องตัวเล็กกระจิ๋วอันหนึ่งตรงหน้าเขา “หรือมาสอดแนมฉัน” เมื่อเขาวางสิ่งของชิ้นสุดท้ายลงบนโต๊ะ จาค็อบส์รู้ว่าเขาได้ใกล้จะสิ้นลมหายใจเสียแล้ว
“มาฆ่าฉัน” วัลเล่ย์เอ่ยในขณะที่เขาตรวจดูปืนของจาค็อบส์ “ฉันมั่นใจได้เลยว่านายพยายามได้ดี แต่คุณติ๊กไม่พลาดการทำเครื่องหมายหรอกนะ” จากนั้นเขาหัวเราะ เป็นเสียงที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดที่จาค็อบส์เคยได้ยินมาเลย วัลเล่ย์หยุดและแสยะยิ้มใส่เขาด้วยฟันที่เหลืองเน่า หยดเลือดลื่นไหลลงมาจากปากที่แตกของเขาจากการที่พยายามขยับตัว “แกทำงานให้ใคร”
จาค็อบส์ได้จำสิ่งที่นายคาร์เตอร์เคยเอ่ยให้เขาบอก เสียงของเขาเป็นเสียงกระชิบ เป็นปาฏิหาริย์ที่เขาสามารถเอ่ยได้ในขณะที่เขาถูกซ้อม “สมาพันธ์สิ่งลี้ลับทั่วโลก…การชำระหนี้มหาศาลของการคุมคามตัวตนที่รู้กัน…”
“โกหก” วัลเล่ย์ตะคอก มือของนายติ๊กโอบล้อมจาค็อบส์ไว้ เขามีเวลาที่จะมองดูเล็กน้อยก่อนที่นายติ๊กจะบีบคั้น จาค็อบส์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานขณะที่เขาได้ยินเสียงบดขยี้ดังที่ดังมาจากสิ่งที่เคยเป็นมือของเขา “แกทำงานให้ใครกันแน่”
จาค็อบส์สะอื้นแล้วในตอนนี้จากความเจ็บปวดที่ไม่สามารถทนได้ “มาร์แชล…คาร์เตอร์ แอนด์ดาร์ค!” เขากรีดร้อง นายติ๊กปล่อยเขาไป
วัลเล่ย์ดูท่าทางกังวล “พวกเขารู้เรื่องการทำงานของฉันที่นี่มั้ย”
“รู้สิ” จาค็อบส์พยายามที่จะไม่มองดูที่ก้อนที่ถูกบดขยี้ที่ปลายแขนของเขา
“นี่มัน…โชคร้ายเอามาก ๆ เลยนะ พวกเราจะต้องคิดให้รอบคอบในเรื่องการเคลื่อนไหวของพวกเราคราวหน้า ฉันคิดว่านะ ขอบใจนะคุณจาค็อบส์ เอาล่ะคุณติ๊ก คุณจะฆ่าเขาตอนนี้เลยก็ได้นะ”
จาค็อบส์เปิดปากเพื่อจะคัดค้าน แต่ถูกตัดบทเมื่อนายติ๊กคว้าที่ศีรษะข้างหลังและกระแทกไปบนโต๊ะ เขาถูกสังหารโดยทันทีและโต๊ะก็พังจากการกระทบกระเทือนอันหนักหนา ภารโรงก้าวเข้ามาและเริ่มเช็ดล้างสมองของจาค็อบส์ออกจากไม้ในขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองนายได้โยนร่างของเขาออกไปจากระเบียง วินาทีต่อมาก็ได้มีเสียงกระเด็นกระดอนมาแต่ไกล
“ดูท่าทางสมาคมเก่าของพวกเราหาพวกเราเจอแล้ว” วัลเล่ย์เอ่ย
“ครับ” นายติ๊กเอ่ย
“ยังไงก็ตาม ฉันเชื่อว่าพวกเรายังทำงานของพวกเราที่นี่ต่อได้ ที่นั่นจะต้องอยากได้สำหรับสิ่งต่าง ๆ พวกนั้น”
“ครับ”
“พวกเราจะต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยนะคุณติ๊ก ฉันไม่อยากจะให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีก ฉันอาจจะต้องออกจากโต๊ะไปเลยก็ได้นะ”
“ครับ”