ความคิดเห็นล่าสุด
จากหมวดหมู่:
page 1123...next »

ต้นฉบับ: SCP-480 - dog park


วัตถุ #: SCP-480

ระดับ: Safe

มาตรการกักกันพิเศษ: เนื่องจากการปรากฏตัวขึ้นของ SCP-480 เป็นปรากฏการณ์ที่มีลักษณะแยกตนเองออกจากการพบเห็น สถาบันจึงไม่จำเป็นต้องเข้าแทรกแซงเพื่อปิดบังมันจากสาธารณชนมากเท่าไร พลเรือนที่พบเห็น SCP-480 จะต้องถูกทำให้ข้อมูลขาดความน่าเชื่อถือ และได้รับยาลบความทรงจำประเภท-C

รายละเอียด: SCP-480 คือ สุนัขสายพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์เพศผู้ ซึ่งปรากฏตัวขึ้นทั่วทางหลวง ถนน และทางเดินรถอื่น ๆ ทั่วโลก โดยปรากฏเพียงในพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่งเท่านั้น

เมื่อการจราจรคลายลง SCP-480 จะปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันในระยะ 10-30 เซนติเมตรตรงข้างหน้ายานพาหนะที่อยู่บริเวณหนึ่งในสามของความยาวแถวรถที่กำลังเคลื่อนออก ซึ่งจะส่งผลให้ SCP-480 ถูกรถคันอื่น ๆ ชนและเหยียบทับอย่างต่อเนื่อง

หากไม่มีบุคคลใด ๆ เข้าช่วยเหลือมันภายในระยะเวลา 15 นาที SCP-480 ก็จะหายตัวไป อาการบาดเจ็บใด ๆ ก็ตามอันเป็นผลมาจากการปรากฏตัวครั้งก่อนหน้าจะฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ในเหตุการณ์ครั้งต่อไป

จากการวิเคราะห์เหตุการณ์ SCP-480 จึงยืนยันได้ว่าการปรากฏตัวทั้งหมดถูกกระทำโดยสุนัขสายพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ตัวเดียวกัน แต่ยังคงไม่แน่ชัดว่า SCP-480 สามารถจดจำการปรากฏตัวครั้งก่อนหน้าของมันได้หรือไม่

ภาคผนวก 480.1 เหตุการณ์ที่ทราบ

ตำแหน่ง รายละเอียด
ทางหลวงอินเตอร์สเตตหมายเลข 676 เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย วัตถุปรากฏตัวขึ้น และถูกเหยียบทับโดยยานพาหนะทั้งหมด 756 คัน รยางค์ทั้งสี่ข้างได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง สูญเสียเลือดไป 85% ร่างกายเกือบที่จะถูกแยกเป็นสองส่วน กะโหลกศีรษะยังคงมีสภาพสมบูรณ์
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 44 รัฐมหาราษฏระ วัตถุปรากฏตัวขึ้น ถูกกระแทกจนกระทั่งกระดูกซี่โครงแตก เลือดท่วมช่องอกก่อนที่จะถูกพบ
ทางด่วนเม็กซิโก-เกเรตาโรหมายเลข 57D วัตถุปรากฏตัวขึ้น ถูกรถชนด้วยอัตรา 3.7 คันต่อนาทีเป็นเวลาสามชั่วโมง ก่อนที่สถาบันจะเข้าแทรกแซง โดยร่างกายช่วงล่างของวัตถุฉีกขาดในหลายตำแหน่ง
ถนนเอ็มมานูเอเล ฟิลิแบร์โต วัตถุปรากฏตัวขึ้นและถูกรถทัวร์ชนในทันที เกิดบาดแผลที่บริเวณแขนขาและหน้าท้องช่วงล่าง กะโหลกศีรษะไม่ได้รับความเสียหาย

ภาคผนวก 480.2: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในวันที่ 21/03/2014 เวลา 03:58 น. ซอฟต์แวร์ตรวจจับรูปแบบวนซ้ำของสถาบันได้แจ้งเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ตัวอย่าง SCP-480 จะปรากฏตัวขึ้นบนทางหลวงอินเตอร์สเตตหมายเลข 80 บริเวณใกล้เคียงเมืองร็อกสปริงส์ รัฐไวโอมิง วีดิทัศน์ต่อไปนี้ถูกบันทึกด้วยกล้องติดตัวของเจ้าหน้าที่ลิโอเนล การ์เวอร์

บทถอดความ


«เริ่มต้นบันทึก»

(เจ้าหน้าที่จอดรถยนต์ชิดขอบของทางหลวง I-80 และออกจากรถของเขาพร้อมถือไฟฉายในมือ)

(การจราจรก่อนหน้านี้คลายลงแล้ว การ์เวอร์ส่องไฟฉายเพื่อตรวจสอบพื้นที่ จากนั้นจึงเดินจากรถไปทางทิศตะวันตก)

(หลังจากเดินไปได้ระยะทางประมาณ 45 เมตร การ์เวอร์ก็สังเกตเห็นก่อนเนื้อที่กำลังกระตุกและมีเลือดไหลอยู่ในระยะไกล เขาจึงรีดตรงเข้าหามัน)

(การ์เวอร์ยืนยันการเกิดเหตุการณ์ SCP-480 กับฝ่ายบัญชาการ)

(วัตถุยังคงมีชีวิตอยู่โดยไม่ทราบว่าได้อย่างไร)

(สภากำกับการได้สั่งการให้การ์เวอร์กลับไปยังรถของเขา และรอคอยให้ฝ่ายงานกักกันเดินทางมาถึง)

(SCP-480 ส่งเสียงครวญคราง)

(การ์เวอร์หันหลังกลับ และเดินตรงไปยังยานพาหนะของเขา)

(หลังจากที่เดินไปได้ประมาณ 7 เมตร การ์เวอร์ก็หันกลับมา ร่างของ SCP-480 ยังคงกระตุกต่อไป เขาชักปืนพกของตนออกมา และตรงเข้าหามันอีกครั้งหนึ่ง)

(การ์เวอร์ยืนเหนือร่างของมัน และเล็งปืนไปยังศีรษะของมันที่ไม่ได้รับความเสียหาย จากนั้นเขาก็ลั่นไก กระสุนทะลุกะโหลกของมันไป)

(ร่างของมันหยุดกระตุก)

(การ์เวอร์กลับหลังหัน และเดินตรงไปยังยานพาหนะของเขา)

(SCP-480 ส่งเสียงครวญคราง)

«สิ้นสุดบันทึก»

SCP-480 - สวนสุนัข โดย ImetImet, 16 Nov 2025 09:41

ผ่าน

Re: SCP-8590 - เดล โดย DrSSSDrSSS, 16 Nov 2025 07:22

ต้นฉบับ: SCP-8590 - Dale


[[include :scp-th:component:anomaly-class-bar-source
|item-number=8590
|clearance= 2
|container-class= keter
|secondary-class=
|secondary-icon=
|disruption-class=
|risk-class=
]]

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|containment-class= keter
|containment-image= https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/component%3Aanomaly-class-bar/keter-icon.svg
|containment-color= 196,2,51
|inc-neutralized-layout = —]]]

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|clearance-two= 196,2,51
|inc-clearance= —]]]
[[/div]]


dale.png

SCP-8590


มาตรการกักกันพิเศษ: ขณะนี้ SCP-8590 ยังคงไม่ได้รับการกักกัน เนื่องจากแม้ว่ามันจะเป็นผู้บิดเบือนความเป็นจริงก็ตาม แต่ SCP-8590 ก็ไม่ถือเป็นภัยคุกคามต่อมาตรการม่านปิดบังแต่อย่างใด มาตรการกักกันจึงมุ่งเน้นไปที่การติดตามและบันทึกพฤติกรรมและการปรากฏตัวขึ้นของ SCP-8590 จนกว่าจะสามารถกักกันมันได้อย่างถาวร

รายละเอียด: SCP-8590 คือ มนุษย์เพศชาย วัย 32 ปีที่มีความสามารถในการบิดเบือนความเป็นจริง ซึ่งรวมไปถึงการเคลื่อนย้ายมวลสาร การทำให้วัตถุปรากฏขึ้น การชักจูงทางความทรงจำของบุคคล และทราบถึงทุกสิ่งได้

SCP-8590 ใช้งานความสามารถอันทรงพลังของมันในการเข้าทำงานรับจ้างระดับล่างที่มีค่าตอบแทนต่ำ

SCP-8590 ปรากฏตัวทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา และมักจะอยู่ในบริเวณพื้นที่ภูมิภาคตะวันตกกลาง ยังคงไม่ทราบว่า SCP-8590 เลือกตำแหน่งอย่างไร เนื่องจากดูเหมือนว่าจะไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน การระบุตัวตนของ SCP-8590 (โดยป้ายชื่อ ใบขับขี่ ฯลฯ) พบเป็นชื่อว่า "เดล" ตำแหน่งงานที่ SCP-8590 ดำรงอยู่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ คาดว่าเป็นผลมาจากการที่ SCP-8590 เพียงต้องการทำงานอื่น แล้วจึงกระทำดังนั้น

ภาคผนวก 8590.1: การค้นพบและการปฏิสัมพันธ์เป็นครั้งแรก

ในระหว่างการสืบสวนอีกกรณีหนึ่งภายในรัฐวิสคอนซิน ซาราห์ พาลเมอรส์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบันได้พบกับ SCP-8590 ในขณะที่พยายามที่จะรับใบชำระเงินจากร้านค้ากู๊ดวิลล์ภายในพื้นที่

บทถอดเสียงจากระบบรักษาความปลอดภัยด้วยวิดีโอของร้านกู๊ดวิลล์


«เริ่มต้นการบันทึก»

(พาลเมอรส์เข้าหา SCP-8590 ภายในทางเดิน โดยนางกำลังถือแจกันเอาไว้)

พาลเมอรส์: รบกวนหน่อยได้ไหมคะ?

SCP-8590: อืม

พาลเมอรส์: ผู้จัดการร้านอยู่ไหมคะ? ฉันมาบริจาคของเอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วจะมารับเช็กน่ะค่ะ

SCP-8590: วันนี้เขาไม่อยู่

พาลเมอรส์: คือเขาบอกว่าจะมาน่ะค่ะ พอรู้ไหมคะว่าจะกลับมาได้ตอนไหน?

SCP-8590: ใบแนะนำงานไม่ได้บอกว่าผมต้องรู้นี่

พาลเมอรส์: โอเคค่ะ […] งั้นรบกวนฝากบอกเขาว่าถ้ากลับมาแล้วก็ให้โทรมาหน่อยได้ไหมคะ?

SCP-8590: ผมไม่ค่อยชอบคุยกับเขาเท่าไร

พาลเมอรส์: ไม่ได้ช่วยเลยนะคะ

SCP-8590: เรื่องของคุณสิ

พาลเมอรส์: เอ่อ… ก็ได้ คือฉันสนแจกันใบนี้ แต่มันไม่มีป้ายติดเอาไว้ พอรู้ราคาไหมคะ?

SCP-8590: ก็เอาไปเลยสิ

พาลเมอรส์: หา?

SCP-8590: จะเผาร้านไปพร้อมผมหรือจะทำอะไรผมก็ไม่ว่าหรอก เอาแจกันไปได้แล้ว

พาลเมอรส์: โอเค พูดจริงนะ?

SCP-8590: ผมไม่สน

พาลเมอรส์: อ่าฮะ ขอบคุณแล้วกัน?

(พาลเมอรส์เดินตรงไปที่ทางออก)

SCP-8590: (ตะโกน) ถ้าขโมยไปล่ะก็ ผู้จัดการได้แบนคุณจากร้านแน่

(พาลเมอรส์หยุดนิ่งและหันกลับมาทาง SCP-8590)

พาลเมอรส์: ฉันยังไม่ได้ขโมยอะไรเลยนะ

SCP-8590: คุณยังไม่ได้จ่ายไอ้นั่นเลย

พาลเมอรส์: คุณเพิ่งบอกไปเองว่าให้ฉันเอาไปเลย

SCP-8590: ก็ไม่ได้จะห้ามคุณขโมยหรอกนะ ผมแค่แจ้งให้ทราบว่าผู้จัดการคงไม่ชอบใจเท่าไรเฉย ๆ เอง เขาคงแบนคุณด้วย

พาลเมอรส์: ก็ให้กูซื้อสักทีสิวะ!

SCP-8590: อย่าหยาบคายนักสิครับคุณผู้หญิง

(SCP-8590 และเจ้าหน้าที่พาลเมอรส์เดินกลับไปที่จุดชำระเงิน)

SCP-8590: ต้องการแค่นี้ใช่ไหมครับ?

พาลเมอรส์: ห่าแม่— เออ เท่านั้นแหละ

(SCP-8590 สแกนแจกันดังกล่าว 100 ครั้ง พาลเมอรส์จ้องมอง และเห็นได้อย่างชัดเจนว่านางกำลังหมดความอดทน)

SCP-8590: ทั้งหมดสองพันดอลลาร์ครับ

พาลเมอรส์: นี่บ้าไปแล้วหรือไงเนี่ย?

SCP-8590: เปล่า

พาลเมอรส์: สองพันดอลฯ เนี่ยนะ?

SCP-8590: ครับ

พาลเมอรส์: มันแปลกไปหน่อยไหม?

SCP-8590: ก็ผมสแกนไปร้อยครั้งนี่

พาลเมอรส์: แล้วจะทำไปเพื่ออะไร?

SCP-8590: ก็คุณไม่ได้ห้ามนี่ ก็นึกว่าคุณอยากได้ร้อยใบซะอีก

พาลเมอรส์: ฉันไม่อยากได้แจกันร้อยใบ ฉันอยากได้แค่ใบเดียว

SCP-8590: ก็แล้วทำไมไม่บอกกันก่อนเล่า

พาลเมอรส์: บ้าไปแล้วหรือไงกัน!

SCP-8590: คุณครับ ผมคงต้องให้คุณออกจากร้านไปด้วยครับ

พาลเมอรส์: ไม่ต้องเลยโว้ย ฉันจะรีบออกไปเองนี่แหละ

«สิ้นสุดการบันทึก»

dale5.png

บทถอดเสียงจากระบบรักษาความปลอดภัยด้วยวิดีโอของลานจอดรถ


«เริ่มต้นการบันทึก»

(รถยนต์ของเจ้าหน้าที่พาลเมอรส์กำลังถูกลากไป)

พาลเมอรส์: ล้อกันเล่นป่ะเนี่ย!

(พาลเมอรส์วิ่งไปยังรถยกลาก โดย SCP-8590 เป็นผู้ขับ)

พาลเมอรส์: ห่าอะไรวะ? นี่คิดจะมาลากรถฉันไปแค่เพราะฉันไม่ยอมซื้อแจกันเหรอ?

SCP-8590: มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะคุณผู้หญิง คุณจอดซ้อนคันในที่คนพิการต่างหาก

พาลเมอรส์: ไม่สิ— ฉัน… จริงป่ะ? ฉันคงทำจริงนั่นแหละ แล้วนี่ฉันพอทำอะไรได้บ้างไหม?

SCP-8590: ต้องจ่ายค่าปรับ

พาลเมอรส์: เท่าไหร่?

SCP-8590: แล้วคุณอยากได้รถร้อยคันหรือคันเดียวล่ะ?

พาลเมอรส์: พระเจ้าช่วยเถอะ เอาแค่รถของฉัน

SCP-8590: สองพันดอลลาร์

พาลเมอรส์: ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย?

SCP-8590: ก็นี่งานผมนี่นา

พาลเมอรส์: (พึมพำ) แม่งสัตว์นรกปัญญาอ่อน— เอาไป

(พาลเมอรส์นำเงินจำนวน 2,000 ดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าถือของนาง และส่งมอบให้กับ SCP-8590)

SCP-8590: ต้องการรับถุงด้วยไหม?

พาลเมอรส์: หา? […] ก็เอาสิ?

SCP-8590: โอเค

(SCP-8590 ออกมาจากรถลาก และนำถุงพลาสติกขนาดเท่ารถยนต์มาหุ้มรถยนต์คันดังกล่าว)

SCP-8590: เดินทางโดยสวัสดิภาพ

«สิ้นสุดการบันทึก»

dale3.png

บทถอดเสียงจากระบบรักษาความปลอดภัยด้วยวิดีโอของพาลเมอรส์


«เริ่มต้นการบันทึก»

(เจ้าหน้าที่พาลเมอรส์มาถึงที่บ้านของตน นางเดินเข้าไปภายในห้องครัว และยัดถุงพลาสติกขนาดใหญ่เอาไว้ใต้อ่างล้างจาน พาลเมอรส์ก้าวเหยียบแอ่งน้ำ จากนั้นนางก็มองขึ้นไป และพบว่าน้ำจากห้องอาบน้ำชั้นบนรั่วไหลลงมาที่ห้องครัว)

พาลเมอรส์: แม่งเอ๊ย!

(เจ้าหน้าที่พาลเมอรส์โทรเรียกช่างประปา)


[เนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องจำนวน 25 นาทีได้ถูกตัดออก]


(เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เจ้าหน้าที่พาลเมอรส์ตรงไปยังประตู โดย SCP-8590 ยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้าม)

พาลเมอรส์: ได้ไงวะเนี่ย! นายอีกแล้วเหรอ!

SCP-8590: ผมได้รับแจ้งเรื่องน้ำรั่วมา

พาลเมอรส์: นี่นายทำงานกี่ที่วะเนี่ย?

SCP-8590: ผมมีครอบครัวให้หาเลี้ยงนะคุณ

พาลเมอรส์: รู้ตัวอยู่ใช่ไหมเนี่ยว่าต้องทำอะไรยังไง?

SCP-8590: ผมเป็นช่างประปา

พาลเมอรส์: มีรับรองหรือเปล่า?

SCP-8590: ผมเป็นช่างประปา

พาลเมอรส์: พระเจ้าช่วย […] ช่างมันเหอะ

(เจ้าหน้าที่พาลเมอรส์นำทาง SCP-8590 ไปยังจุดที่มีน้ำรั่วไหล)

พาลเมอรส์: ตรงนี้

SCP-8590: อืม งี้นี่เอง

พาลเมอรส์: อะไรล่ะ?

SCP-8590: น้ำบ้านคุณรั่วนะ

พาลเมอรส์: ฉันจะบ้าตายแล้วนะ

(SCP-8590 มองไปยังเพดานที่มีน้ำรั่วไหล)

SCP-8590: อืม อ๋อ ผมพอมองออกแล้ว

พาลเมอรส์: หา? เห็นอะไร?

SCP-8590: ตรงนี้มันน้ำรั่ว ผมก็บอกไปแล้วนี่

(เจ้าหน้าที่พาลเมอรส์นำมือกุมศีรษะของตน)

พาลเมอรส์: แล้ว— แล้วซ่อมได้ไหม?

SCP-8590: ได้สิ ก็แค่เปลี่ยนท่อธรรมดา ๆ

พาลเมอรส์: ดีเลย ขอบคุณแล้วกันนะ

SCP-8590: แป๊บนะ

พาลเมอรส์: มีอะไร?

SCP-8590: มีอีกเรื่องหนึ่ง

พาลเมอรส์: เรื่องอะไร?

SCP-8590: คุณอยากได้ท่อร้อยเส้นหรือเส้นเดียว?

«สิ้นสุดการบันทึก»

dingus.png

SCP-8590 - เดล โดย ImetImet, 16 Nov 2025 03:22
scp-157-th%20picture

SCP-157-TH

วัตถุ# SCP-157-TH

ระดับ: Thaumiel

มาตรการกักกันพิเศษ: SCP-157-TH ถูกจัดเก็บไว้ในโกดังลับของสถาบันแห่งหนึ่ง มีบุคลากรระดับ O5 และนักวิจัยที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่ทราบตำแหน่งที่ตั้งของมัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ระดับร้ายแรงกับสถาบันในระดับ D ถึง B ให้เคลื่อนย้ายวัตถุมาตั้งไว้ในสถาบันทันทีโดยไม่ลังเล

รายละเอียด: SCP-157-TH เป็นรูปปั้นที่มีลักษณะเป็นกวางมูสเพศผู้กำลังยืนบนหิน ทำจากโลหะทองแดงและโลหะผสมที่ไม่ทราบชื่อ มีสนิมเขียวเกิดขึ้นบนหลังของรูปปั้น มีความสูง 97 ซม. และน้ำหนักประมาณ 30 กก. โดยถูกค้นพบในอาคารไม้ร้างในอุทยานแห่งชาติ█████ ประเทศไทย
หากตั้งไว้ในอาคารหรือสถานที่ต่างๆ จะไม่ปรากฏความผิดปกติใดๆ แต่ความผิดปกติจะปรากฏขึ้นเมื่อมีผู้บุกรุกหรือมีผู้ที่คิดร้ายกับสถานที่ที่วัตถุตั้งอยู่ เมื่อผู้ที่คิดร้ายจะพยายามทำลายหรือทำให้เกิดความไม่สงบในสถานที่ที่ SCP-157-TH ตั้งอยู่ ผู้ที่คิดร้ายจะมีอาการบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงชีวิต ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของเจตนา โดยบาดแผลจะปรากฏขึ้นเป็นลักษณะคล้ายถูกของมีคมขนาดใหญ่จากสัตว์แทงสันนิษฐานว่าเป็นเขากวาง ซึ่งขนาดร่องรอยตรงกับรอยแผลเช่นเดียวกันกับผู้ที่ถูกกวางมูสเพศผู้ที่เจริญเติบโตเต็มที่ทำร้าย
ความผิดปกติจะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่ได้ตั้งใจคิดร้ายผู้อื่นและดูเหมือนว่าตัววัตถุเองก็มีเจตนาจะปกป้องผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารที่ตนอยู่ด้วย การบุกรุกและแสดงเจตนาร้ายในสถานที่ที่ SCP-157-TH ตั้งอยู่ แต่ไม่มีคนหรือสัตว์อาศัยอยู่บาดแผลจะรุนแรงน้อยสุด เช่นรอยถลอก ส่วนการบุกรุกต่างๆที่พยายามจะลงมือฆ่าสิ่งมีชีวิตใดๆก็ตาม ที่อาศัยอยู่ในสถานที่เดียวกันกับ SCP-157-TH ตั้งอยู่จะมีบาดรุนแรงสุด เช่นบาดแผลฉกรรจ์ที่ถึงชีวิต

[หมายเหตุ]: ผลลัพธ์ที่ SCP-157-TH กระทำสามารถเกิดกับสิ่งของทุกสิ่งได้ ถ้าหากสิ่งนั้นมีจิตนึกคิดมีเจตนาตรงกับที่กล่าวมาข้างต้น โปรดดูที่ ภาคผนวก - การทดสอบ

ภาคผนวก

การทดสอบส่วนหนึ่ง

การทดสอบ SCP-██1-TH ระดับ Euclid โดยมี SCP-157-TH ตั้งอยู่ภายในห้องเดียวกัน
SCP-██1-TH ทำให้ D-Class บาดเจ็บ หลังจากกระตุ้น
SCP-██1-TH มีร่องรอยเสียหายทันที ที่ D-Class บาดเจ็บ
สภาพ SCP-██1-TH ดูเหมือนจะไม่มีความผิดปกติอีกต่อไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อนำกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง พบว่า SCP-██1-TH มีความผิดปกติเช่นเดิม แต่ศักยภาพความรุนแรงอ่อนแอลงเล็กน้อย

การทดสอบ SCP-██3-TH ระดับ Keter โดยมี SCP-157-TH ตั้งอยู่ภายในห้องเดียวกัน
SCP-██3-TH ถูกฝังตัวลงใน D-class
SCP-██3-TH พยายามชอนไชภายในร่างกายเหยื่อ
SCP-██3-TH ชะงักลงและเริ่มปรากฏรอยช้ำอย่างรุนแรง

SCP-██3-TH ต้นนั้นหยุดการเจริญเติบโตถาวร

สรุป จากดร.████ ผู้วิจัย
เมื่อทดสอบให้ SCP คุกคามหรือทำอันตรายให้กับสิ่งมีชีวิตภายในห้องที่ SCP-157-TH ตั้งอยู่ SCP-157-TH จะส่งผลต่อ SCP ที่คุกคามอย่างเห็นได้ชัด โดยจะปรากฏร่องรอยบน SCP ที่ทดสอบ บางตัวสามารถทำลายความผิดปกติไปได้เลย แต่ส่วนใหญ่แค่สยบความผิดปกติไปชั่วขณะเท่านั้น จึงขอเปลี่ยนระดับเป็น Thaumiel เนื่องจากสามารถควบคุม SCP ได้

การบันทึก

การบันทึกที่นำ SCP-157-TH มาควบคุมเหตุการณ์ร้ายแรงระดับ D ในสถาบันครั้งหนึ่ง
D-DCD ซึ่งเป็นชื่อเรียกโดยรวมของกลุ่ม D-Class ที่พยายามแหกกฏและพยายามปล่อย SCP ระดับ Euclid และ Keter เพื่อสร้างความวุ่นวายและต้องการหลบหนีออกจากสถาบัน ซึ่งระดับ Euclid ส่วนหนึ่งถูกปล่อยออกมาได้สำเร็จจึงสร้างความเสียหายและความวุ่นวายอย่างมาก ทำให้บุคลากรบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย O5 จึงอนุมัติให้ใช้ SCP-157-TH ทันที ซึ่งขณะนั้นถูกเรียกว่าเป็นมาตรการ 1UOM หลังจากใช้มาตรการ 1UOM D-DCD บางคนมีชีวิตรอด แต่บาดเจ็บสาหัส ส่วนที่เหลือถูกพบเป็นศพ

ต้นฉบับ: SCP-821 - Dixie Fun Faire


เสียงของเธอก้องสะท้อน ในยามที่สายลมใบไม้ร่วงพัดผ่านชายคาที่คุณเปิดอ้าไว้ และสู่เข้าไปในเตาผิง

หากเป็นคืนอื่น คุณจะขดนอนลงที่ข้างเปลวไฟ สร้างความอบอุ่นให้ตนเอง พร้อมไฟที่จรดเท้า

แต่ในคืนนี้ คุณมีจะต้องทำสิ่งอื่น — คุณจะเสียเวลาในคืนนี้ไปไม่ได้

งานคาร์นิวัลจะอยู่ในเมืองเป็นครั้งสุดท้าย และเธอเฝ้ารอคุณอยู่

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|containment-class= safe
|containment-image= https://scp-wiki.wikidot.com/local--files/component:anomaly-class-bar/safe-icon.svg
|containment-color= 0,159,107
|inc-esoteric-layout = —]]]

[[include :scp-th:component:anomaly-class-bar-source
|item-number= 0821
|clearance= 1
|container-class= safe
|secondary-class= Pending Neutralized
|secondary-icon= https://scp-wiki.wikidot.com/local--files/component:anomaly-class-bar/neutralized-icon.svg
|disruption-class= vlam
|risk-class= notice
]]

[[module css]]
.anom-bar-container.{$secondary-class} .text-part > .main-class::after {
background-image: url("https://scp-wiki.wikidot.com/local--files/component:anomaly-class-bar/neutralized-icon.svg");
background-size: contain;
}
.anom-bar-container.{$secondary-class} .danger-diamond > .bottom-icon::before {
background-image: url("https://scp-wiki.wikidot.com/local--files/component:anomaly-class-bar/neutralized-icon.svg");
background-size: contain;
}

[[/module]]

มาตรการกักกันพิเศษ: เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะต้องตรวจสอบพื้นที่ภายนอก SCP-821 ทุกวัน และรายงานการเปลี่ยนแปลงสำคัญให้หัวหน้างานกักกันทราบ ได้มีการติดตั้งรั้วล้อมรอบพื้นที่กักกัน SCP-821 โดยจะมีการตรวจสอบด้วยโดรนเป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากว่ามีบุคคลสัญจรในบริเวณใกล้เคียง SCP-821 ค่อนข้างน้อย การที่บุคลากรของสถาบันได้ปรากฏในบริเวณพื้นที่ในจำนวนมากจึงจะก่อให้เกิดผลเสีย จึงมิให้บุคลากรของสถาบันเข้าใกล้หรือเข้าไปภายในพื้นที่ผลกระทบของ SCP-821 ยกเว้นเพียงแต่ว่าหัวหน้างานกักกันจะเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการกระทำการดังนั้น

ภายหลังจากที่ค้นพบความผิดปกติประการอื่นของ SCP-821 ก็ได้ยุติความพยายามในการกักกันลง เนื่องจากไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ควรมีการดัดแปลง บำรุงรักษา ซ่อมแซม หรือกระทำการใด ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลง SCP-821 ไปจากสภาพในปัจจุบัน การกระทำการใด ๆ โดยเจ้าหน้าที่ของสถาบันควรให้ความสำคัญกับการรักษาข้อมูลเป็นหลัก

รายละเอียด: SCP-821 คือ พื้นที่ซึ่งเดิมเคยเป็น 'ดิ๊กซีฟันแฟร์'1 ซึ่งเป็นสถานจัดงานรื่นเริงที่เปิดให้บริการในระหว่างช่วงเวลาประมาณปี ค.ศ. 1954-1979 และเปิดให้บริการอีกครั้งในปี ค.ศ. 2009-2014

SCP-821 ประกอบไปด้วยชุดสิ่งปลูกสร้างและอาคารจำนวนมากที่อยู่รอบถนนสายหลักที่มีชื่อว่า เดอะอาร์ทิสต์เวย์ มีบันทึกการก่อสร้างอยู่ในจำนวนที่น้อยเป็นอย่างมาก เนื่องจากงานก่อสร้างและพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกดำเนินการอย่างไม่เป็นทางการ และไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้ สิ่งปลูกสร้างจำนวนมากจึงไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร และมีสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก และเสื่อมสภาพลงอย่างต่อเนื่องโดยถาวร ความพยายามในการบำรุงรักษาหรือบูรณะใด ๆ ล้วนไม่สำเร็จทั้งสิ้น และขณะนี้ได้หยุดดำเนินการโดยสมบูรณ์เพื่อรอการจัดระดับอีกครั้งหนึ่ง

สิ่งปลูกสร้างที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายใน SCP-821 มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่หลากหลาย โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างความบันเทิงและศิลปะ สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในหลายยุคสมัย และแต่ละยุคก็มีภาษาภาพที่แตกต่างกัน โดยมีตั้งแต่ม้าหมุนจนไปถึงโรงละคร แผงขายสินค้าและอาหาร ซุ้มของที่ระลึก ฯลฯ ในช่วงเริ่มแรกของการกักกัน SCP-821 สิ่งปลูกสร้างในจำนวนประมาณ 68% นั้นอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ และมีจำนวนลดลงไปตามระยะเวลา

ตลอดระยะเวลาการเปิดให้บริการในช่วงหลัง การบำรุงรักษาและงานที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันได้ถูกจัดการโดยหุ่นยนต์ ทั้งที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์และไม่คล้ายมนุษย์ ซึ่งได้รับรหัสเรียกเป็น SCP-821-1 โดยหุ่นยนต์เหล่านี้มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ในรูปร่างมนุษย์ที่สร้างขึ้นจากทองแดงทาสี ไปจนถึงในรูปแบบนามธรรมหรือรูปร่างคล้ายสัตว์ ภายหลังจากการปิดให้บริการพื้นที่ในปี ค.ศ. 2014 ตัวอย่าง SCP-821-1 ทั้งหมดก็ได้ถูกปิดการทำงานลง

SCP-821-A คือ ผลกระทบต่อความคิดที่ยังคงแสดงผลอยู่ ซึ่งทำให้ผู้ได้รับผลกระทบประสบกับ 'ภาพสะท้อน' ของเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นภายใน SCP-821 ในช่วงระหว่างที่มันยังคงเปิดให้บริการ โดย SCP-821-A จะทำการสร้าง 'ภาพสะท้อน' โดยการตีความแบบวงกลม เพื่อนำข้อมูลมาจากความทรงจำแฝงของผู้อยู่อาศัย ผู้เข้าชม และผู้ควบคุม SCP-821 โดยภาพสะท้อนเหล่านี้ปรากฏเป็นตัวตันโปร่งแสงที่ไม่สามารถจับต้องได้ ซึ่งมักถูกเรียกว่า 'ผี' เมื่อถูกสังเกต SCP-821-A จะสามารถสร้างสิ่งเร้าในรูปแบบเสียง ภาพ กลิ่น และรสได้ ความรุนแรงของการรับสัมผัสลดลงเรื่อยมา นับตั้งแต่การกักกันในช่วงเริ่มแรก ปัจจุบัน ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวอย่าง SCP-821-A เกิดขึ้นมา


ทั้งแสงและเสียงชวนพร่ามัว แต่ก็ต้องขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้าที่คุณเริ่มจะชินชาไปแล้ว

สุ้มแสงถูกเตรียมเอาไว้ โน้ตเครื่องคัลไลโอพีสอดประสานเข้ากัน ทั้งเสียงกริ่ง เสียงสอดแทรก เสียงกรีดร้อง เสียงตะโกน เสียงหัวเราะ ทั้งหมดนี้ถูกจัดเรียงเอาไว้ให้แม่นยำในระดับเสี้ยววินาที

งานรื่นเริงนี้ราวมีชีวิต และทุกคนที่นี่ก็เป็นเลือดเนื้อของเรา



ภาคผนวก1: ประวัติ

[[include :scp-wiki:component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-821/When_old_New_York_was_young_%281902%29_%2814763437062%29.jpg|caption=SCP-821 ในช่วงราวปี ค.ศ. 1904|width=350px]]

SCP-821 เปิดให้บริการภายใต้ชื่อหลายชื่อและการบริหารจากหลายกลุ่ม ครอบคลุมหลายยุคสมัย — ทั้งหมดพยายามที่จะขยายให้ใหญ่กว่าหรือเทียบเท่ากับในยุคสมัยก่อนหน้า เมื่อใดก็ตามที่มีกลุ่มใหม่เข้ามาบริหาร SCP-821 สิ่งปลูกสร้างเดิมจะไม่ถูกทำลายลง แต่จะถูกดัดแปลงหรือเพิ่มส่วนเท่านั้น ต่อไปนี้คือการสรุป SCP-821 ในยุคสมัยหลัก รวมไปถึงผลกระทบอันผิดปกติและองค์ประกอบสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยสังเขป

ก่อนที่จะมีการก่อสร้างและดำเนินการ SCP-821 ทั้งหมด พื้นที่นั้นเดิมเป็นไร่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีการใช้งานในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 ก่อนที่จะถูกทิ้งร้างและปล่อยให้ทรุดโทรมลงภายหลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ พื้นที่ดังกล่าวถูกปล่อยให้ว่างเปล่าอยู่นานหลายทศวรรษ ก่อนที่จะมีการก่อสร้าง SCP-821 ขึ้น และดูเหมือนจะไม่ได้มีลักษณะผิดปกติที่น่าสังเกตใด ๆ



ภาคผนวก 1-A: ดิ๊กซีส์เพลเชอร์การ์เดน

[[include :scp-wiki:component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-821/Skegness_Pavilion_and_Pleasure_Gardens_%28NBY_441273%29.jpg|caption=ไปรษณียบัตร//ดิ๊กซีส์เพลเชอร์การ์เดน// SCP-821 ในช่วงราวปี ค.ศ. 1956|width=350px|align=left]]
ดิ๊กซีส์เพลเชอร์การ์เดน ถูกก่อตั้งขึ้นภายในปี ค.ศ. 1954 โดยนายโจนาธาน ดิ๊กซี ซึ่งเป็นผู้อพยพชาวอเมริกันและนักธุรกิจรายใหญ่ภายในท้องที่ โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการที่เขาเล็งเห็นความต้องการด้านความบันเทิงแบบมีธีม พื้นที่แห่งนี้ได้ถูกเลือกเนื่องจากโจนาธาน ดิ๊กซีกล่าวว่าตนสัมผัสได้ถึง 'พลังงาน' ในตอนที่เขามาเยี่ยมชมเป็นครั้งแรก หนังสือพิมพ์ในท้องที่ได้อ้างอิงจากคำพูดของเขาว่า "ที่นี่แหละ มันมีอะไรที่พิเศษ ผมรู้สึกได้ในทุกย่างก้าว ทุกครั้งที่สูดลมหายใจ ทุกซอกมุมของสวนแห่งนี้ — มีบางสิ่งอยู่ที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว รอคอยวิถีทางที่จะถูกพบเห็นและจดจำเอาไว้ ผมแค่เดินตามรอยบรรพบุรุษ ผมได้เลือกที่นี่เพื่อให้พวกเขาได้รับโอกาสได้ใช้ชีวิตอีกครั้งหนึ่ง"

ในตอนที่เปิดให้บริการ ดิ๊กซีส์เพลเชอร์การ์เดนประกอบด้วยศาลาเปิดโล่งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่จุดกึ่งกลางของกลางสวน โดยมีดอกไม้และภูมิทัศน์ล้อมรอบ ตั๋วสำหรับการเข้าชมดิ๊กซีส์เพลเชอร์การ์เดนมีราคาอยู่ที่ 0.25 ดอลลาร์ต่อผู้ใหญ่หนึ่งคน ซึ่งสามารถทำได้ทั้งเข้าชมพื้นที่และร่วมกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ โดยกิจกรรมบันเทิงที่จัดขึ้น ได้แก่ การแสดงดนตรี และละครเวทีที่ถูกจัดขึ้นที่ศาลาที่จุดกึ่งกลาง

ดิ๊กซีส์เพลเชอร์การ์เดนเปิดให้บริการระหว่างปี ค.ศ. 1954-1957 และประสบความสำเร็จพอสมควร โดยได้ถูกกล่าวถึงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ผู้เข้าชมส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่น และจะมีผู้เข้าชมจากรัฐอื่น ๆ เป็นครั้งคราว แม้ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่มันกลับปิดตัวลงอย่างกะทันหันในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1957 อันเนื่องมาจากการเสียชีวิตของโจนาธาน ดิ๊กซี และด้วยผลจากปัญหาเกี่ยวกับการรับกรรมสิทธิ์ในที่ดินและกิจการ จึงส่งผลให้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้จนกระทั่งถึงฤดูกาลปี ค.ศ. 1958 ซึ่งในตอนนั้นได้เปิดให้บริการอีกครั้งภายใต้ชื่อใหม่



ภาคผนวก 1-B: ดิ๊กซีฟันแฟร์

[[include :scp-wiki:component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-821/Ride_at_the_Ohio_State_Fair_-_DPLA_-_1c37a42c1ed28e8f70f85160c201eca4.jpg
|caption=ภาพของเครื่องเล่นที่ไม่ทราบภายในดิ๊กซีฟันแฟร์ SCP-821 ในช่วงราวปี ค.ศ. 1959|width=350px]]
ในฤดูกาลปี ค.ศ. 1958 สวนแห่งนี้ได้เปิดให้บริการอีกครั้งภายใต้ชื่อดิ๊กซีฟันแฟร์ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าครอบครัวและเยาวชน บุตรชายของโจนาธาน ดิ๊กซี นายโจนาธาน ดิ๊กซีที่สอง หรือที่รู้จักกันในชื่อ 'เจ.ดี. จูเนียร์' ได้เข้ามาดูแลกิจการหลังจากที่บิดาของเขาเสียชีวิต โดยเขาฟื้นฟูกิจการด้วยการมุ่งเน้นไปที่การสร้างเส้นทางหลัก รวมถึงจัดหาทั้งเครื่องเล่นและกิจกรรมบันเทิงตามธีมให้กับผู้เข้าชม การขยายกิจการนี้มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาและต่อยอดสิ่งที่ทำให้ดิ๊กซีส์เพลเชอร์การ์เดนประสบความสำเร็จ โดยที่ไม่ขัดไปจากความต้องการของโจนาธาน ดิ๊กซี

เมื่อดิ๊กซีฟันแฟร์กลับมาเปิดให้บริการขึ้นอีกครั้ง จำนวนผู้เข้าชมก็เพิ่มสูงขึ้น — ครอบคลุมตั้งแต่บุคคลจากเมืองและรัฐใกล้เคียง สวนสนุกแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านเครื่องเล่นที่หวาดเสียว และเกมตามทางสายหลักที่ให้โอกาสผู้เล่นชนะได้ เจ.ดี. จูเนียร์เคยได้กล่าวเอาไว้ในตอนนั้นว่า "พ่อของผมคิดถูก สร้างโลกที่อยากสำรวจขึ้นมา และที่เหลือจะตามมาเอง สิ่งสำคัญของธุรกิจเพื่อสร้างความสนุก คือ การที่คุณต้องสร้างสถานที่ที่คุณเชื่อมั่นได้ว่าคุณเป็นผู้ชนะ และที่ดิ๊กซีฟันแฟร์ ทุกคนที่นี่คือผู้ชนะ ตั้งแต่เด็กแบเบาะจนไปถึงผู้ใหญ่วัยทอง — พวกเราขอต้อนรับทุกคน ที่นี่ก็คือที่ของคุณ!"

ในช่วงทศวรรษต่อมา สวนสนุกยังคงเปิดให้บริการไปในลักษณะที่คล้ายคลึงกับเดิม โดยเครื่องเล่นที่มีชิ้นส่วนชำรุดหรือไม่ได้รับความสนใจจะถูกสับเปลี่ยน เครื่องเล่นเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลังจากช่วงกลางทศวรรษที่ 1960 คือ ม้าหมุนดิ๊กซีแครูเซลและชิงช้าสวรรค์ดิ๊กซีแฟร์ริสวีล ซึ่งยังคงเปิดให้เข้าเล่นตลอดช่วงเวลาที่สวนสนุกเปิดให้บริการ

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ค.ศ. 1966 เจ.ดี. จูเนียร์ได้แจ้งเกี่ยวกับความเป็นไปในอนาคตของสวนสนุก

สวัสดีแขกผู้มีเกียรติและผู้ให้ความสนับสนุนทุกท่าน

คุณพ่อของผมเชื่อมั่นในสถานที่ที่พร้อมต้อนรับทุกคน และจะไม่มีใครที่จะรู้สึกคับอกคับใจ ผมได้ไล่ตามเรื่องนั้นมาตลอด พยายามหาประกายที่เคยจุดไฟให้ท่าน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกยินดีอย่างถึงที่สุดที่ได้นำพาดิ๊กซีฟันแฟร์ไปสู่จุดสูงสุดจุดใหม่

แต่น่าเสียดาย สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป และผมหยุดสิ่งที่ไม่อาจเลี่ยงไม่ได้ พวกเราไม่สามารถจ่ายค่าจ้างงานอันเป็นธรรมได้ หากยังคงทำตามค่านิยมและจุดประสงค์ที่นำพาบริษัทมาถึงทุกวันนี้ ดวงวิญญาณแห่งอดีตคอยหลอกหลอนผม เสียงของพวกมันสะท้อนก้องเข้าสู่สถานที่ที่ผมรักสุดหัวใจ พวกเขาจะไม่ปล่อยผมไป

ผมต้องทิ้งที่นี่ไปเสีย

ภายหลังจากบันทึกข้างต้น เจ.ดี. จูเนียร์ก็ได้หายตัวไป พร้อมกับผู้นำดิ๊กซีฟันแฟร์คนสำคัญอีกจำนวนมาก ทำให้สวนสนุกตกอยู่ในสภาวะวุ่นวายและไร้ระเบียบ จนถึงปัจจุบันนี้ ยังคงไม่ทราบว่าบุคคลที่หายตัวไปทั้งหมดอยู่ที่ใด

สวนสนุกได้ถูกปิดตัวลงเป็นเวลาหนึ่งปี ก่อนที่ภายหลังจะเปิดให้บริการอีกครั้งภายใต้ผู้บริหารรายใหม่


โลหะแผดเสียงเสียดสีที่เหนือศีรษะ พร้อมกับที่คุณกำลังดื่มน้ำจากขวดสกปรกในราคาย่อมเยา — แต่ยังดีที่ดวงอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ถึงมันจะไม่ได้บรรเทาความอบอ้าวนี้เลยก็ตาม

ท่ามกลางแสงสาดและเสียงดังตามทาง เสียงเครื่องเล่นที่เหนือขึ้นไป ในสุ้มเสียงหัวเราะของเด็กน้อย ๆ และผู้ใหญ่ที่เปล่งเสียงขำขัน กลับมีอยู่เสียงหนึ่งที่ไม่อาจปิดกั้นลงได้

ในทุก ๆ คืน ในเวลาเดียวกัน ในตอนที่คุณยืนในซุ้มของตนเอง จะมีเงาพาดผ่านไป เงาที่ทั้งไม่อาจบอกได้ว่าคืออะไรแต่ก็กลับคุ้นเคย แต่คุณก็ไม่เคยทราบแจ่มแจ้งว่าคืออะไร ทุกยามเย็น เงานั้นจะผ่านมา ในท่ามกลางเสียงอื้ออึงและแตรของสวนสนุก คุณรู้สึกว่าตนเองเปล่งเสียงออกมาว่า:

"สักวัน ผู้คนจะจดจำชื่อดิ๊กซีเอาไว้ได้"


ภาคผนวก 1-C: คณะละครสัตว์พี่น้องแฮมป์สตีด

[[include :scp-wiki:component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-821/Karoline_Wittmann%2C_Jahrmarkt%2C_1960.jfif
|caption= ภาพวาดถนนสายหลักของแฮมป์สตีดโบรส์ฯ SCP-821 ในช่วงราวปี ค.ศ. 1967|width=350px|align=left]]

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1967 หนังสือพิมพ์ในท้องถิ่นได้รายงานเอาไว้ว่าดิ๊กซีฟันแฟร์ถูกขายให้กับสามพี่น้องซึ่งเป็นอดีตพนักงานของสวนสนุก ได้แก่ นายออร์วิลล์ นายออไรออน และนายอ็อกเดน แฮมป์สตีด โดยพวกเขาได้เรียกตนเองว่าเป็น 'พนักงาน' ที่ทำงานอยู่บนถนนสายหลักของสวนสนุกเป็นเวลาหลายปีก่อนที่เจ.ดี. จูเนียร์จะหายตัวไป — เนื่องจากประสบการณ์ที่พวกเขาสั่งสมมาทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของตนที่จะสืบทอดต่อไป ภายหลังการหายตัวของเจ.ดี. ผู้บริหารสวนสนุกที่ยังคงหลงเหลือก็ได้ทำข้อตกลงกับสามพี่น้องแฮมป์สตีด และได้ส่งมอบที่ดินและกรรมสิทธิ์ของกิจการสวนสนุกกับพวกเขาด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่เปิดเผย2

ทั้งสามพี่น้องวางแผนจะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ — โดยการนำพื้นที่และถนนสายหลักที่มีอยู่ก่อนแล้วมาใช้งาน และดัดแปลงตัวศาลาให้กลายเป็นเต็นท์คณะละครสัตว์ และเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งหนึ่ง ภายใต้ชื่อ"คณะละครสัตว์พี่น้องแฮมป์สตีด" โดยพวกเขากล่าวเอาไว้ว่า "เราต้องการฟื้นฟูและใช้ทุกสิ่งเท่าที่ทำได้ เพื่อที่จะรักษาหัวใจสำคัญของสวนสนุกเอาไว้" สวนสนุกใหม่นี้มีการจัดแสดงสด ซึ่งคณะแสดงของสวนสนุกขนาดใหญ่จะอยู่อาศัยแบบกึ่งถาวร ภายในหมู่บ้านจัดสรรที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสวนสนุก ที่มีชื่อเรียกว่า "คาร์นีส์โรว์" อีกทั้งยังมีกิจกรรมดึงดูดท่องเที่ยวกิจกรรมใหม่ ซึ่งเป็นการแสดงละครสัตว์ในตอนกลางคืน โดยมีทั้งการแสดงตัวตลก นักกายกรรม สัตว์ต่าง ๆ ฯลฯ

เมื่อสวนสนุกเปิดให้บริการอีกครั้งหนึ่ง มันก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยมียอดผู้เข้าชมขึ้นสูง เนื่องจากผู้คนรวมตัวกันเพื่อมาชมการแสดงรูปแบบใหม่ ร่วมเล่นกิจกรรมที่ได้รับการปรับปรุง และเข้าสู่พื้นที่ขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วย 'กิจกรรมสำหรับทุกเพศทุกวัย' และเพื่อการรองรับผู้เข้าชมที่เพิ่มขึ้นนี้ จึงได้มีการเสนอมอบที่อยู่อาศัยให้กับพนักงาน โดยแลกเปลี่ยนกับอัตราค่าจ้างที่ลดลง — สันนิษฐานว่าในขณะนั้นมีพนักงานที่อาศัยอยู่ภายในสวนสนุกราว 20-50 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีทั้งตัวตลก พนักงานจุดอื่น ๆ และบุตรหลานของพวกเขา

แม้ว่าจะมีความพยายามมากเพียงนี้ก็ตาม แต่พวกเขาก็กลับประสบความสำเร็จได้เพียงไม่นาน ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1970 เนื่องมาจากการที่ยอดรายได้ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการบริหารบุคลากรที่ผิดพลาดเป็นระยะเวลาสามปี คณะละครสัตว์พี่น้องแฮมป์สตีดจึงได้ปิดตัวลง โดยพนักงานยังคงอาศัยอยู่ภายในสวนสนุกต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง

นายออร์วิลล์ แฮมป์สตีดเดินทางออกจากสหรัฐฯ เพื่อที่จะประกอบธุรกิจเดิมภายในประเทศแคนาดา และประสบความสำเร็จเล็กน้อย นายออไรออน แฮมป์สตีดเกษียณอายุตนเอง โดยเขาอาศัยอยู่ภายในกระท่อมขนาดเล็กที่ตอนเหนือของรัฐเมน และใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ


คาร์นีส์โรว์เป็นสถานที่ที่คุณจะรับรู้กลิ่นและได้ยินมันก่อนที่จะได้พบเห็นด้วยตาเสียอีก เป็นประจุชีวิต ความโกลาหล และพลังงานที่ฝังแน่น ถูกสลักเข้าในเศษเสี้ยวแห่งนฤพานดังนี้เอง

เด็ก ๆ จอมแก่นแก้วที่มีคาร์นีส์โรว์เป็นบ้านทำเหมือนกับว่าสวนสนุกแห่งนี้เป็นสนามเด็กเล่นส่วนตัวของตนเอง เขายังคงจดจำเสียงจากพวกเขาที่วิ่งพล่านระหว่างบ้าน จากทั้งที่ชนเข้ากับราวผ้า และจากการสร้างความวุ่นวายนานา แต่ที่คั่นระหว่างทั้งเสียงขำขัน เสียงโหวกเหวก และเสียงกู่ร้องด้วยความสุขใจนั้น พวกเขาทั้งหมดก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถามคำถามเดียวกัน:

"เกิดอะไรขึ้นกับคุณอ็อกกี้กันนะ?"

อ็อกกี้ไม่เคยจากไปไหน



ภาคผนวก 1-D: ฟันแลนด์

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1976 หลังจากที่คณะละครสัตว์พี่น้องแฮมป์สตีดปิดตัวลงเป็นเวลาครึ่งทศวรรษ ก็ได้มีเสียงแตรดังขึ้นในรัศมี 4 ไมล์รอบพื้นที่ที่เดิมเคยเป็นสวนสนุกโดยไม่มีการแจ้ง โดยพื้นที่นั้นได้ถูกทิ้งร้างและไม่มีความชัดเจนเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินนับตั้งแต่นั้นมา — อ้างอิงจากการสัมภาษณ์และเอกสารจากในช่วงเวลานั้น ชาวบ้านก็ไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เช่นกัน

โดยบุคคลที่มีชื่อว่า 'มิสเตอร์ฟันแลนด์' ได้ปรากฏขึ้น และทำลายข้อสันนิษฐานต่าง ๆ ลง

เชิญชม เชิญชมครับ! จับจ้องไปยังภาพที่ปรากฏตรงหน้า นั่นก็คือฟันแลนด์ — ดิ๊กซีฟันแฟร์ในอดีตได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง แต่พร้อมกับความศิวิไลซ์นานา! ได้อยู่ร่วมกับวันวานที่คะนึงหา และความยิ่งใหญ่ของอดีตก่อนหน้า ผสานเข้ากับสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมแห่งโลกของจักรกล! ทั้งหมดนี้มาจากมันสมองของผู้นำของเรา มิสเตอร์ฟันแลนด์นั่นเอง

เชิญชิมขนมหวานรสเลิศของเรา จะทั้งโคนไอศกรีมยาวเป็นฟุต หรือจะเป็นสายไหมขนาด FUN-ไซซ์ก็ดี! เราไม่ได้มีเพียงแค่ขนมหวานเท่านั้น แต่เราก็มีอาหารแปลกใหม่ที่แผลงให้เข้ากับรสนิยมในสมัยปัจจุบัน ขอรับประกันว่าทุกท่านจะต้องตื่นตาตื่นใจกับมัน เชื่อผมได้ ผมไม่หลับตาไม่หลับใจมาตั้งนานแล้ว!

และเชิญตกตะลึงไปกับเทคโนโลยีสุดมหัศจรรย์ที่ขับเคลื่อนทุกสถานที่! นั่นคือม้าแอนิมาทรอนิกส์ที่มีชีวิตบนเครื่องม้าหมุนแกลล็อปปิงแครูเซลนั่นเอง หรือทุกท่านอาจอยากลองเข้านั่งในโฮเวอร์คาร์ดูสักตั้ง ไม่ว่าจะเป็นอันไหน ก็ขอรับรองเลยว่าวันนี้ทุก ๆ ท่านจะพบเจอกับประสบการณ์ไม่เหมือนใครแน่นอน

อ้อ แล้วก็… อีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนที่ทำงานที่สวนสนุกนี้ ทั้งพนักงานดูแลเครื่องเล่น ทั้งผู้ดูแลเกมที่ตั้งอยู่ตามถนนสายหลัก หรือกระทั่งภารโรงจอมหรรษาของเราก็ล้วนมีความลับอยู่ข้อหนึ่ง: ทุกคนเป็นหุ่นยนต์นั่นไง! เชิญเชยชมกับเทคโนโลยีแห่งโลกสมัยใหม่ ที่เกิดขึ้นจากรากฐานการสร้างหุ่นยนต์ที่สั่งสมมานานมากศตวรรษ — ทั้งหมดถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงในภาคการวิศวกรรมสมัยใหม่ ทั้งรวดเร็วกว่า มีประสิทธิภาพกว่า และพึ่งพาได้กว่ามนุษย์จะทำได้!

อย่าลืมลองมาที่ฟันแลนด์สักครั้ง เพิ่งเปิดอีกครั้งหนึ่ง จะต้องโดนใจท่านแน่นอน!
— มิสเตอร์ฟันแลนด์

[[include :scp-wiki:component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-821/Forevertron_Bridge.jpg
|caption=ทางเข้าเครื่องเล่นชิลเดรนส์แลนด์ของฟันแลนด์ ภาพภายหลังการปิดตัว|width=350px|align=left]]
บันทึกเสียงของมิสเตอร์ฟันแลนด์นี้ เดิมถูกใช้งานสำหรับโฆษณาทั้งทางวิทยุ และเปิดผ่านระบบลำโพงทั้งหมดภายในสวนสนุกในวันที่เปิดให้บริการอีกครั้ง บัญชีธุรการแสดงให้เห็นว่ามันประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ตัวสวนสนุกยังคงมีโครงสร้างเช่นเดิม แต่ดังที่กล่าวเอาไว้ก่อนหน้า ฟันแลนด์ได้ปรับเปลี่ยนในส่วนเครื่องเล่นและพนักงานเป็นหลัก ด้วยการผสมผสานระหว่างงานวิจัยด้านหุ่นยนต์ในอดีต วิทยาการแอนิมาทรอนิกส์สมัยใหม่ พิธีกรรมเชิงมนตร์ และการใช้ประโยชน์จากความทรงจำแฝงที่เดิมมีอยู่ในพื้นที่สวนสนุก ในการสร้างวิญญาณเทียมเพื่อขับเคลื่อนเครื่องจักร มิสเตอร์ฟันแลนด์ก็สามารถสร้างพนักงานที่ไม่มีแอนิมาทรอนิกส์หรือเครื่องจักรใด ๆ ที่มีอยู่ก่อนแล้วเทียบได้ออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทที่ถูกใช้งานภายในสวนสนุกที่เป็นคู่แข่ง

หุ่นยนต์ซึ่งได้รับรหัสเรียกเป็น SCP-821-1 มีขนาด รูปร่าง และรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไปตามบทบาทหน้าที่ภายในฟันแลนด์ แต่ทั้งหมดก็มีลักษณะทั่วไปที่เหมือนกัน โดยทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาจากฐานทองแดงหรือแผ่นโลหะ และทาด้วยสีที่ไม่มีความผิดปกติ ตัวอย่าง SCP-821-1 แต่ละตัวสามารถทำงานได้ด้วยแหล่งพลังงานที่ผิดปกติ ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้รับมาจากผู้เข้าชมและอารมณ์เชิงบวกจากทั่วสวนสนุก โดยตัวอย่าง SCP-821-1 สามารถพูดและร้องเพลงได้หลากหลายภาษา แม้ว่าจะไม่มีผู้พูดภาษานั้น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงก็ตาม และเช่นเดียวกันกับที่ตัวอย่าง SCP-821-1 สามารถเคลื่อนที่ทั่วสวนสนุกได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้สายไฟ ระบบนำทาง หรือการเชื่อมต่อกับเครื่องควบคุมระบบกลาง ในทางปฏิบัติแล้ว จึงถือว่าทั้งหมดปัจเจกบุคคลต่อกัน

เมื่อเปิดให้บริการ ฟันแลนด์ก็ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก มีรายงานว่าผู้เข้าชม 'ชื่นชอบ' ความหลากหลายของกิจกรรม ความบันเทิง และการแสดงที่จัดเตรียมเอาไว้ — แม้ว่าทั้งเครื่องเล่นและการแสดงจะสนุกสนานก็ตาม แต่จุดดึงดูดหลักของสวนสนุกคือตัวอย่าง SCP-821-1 นักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งโลกเดินทางมาเพื่อชม "สิ่งมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยีในโลกสมัยใหม่" และสวนสนุกก็เจริญรุ่งเรือง ในอีกไม่กี่ปีต่อมา กิจการก็ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ได้มีการเพิ่มแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มอีกแห่งหรือสองแห่ง แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก

ในการสัมภาษณ์เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1978 มิสเตอร์ฟันแลนด์ได้ถูกถามเอาไว้ว่าเขาวางแผนในการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของสวนสนุกครบรอบ 25 ปี อย่างไร

"จะบอกอะไรให้ ผมถูกถามเรื่องนี้มาเยอะมากเลยล่ะ และในที่สุดผมก็รู้สึกอยากตอบสักที ที่สวนสนุกแห่งนี้ไม่สำเร็จก็เพราะว่าไปมุ่งเน้นผิดจุด ทุกคนก่อนหน้านี้เอาแต่มองดูที่แห่งนี้ดังที่เคยเป็นมาก่อน และพยายามทำตามสิ่งที่เคยทำให้มันประสบความสำเร็จ"

"ผมจะละทิ้งจะจมปลักกับอดีต — ผมจะทำให้ได้ดีกว่าที่สวนสนุกแห่งนี้เคยเป็น"

"ปัญหาคือ พวกเขามัวแต่สนใจเครื่องเล่นและแสงสีเสียงจนมันบดบังความเป็นจริงไปหมด เด็กสมัยนี้ไม่ได้ต้องการความสนุกแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว เด็ก ๆ เขาเบื่อพวกตัวตลก เหนื่อยใจกับเกมข้างทาง รอที่จะเดินหนีจากโรงแสดงและรถไฟเหาะน่าเบื่อพวกนั้น ที่พวกเขาต้องการคือเทคโนโลยี"

"พวกเขาอยากได้หุ่นยนต์ อยากได้เครื่องคอม อยากได้วิดีโอเกม แล้วผมมีสิทธิ์อะไรจะไปหยุดพวกเขาล่ะ? ความก้าวหน้าจะดำเนินต่อไป และพวกเราต้องตามมันให้ทัน นั่นก็คือเหตุผลที่ผมมุ่งเน้นไปที่พนักงานหุ่นยนต์สุดล้ำสมัยของเรา เครื่องจักรสุดอัศจรรย์ที่ทำให้ฟันแลนด์เป็นฟันแลนด์ได้!"

"ส่วนเรื่องคำตอบน่ะเรอะ? ไม่หรอก ผมไม่มีแผนฉลองอดีตหรอก ตามที่ผมคิดแล้ว มีเพียงแค่อนาคตเท่านั้นที่สำคัญจริง ๆ ส่วนพวกหุ่นยนต์ที่เป็นเหมือนหัวใจให้กับฟันแลนด์รึ? นั่นแหละคืออนาคต"


[[include :scp-wiki:component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-821/Friesian_Sculpture.jpg|caption=หุ่นยนต์ตัวหนึ่งจากเครื่องเล่น**//แกลล็อปปิงแครูเซล//** ช่วงราวปี ค.ศ. 1978|width=350px]]
ภายในปีนั้นเอง ผู้เข้าชมสวนสนุกก็ได้เริ่มมีการรายงานถึงปัญหาต่าง ๆ มากมายทั่วฟันแลนด์ เครื่องเล่นชำรุดบ่อยครั้งกว่าก่อนหน้า และพื้นดินที่รองรับเครื่องเล่นและร้านค้าก็ค่อย ๆ แทรกเข้าในสิ่งปลูกสร้าง เพื่อฟื้นคืนพื้นที่สวนสนุกกลับคืนมา ได้มีรายงานถึงปฏิกิริยากับหุ่นยนต์ซึ่งผิดแปลกไป หุ่นยนต์แอนิมาทรอนิกส์พึมพำกับตนเอง และเข้ากระทำการที่ไม่ได้รับอนุญาตอยู่บ่อยครั้ง ผู้เข้าชมสวนสนุกจึงสังเกตได้ชัดว่ามีบางสิ่งผิดปกติไปจากเดิม

เนื่องจากสื่อสิ่งพิมพ์ท้องถิ่นได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับการที่ฟันแลนด์ 'ถูกสิง' รวมไปถึงการที่ผู้จัดรายการวิทยุกล่าวชื่นชมสวนสนุกในอดีต มันจึงเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อสาธารณชนลง เริ่มมีข่าวลือแพร่สู่ผู้เข้าชมและอดีตพนักงาน — ในระหว่างฤดูกาลนี้ หุ่นยนต์ภายในสวนสนุกมีลักษณะที่ 'เศร้าหมอง' และ 'หดหู่' แม้ว่าจะมีรายงานดังนี้ก็ตาม รวมถึงการสึกกร่อนของเครื่องเล่นและตัวอย่าง SCP-821-1 ก็ตาม มิสเตอร์ฟันแลนด์ก็ยังคงประชาสัมพันธ์เพื่อยืนยันว่ากิจการจะดำเนินตามปกติ ภายหลังจากแถลงการณ์ดังกล่าว มิสเตอร์ฟันแลนด์ก็ไม่ได้กระทำการแก้ไขหรือฟื้นฟูสถานการณ์แต่อย่างใด เขากลับเชื่อว่าสวนสนุก "เป็นสิ่งมีชีวิต และจะฟื้นฟูตนเองคืนมาได้"

ในปี ค.ศ. 1979 ฟันแลนด์ได้ปิดตัวลงอย่างถาวรและถูกทิ้งร้าง ทั้งเครื่องเล่น ร้านค้าริมถนนสายหลัก และหุ่นยนต์ถูกปล่อยเอาไว้ให้เสื่อมสภาพ ในอีกหลายปีต่อมา ผู้คนในพื้นที่และนักสำรวจสถานที่ได้รายงานถึงการฟื้นคืนพื้นที่โดยธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีความเชื่อว่าอดีตสวนสนุกแห่งนี้ 'ถูกสิง' โดยทั้งผู้ที่เคยเข้าชม อดีตพนักงาน และกระทั่งหุ่นยนต์

มันยังคงปิดตัวต่อไปอีกเป็นเวลามากกว่า 30 ปี


รั้วตาข่ายเหล็กเกรอะกรังที่ปิดล้อมเศษซากอันไร้ผู้จดจำแห่งฟันแลนด์ตั้งอยู่ตรงหน้าคุณ ราวเป็นกำแพงบางที่กั้นจากผู้ต้องการเชยชม ลวดถูกตัดเปิดเอาไว้ — เมื่อคุณเข้าใกล้ แท่งเหล็กก็โน้มเอนกลับ เบิกทางให้กว้างขึ้น

ราวกับว่าสวนสนุกกำลังเชื้อเชิญให้คุณเข้าไป

ค่ำคืนนี้งันสงัด แต่อากาศกลับแผ่ให้ชาที่ร่าง สิ่งที่รายรอบตัวคุณก็คือเดนของหุ่นยนต์ที่เคยอยู่ที่นี่ ร้านค้าที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เครื่องเล่นที่เคยเปิดเอาไว้เสมอ มันดูเงียบกว่าปกติธรรมชาติ ราวกับว่า… ไม่มีอยู่เลย?

คุณไม่หลงเชื่อข่าวลือว่า 'นี่ อย่าเข้าไปนะ สวนสนุกนั่นมันผีสิง!' หรือไม่ก็ 'บ้าไปแล้วเรอะ? ฉันได้ยินมาว่าพวกหุ่นยนต์จะคืนชีพแล้วมาฆ่าคน เพราะพวกมันโมโหที่สวนสนุกปิดตัวไป' มันจะเป็นจริงได้อย่างไรกัน — ที่นี่มีแค่เหล็กสนิมเกาะเท่านั้นแหละที่น่ากลัวดังที่พูดกัน

เมื่อคุณได้ยินเสียงเครื่องจักรที่ขูดขีดกัน และเห็นว่าม้าหมุนกลับมาทำงานอีกครั้งที่ตรงหน้า เสียงฟันเฟืองกดทับตะกอนสนิม ดนตรีอู้อี้ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหุ่นยนต์ที่ไม่ไหวติงใด ๆ คุณไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร คุณจึงวิ่งหนี

เสียงหัวเราะไร้ที่มาและภาพจาง ๆ ของบุคคลที่เดินทั่วสวนสนุกร้างอยู่อยู่รอบตัวคุณในขณะที่คุณกำลังหนี ร่างจางร่างใหม่ปรากฏขึ้นตามมุมต่าง ๆ เครื่องคัลไลโอพีแผดเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ เสียงเย้ยหยันพรั่งพรูจากซากปรักหักพังของฟันแลนด์ พร้อมกันกับที่คุณรีบตรงไปยังทางออก เมื่อมาถึงที่รั้ว ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

"ขอขอบคุณที่ท่านได้เยี่ยมชมสวนสนุกของเรา ขอให้เราได้พบกันอีกในเร็ววั—"

ในตอนที่คุณดันตาข่ายเหล็กเพื่อจะหนี ทั้งสวนสนุกและผีผู้สถิตก็นิ่งสนิทลงไปอีกครั้งหนึ่งอย่างฉับพลัน



ภาคผนวก 1-E: เอโธสแลนด์

[[include :scp-wiki:component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-821/Ferris_%28247496661%29.jpeg|caption=ภาพก่อนการบูรณะชิงช้าสวรรค์ที่ถูกทิ้งร้าง มีนาคม ค.ศ. 2009 |width=350px]]

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 2009 รายการข่าวในท้องถิ่นได้รายงานเอาไว้ว่ากลุ่มก่อความเสียหายกลุ่มหนึ่งได้บุกรุกเข้าไปภายในพื้นที่ SCP-821 ที่ถูกทิ้งร้าง และยังได้ตั้งพื้นที่พักแรมเป็นการช่วยคราวอีกด้วย ในตอนแรกก็ได้มีการคัดค้านโดยทันที แต่เมื่อได้มีการรายงานว่ากลุ่มดังกล่าวไม่ได้ทำลายสถานที่ แต่กลับมีท่าทีที่จะซ่อมแซมพวกมัน จึงไม่ชัดเจนว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นสมควรจะตอบสนองอย่างไร ในอีกเพียงไม่กี่เดือนต่อมา ในขณะที่บุคคลในท้องถิ่นปรึกษากันว่าควรดำเนินการอย่างไร กลุ่มก่อความเสียหายดังกล่าวก็ได้เริ่มต้นทำงานในโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อ 'ปรับสวนสนุกใหม่ และทำให้เศษซากเครื่องเล่น อาคาร และจิตวิญญาณของสวนสนุกได้กลับมาหายใจอีกครั้ง'

ได้มีการระบุว่า 'ผู้ก่อความเสียหาย' ดังกล่าวเป็นกลุ่มศิลปินผิดปกติ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อว่าเอโธส (GOI-821-4) สมาชิกของมันมีทักษะและจุดมุ่งเน้นที่หลากหลาย ประกอบด้วยช่างแกะสลักที่มีความสามารถแปรผันความเป็นจริง ผู้บิดเบือนความเป็นจริงด้วยดนตรี และศิลปินที่ไม่มีความผิดปกติใด ๆ ซึ่งร่วมงานกับพวกเขา อ้างอิงจากข่าวประชาสัมพันธ์ GOI-821-4 มีจุดประสงค์เพียงหนึ่งอย่าง คือ 'เพื่อเปลี่ยนสถานจัดงานรื่นเริงที่ถูกทิ้งร้างให้กลายเป็นมหกรรมศิลปะ จินตนาการ และเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำจากอดีต'

การวิจัยของสถาบันไม่สามารถระบุได้ว่าเอโธสได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ของที่ดินสวนสนุกได้อย่างไร บันทึกของเทศมณฑลระบุเอาไว้ว่ามีชื่อพวกเขาในโฉนดที่ดินดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2009 พร้อมกับหมายเหตุระบุว่า "บริจาคเพื่อการกุศลจากมิสเตอร์ฟันแลนด์ แก่ศิลปินแห่งอนาคตข้างหน้า" ในอีกเพียงไม่กี่เดือนต่อมา ก็ได้มีการวางแนวกั้นพื้นที่ก่อสร้างล้อมรอบพื้นที่สวนสนุก ซึ่งบดบังว่ามีการดำเนินการอย่างไร

ในวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2009 สวนสนุกแห่งนี้ได้เปิดให้บริการขึ้น ใบปลิวและแผ่นพับโฆษณาปรากฏในอาคารภายในท้องถิ่น หน้าร้านค้า และภายในกล่องจดหมายทั่วเทศมณฑลและตำบลโดยรอบ

เป็นเวลากว่าหลายทศวรรษแล้วที่ดิ๊กซีฟันแฟร์ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน แม้ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมามันจะถูกจดจำด้วยชื่อที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นฟันแลนด์หรือคณะละครสัตว์พี่น้องแฮมป์สตีด แต่สิ่งหนึ่งที่คงเดิมอยู่เสมอ คือ ผู้คนและหุ่นยนต์ที่ทำงาน อยู่อาศัย และใช้ชีวิตที่สวนสนุกแห่งนี้คือจิตวิญญาณอันแท้จริง พวกเราจดจำพวกเขา มองผ่านเรื่องราวของพวกเขา เดินตามรอยของพวกเขา — พวกเขาเพียงเฝ้ารออยู่ที่นี่

เอโธสแลนด์ไม่เหมือนสวนสนุกไหน ๆ ในอดีต พวกเราไม่ได้พยายามเหนือกว่าหรือแตกต่างไป พวกเราไม่ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ พวกเราไม่ได้สร้างแหล่งดึงดูดที่ยอดเยี่ยมพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค และลูกเล่นแพรวพราวเกินจำเป็น — พวกเราคือศิลปิน และพวกเราฟื้นคืนสถานที่แห่งนี้กลับมาอีกครั้ง ทุกสิ่งถูกเตรียมเอาไว้ที่นี่อยู่แล้ว รอเพียงผู้ชมเท่านั้น — พวกเราเพียงมอบโอกาสครั้งที่สองให้กับมัน

ขอเชิญให้ทุกคนได้มาชมแดนที่อบอวลด้วยความฝัน เวทมนตร์ ศิลปะ และที่สำคัญที่สุด ก็คือความทรงจำ

เมื่อเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก เอโธสแลนด์ ก็ได้นำเสนอแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวต่าง ๆ ตลอดประวัติศาสตร์ของสวนสนุกแห่งนี้ ต่อไปนี้คือตัวอย่างส่วนหลักของสวนสนุก ดังนี้:

  • เดอะอาร์ทิสต์เวย์: เดอะอาร์ทิสต์เวย์มีผู้ค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำมือและเปิดให้เข้าเล่นเกมในงานรื่นเริงแบบดั้งเดิม ผสมผสานเข้ากับการตีความแบบสมัยใหม่และเชิงศิลปะ
  • เพลเชอร์การ์เดนส์: เพลเชอร์การ์เดนส์จัดแสดงพฤกษชาติทั้งตามธรรมชาติและผิดปกติ ประติมากรรมทั้งที่ไม่มีความผิดปกติและผิดปกติ รวมไปถึงการรับรู้จากประสาทสัมผัสที่ผิดปกติ
  • เวทีเอโธสแลนด์: ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากศาลาแห่งเดิม เวทีเอโธสแลนด์มีการตัดแสดงดนตรีโดย "วงออลล์คอปเปอร์บราสเมทัล" ซึ่งเป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยตัวอย่าง SCP-821-1 ซึ่งถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง รวมไปถึงการแสดงมายากลที่ผิดปกติ ละคร ฯลฯ
  • ตรอกฟันแลนด์: กลุ่มเครื่องเล่นที่ได้รับการบูรณะและดัดแปลงโดยใช้เครื่องเล่นพื้นฐาน รวมเข้ากันกับตัวอย่าง SCP-821-1 และสิ่งประดิษฐ์แปรผันความเป็นจริง โดยตรอกฟันแลนด์ถูกประดับตกแต่งด้วยแสงไฟ เสียง และแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวอย่าง SCP-821-1 มันจะถูกรวมเข้ากับเครื่องเล่นโดยตรง เช่น เอโธสแลนด์สปีดสเตอร์ ซึ่งตัวรถถูกสับเปลี่ยนด้วยตัวอย่างเดิม SCP-821-1 จาก 'แกลล็อปปิงแครูเซล' ผู้เข้าเล่นจึงนั่งบนหลังม้าซึ่งเคลื่อนที่ไปตามรางรถไฟเหาะด้วยตนเอง
  • คาร์นีส์คอร์เนอร์: คาร์นีส์คอร์เนอร์ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่เดิมเป็นคาร์นีส์โรว์ โดยเป็นการผสมผสานการแสดงของมนุษย์กับหุ่นยนต์เข้ากับการตีความนักแสดงละครสัตว์แบบดั้งเดิมด้วยแบบสมัยใหม่และเชิงศิลปะ พื้นที่แห่งนี้ยังเปิดให้สมาชิกพนักงานของเอโธสแลนด์ทั้งหมดอาศัยอยู่อย่างถาวร ดังเช่นที่เคยกระทำในอดีตอีกด้วย

เอโธสแลนด์ประสบความสำเร็จด้านรายได้เพียงเล็กน้อย — แม้ว่าผู้เข้าชมจะกล่าวว่าได้รับประสบการณ์ที่ 'เปลี่ยนชีวิต' และ 'อัศจรรย์' ก็ตาม แต่ด้วยผลกระทบจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ จึงทำให้มีผู้เข้าชมในจำนวนที่น้อย สวนสนุกจึงไม่สามารถทำกำไรได้มากนัก เนื่องมาจากจำเป็นต้องแข่งขันกับธุรกิจในประเภทเดียวกันที่ที่ได้รับความนิยมกว่า เมื่อเอโธสแลนด์ไม่สามารถเทียบเท่ากับสวนสนุกคู่แข่งทั้งในด้านขนาดและขอบเขตธุรกิจได้ พวกเขาจึงประสบปัญหาทางการเงิน และไม่สามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ เนื่องจากมีการทุ่มรายได้ทั้งหมดเพื่อจุนเจือเจ้าหน้าที่และศิลปินที่อาศัยอยู่ภายในสวนสนุก

หลังจากที่ประสบปัญหาทางการเงินมาเป็นระยะเวลา 3 ปี ในปี ค.ศ. 2012 สมาชิกผู้ก่อตั้งเอโธสแลนด์จึงได้ตัดสินใจที่จะร่วมทำงานกับศิลปิน องค์กร และชุมชนอื่น ๆ เพื่อที่จะทำให้สวนสนุกยังคงมีความหมายดังเดิม ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงได้ติดต่อกับบริษัทการแสดงที่มีชื่อเสียงด้านการจัดหาทรัพยากร และการแสดงที่หลากหลาย นั่นคือซูโดเจเนซิสโปรดักชั่นส์

ซูโดเจเนซิสโปรดักชั่นส์และเจ้าหน้าที่ในเอโธสแลนด์จึงได้ร่วมมือกันสร้างผลงานการแสดงแบบมีการโต้ตอบกับผู้ชมขนาดใหญ่ ซึ่งถูกกล่าวว่าเป็น 'จิตวิญญาณของเอโธสแลนด์ที่หวนคืนอีกครั้ง' เมื่อสวนสนุกเปิดให้บริการในฤดูร้อน ค.ศ. 2013 ผลงานดังกล่าวก็เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย

เมื่อเปิดให้บริการ ก่อนการแสดงรอบปฐมทัศน์ สเตฟานี ซูโด ซึ่งเป็นผู้กำกับและสมาชิกผู้ก่อตั้งซูโดเจเนซิสโปรดักชั่นส์ได้เข้าชม ต่อไปนี้คือบางส่วนของสุนทรพจน์ของเธอ ก่อนที่จะเปิดการแสดง "ไลฟ์ คอนทินิวด์"

"ไลฟ์ คอนทินิวด์ไม่ใช่ละครตามสวนสนุกแบบพื้น ๆ แต่อย่างใด เพราะมันไม่ใช่แค่การแสดง ไม่ใช่เพียงแค่ละครเวทีอันน่าตื่นเต้น ไม่ใช่แค่สิ่งบันเทิงที่กลวงเปล่า ไลฟ์ คอนทินิวด์ คือ เอโธสแลนด์เอง แต่ก็เป็นมากกว่านั้น มันเป็นทั้งดิ๊กซี ทั้งแฮมป์สตีด และฟันแลนด์ — ไม่ใช่จากมุมมองของพวกเรา แต่จากมุมมองของพวกเขาต่อตนเอง ผ่านทรงจำและวิญญาณที่ยังคงสถิตอยู่"

"นับแต่นี้เป็นต้นไป ไลฟ์ คอนทินิวด์จะคงอยู่ตราบเท่าที่สวนสนุกไม่หายไป ถึงฝนจะสาด ลูกเห็บจะตก จะเป็นวันโลกาวินาศ หรือกระทั่งการถูกกักกันก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งที่แห่งนี้ได้ จะทั้งผู้แสดง ทั้งเวที และแก่นของมันก็คือสวนสนุกแห่งนี้ เป็นภาพสะท้อนถึงผู้ที่อยู่มาก่อน ดวงชีวิตที่เลือนหาย เสียงกรีดร้อง ความสุข และเสียงหัวเราะที่ดังมาตลอดหลายทศวรรษที่สวนสนุกแห่งนี้ได้มอบความบันเทิงแก่แขกนับพัน — ทั้งหมดล้วนปรากฏในไลฟ์ คอนทินิวด์"

"อ้อ แล้วก็… อีกอย่างหนึ่ง ทั้งดวงวิญญาณและความทรงจำที่ร่อนเร่ ณ ที่นี่มีอยู่ก็จริง แต่ก็อย่าตื่นกลัวไป เพราะทุกสิ่งที่คุณได้เห็นไม่มีอยู่จริง ทั้งหมดก็เป็นแค่สิ่งสมมุติ พวกเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง จงเชื่อมั่นในวิญญาณของคุณ และเชื่อฟังสัญชาตญาณของคุณ พบพานกับสิ่งมหัศจรรย์ที่ปรากฏชัดข้างหน้าตน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง แห่งผืนพรมแดนที่ยังคงเติบโตนามเอโธสแลนด์"

ไลฟ์ คอนทินิวด์ หรือที่ได้รับรหัสเรียกเป็น SCP-821-A คือ ผลกระทบต่อความคิดที่ยังคงแสดงผลอยู่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งสวนสนุก โดยได้รับการกระตุ้นจากแก่นการตีความแบบวงกลมที่ได้รับการดัดแปลง ซึ่งเชื่อกันว่ามีอยู่ภายในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1600

SCP-821-A ก่อให้เกิด 'ภาพสะท้อน' หรืออาการประสาทหลอนกึ่งโปร่งใสที่ปรากฏเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ของสวนสนุก ซึ่งปรากฏขึ้นและรำลึกถึงช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของพวกเขา โดยพวกมันไม่สามารถถูกจับต้องได้ แต่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งปลูกสร้างที่เคยมีอยู่ในช่วงเวลาที่นั้น ๆ ได้ ภาพสะท้อนเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในลักษณะที่เหมือนกันในทุกครั้ง แต่มีรูปร่างและรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไปในทุก 'การปรากฏ' โดยตัวอย่างแต่ละตัวจะมีการกระทำต่าง ๆ อ้างอิงจากกิจวัตรในช่วงเวลาที่พวกมันยังคงมีชีวิตอยู่ ต่อไปนี้คือตัวอย่างที่น่าสนใจ:

  • SCP-821-A-2: มักมีการพบเห็น SCP-821-A-2 กำลังเดินอยู่ภายในส่วนเพลเชอร์การ์เดนส์ นั่งลงบนม้านั่ง และแสดงอาการยิ้มแย้มเมื่อมองดูผู้เข้าชมเดินผ่าน หากมีเด็กเข้าหา มันจะนำปุ่มออกมาโดยไม่ทราบวิธีการ และมอบให้เป็นของขวัญที่ระลึกกับเด็กคนนั้น ๆ โดยปุ่มดังกล่าวมีลักษณะที่ตรงกันกับที่มีการแจกจ่ายในช่วงราวปี ค.ศ. 1965 มีการระบุว่าตัวอย่างมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับโจนาธาน ดิ๊กซี
  • SCP-821-A-7: SCP-821-A-7 มีรูปร่างเล็ก ปรากฏตัวขึ้นเพียงในบางสถานการณ์เท่านั้น โดยในตอนแรกจะพบเห็นมันขณะกำลังออกจากรถบ้านในคาร์นีส์คอร์เนอร์ ก่อนที่จะเคลื่อนที่เข้าไปภายในสวนสนุก SCP-821-A-7 จะออกตามหาเด็กที่พลัดหลงซึ่งอยู่เพียงคนเดียว โดยมันจะเข้าไปจับมือเด็กคนนั้นเอาไว้ และเด็กที่พลัดหลงเหล่านี้จะถูก SCP-821-A-7 นำไปยังสำนักงานรักษาความปลอดภัย จากนั้นมักก็จะหายตัวไป อ้างอิงจากรายละเอียดที่ได้รับมาจากเด็กที่พลัดหลง สันนิษฐานว่า SCP-821-A-7 เดิมคือนายอ็อกเดน แฮมป์สตีด
  • SCP-821-A-23: SCP-821-A-23 มีลักษณะคล้ายคลึงกับหุ่นยนต์รูปทรงกอริลลาที่เคยเป็นผู้ควบคุมเครื่องเล่นที่โด่งดังในฟันแลนด์ โดย SCP-821-A-23 จะปรากฏตัวขึ้นภายในตรอกฟันแลนด์ทุกช่วงเย็น เวลา 19:00 น. ก่อนที่จะทุบเข้าที่หน้าอกของตนเอง และตะโกนใส่ผู้คนที่อยู่รอบตัว จากนั้นมันจะนำสายไหมขนาด FUN-ไซซ์3โดยไม่ทราบวิธีการ แล้วจึงกระโดดข้ามร้านค้าและเครื่องเล่นเพื่อที่จะไปยังชิงช้าสวรรค์ เมื่อไปถึงแล้ว SCP-821-A-23 จะปีนขึ้นไปบนเครื่องเล่นและเกาะที่จุดสูงสุด พร้อมกับโต้ตอบกับผู้เข้าชมที่กำลังเล่นเครื่องเล่นอย่างสนุกสนาน และจะหายตัวไปหลังผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ระหว่าง 20:05 น. จนถึง 21:15 น.

หลังจากการแสดงไลฟ์ คอนทินิวด์ในรอบปฐมทัศน์ เอโธสแลนด์ก็มียอดจำหน่ายบัตรเพิ่มขึ้นถึง 400% และได้รับการนำเสนอต่อสื่อมวลชนมากขึ้น รายงานข่าวซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดปกติประหลาดใจใน 'ภาพฉาย' โดยพวกเขาคิดว่าเป็นการใช้งานวิทยาการขั้นสูง เนื่องจากความเข้าใจผิดประการนี้ สถาบันจึงไม่จำเป็นต้องทำการกักกันใด ๆ โดยให้มุ่งเน้นไปที่การสังเกตการณ์แทน

แม้ว่าจะมีการจัดการแสดงที่ 'แหวกแนว' มากก็ตาม แต่ก็กลับไม่เพียงพอที่จะแก้ไขวิกฤตทางการเงินที่สวนสนุกประสบอยู่ได้ หลังจากที่เปิดให้บริการได้อีก 2 ปี ในวันปิดฤดูกาลที่ 50 ก็ได้มีการประกาศดังนี้ขึ้นทั่วสวนสนุก

แขกผู้มีเกียรติ พนักงานที่รัก และดวงจิตของผู้ยังคงสถิตอยู่ทุก ๆ ท่าน แม้ว่าเราจะพยายามมากเพียงใดก็ตาม แต่เราก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ดังที่เราต้องการ พวกเราจึงจำเป็นต้องให้การประกาศต่อไปนี้กับทุกท่าน

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เอโธสแลนด์เปิดให้บริการ อันเนื่องมาจากความกดดันทางการเงิน และการที่พวกเราไม่ยอมรับที่จะจ่ายค่าจ้างในอัตราที่ต่ำกว่าจะพอเลี้ยงชีพได้ พวกเราจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกเสียจากต้องยุติบทบาทของสวนสนุกแห่งนี้ พวกเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่ถูกลืมเลือนไป — หรือบางทีในอนาคต สถานที่แห่งนี้จะกลับมาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่และอลังการกว่าที่เคยได้

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้าเยี่ยมชมสวนสนุกของพวกเราในตลอดห้าสิบปีมานี้ ขอให้เราได้พบเจอกันอีกในวันข้างหน้า

เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว พวกเราคงจะเหลือแค่เพียงความทรงจำให้หวนคิดถึง

ภายหลังการประกาศข้างต้น SCP-821 ก็ถูกทิ้งร้างและได้รับการกักกันโดยสถาบันในช่วงหลายเดือนต่อมา โดยแม้ว่าจะไม่มีผู้เข้าชมหรือพนักงานภายในพื้นที่หลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย แต่ SCP-821-A ก็กลับยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยตัวอย่าง SCP-821-A มีอัตราการปรากฏตัวและความเด่นชัดลดลงอย่างเห็นได้ชัด

นับตั้งแต่ที่มันได้รับการกักกันโดยสถาบัน ก็ไม่พบตัวอย่าง SCP-821-A ประเภทใหม่อีกต่อไป อีกทั้งยังได้มีการยุติการวิจัยทั้งตัวอย่าง SCP-821-1 ที่ยังคงหลงเหลืออยู่และ SCP-821-A ลง อันเนื่องมาจากการเสื่อมสภาพผิดปกติของวัตถุที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ การวิจัยเกี่ยวกับวิธีการย้อนผลหรือชะลอการเสื่อมสภาพผิดปกติดังกล่าวได้ถูกระงับเอาไว้ เนื่องจากสถาบันไม่สามารถทราบถึงวิธีการใด ๆ ที่จะย้อนผลกระทบดังกล่าวได้ นอกเสียจากการเปิดบริการสวนสนุกแห่งนี้อีกครั้ง — โดยการกระทำดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อมาตรการม่านปิดบัง

คาดว่า SCP-821 จะถูกทำให้หมดสภาพผิดปกติภายในปี ค.ศ. 2030 เป็นอย่างช้าที่สุด


กลิ่นพื้นดินที่นี่มีบางอย่างที่ต่างออกไป หลังจากที่ฝนตกลงมา ก็ไม่ได้มีเพียงไอดินโชยกลิ่นเท่าน้น มันมีสิ่งอื่นที่มากกว่านั้นปะปน ที่นั่นมีกลิ่นของทั้งความเก่าแก่ ความเป็นนิรันดร์ และความยืนยง

เมื่อฝนลงเม็ด กลิ่นสายไหมและข้าวโพดคั่วจะคลุ้งลอยมาเสมอ เมื่อลมโบกพัด บานกั้นจะถูกดันปิด และความทรงจำจะกองทับถมในโครงอาคารอันทรุดโทรมจนแทบจะล้มลงสู่พื้นดิน

เมื่ออาทิตย์สาดแสง สวนสนุกแห่งนี้จะคืนสู่ชีวิตชีวา เปี่ยมเสียงขำขันและเหล่าเด็ก ๆ และเมื่อพระจันทร์แทนที่ ทั้งศิลปิน นักแสดง คณะละครสัตว์ และผู้คนจำนวนเล็กน้อยที่ลุ่มหลงและอุทิศตนให้สถานที่แห่งนี้จะส่องเฉิดฉาย

ในทุกคืนก็คือการเฉลิมฉลอง และในทุกวันก็คือการรำลึกความหลัง

และสักวันข้างหน้า จะเหลือแต่เพียงเถ้าทรงจำของผู้เคยเยี่ยมชมและชื่นชอบสวนสนุกแห่งนี้ และภาพถ่ายที่ได้รับ ดิ๊กซีส์เพลเชอร์การ์เดนจะงันสงัดดังเดิมที่เคยเป็นมาโดยตลอด

ความบันเทิงนั้นจวนแหลกลาญ

เวลาบ่ายประจำแผนกผู้ป่วยภาวะวิกฤตก็คงจะไม่มีอะไรพิเศษมากเท่าห้องของผู้ป่วยโคม่า อดีตนักวิจัย แมรี่ เบอร์มองต์

เสียงหายใจหนักๆ ของคนที่เพิ่งถูกดึงกลับมาจากความตายผสมกับจังหวะทุ้มของเครื่องวัดชีพจรที่ปลุกให้กลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง

มันดังและตกกระทบในห้องพักฟื้น นักวิจัยแมรี่ลืมตาขึ้นมาในสภาพเปื่อยปวกเปียกที่สุดในชีวิตของเธอ

แมรี่เห็นเพดานสีขาวเป็นวงกลมและแสงไฟที่สว่างจ้าจนทำให้ตาแสบไปหมด แต่ที่กวนใจมากสุดไม่ใช่แสง มันคือความว่างเปล่าในหัว ที่เหมือนมีอะไรขาดหายไปเป็นแถบกว้าง

เธอพยายามขยับ แต่ร่างกายไม่ยอม ทุกอย่างแทบจะไม่ใช่ของเธอ ลิ้นพัน คอแห้ง จนเสียงหอบกลายเป็นจังหวะเดียวในหัวที่เธอรู้สึกในตอนนี้

“หมอคะ! เธอตื่นแล้วค่ะ! ตื่นแล้วจริงๆ!” พยาบาลวัยยี่สิบกว่าร้องก่อนจะพุ่งเข้ามาพร้อมกับคนอื่นๆ ทีมแพทย์โถมเข้ามาเป็นฝูงจิ้งหรีดเจอไฟ เสียงหยดน้ำเกลือและคำถามทำให้ แมรี่ เริ่มรู้ว่าปวดหัวอีกครั้ง มือเย็นๆหนึ่งข้างจับมาที่ข้อมือเธอ เป็นหลักฐานว่าเธอยังอยู่กับความจริง ไม่ใช่ฝันอีกต่อไป

แต่ในหัวของแมรี่กลับเต็มไปด้วยภาพที่ไม่สมเหตุสมผล เศษความทรงจำแตกละเอียดคล้ายกระจกแตกเป็นพันชิ้น และทุกชิ้นสะท้อนภาพของชื่อเดียวกัน

"ไม่..” แมรี่พึมพำ เธอพยายามยกมือขึ้นมาเพื่อปิดตา แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนองอะไรเลยสักอย่าง อย่างกับว่าทุกส่วนมันหนักไปหมด “แคทรีน่า…ไม่จริง…”

แคทรีน่า คือชื่อที่ปรากฏขึ้นในความคิดแรงจากความว่างเปล่าในหัวของเธอ เป็นชื่อที่เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างน่าประหลาด ก่อนที่ภาพจะเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ภาพของเธอในชุดกาวน์ที่เปื้อนดินและน้ำเลี้ยงต้นไม้ เธอถือท่อเหล็กที่ใช้เป็นอาวุธอย่างทุลักทุเล เหมือนกำลังพยายามจะปกป้องใครบางคนจากรากไม้ที่เลื้อยเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ปกป้องใคร? คำถามนี้ทำให้เธอหายใจติดขัดและมันเริ่มดังซ้ำในหัวไปมาและสะท้อนใส่กระจกจนมันเริ่มหนักกว่าเดิม

“คุณเบอร์มองต์! หายใจเข้าช้าๆครับ! อย่าเกรง!” เสียงของแพทย์ชายคนหนึ่งแทรกเข้ามา “ตอนนี้คุณปลอดภัยแล้ว! คุณอยู่ที่ศูนย์ยี่สิบ นี่คือแผนกพยาบาลพิเศษ… คุณจำชื่อตัวเองได้ไหมครับ?”

“มะ..เม..แมรี่…” เธอตอบได้เพียงเท่านั้น คำพูดเธอแทบไม่ออกมา ราวกับพูดผ่านกองทราย ดวงตาเบิกกว้างอย่างเด็กที่ตื่นขึ้นมาในที่ไม่รู้จัก

สู้เพื่อแกมม่า…

ความทรงจำสุดท้ายที่ชัดเจนคือคำนั้น ก่อนที่ภาพจะแตกสลายกลายเป็นสวนดอกไม้ใต้แสงอาทิตย์ที่งดงาม เสียงหัวเราะอันแผ่วเบา และใบหน้าของ แคทรีน่า ที่กำลังยื่นมือให้เธออย่างอ่อนโยน ใบหน้าหญิงสาวที่สวยงามที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา มันทำให้เธอรู้สึกน้อยใจอย่างแปลกประหลาด

แพทย์หยุดเล็กน้อย มองไปที่แฟ้มที่อยู่ในมือ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เน้นย้ำทุกพยางค์

"คุณรอดมาได้เพราะจากการผ่าตัดนานสิบหกชั่วโมงครับคุณเบอร์มองต์ นั่นคือการผ่าตัดที่ซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของศูนย์นี้ เราต้องนำเชื้อเห็ดราที่ลุกลามเข้าไปในเนื้อเยื่อปอดของคุณออก…" เขาลังเลเล็กน้อยแต่ก็เลือกที่จะพูด

"คุณสูญเสียอวัยวะที่สำคัญไปหนึ่งชิ้น แต่นั่นคือการรักษาเดียวที่จะหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อได้"

น้ำตาเริ่มไหลช้าๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัว แมรี่หายใจหอบถี่จนพยายามเอามือคว้าคอเสื้อของแพทย์

“มันเป็นฝันใช่ไหมคะ? บอกฉันสิ! บอกฉันว่ามันเป็นแค่ฝันน่ะ!”

ทีมแพทย์ฉีดยาให้เธออีกครั้งอย่างรวดเร็วเพื่อระงับอาการแพนิกที่รุนแรง แมรี่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ไหลเข้าสู่เส้นเลือด ก่อนที่เปลือกตาจะหนักจนปิดลงไปอีกครั้ง เสียงของแพทย์ดังอู้อี้เหมือนมาจากใต้น้ำ แต่คำสุดท้ายที่เธอได้ยินก็ตอกย้ำความจริงที่เธอหนีไม่ได้

“หลับไปก่อนเถอะครับ คุณเบอร์มองต์ คุณเพิ่งพลาดการใช้ชีวิตไปสองปีเต็มๆ”


“ชื่อ?”

“แมรี่ เบอร์มองต์”

“สัญชาติ?”

“แคนาดา”

“ผลคูณของ สามสิบเจ็ด กับ ห้าสิบเก้าคือ?”

“สองพันหนึ่งร้อยแปดสิบสาม” เธอตอบทันทีด้วยความแม่นยำทางคณิตศาสตร์ที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างรวดเร็ว

“ดีมากครับ” แพทย์จดบันทึก

“ทีนี้เราจะกลับไปคุยที่เรื่องเดิมกันนะครับ เกี่ยวกับความฝันของคุณ… คุณจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงสองปีก่อนหน้าการตื่นของคุณ?”

แมรี่รวบรวมลมหายใจเข้าปอดที่ติดขัด ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระบบทางเดินหายใจ แต่เป็นเพราะว่าเธอเหลือปอดเพียงแค่ข้างเดียวแล้วในตอนนี้ อาการหวาดระแวงและขี้กังวลทำให้เธอมองหน้าแพทย์อย่างไม่ไว้ใจ สำหรับเรื่องพวกนี้ทำให้เธอไม่แน่ใจว่าควรตอบไหม แต่สัญชาตญาณนักวิจัยของเธอสั่งให้ตอบตามความจริง

“ไม่มีอะไรเลยค่ะ มีแค่…ภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาในหัว” เธอเริ่มเล่าเรื่องราวอย่างมีเหตุผล

"ฉันจำได้ว่าฉันกำลังสู้กับเธอ เพื่อช่วยแกมม่า แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป…มันรู้สึกเหมือนจริงมากค่ะ” แมรี่กล่าวเสียงแผ่ว

"แต่กลับกัน มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างแท้จริง แต่ฉันรู้แล้วว่ามันไม่แม้จะจริงสักนาทีเดียว มันคือสิ่งที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมาเพื่ออะไรสักอย่าง…ที่แม้แต่ฉันก็ไม่เข้าใจ”

“คุณเบอร์มองต์ครับ” แพทย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายลงมาก

“คุณมีความเสถียรทางสติปัญญาสูงมากก็จริง แต่ความทรงจำเหล่านี้เป็นผลกระทบทางจิตวิทยาที่หลงเหลืออยู่ มันเป็นกลไกป้องกันตัวของสปอร์เพื่อสร้างภาพจำปลอมเพื่อยับยั้งการตอบสนองของสมองส่วนลิมบิกแก่เหยื่อ แต่สำหรับคุณแล้ว ผลกระทบไม่ได้รุนแรงคล้ายมนุษย์เพศชายครับ”

เขาหยุด เหมือนกำลังเลือกคำพูดในหัว

“คุณเป็นหนึ่งในสองคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น คุณกับอดีตนักวิจัยแกมม่า”

“อดีต…อดีตนักวิจัยแกมม่า?” แมรี่พึมพำชื่อนี้อีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือ

“เขาอยู่ในห้องรักษาตัวพิเศษนานแล้วล่ะครับและในไม่กี่เดือนเจ้าหน้าที่จะต้องย้ายตัวเขาออกจากที่นั่นแล้ว แต่คุณนั้นโชคดีกว่ามาก” แพทย์หยุดชั่วครู่เพื่อให้แมรี่ประมวลผล

“อาการกลัวเลือดและความอ่อนไหวทางจิตใจของคุณทำให้คุณถูกจัดเป็นเคสพิเศษก็จริง แต่สถาบันได้ยืนยันว่าคุณยังคงเป็นบุคลากรที่มีค่าอย่างยิ่ง”

คำว่า 'มีค่า'ฟังแล้วรู้สึกจะเป็นคำปลอบใจในห้องสอบสวน มากกว่าความหวังใดๆที่ตอนอยากได้ยินในตอนนี้

“ส่วนใหญ่ผลกระทบของวัตถุจะทำให้มนุษย์เพศหญิงเสียชีวิตก่อนที่เราจะได้ทำการช่วยเหลือ แต่กลับมีเพียงคุณเท่านั้นที่ยังคงรอดชีวิต คุณจะต้องเข้ารับการบำบัดทางกายภาพและจิตใจต่อไปและ…" เขาหยุดก่อนจะอ่านข้อมูลในกระดาษ

"จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้ามาสอบถามถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ ซึ่งจะถือเป็นรายงานเสริมในการปิดคดี นี่เป็นขั้นตอนปกติ ขอให้คุณทำใจให้สบาย…และระหว่างนี้ สถาบัน อยากให้คุณใช้เวลาพิจารณาถึงอนาคต คุณพร้อมไหมที่จะรับงานของสถาบันต่อ?”

แมรี่หลบตามองมือตัวเองที่วางอยู่บนตัก ตัวสั่นเล็กน้อย เหมือนไม่รู้จักร่างกายตัวเองอีกต่อไป

"ฉัน..ขอเวลาได้ไหมคะ?"

แพทย์ถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อ

เมื่อการสอบถามเบื้องต้นสิ้นสุดลง แพทย์ก็ยืนขึ้นและเก็บแฟ้มลงในกระเป๋า

“เราจะจัดตารางการบำบัดให้คุณใหม่ทั้งหมดครับคุณเบอร์มองต์” แพทย์กล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นทางการ

“การบำบัดทางกายภาพจะเริ่มต้นในช่วงบ่าย พรุ่งนี้คุณจะต้องเข้ารับการประเมินทางจิตวิทยาโดยละเอียดอีกครั้งและนี่คือชุดเสื้อผ้าใหม่ของคุณและกุญแจห้องเก็บของส่วนตัวของคุณในแผนกดูแลทรัพยากรของเซกเตอร์ที่หนึ่ง ซึ่งมันถูกเก็บรักษาไว้นานแล้วและคุณจะได้รับคืนก็ต่อเมื่อคุณได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงานได้เท่านั้น”

แมรี่พยักหน้าอย่างว่างเปล่า เธอยังคงพยายามเชื่อมต่อความรู้สึกและความจริงเข้าด้วยกัน

ประตูห้องพักฟื้นถูกเปิดออกอีกครั้ง และมีร่างสูงผอมที่สวม เสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ไทย สุดแสบสันต์อยู่ใต้เสื้อกาวน์สีขาวปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าของเขาถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดสีเข้ม แม้จะอยู่ในห้องที่สว่างจ้าก็ตาม

“อ้าว! คุณหมอวิลเลี่ยม เป็นไงบ้างครับเนี่ย?” ชายคนนั้นทักทายอย่างเป็นกันเองเกินเหตุ จับมือกับแพทย์ที่พึ่งคุยกับเธอ

“ทำงานเร็วเหมือนเคยเลยนะครับ ผมเกือบจะมาไม่ทันแล้วนะเนี่ย”

แพทย์ถอนหายใจอีกครั้งแต่ก็พยักหน้าให้อีกฝ่าย

“ดร.ชาน”

แพทย์เรียกชื่ออย่างเป็นทางการ

“ผมอนุญาตให้คุณได้ไม่เกินสิบนาทีครับ”

“แหม! แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วครับคุณหมอ ผมขายประกันหรือมอบความหวังเนี่ย ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีหรอกครับ!” ดร.ชานกล่าวอย่างอารมณ์ดี แต่แพทย์ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว

เขาก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกล่องช็อกโกแลตสี่เหลี่ยมสีทองที่แนบข้างตัวไว้เดินตรงมาหาเธอ

แมรี่มองเขาด้วยความสับสนชาน? เธอเหมือนจะจำได้ว่าพวกเขาเคยรู้จักกัน เพราะเคยเจอกันบ่อยหรือไม่นั้นก็แค่ภาพฝันในอดีตที่เธอรู้จักเขาในฐานะคนที่ไม่เอาไหน

“สวัสดีครับ คุณแมรี่" ดร.ชานทักทายอย่างร่าเริง เขาวางกล่องช็อกโกแลตลงบนโต๊ะข้างเตียง

“ดีใจด้วยจริงๆ ในที่สุดคุณก็ตื่นแล้วนะ ผมแทบจะยกแก้วฉลองแน่ะ! รับช็อกโกแลตหน่อยไหม?”

“คุณ…คุณมาทำอะไรที่นี่ ชาน?” แมรี่ถามเสียงแหบแห้ง

“มาเยี่ยมสิครับ! เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันนี่นา! เอ้ยไม่สิ ผมต้องใช้คำว่าเคยเป็นสิครับ” ดร.ชานดึงเก้าอี้มานั่งข้างเตียง

“แหมก็นะ ตอนนี้ผมได้ตำแหน่งใหม่แล้วน่ะ เป็นผู้อำนวยการแผนกสร้างและปกปิดข้อมูล ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ? จากนักวิจัยระดับสามโง่ๆ ที่เคยแวะมาหาคุณในห้องทำงานเพื่อขอคำแนะนำ แต่ตอนนี้ต้องเป็นนายคนคอยคุมเบื้องหลังองค์กร ก็ขอให้มันเป็นบทเรียนนะครับคุณแมรี่ จงฉวยโอกาสในวิกฤต”

แมรี่ไม่ตอบ เธอเพียงมองเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ซึ่งกระตุ้นให้ชานลดรอยยิ้มลงเล็กน้อย

“คุณแมรี่… ผมจะพูดตรงๆ นะ” ดร.ชานปรับท่าทาง

"ก่อนที่เราจะโทษกันเอง ผมอยากให้คุณเข้าใจมูลค่าของตัวเองก่อนนะครับคุณแมรี่" ดร.ชานเอนตัวเข้ามาใกล้เล็กน้อย แว่นกันแดดสะท้อนแสงไฟในห้อง

“รู้ไหมว่าทำไมคุณถึงรอดจากการผ่าตัดที่มีโอกาสตายเกินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ มันไม่ใช่เพราะโชคหรอกนะ" เขายื่นหน้ามาใกล้เธอมากขึ้น จนแมรี่สังเกตเห็นหน้าเธอเองผ่านแว่นของดร.ชาน

" แต่เป็นเพราะการตัดสินใจให้ดำเนินการต่อมาจากผู้อำนวยการศูนย์ พวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่าคือการลงทุนด้านบุคลากรที่มีมูลค่า"

"คุณไม่ได้รอดมาได้เพราะโชคช่วย คุณรอดเพราะสถาบันตีค่าความสามารถของคุณสูงเกินกว่าจะปล่อยให้ทิ้งตายไปเฉยๆ”

เขาหันไปมองกระจกข้างผนังก่อนจะหันกลับมาที่เธออีกครั้ง

“ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น ผมไม่รู้รายละเอียดลึกๆ หรอกนะว่าเกิดอะไรกับคุณบ้าง แต่ผมเป็นนักวิเคราะห์ ผมอ่านรายงานและผมรู้ว่าคุณพลาดตรงไหน คุณกับอดีตนักวิจัยแกมม่าน่ะผิดพลาดกันตรงไหนรู้ไหม?”

เขาเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เสียงกระซิบของเขาเต็มไปด้วยความเสียดสี

“พวกคุณพลาดเพราะคุณเลือกเป้าหมายผิดทาง คุณคาดหวังในสิ่งผิดๆตั้งแต่คุณมาเหยียบที่สถาบันแห่งนี้ พวกคุณทั้งคู่มีทางเลือกแค่สองทางเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป คือ ก้าวไปข้างหน้า คว้าโอกาส ปกป้องตัวเอง ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือ ก้าวถอยหลัง คุณยอมแพ้ หนีปัญหา ถูกทอดทิ้ง ไม่แก้ไขอะไรเลย แต่คุณแมรี่” เขาใช้ปลายนิ้วเคาะที่ขอบเตียง

“ดูท่าแล้ว คุณจะเลือกข้อที่สามนะครับ คุณแค่อยู่กับที่ คุณเลือกที่จะติดอยู่ในฝันที่มีความสุข ที่ถูกปรุงแต่งจากสปอร์เห็ดรา ในขณะที่เหตุการณ์นั้น พรากความฝันและชีวิตหลายคน ไปจากโลกจริง มีแค่คุณกับเขาที่รอดมาได้…”

ความว่างเปล่าในดวงตาของแมรี่เปลี่ยนเป็นความผิดหวังอย่างรุนแรง เธอเริ่มร้องไห้ออกมา

“แต่ฉันไม่รู้ ฉันจำอะไรไม่ได้เลย…” แมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อัดอั้นในใจที่ค้างคามาตลอดปี

“มันเหมือนว่า เวลาของฉันถูกขโมยไป สองปีของฉันหายไป และสิ่งที่เหลืออยู่คือแค่ภาพลวงตาของความสุข ฉันพยายามจะสู้แล้วฉันจำได้ว่าฉันพยายามจะสู้”

“ผมทราบครับ” ดร.ชานตอบอย่างนุ่มนวลอย่างผิดปกติ

"ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดีครับ ความผิดหวังในตัวเองเป็นยาขมที่แรงที่สุด แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วล่ะครับ”

เขาหยิบช็อกโกแลตมาแล้วหักแบ่งหนึ่งชิ้น ก่อนจะวางลงบนฝ่ามือของแมรี่

“คุณไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองหรอกครับ ที่นี่คือสถาบัน สถานที่แห่งนี้ใช้ไม่ได้ผลหรอกกับความเห็นใจน่ะ มันถูกใช้เป็นแค่เหรียญแลกเปลี่ยนเท่านั้น ผมมาทำหน้าที่ ไม่ได้มาเห็นใจใคร” เขากินช็อกโกแลตที่แบ่งมาก่อนจะพูดต่อ

“หน้าที่ของผมคือการเตรียมคุณให้พร้อม พร้อมสำหรับการสอบสวนเพื่อเป็นรายงานเสริมในการปิดคดีให้เรียบร้อย ในไม่ช้าหรือเร็วจะมีคณะสอบสวนพิเศษมาสอบปากคำคุณ คุณไม่ได้ทำอะไรผิด คุณเป็นเหยื่อ ผมก็เลยอยากให้คุณพูดความจริงทั้งหมด"

แมรี่พยักหน้าเข้าใจ แต่ก่อนที่เธอจะถามอะไร เขาก็พูดตัดเธอก่อน

"อย่าพยายามทำให้มันฟังดูดี อย่าเก็บมันไว้ข้างใน ตอบความจริงให้หมด ตอบเท่าที่คุณทำได้ บอกทุกอย่างที่สมองคุณยังจำได้ แม้กระทั่งภาพฝันของคุณ สถาบันเราไม่ต้องการวีรสตรี พวกเขาต้องการความจริงที่นำไปสู่การปกปิดได้อย่างสมบูรณ์แบบก็เท่านั้น”

เธอเงียบไปอีกครั้ง ก่อนจะพูดเบาๆ

“แกมม่าอยู่ไหนคะ”

“ตอนนี้อยู่ในเขตพยาบาลที่ดัดแปลงมาจากพื้นที่เพาะชำ ตามข่าวแล้วเขาจะถูกย้ายในเร็วๆนี้ ไปห้องที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า แต่ว่า..”

“แต่ว่า?”

“ในแง่ทางกายภาพน่ะ เขาดูไม่ดีนัก” เขาตอบเรียบ แต่แววตาเศร้าไปชั่วครู่

“ส่วนจิตใจ ผมไม่แน่ใจนักหรอกว่าเขาใช่คนเดียวกันที่ผมรู้จักไหม”

เขามองเธอตรง ๆ

“ผมรู้ว่าคุณอยากหายไปจากที่นี่ อยากย้าย อยากลืมทุกอย่าง แต่ฟังนะ ถ้าคุณไม่อยู่ รายงานนี้จะไม่มีวันถูกปิดอย่างถูกต้อง คุณคือพยานคนสุดท้ายที่ยังพูดได้และทุกคนจะเชื่อคุณ”

“แล้วคุณล่ะ ชาน คุณอยู่ไปเพื่ออะไร” เธอถามเสียงแผ่ว

เขาเงียบ ไม่พูดอะไร ถอดแว่นตามาเช็ดแล้ววางไว้ที่ตักของเขา ก่อนจะหันมามองที่แมรี่

“เพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก”

ประโยคสั้นๆ แต่ชัดพอจะทำให้เธอหันมามองเขาตรงๆ ครั้งแรก ดวงตาสองคู่มองกันอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะหยิบแว่นขึ้นมาสวม

"เรามาพูดเรื่องที่น่าตื่นเต้นหน่อยดีกว่า หลังจบการสืบสวน คุณก็มีสามทางเลือกใหม่ให้เลือกครับคุณแมรี่ คุณจะลาออกไหม? คุณจะถูกลบความทรงจำพร้อมไปใช้ชีวิตข้างนอกและเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่สถาบันมอบให้ หรือ ทำงานต่อโดยใช้ความสามารถอันล้ำค่าของคุณเพื่อสถาบัน ไม่ก็ ย้ายแผนก ไปทำอะไรที่เล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยังมีค่าพอที่เหล่า O5 ต้องก้มลงมามองคุณ"

แล้วเขายิ้มบาง

“คุณคิดว่าคุณจะเลือกทางไหนดีล่ะครับ? ผมพร้อมรับฟังทางเลือกของคุณเสมอ ก่อนที่เจ้านายใหญ่จะมาบังคับให้คุณเลือกแทน คิดให้ดีนะครับคุณแมรี่ แล้วผมจะทำเอกสารไว้ให้คุณ” เขาทำหน้าตาย ก่อนจะผ่อนคลายเป็นรอยยิ้มน้อย

“ทั้งสองอย่างเป็นทางเลือกที่ใช้งานได้ แต่ก่อนจะพูดถึงคุณต้องบอกความจริงให้ชัดก่อน แล้วค่อยว่ากันต่อ” เขาลุกขึ้นยืน เดินไปที่ประตูก่อนหันกลับมาอีกครั้ง

“จำไว้นะ สองอย่างนี้จะขโมยความทรงจำของคุณ ถ้าคุณให้พวกเขาเข้ามา ความกลัวกับความยินดีผิดที่ผิดเวลา อย่าให้อันไหนมากำกับคำพูดของคุณ แค่พูดสิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่อยากให้คนอื่นเชื่อ”

แล้วเขาก็จากไป เหลือเพียงช็อกโกแลตและรอยยิ้มที่อาจจะจริงหรือแค่ท่าทางประกอบ

แมรี่นั่งมองช็อกโกแลตในมือที่หักแบบเละเทะ เธอกรอกมันเข้าปากอย่างไม่คิดอะไร ก่อนรสหวานจู่โจมลิ้นอย่างไม่คาดคิด เธอรู้สึกเหมือนมีน้ำหนักตกทับใส่อก ไม่ใช่ความหนักของความจริงทั้งหมด แต่เป็นความหนักจากการต้องตัดสินใจในไม่กี่วันข้างหน้า

ก่อนไฟจะหรี่ลง เธอมองที่มือของตัวเอง ดูนิ้วที่เคยจับปากกาเคมี จับกรรไกร แล้วหันไปมองไปยังหน้าต่างที่เห็นแผ่นคอนกรีตและในเงามืดของแผ่นคอนกรีต เธอเผลอคิดว่ามีใครมองกลับมา แต่แสงและเงาทำให้มันดูเหมือนภาพลวงตาอีกใบ เธอกลืนน้ำลายแล้วปล่อยให้ความมืดเข้ามาโอบกอดเธอ


ห้องสอบสวนของศูนย์-20 เย็นเฉียบอย่างที่ควรจะเป็น ไม่มีสิ่งใดข่มขู่ผู้ต้องสงสัยได้ดีไปกว่าความเงียบและเสียงนาฬิกาแขวนที่เดินอย่างสม่ำเสมอเกินไป โต๊ะโลหะสะท้อนแสงสีขาวจากหลอดไฟเหนือศีรษะจนเกือบแสบตา พื้นคอนกรีตถูกขัดจนเห็นรอยขีดข่วนจากขาเก้าอี้ที่ลากไปลากมาในแต่ละรอบการสอบสวนก่อนหน้า กล้องขนาดเล็กในมุมห้องกะพริบไฟแดงเบาๆ เตือนว่าทุกคำพูดของเธอจะไม่มีวันถูกลืม

แมรี่นั่งอยู่ตรงกลางเหมือนจุดศูนย์กลางของการทดลองครั้งใหม่ คราวนี้เธอไม่ใช่นักวิจัยที่เป็นฝ่ายสอบสวน แต่เป็นฝ่ายที่ถูกสอบสวนแทน

เสื้อผ้าฝ้ายสีเทาของสถาบัน ทำให้เธอดูเปราะบางคล้ายกระดาษบางๆ ที่พร้อมจะฉีกขาดทุกเมื่อ เส้นผมสีแดงซีดปรกหน้าผาก บางส่วนยังคงยุ่งเหยิงจากการบำบัด เธอดูผอมกว่าในภาพถ่ายประจำตัวมากจนเกือบจำไม่ได้ แต่ในดวงตาคู่นั้น ยังมีแววตาของนักวิเคราะห์ที่ไม่ยอมให้ความกลัวกลืนกินจิตใจ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระดับสูงสองคนประจำโต๊ะฝั่งตรงข้าม หนึ่งในนั้นชายวัยกลางคนในสูทสีดำ ผิวหน้าดูเรียบเกินจริงเหมือนผ่านการผ่าตัดมากเกินจำเป็น เขาเป็นผู้ควบคุมการสอบสวน เสียงพูดของเขาคมอย่างกับมีดผ่าตัดที่ตัดผ่านความเงียบโดยไม่ต้องออกแรงมาก

“คุณเบอร์มองต์ เราเข้าใจว่าคุณยังไม่ได้พักฟื้นอย่างเต็มที่มากนัก แต่เพื่อปิดรายงานเสริมของเหตุการณ์รั่วไหลเมื่อสองปีที่ผ่านมา เราจำเป็นต้องอาศัยความสามารถในการจำของคุณ”

เสียงจังหวะปากกาของเขากระทบกับโต๊ะเหล็กสามครั้งอย่างสม่ำเสมอ

“คำถามครับ โปรดเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับวัตถุและอดีตหัวหน้าโครงการอย่างนักวิจัยแกมม่า ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงช่วงที่คุณถูกยับยั้ง"

คำว่า 'ยับยั้ง' ดังสะท้อนอยู่ในห้องเหมือนคำสาป เธอไม่แน่ใจว่าพวกเขาหมายถึงโคม่าที่เธอตกอยู่ในนั้นหรือการหยุดทำงานของจิตใจ ที่เกิดก่อนหน้านั้นเสียอีก

แมรี่เงยหน้าขึ้น ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย เธอพยายามจะตอบอย่างที่ดร.ชานเคยบอกไว้ พูดทุกอย่างที่จำได้ แม้แต่ภาพฝันก็อย่าเก็บไว้ แต่พอเธอเริ่มนึกถึงสิ่งนั้นภาพในหัวกลับปะทะกันอย่างรุนแรง คล้ายกับกระจกสองบานสะท้อนกันเองจนแตกละเอียด

ความทรงจำจริง และภาพลวงที่ปลูกฝังไว้ มันซ้อนกันอยู่ในหัวเธอ อย่างกับฟิล์มเก่าที่ถูกฉายทับซ้ำ เสียงของแกมม่า เสียงหัวเราะของตัวเอง กลิ่นดินในโรงเพาะชำทั้งหมดกลับมาพร้อมกันจนเธอหายใจไม่ออก

นิ้วมือของเธอกำแน่นอยู่บนโต๊ะโลหะ เย็นเฉียบจนปวดข้อนิ้ว

“คุณเบอร์มองต์ครับ?” เสียงผู้ควบคุมการสอบสวนดังขึ้นอีกครั้ง แต่เธอแทบไม่ได้ยินเพราะเธอกำลังตกกลับเข้าสู่ห้วงความทรงจำเดิม

เสียงเครื่องบันทึกยังทำงานอยู่ แต่ภาพในสายตาของแมรี่เริ่มบิดเบี้ยว เสียงเก้าอี้โลหะในห้องสอบสวนกลายเป็นเสียงลมพัดผ่านเรือนกระจก เสียงเคาะปากกากลายเป็นเสียงหยดน้ำบนใบไม้ ภาพรอยแตกบนผนังคอนกรีตเปลี่ยนเป็นรอยแยกของกระจกที่สะท้อนแสงอาทิตย์ยามบ่าย เธอหลุดกลับไป ในอดีตในโรงเพาะชำกักกัน SCP 300 TH

พื้นห้องปกคลุมด้วยดินสีดำสนิทที่ยังชื้นราวกับมีชีวิต เสียงระบบหมุนเวียนอากาศดังแผ่วบางและในศูนย์กลางของเรือนเพาะชำคือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า 'วัตถุ'

สิ่งมีชีวิตนั้นดูเหมือนหญิงสาว แต่ผิวของเธอคือเปลือกไม้ ผมคือรากพันกันแน่น ใบหน้ามีลักษณะเป็นดอกไม้บานที่เปลี่ยนรูปร่างตามมุมมองของผู้สังเกต ทุกครั้งที่เธอขยับ กลีบดอกไม้จะปลดปล่อยละอองเป็นฝุ่นแสงสีทองที่เต้นระบำกลางอากาศ

“ดูสิ แมรี่”

เสียงของแกมม่าดังขึ้น น้ำเสียงสดใสและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานแบบที่เธอไม่ค่อยได้ยินจากเขาในห้องทดลองทั่วไป เขาชี้ไปยังวัตถุที่กำลังยื่นรากที่คล้ายมือออกมาสัมผัสดิน

“เราคิดว่าเธอแค่ดูดซับพวกแร่ธาตุเหมือนพืชทั่วๆไป แต่มันไม่ใช่เลย เธอกำลังสร้างระบบหมุนเวียนของตัวเองอยู่ใต้พื้น คล้ายกับการจำลองโครงข่ายรากไม้ขนาดใหญ่”

แมรี่บันทึกข้อมูลลงในแท็บเล็ต

“มันค่อนข้างจะฉลาด…ฉลาดเกินกว่าที่เราประเมินไว้เยอะเลยนะ มันสามารถเร่งการเน่าเปื่อยของพืชรอบๆ เพื่อสร้างปุ๋ยได้ เป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดระดับสูงเลยทีเดียว”

แสงอาทิตย์ลอดผ่านกระจกบนเพดาน กลีบดอกไม้ของ SCP 300 TH สะท้อนประกายราวกับทองคำที่กำลังละลาย แมรี่รู้สึกถึงกลิ่นหอมบางๆ คล้ายกลิ่นดินเปียกหลังฝนผสมกลิ่นเลือดแผ่วๆ ที่เธอไม่รู้ว่ามาจากไหนและเธอกลับรู้สึกไม่ตื่นตระหนกอะไรกับกลิ่นเลือดพวกนั้น เธอจดจ่ออยู่กับการเขียนโดยพยายามไม่ให้จิตใจหลุดไปกับมัน แต่กลับรู้ดีขึ้นอย่างแปลกประหลาดหลังมาทำงานในสถานที่แห่งนี้มาอย่างยาวนาน จนเธอเริ่มคิดว่านี้คือสิ่งที่เธออยากเฝ้าคอยมานานหรือเปล่า แต่ก็เป็นสิ่งที่เธอจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองอีกเลย

วันเวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ

SCP 300 TH ไม่เคยแสดงท่าทีคุกคามต่อพวกเขา มันเพียงแค่ 'เฝ้ามอง' และ 'ตอบสนอง' ด้วยการเคลื่อนไหวที่ละมุนละไม บางครั้งกลีบดอกของมันจะเอียงตามทิศทางเสียงที่แมรี่พูด บางครั้งรากของมันจะขดคล้ายการสั่นหัวเมื่อแกมม่าหัวเราะ

มันเริ่มมีบุคลิกภาพและการอยู่ร่วมของทั้งคู่กับมันก็ค่อยๆ กลายเป็นความสัมพันธ์แปลกประหลาดระหว่างมนุษย์กับสิ่งที่ไม่ควรถูกทำให้เป็นมนุษย์

“ฉันว่าเราน่าจะให้ชื่อเล่นกับเธอหน่อยนะ” แกมม่าพูดขึ้นในคืนหนึ่ง เสียงเขาเบา ราวกับว่ากลัวใครจะได้ยิน

“การเรียกเธอว่า ‘มัน’ ฟังดูแล้วรู้สึกไม่ยุติธรรมเลย”

เขามองสิ่งนั้นที่ยืนนิ่งในเงา

“ในเมื่อเธอสวยงามราวกับราชินีและเป็นพืชเพศเมีย ฉันว่า ‘แคทรีน่า’ ก็เหมาะดีนะ แล้วเธอคิดยังไงล่ะ แมรี่?”

แมรี่เงียบไปชั่วครู่ หัวใจเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล ชื่อที่เปล่งออกมาจากปากนั้น มีพลังบางอย่างในตัวเองที่เธอเองก็เห็นด้วยกับเขา มันช่างอ่อนโยนอย่างแปลกประหลาด

ตอนนั้นเองที่บางสิ่งในอากาศเปลี่ยนไป สปอร์ละเอียดเหมือนละอองเกสรเริ่มแผ่ขยายออกมาจากกลีบของสิ่งนั้น มันเปล่งประกายเป็นฝุ่นในแสงอาทิตย์ แต่เย็นเยียบเมื่อสัมผัสผิว

แมรี่รู้สึกถึงความสงบที่ไม่สมเหตุสมผล เธอไม่กลัวอีกต่อไป ไม่กังวล ไม่ตื่นตระหนก ทุกอย่างนิ่งสนิท ราวกับเธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศในห้องนี้ เธอเริ่มรู้สึกชอบสถานที่แห่งนี้แล้ว

แกมม่าดูผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ เขาหัวเราะบ่อยขึ้น พูดคุยกับสิ่งนั้นราวกับว่ามันคือเพื่อน เขาเริ่มเขียนรายงานในน้ำเสียงที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป รายงานที่เต็มไปด้วยคำชมเชย ความเข้าใจและความศรัทธา

จากนั้น ทุกอย่างก็เปลี่ยน

แมรี่เห็นแกมม่าและเดินเข้าไปใกล้ SCP 300 TH เขาก้มลง สูดลมหายใจลึก ละอองสปอร์แผ่ซ่านเข้าไปในปอดของเขา แกมม่ายิ้มอย่างอ่อนโยนพลางโอบกอดมัน มันเป็นรอยยิ้มที่แมรี่ไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดที่เธอทำงานกับเขา มันเหมือนรอยยิ้มของคนที่หลุดพ้นจากโลกใบนี้ไปแล้ว

“แกมม่านายกำลังทำอะไรน่ะ!”

แต่เขากลับหันมาพร้อมสายตาเต็มไปด้วยความหลงใหลอันนิ่งสงบ

“มันไม่เป็นไรหรอก แมรี่” เสียงของเขาเบาและนุ่มนวล

“แคทรีน่าก็เหมือนกับเรา แมรี่ เธอมีครอบครัวมาก่อน เธอมีเนื้อหนัง เธอมีใบหน้าที่สวยราวกับธรรมชาติ เสียงพูดของเธอมันไพเราะเหมือนเสียงของป่า… เธอไม่อยากฟังเหรอแมรี่ มันจะทำให้เธอเข้าใจความจริงของเรา..”

คำว่า 'ความจริง' ก้องสะท้อนในหัวแมรี่ เธอเริ่มเข้าใจว่า 'ความสงบ' ที่เธอรู้สึกมาตลอดนั้นไม่ใช่ของแท้เลย

มันคือของปลอม มันคือยาพิษที่ห่อหุ้มด้วยความงามของการล่อลวงให้ยอมรับสิ่งผิดธรรมชาติว่าเป็นความจริง สปอร์เหล่านั้นไม่ได้เพียงควบคุมสมองของเขาแต่มันเกลี้ยกล่อมจิตใจของเธอให้ยอมจำนนไปด้วย

เธอกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ภาพเริ่มแตกพร่า แสงในโรงเพาะชำดับลงทีละชั้นและตามาด้วยเสียงกรีดร้องที่บ้าคลั่งที่ทวีคูณความดังขึ้นเรื่อยๆ เธอล้มลงกับพื้น สายตาที่เหนื่อยล้าเริ่มจะปิดลงในขณะที่เธอกำลังมองไปทางนั้น

ความสงบที่ไม่สมเหตุผลหลั่งเข้ามาในหัว เธอยิ้มทั้งน้ำตาโดยไม่รู้ตัว จนต้องตบหน้าตัวเองเพื่อให้หลุดจากภวังค์แต่สายเกินไป ความจริงและภาพลวงเริ่มปะปนกันเหมือนรากไม้พันกันใต้ดินและภาพก็ดับลง

“คุณเบอร์มองต์!”

เสียงเรียกของเจ้าหน้าที่ดังก้อง ทำแมรี่สะดุ้งเหมือนเพิ่งถูกกระชากกลับจากโลกอีกใบ เธอกะพริบตาเร็วๆ มือสั่นเล็กน้อยอยู่บนโต๊ะ

“คุณเหม่อไปประมาณสิบวินาที” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูด

"คุณโอเคไหมครับ?”

แมรี่พยายามตั้งสมาธิ หายใจเข้าช้าๆ ริมฝีปากของเธอสั่น แต่แววตากลับนิ่งเฉียบอย่างนักวิเคราะห์ที่กำลังจัดเรียงข้อมูลในหัวด้วยความแม่นยำแบบเย็นชา

“ฉันโอเคค่ะ” เสียงของเธอแผ่วเบาแต่ยังมั่นคง

“ฉันเพียงแค่ นึกถึงบางอย่างได้แล้วค่ะ มันเป็นสิ่งที่ดร.ชานบอกให้ฉันพูดตั้งแต่แรก”

เธอก้มหน้าเล็กน้อย สูดลมหายใจอีกครั้ง ก่อนเอ่ยประโยคที่ฟังดูเหมือนคำสารภาพและรายงานในเวลาเดียวกัน

“ตอนแรก วัตถุเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่มีคุณสมบัติทางพฤกษศาสตร์ธรรมดาทั่วๆไป เราคิดว่าเรากำลังสังเกตมัน แต่จริงๆ แล้ว มันกำลังสังเกตเราต่างหากค่ะ มันเรียนรู้การใช้ชีวิตของเรา อารมณ์เรา และใช้มันปรับพฤติกรรมเพื่อหลอกเราโดยเฉพาะ”

เธอหยุดชั่วครู่ ดวงตาคล้ายคนที่เห็นภาพซ้อนของอดีต “ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยน หลังจากที่แกมม่าให้ชื่อแก่มัน ตั้งแต่เรามองมันว่า มันไม่ใช่วัตถุ จากวันนั้น สปอร์ที่ฉันและแกมม่าคิดว่ามันคือสารแห่งความสุขเริ่มมีอิทธิพลต่อเราทีละน้อย เราเริ่มลดมาตรการป้องกันน้อยลง”

“ฉันเชื่อว่าผลกระทบที่ผิดปกติทางจิตของวัตถุ ไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศชาย มันบิดเบือนการรับรู้ระยะยาวได้ทั้งสองเพศ มันแค่ไม่ได้สั่งเรา แต่มันโน้มน้าวเราให้รู้สึกปลอดภัย เหมือนเห็นกงจักรเป็นดอกบัวและให้เราเชื่อว่าความสุขคือหลักฐานของความจริง”

เสียงในห้องเงียบลง เหลือเพียงจังหวะการหายใจของเธอกับเสียงเครื่องบันทึกที่หมุนช้าๆ

“แกมม่า…” เธอพูดเบาๆ

“เขาไม่ได้ถูกหลอก เขายอมให้ตัวเองหลงเชื่อกับความสุขที่ไม่มีจริง ส่วนฉัน ฉันถูกล่อลวงโดยความสุขที่โหยหามานาน”

เธอกัดริมฝีปาก ก่อนจะพูดด้วยเสียงแข็งกว่าเดิม

“เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้ เพราะเราปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวและความสุข เข้ามามีอิทธิพลต่อกระบวนการวิจัยค่ะ”

คำพูดนั้นแข็งแกร่งพอจะทำให้ห้องทั้งห้องนิ่งไป เหมือนแม้แต่เครื่องบันทึกก็ลังเลจะหมุนต่อ

เจ้าหน้าที่ทั้งสองสบตากัน ก่อนที่หัวหน้าการสอบสวนจะพยักหน้าเบาๆ เขากดปุ่มหยุดเครื่องบันทึก เสียง คลิก ดังชัดเจนในห้องที่อากาศหนาวจัดจนได้ยินเสียงหายใจของทุกคน

เขาเอนตัวเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นอย่างคนที่ทำหน้าที่นี้มานับร้อยครั้ง

“บันทึกนี้จะถูกรวมเข้ากับรายงานภายในของเหตุการณ์” เขากล่าว

“เนื้อหาบางส่วนจะถูกปกปิดแต่ไม่ใช่สำหรับเผยแพร่ในระดับผู้อำนวยการ”

เสียงปากกาขีดลงบนกระดาษเหมือนรอยมีดลากบนผิวโลหะ

“คำให้การของคุณจะถูกบันทึกเป็น สาเหตุร่วมของความล้มเหลวในการป้องกัน” เขากล่าวต่อโดยไม่สบตาแมรี่

“ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ การละเลยขั้นตอนความปลอดภัย การทดสอบที่ไม่ได้รับอนุมัติและการตอบสนองที่ล่าช้า ความประมาทที่เป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินของสถาบันสูญเสียเป็นมูลค่าที่ยากจะทดแทน”

เขาเงยหน้าขึ้นมองแมรี่เป็นครั้งแรก ดวงตาของเขาว่างเปล่าและเต็มไปด้วยอำนาจการตัดสิน

“คุณแมรี่ครับ ตามจริงแล้วคุณมีสิทธิ์ที่จะถูกลดสถานะเป็นดีคลาสได้ทันทีหลังการสอบสวนนี้”

แมรี่หายใจติดขัด อาการหวาดระแวงเข้าเกาะกุมจิตใจเธออีกครั้ง ภาพความทรงจำที่บิดเบือนทั้งหมดถูกลบล้างด้วยความจริงที่เยือกเย็นนี้

“แต่” หัวหน้าการสอบสวนหยุดชั่วครู่

“คุณเป็นนักวิจัยที่ยังมีคุณค่าและประสบปัญหาเหมือนกันกับคนอื่นๆ ตามดุลพินิจของผมแล้วนั้น คุณจะถูกละเว้นครับ”

เขาหยิบเอกสารขึ้นมาอีกชุด

“อย่างไรก็ตาม การประเมินทางจิตวิทยาของคุณบ่งชี้ถึง ภาวะจิตใจที่ไม่เสถียรที่รุนแรงขึ้นหลังเหตุการณ์ คุณจะถูกระงับการเข้าถึง วัตถุระดับสองขึ้นไปชั่วคราว” เขากล่าวสรุป

“และคุณจะถูกจัดเป็น บุคลากรที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะมีการประเมินอีกครั้งหลังการบำบัดสิ้นสุดลง”

เขากดปุ่มเปิดเครื่องบันทึกอีกครั้ง เสียง คลิก ที่สองดังขึ้นเพื่อปิดฉากละครที่เศร้าสร้อย

“จบรายงานเสริม ออกไปได้แล้วครับ คุณเบอร์มองต์”เขาพูด ก่อนจะกดปิดเครื่องบันทึก

แมรี่พยุงตัวเองลุกขึ้นยืนด้วยความสั่นสะท้าน เธอรอดมาได้ แต่การรอดชีวิตของเธอมาพร้อมกับ ตราประทับ ของความผิดพลาดที่ไม่มีวันลบเลือน การถูกตราหน้าว่าเป็น 'บุคลากรที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด' และถูกจำกัดโอกาสในอาชีพของเธอ

เธอเดินออกจากห้องสอบสวนอย่างช้าๆ รสชาติของช็อกโกแลตที่ดร.ชานยื่นให้ดูเหมือนจะมีรสขมกว่าที่คิด


หลังจากผ่านการบำบัดทางกายภาพและจิตใจเบื้องต้น แมรี่ก็ถูกเรียกเข้าพบผู้อำนวยการศูนย์-20 เพื่อฟังคำตัดสินสุดท้าย เธอเดินเข้าห้องด้วยชุดลำลองของสถาบันที่สะอาดและเรียบร้อย เป็นชุดที่ไม่ใช่ทั้งชุดกาวน์ของนักวิจัยและไม่ใช่ชุดของนักโทษ

“นักวิจัยเบอร์มองต์” ผู้อำนวยการเจมส์เปิดแฟ้มรายงานการสอบสวน พลางมองมาที่เธอ

“ผมขอแสดงความยินดีที่คุณได้รับการละเว้นโทษร้ายแรง คำให้การของคุณมีค่าอย่างยิ่งและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คุณยังคงสถานะบุคลากรของสถาบันได้”

แมรี่ไม่ตอบ เธอรู้ดีว่าการรอดมาได้นั้นต้องแลกมาด้วยการถูกลดสถานะอย่างเป็นทางการ

“ดร.ชานได้ยื่นข้อเสนอให้คุณพิจารณาแล้วใช่ไหม?” ผู้อำนวยการเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย

“ค่ะ”

“และคุณตัดสินใจแล้วหรือยัง?”

แมรี่สบตาผู้อำนวยการ ดวงตาของเธอไม่ได้ฉายแววความหวาดกลัวหรือความรู้สึกผิด แต่มันคือความ อ่อนโยน ที่มาพร้อมกับความ เด็ดเดี่ยว ของนักวิเคราะห์ที่มองเห็นทางเลือกเดียวที่สมเหตุสมผล

“ฉันจะไม่ลาออกและฉันไม่ต้องการลบความจำค่ะ” แมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง

“ฉันยังคงมีความสามารถด้านการแก้ไขปัญหา แม้ความอ่อนไหวทางจิตใจของฉันจะทำให้ฉันเป็นนักวิจัยที่บกพร่อง แต่ความสามารถของฉันจะยังคงอยู่และสถาบันยังต้องการมันตลอดไป”

เธอหยุดหายใจ ก่อนจะเอ่ยทางเลือกสุดท้ายที่เธอเตรียมไว้

“ฉันขอเลือกที่จะย้ายไปแผนกเอกสารและแปลภาษาของศูนย์ค่ะ ฉันจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในสถาบันทำงานวิเคราะห์เบื้องหลังที่ต้องการความแม่นยำสูง ฉันจะเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น รัสเซียและจีนกลาง เพื่อเป็นประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้โดยไม่เป็นภาระของใครอีก”

ผู้อำนวยการปิดแฟ้มลงอย่างช้าๆ รอยยิ้มปรากฏขึ้นเล็กน้อย

“เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดมากครับนักวิจัยเบอร์มองต์ นี่คือทางออกที่ทำให้สถาบันได้ใช้ความสามารถของคุณต่อไป โดยลดความเสี่ยงทั้งต่อตัวคุณและต่อบุคลากรคนอื่น”

เขาหันกลับมามองเธอ

“คุณจะถูกย้ายแผนกอย่างเป็นทางการทันที ยินดีต้อนรับสู่ภารกิจใหม่ของคุณ”


แมรี่ได้รับอนุญาตให้ไปเยี่ยม อดีตนักวิจัยแกมม่าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะถูกย้ายไปยังอาคารบำบัดระยะยาวใหม่อย่างถาวร

เธอเดินเข้าไปในโซนเพาะเลี้ยงพืชที่เคยเป็นอาณาจักรของเขา ห้องยังคงเต็มไปด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่มที่แกมม่าเคยดูแล พืชพรรณบางส่วนที่แกมม่าเคยดูแลได้ถูกอนุญาตให้เก็บไว้ในพื้นที่นี้ ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวด

แกมม่านอนอยู่บนเตียงพยาบาลที่ติดตั้งในห้องเดิมของเขา ร่างกายส่วนล่างถูกคลุมด้วยผ้าห่ม ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มจางๆ ที่ไม่เปลี่ยนแปลง

“แกมม่า” แมรี่เรียกชื่อเขาเบาๆ ผ่านหน้าต่างกั้นห้อง

แกมม่าลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

“แมรี่…แมรี่…” เสียงของเขาแหบพร่า

"คุณหายไปไหนมา… แคทรีน่าคิดถึงคุณมากเลย…"

เสียงของแกมม่าเริ่มเบาลงและนุ่มขึ้น

“…ดอกไม้ของผม…สวยไหม…”

“สวยค่ะ” เธอตอบอย่างอ่อนโยน

“คุณ… คุณยังมีความสุขอยู่ใช่ไหม?”

แกมม่าพยายามยกมือขึ้นช้าๆ แต่ทำได้เพียงกระดิกนิ้วเบาๆ

“มันช่าง..ไพเราะ…” เขาพึมพำ

“…เสียงของแคทรีน่า… ยัง… ไพเราะอยู่เสมอ…”

แมรี่ชำเลืองตามองมือของเขา มือที่เคยเป็นมือของนักวิจัยอัจฉริยะที่เต็มไปด้วยความสามารถ แต่ตอนนี้เป็นมือของผู้ถูกจองจำด้วยความสุขที่ถูกปรุงแต่ง

“ฉันต้องไปแล้วนะแกมม่า” แมรี่กล่าวเสียงแผ่ว

“ฉันตัดสินใจย้ายไปทำงานแปลเอกสาร ฉันจะทำงานอยู่เบื้องหลังและฉันจะใช้สมองของฉันเพื่อช่วยให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณไม่เกิดขึ้นกับใครอีกต่อไป”

แกมม่ามองเธอด้วยสายตาที่อ่อนล้าแต่รอยยิ้มยังคงอยู่ ในแววตาของเขา แมรี่เห็นความขมขื่นที่ซ่อนอยู่ใต้เปลือกของความสุข มันเป็นความขมขื่นที่แกมม่าเองก็ไม่สามารถยอมรับหรือสื่อสารออกมาได้อีกแล้ว

“…อืม…” แกมม่าพยักหน้าช้าๆ

“…ไปเถอะ… ข้างนอกนั่นน่ะ…ไม่มีใครเข้าใจ.เสียง.. ที่ผม…ได้ยินหรอก…”

แมรี่รู้ว่าบทสนทนาจบลงแล้ว เธอเดินออกจากห้องเพาะชำ ทิ้งนักวิเคราะห์อัจฉริยะผู้เป็นอัมพาตและถูกจองจำไว้ในความสุขนิรันดร์

เธอเริ่มก้าวเดินผ่านทางเดินยาวที่เชื่อมโซนเพาะเลี้ยงพืชเข้ากับส่วนหลักของศูนย์-20 ทุกย่างก้าวพาเธอออกจากแสงไฟสีเหลืองนวลในห้องของแกมม่า เข้าสู่แสงสีขาวปลอดเชื้อของสถาบันและขณะที่เธอเดิน ความขมขื่นของการสูญเสียก็ถาโถมเข้าใส่สถานที่แห่งนี้ ครั้งหนึ่งที่มันเคยดีกว่านี้

เธอจำได้ว่าโซนเพาะเลี้ยงพืชแห่งนี้ในอดีตเคยเป็นเหมือนโอเอซิสที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ในศูนย์ที่แห้งแล้งและตึงเครียดของสถาบัน แกมม่าเคยเป็นคนขี้เกียจ แต่ความขี้เกียจของเขาถูกกลบด้วยความกระตือรือร้นที่แท้จริงต่อชีววิทยาและพฤกษาศาสตร์

เธอเห็นภาพแกมม่าในความทรงจำ เขายืนอยู่ในชุดกาวน์สั้นที่เปื้อนดินเล็กน้อย ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอย่างจริงใจของคนรักต้นไม้ มันไม่ใช่รอยยิ้มที่ถูกบิดเบือน เขากำลังอธิบายชื่อวิทยาศาสตร์ของต้นเฟิร์นหายากด้วยความหลงใหลอย่างบริสุทธิ์ ทุกวันคือการต่อสู้ที่สนุกสนานกับปริศนาทางชีววิทยา ไม่ใช่การต่อสู้กับความบิดเบือนทางจิตใจ

แต่ตอนนี้

ทุกอย่างมันกลายเป็นเพียงเปลือกที่ว่างเปล่า โซนเพาะเลี้ยงแห่งนี้กลายเป็นโรงพยาบาลมากกว่าห้องทดลอง แกมม่าที่เคยเฉลียวฉลาดเกินมนุษย์ กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่น่าเวทนาสำหรับวัตถุที่อันตราย

ความผิดพลาดที่ขมขื่นที่สุด ไม่ได้อยู่ที่ SCP 300 TH แต่เป็นความผิดพลาดของนักวิจัยผู้ฉลาดสองคน ได้ปล่อยให้ความต้องการและความอ่อนโยน เข้ามาบดบังตรรกะและหน้าที่

แมรี่สัมผัสกับกุญแจห้องเก็บของส่วนตัวในกระเป๋าของเธอ เธอรอดมาได้ก็จริง แต่เธอจำเป็นต้องทิ้งชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดของตัวเองไว้เบื้องหลังความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนของสถาบัน

เธอหยุดเดินที่ปลายสุดของทางเดิน หันกลับไปมองประตูห้องเพาะชำเป็นครั้งสุดท้าย

ไม่มีใครเข้าใจเสียงไพเราะที่แกมม่าได้ยินและนั่นอาจจะเป็นพรที่ประเสริฐที่สุดของเธอ

แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้


hello i'm Peter

ต้นฉบับ: SCP-6767-J - Jimi Hendrix is Cool as Hell


[[include component:image-block | name= http://scp-sandbox-3.wikidot.com/local--files/jimi-j/Jimi.JPG | caption= มนุษย์ที่เท่สุดยอดที่สุดที่เคยมีมา| width=WIDTH-GOES-HERE]]

วัตถุ #: SCP-6767-J

ระดับ: เท่ระเบิด

มาตรการกักกันพิเศษ: ถูกระลึกเอาไว้ในจิตใจของผู้คน

รายละเอียด: SCP-6767-J คือ จิมิ เฮนดริกซ์ และเขาโคตรสุดยอด เพลงของเขาก็สุดยอด ชุดของเขาก็สุดยอด ลายกีตาร์ของเขาก็สุดยอด1 ใครที่บอกว่าตัวเองไม่ชอบจิมิ เฮนดริกซ์ก็โกหกกันทั้งนั้น

ภาคผนวก: ฉันลองทำการทดสอบเพื่อแสดงให้เห็นว่าจิมิ เฮนดริกซ์เป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยการไปบอกคนอื่น ๆ ว่าเขาเท่แค่ไหน


การทดสอบรอบที่ 1


ชื่อ: เทอร์รี่

แนวเพลงโปรด: บิ๊กแบนด์แจ๊ส


ผลลัพธ์:

เทอร์รี่บอกว่าเขาไม่ได้ชอบจิมิ เฮนดริกซ์อะไรขนาดนั้น


การทดสอบรอบที่ 2


ชื่อ: เทอร์รี่

แนวเพลงโปรด: บิ๊กแบนด์แจ๊ส


ผลลัพธ์:

เทอร์รี่สับสน แล้วบอกว่าฉันถามเขาไปแล้วรอบหนึ่ง


การทดสอบรอบที่ 3


ชื่อ: เทอร์รี่

แนวเพลงโปรด: บิ๊กแบนด์แจ๊ส


ผลลัพธ์:

เทอร์รี่ถามกลับว่าทำไมฉันถึงเอาแต่พูดเรื่องที่ว่าจิมิ เฮนดริกซ์เท่ระเบิดขนาดไหน


การทดสอบรอบที่ 4


ชื่อ: เทอร์รี่

แนวเพลงโปรด: บิ๊กแบนด์แจ๊ส


ผลลัพธ์:

เทอร์รี่บอกให้ฉันปล่อยเขาไปได้แล้ว และก็เลิกพูดกับฉันไป


การทดสอบรอบที่ 5


ชื่อ: เทอร์รี่

แนวเพลงโปรด: บิ๊กแบนด์แจ๊ส


ผลลัพธ์:

เทอร์รี่บอกว่าจะรายงานให้ HR ฟัง ถ้าฉันไม่ยอมหยุด แล้วก็บอกด้วยว่าการทำแบบนี้ไม่ดีต่อตัวเองเลย


การทดสอบรอบที่ 6


ชื่อ: เทอร์รี่

แนวเพลงโปรด: บิ๊กแบนด์แจ๊ส


ผลลัพธ์:

เทอร์รี่รายงานเรื่องของฉันถึง HR ฉันถูกไล่ออกจากตำแหน่งงานนักวิจัยฝึกหัด แต่พวกเขาลืมเพิกถอนสิทธิ์เข้าถึงของฉัน


การทดสอบรอบที่ 7


ชื่อ: เทอร์รี่

แนวเพลงโปรด: บิ๊กแบนด์แจ๊ส


ผลลัพธ์:

เทอร์รี่บอกให้ฉันหยุดติดต่อกับเขา และบอกให้กับทั้งครอบครัวของฉันและตำรวจฟังว่าฉันทำอะไร จากนั้นเขาก็ขอคำร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพ


การทดสอบรอบที่ 8


ชื่อ: เทอร์รี่

แนวเพลงโปรด: บิ๊กแบนด์แจ๊ส


ผลลัพธ์:

เทอร์รี่บอกว่าตำรวจกำลังมา และถ้าฉันไม่ยอมออกจากพื้นที่ส่วนบุคคลของเขา เขาก็ไม่ลังเลที่จะป้องกันตัวเอง


การทดสอบรอบที่ 9


ชื่อ: ริก

แนวเพลงโปรด: บลูส์


ผลลัพธ์:

ริกบอกว่าจิมิ เฮนดริกซ์สุดยอด แล้วก็บอกด้วยว่าเทอร์รี่ตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ จากนั้นก็ยกเลิกหมายจับของฉัน


ผ่าน

Re: SCP-6599 - HOGSLICE โดย DrSSSDrSSS, 09 Nov 2025 02:56

ต้นฉบับ: SCP-6599 - HOGSLICE


[[include :scp-th:component:anomaly-class-bar-source
|item-number=6599
|clearance= 3
|container-class= keter
|secondary-class=
|secondary-icon=
|disruption-class=
|risk-class=
]]

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|containment-class= keter
|containment-image= https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/component%3Aanomaly-class-bar/keter-icon.svg
|containment-color= 196,2,51
|inc-neutralized-layout = —]]]

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|clearance-three= 196,2,51
|inc-clearance= —]]]


[[include component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-6599/SLICE.png|align=center|width=100%|caption=SCP-6599-1 ในขณะที่ขัดจังหวะการถ่ายทอดสดรายงานสภาพอากาศเพื่อทำร้ายร่างกายผู้ประกาศข่าว]]


[[include component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-6599/4386553053_c654e4e85d_b.jpg|align=right|width=45%|caption=ผลกระทบภายหลังเหตุการณ์ ALT-F4 ที่เกิดขึ้นที่เมืองบล็อดเจตต์ รัฐมิสซูรี]]

มาตรการกักกันพิเศษ: ปัจจุบัน WALDO.aic ได้ทำการติดตามความเคลื่อนไหวของทุกบัญชีที่มีชื่อผู้ใช้งาน “HOGSLICE.” โดยโพสต์ที่ถูกเผยแพร่โดยบัญชีนี้จะต้องถูกลบออกโดยเร็วที่สุด

หากเกิดเหตุการณ์ ALT-F4 ขึ้น เจ้าหน้าที่ของสถาบันที่ได้ทำการแฝงตัวอยู่ภายในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจะต้องระบุลักษณะของเหตุการณ์ ALT-F4 EVENT และปกปิดเหตุการณ์อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานมาตรการม่านปิดบัง

แก้ไข 2014/11/19: หลังจากเหตุการณ์ที่ระบุไว้ในภาคผนวก 6599.6 จึงได้มีการเปลี่ยนระดับของ SCP-6599 เป็น Neutralized

รายละเอียด: SCP-6599 คือ กลุ่มบัญชีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ลงทะเบียนเข้าใช้งานด้วยชื่อผู้ใช้ HOGSLICE โดย SCP-6599 ปรากฏอยู่ทั่ว 68% ของเว็บไซต์ที่มีการอนุญาตให้สามารถสร้างบัญชีทั้งหมด แม้ว่าจะมุ่งเน้นไปยังกระดานสนทนาของกลุ่มงานอดิเรกก็ตาม โดยมีตัวอย่างที่เก่าแก่ที่สุดย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1999 บัญชี SCP-6599 ค่อนข้างที่จะทราบถึงหัวข้อของเว็บไซต์ที่มันทำการเผยแพร่กระทู้และมีการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสร้างโพสต์ในรูปแบบการตอบกลับผู้ใช้งานคนอื่น ๆ มากกว่า 100 ครั้งต่อวันในทุกบัญชี อีกทั้งยังได้มีการสังเกตว่าบัญชีเหล่านี้เผยแพร่โพสต์พร้อมกัน แม้ว่าการวิเคราะห์ลักษณะการพิมพ์ รวมถึงความผิดปกติของ SCP-6599 จะบ่งชี้ว่าการที่ SCP-6599 จะเป็นกลุ่มบุคคลหลายคนหรือเป็นการกระทำร่วมกันมีความเป็นไปได้ที่ต่ำเป็นอย่างมากก็ตาม

ตัวอย่างบัญชี SCP-6599 ทั้งหมดใช้งานภาษาอังกฤษ และสื่อสารด้วยรูปแบบไม่เป็นมิตรและโต้เถียง โดยเป็นการสบประมาทผู้ใช้คนอื่นและกล่าวชื่นชมตนเอง พฤติกรรมนี้มักทำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ดำเนินการ ซึ่งมักจะทำการสั่งระงับบัญชี นับจนถึงปัจจุบัน ยังคงไม่มีบันทึกกรณีใด ๆ ที่บัญชี SCP-6599 พยายามหลีกเลี่ยงที่จะถูกสั่งระงับบัญชี

หากมีบุคคลใดตอบโต้กับบัญชี SCP-6599 อย่างไม่เป็นมิตร เช่น สบประมาทมันหรือยั่วยุให้ SCP-6599 ตอบโต้กลับ จะมีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์ ALT-F4 ขึ้น โดยเหตุการณ์นี้จะส่งผลให้ตัวตนที่ไม่เป็นมิตรซึ่งถูกกำหนดให้เป็น SCP-6599-1 ปรากฏตัวในพื้นที่ใกล้เคียงกับตำแหน่งของบุคคลดังกล่าวในขณะนั้นหลังจากการโต้เถียงไม่นาน จากการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของ SCP-6599 พบว่ามีการโต้เถียงเพียง 40% เท่านั้นที่ส่งผลให้ SCP-6599-1 ปรากฏตัว

SCP-6599-1 คือ ตัวตนรูปร่างมนุษย์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับนักมวยปล้ำอาชีพ สก็อตต์ เรชสไตเนอร์1 โดย SCP-6599-1 มีสติสัมปชัญญะและสติปัญญาที่ใกล้เคียงกับมนุษย์วัยผู้ใหญ่โดยเฉลี่ย อีกทั้งยังมีพละกำลังและความทนทานของร่างกายที่สูงอย่างผิดปกติอีกด้วย เมื่อปรากฏตัว SCP-6599-1 จะทำการตามหาบุคคลที่ได้โต้เถียงกับมันทางออนไลน์ แล้วทำการต่อว่าและทำร้ายร่างกายบุคคลนั้นจนทำให้ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้น SCP-6599-1 ก็จะหายตัวไปจากตำแหน่งของเป้าหมายของมัน แม้ว่ายังคงไม่เคยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ALT-F4 แต่ SCP-6599-1 ก็มักจะสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่โดยรอบในระหว่างเหตุการณ์อยู่บ่อยครั้ง

ภาคผนวก.6599.1: การค้นพบ

SCP-6599 ถูกค้นพบในวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2008 บนเว็บไซต์ Parawatch.net

GregTheCarp 03/28/2008 (จ.) 16:54:32 #74439151


เธรดสัตว์ประหลาดตัวโปรดดีไหม?

ส่วนตัวผมชอบตัวสควองก์มากเลยล่ะ มันเป็นสัตว์หน้าตาคล้ายหมูตัวเล็ก ๆ จากแถบเพนซิลเวเนีย ที่ร้องไห้เพราะหน้าตามันน่าเกลียดมาก ผู้คนจะตามหามันได้โดยตามรอยทางคราบน้ำตาไปเรื่อย ๆ เมื่อมีคนหามันพบ มันจะละลายตัวเองให้เหลือเพียงคราบน้ำตา

อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะว่าไงถ้าผมบอกไปว่าชอบมัน…

ช่างเถอะ

HOGSLICE2 03/28/2008 (Mon) 17:08:43 #19288745


ตัวปอดแหกห่าอะไรวะเนี่ย????? มีแต่ผู้หญิงกับเด็กที่ร้องไห้ แต่กูไม่ร้อง ทำตัวให้สมชายหน่อยดิวะ ทำตัวเข้มแข็งให้ได้ซะบ้าง

มึงทำเป็นแต่ชักว่าวใส่ตัวเหี้ยอะไรไม่รู้ที่ไม่มีคนรู้จัก แทนที่มึงจะมาเลียไข่ไอ้โคตรเย็ดเป็ดสุดเท่ (มอธแมน)

  • รู้เอาไว้: มอธแมนบินได้
  • รู้เอาไว้: มอธแมนกินเสื้อผ้า
  • รู้เอาไว้: มอธแมนมีตาแดงที่ใช้จ้องไปถึงวิญญาณขี้ป๊อดโสโครกของมึง

แต่กูว่ามึงจ้องตาใครที่ไหนหรือตัวอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ ก็พ่อมึงไม่สั่งสอนมารยาทนี่หว่า

ความแมนมึงหายไปไหนแล้ว (ไข่มึงด้วย)

—HOGSLICE

GregTheCarp 03/28/2008 (จ.) 17:10:56 #74439151


ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมคุณถึงได้อารมณ์เสียขนาดนี้ ใจร่มๆ น่าพวก ผมแค่อยากหาคนคุยเรื่องสัตว์ประหลาดเฉยๆ แต่ก็ขอโทษละกันถ้าความชอบผมไปหนักหัวคุณเข้า…

HOGSLICE 03/28/2008 (จ.) 17:11:32 #19288745


มึงอย่ามาหาสั่งกูนะเว้ย ที่มึงชอบแม่งดักดาน มึงควรรู้สึกเกลียดตัวเองที่เลือกชอบแม่งด้วยซ้ำ

มึงไปงอแงให้ไอ้ตัวปัญญาอ่อนที่ไม่มีจริงฟังซะไป

นี่เมกาแดนโอบามาโว้ย

—HOGSLICE

GregTheCarp 03/28/2008 (จ.) 17:15:12 #74439151


มึงฟังนะ วันนี้กูก็เจออะไรเหี้ยๆ มาเยอะพอแล้ว กูก็อยากคุยกับคนดีๆ มีมารยาทบ้าง แต่มึงทำทั้งวันนี้เหี้ยกว่าเดิมอีก

ไปตายห่าที่ไหนก็ไปเลย ไอ้ควย

HOGSLICE 03/28/2008 (จ.) 17:15:34 #19288745


มึงบอกว่าสัสหมาอะไรนะ??????????

—HOGSLICE

ในวันเดียวกันนั้นเอง นายเกรกอรี คาพลิน พลเมืองรัฐออริกอน ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี 'GregtheCarp' ถูกพบว่ามีกะโหลกศีรษะแตกหัก กระดูกต้นขาทั้งสองข้างหัก และกระดูกต้นแขนแตกหัก โดยรายงานจากนายคาพลินต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุเอาไว้ว่ามีตัวตนรูปร่างมนุษย์ปรากฏตัวขึ้น ทำร้ายเขา จากนั้นมันก็ได้หายตัวไป ซอฟต์แวร์ตรวจจับสิ่งผิดปกติของ WALDO.aic จึงถูกกระตุ้น และทำให้สถาบันเริ่มดำเนินการสืบสวน ภายหลังจากที่ยึดเอาเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว การอภิปรายว่าด้วยวิธีการในการกักกัน SCP-6599 ที่ดีที่สุดก็ได้ถูกจัดขึ้นที่เขตอำนวยการความมั่นคงสูง แอเรีย-179

ภาคผนวก.6599.2: ตัวอย่างพฤติกรรมซึ่งเป็นที่โดดเด่น

ต่อไปนี้คือตัวอย่างพฤติกรรมของ SCP-6599 ซึ่งเป็นที่โดดเด่น

วันที่: 2010/12/12

เว็บไซต์: Muppet Central - กระดานสนทนาสำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับรายการเดอะ มัปเพทส์ โดยจิม เฮนสัน และผลงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด: เหตุการณ์เกิดขึ้นในกระทู้ที่ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ 'Thog_Life' บทถอดความการสนทนาอยู่ด้านล่างดังต่อไปนี้


MUPPET CENTRAL

สำรวจ ฟอรั่ม ช่วยเหลือ บัญชีของฉัน

Thog_Life

เจออะไรน่าตื่นเต้นสุด ๆ มาล่ะ! คนที่ผมรู้จักไปเจอเจ้าเรือร้องเพลงจากร่างตอน “In The Navy” เข้าให้ เจ้าของเป็นฐาติของอดีตวิศวกรด้านพร็อปของเฮนสัน แล้วตอนนี้ก็กำลังหารือกันอยู่ว่าจะเอาไปประมูลหรือบริจาคให้คลังเก็บของจากมัปเพทส์ดี

แนบภาพไว้นี่

พวกคุณ ๆ ชาว Muppet Central ว่าไงกันบ้าง? มีใครสนใจไหม?

Reply | Share | 19 Replies

HOGSLICE

ไม่โว้ย ใคมันจะไปสนไอ้ขยะเปียกนี่กันวะ ไอ้พวกหน่อมแน้ม กูเกลียดตุ๊กตาพัปเพทพวกนี้ (กูจะไม่ใช้ตัว ม. เรียกมัน พอทำแล้วฟังดูโคตรง่าว)

จะเกลียดกูก็ทำกันไป แต่กูไม่สนไอ้ห่านี่สักนิด ไอ้จิม เฮนสัน (กะล่อน) แม่งเป็นพวกต้มตุ๋น ไอ้เวรนี่มันตบตาพวกมึงทุกตัวมาเป็นสิบปีได้แล้วมั้งเนี่ย….

พวกมึงนั่งดูไอ้ห่านี่แล้วไม่เคยสงสัยเลยว่าดูเชี่ยอะไรอยู่ กบบ้านไหนพูดได้ หมีบ้านป้าใครเต้นได้ ไอ้ตัวแดง ๆ ที่แม่งเหมือนโดนใครกลืนลงคอไปแม่งเล่นกลองไม่ได้ แล้วผลไม้ก็ทำงานเคมีไม่ได้โว้ย พวกมึงก็เห็นกันว่าแม่งมีสายเชิด ก็พวกแม่งเป็นหุ่นพัปเพทไงโว้ย!!!!!!!!! พวกเย็ดแม่ กูเคยเชิดหุ่น ต่อให้มึงจะดักดานแค่ไหน เหลือไข่ข้างเดียว หรือแค่อยู่ในแวดวงสักนิดแม่งก็รู้กันหมดว่าไอ้พวกเชี่ยนั่นเป็นแค่หุ่นกระบอก

กูเคยเห็นแม่งมาตั้งแต่ปี 70 แล้ว ตั้งแต่ตอนพวกมึงยังฉี่ราดผ้าอ้อมกัน กูไม่หลงกลพวกห่านี่หรอกโว้ย! หุ่นพวกนี้แม่งปลอม ทำได้แต่หลอกเด็กเปรตดูดนมแม่ที่ใช้ชีวิตเองไม่ได้

ไอ้จิม มึงหัดจ้างนักแสดงบ้างนะ…. หรือมึงจะรอกูยัดหมัดเข้าลำไส้มึงแบบแมน ๆ จนกว่ามึงจะยอมรับว่าใช้หุ่นวะ

-HOGSLICE

ส่งตรงจาก IPHONE กูเอง


ภายหลังเหตุการณ์: กระทู้ดังกล่าวได้กลายเป็นการโต้เถียงระหว่าง SCP-6599 และผู้ใช้งานเว็บไซต์ Muppet Central คนอื่น ๆ เกี่ยวกับจุดประสงค์ ความโด่งดัง และกระบวนการผลิตรายการเดอะ มัปเพทส์ โชว์ ซึ่งมีความคิดเห็นถูกโพสต์จำนวนถึง 7 หน้า ก่อนที่ผู้ดูแลเว็บไซต์จะดำเนินการลงโทษทางวินัย

หลายชั่วโมงหลังจากการสั่งระงับบัญชี นายจามาล ไวท์ พลเมืองรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี 'Thog_Life' รายงานว่า SCP-6599-1 ได้เข้ามาภายในบ้านของตนโดยการใช้มือดึงบานประตูให้หลุดออกจากกรอบ จากนั้นมันก็ได้นำแบนโจมาเล่นเป็นทำนองเพลง "Rainbow Connection" โดยเนื้อร้องถูกเปลี่ยนเป็นการล้อเลียนนายเฮนสันและรายการมัปเพทส์ พร้อมกับที่ทำร้ายนายไวท์จนกระทั่งเขาหมดสติไป ต่อไปนี้คือบางส่วนจากบทถอดเสียงเนื้อเพลงที่ SCP-6599-1 ร้องวนซ้ำตลอดเหตุการณ์

กูคงได้รู้แจ้ง
ว่าทำไมต้องให้แสง
ทั้งเฮนสัน มัปเพทส์ ไอ้พวกแม่ง
และมึง

เมื่อ SCP-6599-1 ได้ออกไปจากพื้นที่ ภรรยาของไวท์ก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำตัวเขาส่งโรงพยาบาล โดยเขาเข้ารับการรักษาด้วยอาการบาดเจ็บจากการถูกกระแทก กระดูกข้อมือแตกหัก และหลอดเลือดในสมองแตก ภายหลังการรักษา จึงได้มีการบังคับใช้งานมาตรการม่านปิดบังแบบมาตรฐาน และครอบครัวของไวท์ได้รับยาลบความทรงจำ

วันที่: 2011/4/28

เว็บไซต์: MoneyBeetle - กระดานสนทนาภาษาญี่ปุ่นสำหรับผู้ชื่นชอบในการนำสัตว์ประเภทแมลงมาต่อสู้กัน เพื่อพบปะกัน วางเดิมพัน และสนทนาเรื่องกิจกรรมดังกล่าว โดยเว็บไซต์นี้เพิ่งถูกตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้งานกฎหมาย หลังจากการเกิดเหตุฆาตกรรมสมาชิกคนหนึ่ง อันเนื่องมาจากข้อพิพาทเรื่องเงินรางวัล

รายละเอียด: เหตุการณ์เกิดขึ้นในกระทู้ที่ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ 'PrizeCricket' บทถอดความอยู่ด้านล่างดังต่อไปนี้ โดยข้อความได้ถูกแปลจากภาษาญี่ปุ่น ยกเว้นก็แต่เพียงข้อความที่โพสต์โดย SCP-6599


PrizeCricket 5h
MEGATHREAD: งานแข่งขันเขต 11
ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เข้าร่วมงานแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เขต 11 เมื่อวานมานี้ด้วยครับ! ได้มีการส่งมอบเงินรางวัลแล้วเรียบร้อย และคุณ Doki แห่ง MoneyBeetle ก็ได้คว้าชัยชนะไป โดยเจ้ามวนนักกล้ามเพศเมียของเขา 'จิรุโนะ' ได้ทำลายคู่แข่งของตัวเองไปอย่างราบคาบ! ขอให้งานแข่งขันรอบที่เหลือเป็นไปได้ด้วยดีเช่นกัน!

54 ความคิดเห็น

Emperor 5h
เป็นตาที่น่าตื่นเต้นจริง ๆ สมกับที่คาดหวังจากเหล่าคนเด่นดังจากเขต 11 ทั้งหมดได้ถูกอัปโหลดลงช่องยูทูบของฉันแล้ว

ตอนแรกก็นึกว่าเจ้าตั๊กแตนจะชนะไปได้ซะอีก แต่จิรุโนะนี่แข็งแกร่งสุด ๆ เลยเนอะ!

HOGSLICE 4h
กูไม่รู้เรื่องเลยว่าพวกมึงคุยอะไรกัน เพราะกูพูดแต่ภาษาเมกา แต่พวกมึงทุกคนไม่รู้ซะแล้วว่าด้วงกว่างเฮอร์คิวลีสขอองกูแม่งเจ๋งเป้งแค่ไหน

พวกมึงคิดว่าตัวเองเก่งกันเหรอวะ? โม้เหม็นว่ะ มาดูเจ้าร็อกกี้นี่สิวะ เจ้านี่เป็นเครื่องจักรที่กรุ่นด้วยความผิดบาปและความอาฆาตล้วน ๆ เหมือนกับพ่อของตัวเองเลย กูเจอหมอนี่อยู่นอกวายเอ็มซีเอ ดูสิวะ

28449361185_b26ef58b36_b.jpg

นั่นแหละเปลือกเจ้านี่ โคตรพ่อโคตรแม่เอ๊ย แม่งเป็นไทเทเนียมเลยนะเว้ย เผื่อไอ้พวก 'เชี่ยวชาญ' ด้านการเอาแมลงมาต่อสู้กันอย่างพวกมึงจะสงสัยอะไร กูจะเล่าวีรกรรมแต่ละอย่าง:
  • ร็อกกี้บดขยี้มดจนละเอียด แล้วกินมันเข้าไป
  • ร็อกกี้โดนกิ้งกือห้าตัวหมาหมู่ และวชนะกลับมาได้
  • หมากู เจ้าบรูตัสกลัวร็อกกี้
  • ร็อกกี้ฝึกทุกวัน และภูมิใจที่เป็นได้อย่างกู
  • กูจะไม่ทิ้งเจ้านี่แบบที่พ่อเฮงซวยเวรนั่นทำ

แมลงพวกมึงแม่งกระจอกงอกง่อย โดนปล่อยไปไม่ถึงวันก็ตายแล้ว เก็บพวกแม่งเข้ากรงก็ดีแล้ว ฮา กูไม่ได้หัวเราะนะ จะบอกให้ มีแต่พวกหมาหัวเน่าทำกัน กูก็เลยไม่ทำ

แล้วกูก็ตั้งชื่อตามหนังร็อกกี้ ราชากำปั้น หนังแม่งสุดยอดโคตร เด็กน้อยอย่างพวกมึงไม่น่ารู้จักกันด้วยซ้ำ

กูจะบดขยี้มึงให้เละเป็นขี้

- HOGSLICE

PrizeCricket 4h
เย็นหน่อยพ่อหนุ่ม คุณมาผิดที่เหรอ? ว่าแต่ด้วงนั่นดูดีเลยนะ แต่เรามีเธรดย่อยให้อวดสัตว์เลี้ยงสุดรักแบบนี้กันอยู่แล้วน่ะ แล้วนี่ก็เธรดฉลองการแข่งขันที่คุณไม่ได้เข้าร่วมด้วย อีกอย่าง ฟอรั่มนี้ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษกัน รบกวนให้คุณใช้งานโปรแกรมแปลภาษาเถอะ พวกนี้ใช้งานง่ายมาก พวกเราอยากคุยกับคุณนะ!

HOGSLICE 4h
ไอ้ห่าสารเลว มึงทำกูทำลายข้าวของตัวเองแล้ว

—HOGSLICE

break.jpg

ภายหลังเหตุการณ์: เธรดดังกล่าวได้ถูกตรวจจับโดย .AIC ของสถาบัน จากนั้นจึงได้ถูกลบออกจากสาธารณชน นายเซโอะ ฮิโรทะดะ ชาวเมืองนะกะโตะสะ ได้รายงานว่า SCP-6599-1 เข้ามาภายในบ้านของตนโดยการออกมาจากใต้พื้นบ้าน แม้ว่าบ้านของเขาจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นราบก็ตาม มันใช้ถุงมือชกมวยในการทำร้ายร่างกายนายฮิโรทะดะ พร้อมถามกับผู้เสียหายซ้ำ ๆ ว่าเคนพบกับ "ร็อกกี้" หรือไม่ เมื่อเขาล้มลงกับพื้น SCP-6599-1 ก็ทำการเปิดกรงจำนวนมากที่บรรจุแมลงเอาไว้ภายใน และเทแมลงเหล่านั้นลงบนร่างของนายฮิโรทะดะ จากนั้น SCP-6599-1 ก็กระโดดขึ้นไป และทุ่มศอกลงบริเวณหน้าอกของเขา เมื่อ SCP-6599-1 หายตัวไป นายเซโอะจึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้งานกฎหมาย และต่อมาเขาก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการซี่โครงแตกหัก มาตรการม่านปิดบังแบบมาตรฐานได้ถูกบังคับใช้งานหลังจากนั้น

ภาคผนวก.6599.3: บันทึกการกักกัน

หลังจากสามารถรวบรวมข้อมูลของ SCP-6599 ได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ฝ่ายกักกันประจำแอเรีย-179 ก็ได้ให้การอนุมัติความพยายามในการกักกันสิ่งผิดกปกติ โดยอยู่ภายใต้การควบคุมโดยนักวิจัยโคทส์ รายการของครั้งต่าง ๆ คือดังนี้

ข้อเสนอวิธีการกักกัน
ล่อลวง SCP-6599-1 โดยการใช้บุคลากรประเภท D จากนั้นจึงยิงลูกดอกยาสลบเข้าใส่จนกว่าจะสามารถจัดการมันได้
ผลลัพธ์
บัญชี SCP-6599 ได้ร่วมสนทนาในกระดานสนทนาที่เกี่ยวข้องกับการแกะสลักกระดูก เมื่อ SCP-6599-1 ปรากฏตัวขึ้น มันก็ได้บุกเข้าไปภายในพื้นที่ทดลอง α-4 ของแอเรีย-179's Testing Chamber α-4 และเข้าทำร้าย D-662833 โดยทันที ลูกดอกยาสลบไม่สามารถเจาะทะลุผิวหนังของ SCP-6599-1 และไม่สามารถทำให้มันสงบลงได้ D-662833 สามารถรอดชีวิตได้ โดยมีอาการกะโหลกศีรษะแตก กระดูกสันหลังสามท่อนหัก และกระดูกหน้าแข้งหักหนึ่งท่อน

ข้อเสนอวิธีการกักกัน
ล่อลวง SCP-6599-1 โดยการใช้บุคลากรประเภท D โดยพื้นที่ทดลอง α-5 จะได้รับการดัดแปลงให้พื้นและผนังมีสภาพนำไฟฟ้า โดยจะมีไฟฟ้ากระตุ้นจนกว่าจะสามารถจัดการ SCP-6599-1 ได้
ผลลัพธ์
บัญชี SCP-6599 ได้เข้าสนทนาในกระดานสนทนาที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมสแควร์แดนซ์ ประตูพื้นที่ทดลอง α-5 ถูกเปิดเอาไว้ และทางเดินถูกทำให้ว่าง เมื่อ SCP-6599-1 เข้ามาภายใน ก็ได้มีการกระตุ้นกระแสไฟฟ้าเข้าในพื้นที่ทดลอง แต่ไม่ได้ผลใด ๆ เนื่องจาก SCP-6599-1 สามารถทนต่อกระแสไฟฟ้าได้ อีกทั้งมันยังได้กล่าวรู้สึก "อ่อนหัดโคตร" อีกด้วย D-109682 ถูก SCP-6599-1 จับตัว และถูกเขวี้ยงเข้ากับกำแพงฝั่งตรงกันข้าม ทำให้ถูกไฟฟ้าดูด โดย D-110465 ได้รับบาดแผลไฟไหม้ระดับ 3 ที่ชั้นหนังแท้ถึง 60% และแขนทั้งสองข้างหัก

ข้อเสนอวิธีการกักกัน
ล่อลวง SCP-6599-1 โดยการใช้บุคลากรประเภท D และเนื่องมาจากการให้ความอนุมัติจาก O5-5 เจ้าหน้าที่วูดค็อกพร้อมด้วย SCP-5175 จะถูกส่งตัวเข้าไปภายในพื้นที่ทดลอง α-6 เพื่อเผชิญหน้ากับ SCP-6599-1
ผลลัพธ์
เหตุการณ์-6599-029 สามารถเข้าถึงได้ที่ภาคผนวก.6599.4

ภาคผนวก.6599.4: เหตุการณ์-6599-029

เอกสารบุคลากร - เจ้าหน้าที่วูดค็อก และ SCP-5175


[[include component:image-block name=https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/scp-6599/2685868547_108d2399ef_b.jpg|align=right|width=35%|caption=เจ้าหน้าที่วูดค็อกขณะกำลังใช้งาน SCP-5175 เพื่อแสดงกล]]

SCP-5175 คือ มีดโมร็อกโกประดับซึ่งมีตัวตนไร้รูปร่างที่ถูกเรียกว่า SCP-5175-1 อยู่ภายใน โดยมันกล่าวอ้างว่าตนเป็นวิญญาณซามูไรชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่าคุโรอิทันเก็น ฮันโซ เมื่อถูกใช้งานโดยเจ้าหน้าที่วูดค็อก ซึ่งเป็นโฮสต์ของมัน SCP-5175 จะสามารถกำจัดสิ่งมีชีวิตใด ๆ ก็ตามที่ถูกมันกรีดให้หายไปจากระนาบความเป็นจริงพื้นฐานได้ เนื่องจากเหตุการณ์ดังที่ระบุเอาไว้ภายในเอกสารนั้น SCP-5175-1 รวมไปถึง SCP-5175 จึงมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่วูดค็อกโดยตรง และความสัมพันธ์ดังนี้เองจึงนำไปสู่การทำให้สถาบันได้รับว่าจ้างวูดค็อกเข้าทำงาน

เจ้าหน้าที่ดาเมียน ลอว์เรนซ์ วูดล็อก หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่ Ω-5 "ผู้พิทักษ์ดาเมียน" ได้ประจำการอยู่ที่แอเรีย-179 เพื่อใช้งาน SCP-5175 เนื่องจากตัววัตถุประสบความสำเร็จในการทำให้สิ่งผิดปกติอันเป็นอันตรายหมดสภาพความผิดปกติได้ และแม้ว่าวูดค็อกจะแสดงพฤติกรรมอันไร้วุฒิภาวะ และบุคลิกอันไม่พึงประสงค์ต่อการเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบัน ซึ่งอาจจะมีสาเหตุจากภูมิหลังของเขา แต่เนื่องมาจากประสิทธิภาพในการทำให้สิ่งผิดปกติหมดสภาพ ทำลายวัตถุ และปฏิบัติการทางยุทธวิธีอีกหลายครั้ง เขาจึงถือเป็นทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่ากับสถาบัน


บทถอดความ


«เริ่มต้นการบันทึก»

SCP-6599-1 ปรากฏที่ด้านนอกพื้นที่ทดลอง α-6 และต่อยทะลุกระจกกระจกอะคริลิกของพื้นที่สังเกตการณ์ ทำให้พลาสติกแหลกละเอียด มันปีนข้ามหน้าต่างเข้าไปยังพื้นที่ทดลอง ไฟภายในห้องได้ถูกปิดลง

SCP-6599-1: ไอ้เหี้ยที่ไหนแม่งปิดไฟวะ? กูไม่ชอบความมืดหรอกโว้ย ถ้าไม่ใช่ตอนกำลังมีเซ็กส์ และตอนนี้กูก็ไม่ได้กำลังมีเซ็กส์ มึงเปิดไฟซะ3

เจ้าหน้าที่วูดค็อกซึ่งกำลังลอยตัวด้วยการใช้งาน SCP-5175-1 เตะเข้าที่ท้องของ SCP-6599-1 และจากนั้นก็เคลื่อนกลับเข้าไปภายในความมืด SCP-6599-1 ส่งเสียงโอดครวญ แล้วมันก็มองไปรอบห้อง และพยายามหาว่าการโจมตีนั้นมาจากทางใด

SCP-6599-1: เฮ้ย เหี้ยอะไรของมึงวะ? แน่จริงก็ออกมาตัว ๆ กันแบบลูกผู้ชายดิวะ ไอ้ป๊อด ไอ้ไก่อ่อน

ไฟกะพริบ และกลับมาสว่างตามเดิม— ทำให้เห็นเจ้าหน้าที่วูดค็อกที่กำลังหมอบอยู่ที่มุมห้อง และจับ SCP-5175 ในลักษณะที่ยื่นปลายออกทางข้างหน้าในท่าทางป้องกัน SCP-5175-1 ลอยอยู่เหนือเขา วูดค็อกสวมชุด SICA4 ที่ได้รับการดัดแปลง ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานภาคสนามของเขาได้

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: โอ้โฮ เฮ้ยเชี่ย! สก็อตต์ เรชสไตเนอร์นี่หว่า! เจ๋งโคตร! ขอบทคำนวณแบบที่ลูกพี่ชอบทำที!

SCP-6599-1: ไอ้เวอร์จิ้นอย่างมึงทำไมไม่ไปทำงานร้าน GAMESTOP ล่ะวะ?

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: ไอ้นั่นมัน— เย็ดเข้! ตรงแขนลูกพี่มันรอยสักรูปกะโหลกใช่ไหมนั่น ผมก็มีเหมือนกันเลยว่ะ แต่มีรูปไฟเยอะกว่า กับมีงูเลื้อยออกมาจากรูตาด้วย แล้วตรงด้านล่างก็มีเขียนว่า “โนก็อด โนมา-

SCP-6599-1 พุ่งเข้าใส่วูดค็อกและเตรียมโจมตีโดยการพุ่งหัวเข้าใส่

เจ้าหน้าที่วูดค็อกไถลตัวเข้าไปใต้ขาของมัน SCP-6599-1 จึงเปลี่ยนไปพยายามที่จะเข้าโจมตี SCP-5175-1 แต่ก็ทะลุร่างของมันและชนเข้ากับผนัง

วูดค็อกหันกลับไปทาง SCP-6599-1 และเตรียม SCP-5175 ให้พร้อม จากนั้นก็กระโดดเข้าใส่มัน SCP-6599-1 หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว และคว้าไหล่ของวูดค็อกเอาไว้ที่กลางอากาศ จากนั้นก็ทุ่มเขาลงกับพื้นไลโนเลียมจนมันแตกละเอียด

SCP-6599-1: แพล่มเหี้ยอะไรวะ

วูดค็อกสำลักก้อนเลือดออกมา

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: ในที่สุด คู่ต่อสู้ที่คู่ควร! ระบบควบคุม เปิดเพลงฉันให้ทีดิ๊!5

ชุดเกราะของวูดค็อกเริ่มเล่นเพลง “96 Quite Bitter Beings” ของวงดนตรี CKY วูดค็อกแสดงท่าทีชื่นชอบเพลงนี้ พร้อมส่งเสียงร้องด้วยความยินดี

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: เอาล่ะ ฮันโซ ได้เวลาแสดงผลจากการฝึกของเราแล้ว เตรียมตัวโดนเดธไนฟ์กำราบได้เลยโว้ย ไอ้ลูกหมา!

SCP-5175-1 ปรากฏตัวขึ้นเหนือวูดค็อก จากนั้นมันก็ได้พุ่งเข้าใส่ SCP-6599-1 ซึ่งพยายามจะต่อยมันอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ในขณะที่ SCP-6599-1 หันเหความสนใจ วูดค็อกนำดาวกระจายออกมาจากชุดเกราะของตน และขว้างใส่ SCP-6599-1 โดยมันได้ต่อยเข้าที่กำแพงอย่างรวดเร็ว และนำก้อนคอนกรีตขนาดใหญ่ออกมาใช้เป็นโล่อย่างชั่วคราว

SCP-6599-1 เขวี้ยงก้อนคอนกรีตเข้าใส่วูดค็อก แต่ก่อนที่จะกระทบกับเขา SCP-5175-1 ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างหน้า และเบี่ยงเบนวิถีของมันให้กระทบกับกำแพง SCP-6599-1 บีบเข้าที่คอของวูดค็อก และเหวี่ยงเขาขึ้นไป จากนั้นก็จับเข้าที่ขาทั้งสองข้างและทุ่มเขาลงกับพื้น ทำให้มันแตกละเอียด

SCP-6599-1 ยังคงไม่ปล่อยมือไป และจับขาเขาเหวี่ยงเขาขึ้นไปอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่เจ้าหน้าที่วูดค็อกกำลังหล่นลงมา SCP-6599-1 ก็กำหมัดและชกเข้าที่หน้าแกของเขา ทำให้เขาพุ่งไปชนกับกำแพงที่ฝั่งตรงกันข้าม

SCP-5175-1 ปรากฏตัวที่ข้างใต้เจ้าหน้าที่วูดค็อก และช่วยทำให้เขาสามารถหลุดออกจากกำแพงมาได้ วูดค็อกพุ่งข้ามศีรษะ SCP-6599-1 ซึ่งพยายามคว้าตัวเขาที่กลางอากาศ แต่ไม่สำเร็จ จากนั้นเขาก็กระโดดจากกำแพงอีกแห่ง และไปยังหลังของ SCP-6599-1 จากนั้น SCP-5175-1 ก็ต่อยเข้าที่ขาของ SCP-6599-1 เพื่อที่จะทำให้มันเสียการทรงตัว

SCP-6599-1 พยายามดิ้นรน พร้อมกับที่วูดค็อกกำแน่นขึ้น แต่วูดค็อกไม่สามารถแทง SCP-6599-1 ได้ เนื่องจาก SCP-6599-1 สามารถคว้าปลายมีดของเขาเอาไว้ได้ SCP-6599-1 ถอยหลังจนชนกับกำแพง จากนั้นก็กระโดดและกระแทกวูดค็อกเข้ากับคอนกรีต ก่อนที่สุดท้ายจะปล่อยมือ

วูดค็อกยังคงยืนขึ้นได้ จากนั้นก็ตรวจสอบรอบ ๆ ห้อง และดูเหมือนว่า SCP-6599-1 กำลังพักหายใจ

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: พอไปวัดไปวาได้นะเนี่ย!

SCP-6599-1: มึงก็ไม่เบานี่หว่า ไอ้งั่ง

ทั้งสองวิ่งตรงเข้าหากัน โดยวูดค็อกโยน SCP-5175 ขึ้นในอากาศ จากนั้นก็กำมันและแทงเข้าใส่ SCP-6599-1 แต่มันก็หลบได้ทุกครั้ง ทุกครั้งที่ SCP-6599-1 พยายามจะต่อยวูดค็อก มันจะถูก SCP-5175 ปัดป้องเอาไว้ได้

SCP-6599-1: โคตรพ่อโคตรแม่ ไอ้เชี่ยนั่นมัน—

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: เหมือนโจโจ้ใช่ไหมล่ะ?!? หมอนี่ก็คล้าย ๆ สแตนด์เลยล่ะนะ ถ้าลองคิด ๆ ดู—

SCP-6599-1 กูไม่รู้ว่าแม่งคือเชี่ยอะไร แต่ไอ้เวรนี่แม่งเป็นกระดูกเว้ย เท่ฉิบหายเลยไอ้น้อง

SCP-5175-1 คว้า SCP-6599-1 เอาไว้ และเหวี่ยงมันลงพื้น

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: พอแล้วยังวะ?

SCP-6599-1: กูเรอะ? เพิ่งเริ่มได้ไม่เท่าไหร่เองโว้ย

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: แกเคยเจ้นรำกับปีศาจใน เอ่อ ใต้แสงจันทร์ไหม?

SCP-6599-1: บทพูดโจกเกอร์นี่หว่า กูโคตรชอบเลยโจกเกอร์ ก็เอาดิวะไอ้หนู

SCP-6599-1 กระโดดขึ้นมาในท่าทางยืน และปรับแว่นกันแดดของมันซึ่งเห็นได้ว่ามีรอยแตกร้าว มันพุ่งตัวไปข้างหน้า แต่วูดค็อกตอบโต้กลับด้วยหมัดของ SCP-5175-1 ซึ่งกำลังยืนอยู่ที่ตรงหน้าเขา ทั้งสองแลกหมัดกันอยู่ครู่หนึ่ง โดยที่ไม่สามารถทำอะไรกันได้

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: ผมว่าจะสักรูปโจกเกอร์ที่ต้นขาล่ะ

SCP-6599-1: เจ๋งเป้งว่ะ เดี๋ยวดิเฮ้ย กูสู้กับมึงอยู่นะเว้ย หยุดกวนกันได้แล้ว

SCP-6599-1 พยายามที่จะต่อยเจ้าหน้าที่วูดค็อกอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ถูก SCP-5175-1 ปัดป้องเอาไว้ได้ดังเดิม เนื่องจากความโมโห SCP-6599-1 จึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ SCP-5175-1 พร้อมกันกับที่เจ้าหน้าที่วูดค็อกไถลตัวลอดใต้ขาของมันไปยังเศษคอนกรีตที่พื้น

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: โดโมะ อาริกาโตะ มิสเตอร์โรโบโตะ

วูดค็อกตรงไปยังก้อนคอนกรีต โดยเขาใช้มันเป็นฐานสำหรับกระโดด เขากระโดดพุ่งเข้าใส่กำแพงและพุ่งมาที่ SCP-6599-1 แทงมีดเข้าที่หลังของมัน และดึงมีดกลับ จากนั้น SCP-6599-1 ก็ล้มลง

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: สึกิ โนะ ริงโกะ ดะเคะเดะนาคุ เมย์โย โอะ มตเตะ โคโรสุ วะตะชิ โนะ เพตโตะ โอะ ซาโยนาระ6

SCP-6599-1: เหี้ยเอ๊ย มีดนั่นแม่งไม่ธรรมดาแล้วนะเว้ย ไอ้เบื๊อก

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: เสียดายจริง ๆ ที่ต้องจบลงเร็วขนาดนี้ ผมกำลังสนุกอยู่เลย

SCP-6599-1: ไม่เคยมีใครสูสีกับกูได้ขนาดนี้มาก่อน มึงแม่งไม่เลวเลยว่ะ ไอ้ห่าสารเลว เดี๋ยวกูเลี้ยงเบียร์มึงเอง

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: เอาไว้ชาติหน้าแล้วกันนะ

SCP-6599-1: ถ้าจะฆ่ากู มึงก็ทำให้ดี ๆ ด้วยสิวะ ไอ้ห่านี่

SCP-6599-1 คว้า SCP-5175 และแทงมันเข้าที่หลังของ SCP-6599-1 อีกครั้ง

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: นี่-ทำอะ…

SCP-6599-1: ทำตัวโคตรเท่ไงวะ ไอ้แม่ย้อย

เจ้าหน้าที่วูดค็อก: เออ ใช่ โคตรเท่เลยพี่!

SCP-6599-1: แม่งโคตร… ช…ช-เชี่ย—

หมอกสีม่วงก่อตัวรอบ SCP-6599-1 และมันก็หายไป น้ำตาเริ่มเอ่อคลอที่ดวงตาของเจ้าหน้าที่วูดค็อก เขานำ SCP-5175 กลับเข้าฝัก จากนั้นก็ออกจากพื้นที่ทดลอง

«สิ้นสุดบันทึก»

ภาคผนวก.6599.5: การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

ภายหลังการต่อสู้ระหว่าง SCP-5175-1 กับ PoI-3445 จึงได้สันนิษฐานว่าทั้ง SCP-6599 และ SCP-6599-1 ได้หมดสภาพผิดปกติไปแล้ว ดังเช่นสิ่งผิดปกติอื่น ๆ ที่ถูกกรีดโดย SCP-5175 อย่างไรก็ตาม บัญชี SCP-6599 ก็ยังคงดำเนินกิจกรรมตามเดิมในวันถัดมา แม้ว่าจะพบการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการโพสต์อยู่หลายประการ โดย SCP-6599 ได้เริ่มที่จะสร้างโพสต์ของตนเอง แทนที่จะเป็นการตอบกลับและยั่วยุให้ผู้อื่นสนทนาด้วย และประการที่สอง บัญชี SCP-6599 โพสต์เฉพาะบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยา การบำบัด การควบคุมอารมณ์ความโกรธ การพัฒนาตนเอง และการแนะนำแนวทางชีวิตในอัตราที่น้อยกว่ากิจกรรมตามเดิม ต่อไปนี้คือตัวอย่างที่ถูกคัดตอนมา

เว็บไซต์: FlowersGalore - เว็บไซต์ให้คำแนะนำและการทำ "ไลฟ์แฮ็ก" ในการดูแลสวนด้วยตนเอง

FLOWERS GALORE


HOGSLICE 08/23/2020
ไงไอ้พวกงั่ง

มีไอ้เวรคนนึงบอกให้กูออกมาแตะหญ้า แล้วพอมาทำกูก็ติดใจว่ะ กูอยากปลูกหญ้าเพิ่มบ้าง

ก็อยากถามหน่อย ถ้าไม่ตอบกูจะปาขี้เข้าปากมึง:

  • กูตัวสูงโคตร ๆ แบบนี้หญ้าจะกลัวเหมือนกับที่คนเป็นกันมั้ยวะ?
  • กูชอบกลิ่นหญ้า แต่แค่ตอนที่โดนตัดไปแล้ว หญ้ามันชอบโดนตัดมั้ย หรือแม่งขี้สำออย?
  • กูอยากให้แถบนี้ของประเทศมีหญ้าแบบโคตรพ่อโคตรแม่เยอะ มันต้องใช้หญ้าเท่าไหร่ แล้วกูก็อยากได้หญ้าพอที่จะยัดเข้าตูดไอ้เหี้ยที่แม่งไล่กูมาแตะหญ้าด้วย

ขอบใจ

-HOGSLICE


เว็บไซต์: r/selfimprovement - ซับเรดดิตที่เพื่อการพัฒนาตนเอง และการช่วยเหลือในการเติบโตของบุคคลอื่น ๆ ภายในชุมชน

ที่กูชอบทำ
โพสต์เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว โดย HOGSLICE
191 คอมเมนต์ แชร์ บันทึก ซ่อน ให้รางวัลโพสต์ รายงาน โพสต์ข้าม

เวลากูโมโห บางทีกูจะออกไปนอกบ้าน แล้วทำตัวเป็นตัวชัคฮ็อก กูใช้มือถอนหญ้าแล้วก็ขุดหลุมจนกว่าจะลืมว่าตัวเองโมโหไปทำไม แล้วกูก็ได้หลุมโคตรเท่เอาไว้เล่น

—HOGSLICE

ขอวิธีการที่ทำให้กูไม่ทำลายข้าวของเวลานึกถึงไอ้โฆษณายาขับเสลด MUCINEX COMMERCIALS กับไอ้ก้อนเสลดเหี้ยนั่น
โพสต์เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว โดย HOGSLICE
206 คอมเมนต์ แชร์ บันทึก ซ่อน ให้รางวัลโพสต์ รายงาน โพสต์ข้าม

กูไม่ชอบไอ้ห่านั่น แม่งทำตัวคิดว่าตัวเองดีกว่ากูอย่างนั้นแหละ กูไม่อยากให้แม่งชนะ

—HOGSLICE

กูอยากมีเพื่อน
โพสต์เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว โดย HOGSLICE
80 ความคิดเห็น แชร์ บันทึก ซ่อน ให้รางวัลโพสต์ รายงาน โพสต์ข้าม

—HOGSLICE

กูจะไปหานักบำบัด
โพสต์เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว โดย HOGSLICE
302 คอมเมนต์ แชร์ บันทึก ซ่อน ให้รางวัลโพสต์ รายงาน โพสต์ข้าม

ตอนนั้นกูกำลังดูโซปราโนส์ (กูไม่รู้เลยว่าตัวเองจะอินพวกอิตาเลียนได้ขนาดนี้) มีไอ้คนหนึ่งชื่อโทนี่ แล้วมันคล้ายกูมาก หมอนั่นมีนักบำบัด แล้วนางก็บอกว่ามันมีปัญหาการควบคุมอารมณ์โมโหด้วย

ไอ้หมอนี่เจ๋งโคตร แล้วก็เซ็กส์จัดด้วย แล้วกูว่ากูอินกับเรื่องนั้นมากกว่า แต่กูว่าจะไปหานักบำบัดดูบ้างแล้วว่ะ จะได้ให้ช่วยกูหาเพื่อน

—HOGSLICE

การดำเนินการดังนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่ในวันที่ 2012/6/11 บัญชี SCP-6599 ทั้งหมดจะหยุดการดำเนินกิจกรรม และเข้าสู่โหมดออฟไลน์ การปรับเปลี่ยนระดับวัตถุเป็น Neutralized ยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณา

ภาคผนวก.6599.6: ความคืบหน้า

ในวันที่ 2014/11/19 บัญชีทั้งหมดที่เข้าลงทะเบียนกับเซิร์ฟเวอร์ SCiPNet ของแอเรีย-179 ได้รับอีเมลนี้ส่งเข้ามายังกล่องจดหมาย

ไม่มีบันทึกกิจกรรมใด ๆ จากบัญชี SCP-6599 และยังคงไม่ทราบว่าปัจจุบัน SCP-6599-1 นั้นอยู่ที่ใด


SCP-6599 - HOGSLICE โดย ImetImet, 07 Nov 2025 16:55

ต้นฉบับ: SCP-9044 - A ##blue|House## with ##red|People## in it


วัตถุ #: SCP-9044

ระดับ: Trinity (ในทางวิทยาศาสตร์)

มาตรการกักกันพิเศษ: ได้มีการติดตั้งลวดตาข่ายถักล้อมรอบบ้านที่ SCP-9044 อยู่ภายใน

รายละเอียด: SCP-9044 คือ โถงทางเดิน โดย SCP-9044 อยู่ภายในบ้านแถบชานเมืองเลขที่ 8541 ถนน███████ รัฐเวอร์จิเนีย ยังคงไม่มีการไปถึงยังปลายสุดของ SCP-9044 การเปิดประตูในจุดที่คาดว่าเป็นปลายสุดของ SCP-9044 มักจะปรากฏเป็นอีกห้องหนึ่ง ซึ่งก็จะสิ้นสุดอยู่ที่ประตูอีกบานเช่นกัน และสามารถได้ยินเสียงขูดจากบริเวณอื่น ๆ ของตัวบ้านได้

SCP-9044 ได้ถูกค้นพบหลังจากที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวลอรีย์ได้หายตัวไป ได้มีการสันนิษฐานว่าเกิดขึ้นในระหว่างงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ โดยผู้ร่วมงานทั้งหมด 27 ได้ติดตามพวกเขาไป และรถของพวกเขายังคงถูกจอดเอาไว้ที่ด้านนอกของตัวบ้าน

หลังจากนั้นสามเดือน ผู้อยู่อาศัยภายในหมู่บ้านจำนวนสิบเอ็ดคนก็ได้หายตัวไปเช่นกัน โดยรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ถูกระบุเอาไว้ว่าพวกเขาได้ย้ายถิ่นที่อยู่ออกไป จดหมายที่ถูกส่งมาหลังจากนั้นจึงได้ถูกรวบรวมและกำจัดทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดการทับถม

บันทึกการสำรวจ


วันที่: 15 เมษายน 2000

หมายเหตุ: เนื่องจากไม่สามารถทำการติดต่อกับบุคคลภายใน SCP-9044 โดยตรงได้เมื่ออยู่นอกระยะ 200 เมตร ดังนั้น อาสาสมัครทดลองจึงได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ติดต่อโทรจิต ซึ่งทำให้สามารถส่งภาพจากกระจกตาไปยังเซิร์ฟเวอร์ของสถาบันได้โดยตรง ภาพดังต่อไปนี้ไม่ได้ผ่านการปรับแต่งใด ๆ โดยแต่ละภาพมีระยะเวลาการถ่ายห่างกันสามสิบนาที


[เริ่มต้นบันทึก]




entrance.png

00:00






imhappytoseeyouagain

00:30






followme

01:00






ithasbeensolong

01:30






doyourememberme

02:00






irememberyou

02:30






Youresocute

03:00






howcozy

03:30






keepgoing.png

04:00






Doyouseeit

04:30






turnaround

05:00






sobeautiful

05:30






youresoclose

06:00






Itscold

07:30






doyouseeme

08:00






imbeautiful

08:30






lookatthelights

09:00






hearmyvoice

09:00






Feelmyfingers

09:00






yourealmosthere.png

09:00






dontbeafraid

09:00






welcomehome

09:00






[สิ้นสุดบันทึก]






ต้นฉบับ: SCP-8000 - The Seal of Approval


[[include :scp-th:component:anomaly-class-bar-source
|item-number= 8000
|clearance= 5
|container-class= safe
|secondary-class= none
|disruption-class= none
|risk-class= none
]]

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|containment-class= safe
|containment-image= https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/component%3Aanomaly-class-bar/safe-icon.svg
|containment-color= 176, 216, 247
|inc-neutralized-layout = —]]]

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|clearance-five= 176, 216, 247
|inc-clearance= —]]]


seal.jpg

SCP-8000


มาตรการกักกันพิเศษ: ขณะนี้ SCP-8000 ยังคงไม่ได้รับการกักกัน

รายละเอียด: SCP-8000 คือ ตัวตนรูปร่างเรียวยาวขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับแมวน้ำฮาร์เบอร์ (Phoca vitulina) ซึ่งอาศัยอยู่ภายในศูนย์ -322 ความยาวของ SCP-8000 ที่แน่ชัดยังคงไม่เป็นที่ทราบ เนื่องจากไม่เคยมีการพบหางของมัน อย่างไรก็ตาม คาดว่ามันอาจมีความยาวมากจนถึง 150 เมตร โดย SCP-8000 ไม่ทำการกระโดด ไถลตัว หรือว่ายน้ำ แต่มันกลับสามารถบินได้ด้วยตนเอง และสามารถเคลื่อนที่ผ่านของแข็ง รวมถึงยังรับรู้ถึงอนาคตได้อีกด้วย

SCP-8000 นั้นมีสติปัญญา สามารถพูดได้ และมีความฉลาดเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากนี้ SCP-8000 ยังสามารถสร้างทางผ่านระหว่างมิติได้ตามที่มันต้องการเป็นเวลาชั่วคราวอีกด้วย ได้มีการสันนิษฐานว่า SCP-8000 ได้ทำการเชื่อมต่อเข้าสู่ระนาบความเป็นจริงพื้นฐานจากพื้นที่นอกมิติที่ไม่เป็นที่ทราบ ยังคงไม่มีการค้นพบทั้งวิธีการหรือเหตุผลในการปรากฏขึ้นของ SCP-8000 ภายในความเป็นจริงปัจจุบัน

อ้างอิงจากเอกสาร SCP-8000 ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตสองชนิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนโลก

ผู้อำนวยการพอล เลกเข้าไปภายในพื้นที่ประชุมของศูนย์-322 เขาจดจ่อไปที่ใบรายงานพร้อมกับที่มุ่งตรงไปยังเก้าอี้ของตน

เลก: เจอร์ ผมขอพูดตรง ๆ เลยนะ มันไม่— ตัวเชี่ยไรวะเนี่ย?

SCP-8000 อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ

SCP-8000: ไง คุณพอล!

เลก: ผม— ที่นี่… ฮะ? เชี่ยอะไรวะ?

SCP-8000: นั่งลงเถอะ ฉันไม่กัดหรอก

เลก: ส่วนผมงงสุด ๆ เลย

SCP-8000: นับว่าเป็นการตอบสนองที่สมเหตุสมผลดีเลยนะ

เลก: นี่คุณเป็นแมวน้ำเหรอ?

SCP-8000: มีสายตาเฉียบแหลมจริง ๆ เลยนะ คุณพอล ดูเหมือนว่าคุณจะยุ่งอยู่นี่ ว่าแต่มันคือเรื่องอะไรเหรอ?

เลก: ผม— ผมจำไม่ได้แล้ว คิดว่าน่าจะมีประชุมนะ

SCP-8000: หืม เป็นแบบนี้อีกแล้วแฮะ

เลก: อะไรนะ?

SCP-8000: เรื่องนั้น

เลก: เรื่องไหน?

SCP-8000: เรื่องนั้น

เลก: ก็แล้วเรื่องไหนล่ะ?

SCP-8000: เจ้าเรื่องความทรงจำนั่น ไม่มีอะไรให้กังวลหรอกนะ ปกติฉันก็เลี่ยงมันมาตลอดอยู่แล้วแหละ

เลก: คุณทำผมคาใจนะเนี่ย

SCP-8000: ใช่ ฉันพูดจาให้คลุมเครือจริง ๆ แต่ฉันขอสาบานเลยว่าถ้าคุณซื่อตรงต่อฉัน ฉันก็จะซื่อตรงต่อคุณตอบ

เลก: ไม่แฟร์เท่าไหร่เลยนะนั่น

SCP-8000: ทำไมล่ะ?

เลก: ก็มันไม่มีสาเหตุอะไรให้ผมเชื่อว่าความซื่อตรงที่คุณว่ามามันซื่อตร๊งซื่อตรงจริง ๆ เลยนี่นา

SCP-8000: ก็คุณมาคุยกับฉันนี่ ฉันรู้นะว่าคุณบอกว่าตัวเองมีเจ้าสัมผัสพิเศษเกี่ยวกับพวกที่คุณเรียกกันว่า 'พวกประหลาด' อะไรนั่น แล้วฉันก็คิดว่าตัวเองเข้าข่ายพวกพิลึกกึกกือที่คุณรับเข้ามาที่นี่ได้ดีเลยล่ะ

เลก: อ่าฮะ ก็คือ คุณรู้ดีว่าผมพาเจ้า 'พวกพิลึกกึกกือ' มา แล้วจากนั้นก็ยัดมันเอาไว้ในกรง ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ในนั้นอย่างถาวรเลย ถูกมั้ย?

SCP-8000: ใช่

เลก: แล้วทีนี้ผมก็จะต้องเอาคุณไปขังกรงด้วย

SCP-8000: แล้วทีนี้ก็จะทำทดส่งทดสอบไป ๆ มา ๆ และเขียนรายงานเป็นปึก ๆ จากนั้นก็ทำห้องขังให้ฉัน รู้น่า พวกนั้นมันไม่จำเป็นหรอก ฉันทำการศึกษาวิจัยตัวเองและทำเอกสารมาให้แล้วด้วย

SCP-8000 ดันเอกสาร SCP-8000 ไปให้กับเลก

เลก: ทำไมต้องเป็นเลข 8000 ด้วยล่ะ?

SCP-8000: ฉันไม่ได้เลือกเองสักหน่อย

เลก: คุณบอกว่าเป็นคนเขียนไม่ใช่หรือยังไง

SCP-8000: ก็ใช่ แต่เรื่องนั้นมันอยู่นอกเหนือไปจากการควบคุมของฉัน

เลก: แล้วนี่คุณมีหางไหมเนี่ย?

SCP-8000: คุณห่วงเรื่องนั้นอยู่เนี่ยนะ?

เลก: เป็นเรื่องที่แปลกสำหรับที่จะเขียนลงมามากเลยนะเนี่ย คุณพอจะพูดนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ได้หรือไง?

SCP-8000: ฉันไม่เคยเห็นหางตัวเองมาก่อนเลย ฉันขอไม่ยืนยันอะไรโดยที่ไม่มีหลักฐานดีกว่า

เลก: แค่คุณเลื้อยผ่านตรงนี้มาได้ ผมก็พอยืนยันได้เลยล่ะว่าคุณมีหางหรือไม่มีหาง

SCP-8000: โธ่ถัง ฉันลอยต่างหาก ลอยไปมาอย่างสวยงามและน่าประหลาดตา

เลก: อะไรก็ช่างเถอะ ใครถ่ายภาพให้เนี่ย?

SCP-8000: คุณไง อีกสักหกถึงเจ็ดนาทีข้างหน้านี้นี่แหละ

เลก: นี่พูดเรื่องอะไรเนี่ย?

SCP-8000: คุณเคยเจอปัญหาประมาณนี้ไหม เวลาที่คุณเชี่ยวชาญอะไรสักอย่างมาก ๆ แล้วก็คิดว่าคนอื่นก็จะเข้าใจได้เหมือน ๆ กันกับคุณ?

เลก: ก็บ่อยนะ จริง ๆ แล้วก็ทุกวันนั่นแหละ

SCP-8000: ฉันมีหน้าที่เป็นแนวพวกผู้แทรกแซงอะไรประมาณนั้น เพราะงั้นฉันขอร้องอย่างสุภาพจริง ๆ เลยนะคุณพอล ขอรบกวนให้คุณได้ใช้เวลาหนึ่งวันนี้ด้วยกันกับฉันด้วย คุณเป็นคนถ่ายภาพนั้นเอง เพราะงั้นคุณก็เลยรู้คำตอบอยู่แก่ใจแล้ว แต่ฉันบังคับคุณไม่ได้หรอกนะ มันจะเป็นการหยาบคายมากเลยล่ะ

เลก: ในออฟฟิศผมเหรอ?

SCP-8000 ทำท่าทางกัดไปที่อากาศ และใช้ขากรรไกรของมันงับเข้ากับพื้นที่ว่างเปล่าเอาไว้แน่น จากนั้นมันก็ดึงศีรษะไปทางฝั่งซ้าย ส่งผลให้เกิดรอยแยกภายในความเป็นจริงปัจจุบัน

SCP-8000 บินผ่านเข้าไปภายในทางผ่านระหว่างมิติ และชะโงกหัวมาทางเลก

SCP-8000: เปล่าหรอก! ต้องผ่านตรงนี้ไปก่อน ข้างในนี้สบายมากเลยล่ะ ขอบอก

เลก: เดี๋ยวก่อนนะ

SCP-8000: จริงสิ 'แล้วนี่จะเชื่อใจได้ยังไงกันน่ะ?' ถามมาได้ทุกอย่างเลย แล้วฉันจะตอบตามตรงให้

SCP-8000 ยกครีบขวาของมันขึ้น

SCP-8000: ขอสาบานด้วยนิตยสารที่คุณซ่อนเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะเลยล่ะ

(เลกจ้องตากับ SCP-8000 อย่างเงียบเชียบ โดยมันขยิบตาตอบรับ)

เลก: คุณจะไม่ฆ่าผมเหรอ?

SCP-8000: สิ้นเปลืองไปน่ะ

เลก: แล้วไม่กินผมเหรอ?

SCP-8000: ความอยากกินเนื้อมนุษย์ของฉันหายไปนานมากแล้วล่ะ

เลก: นั่นเล่นมุกหรืออะไรน่ะ?

SCP-8000: ใช่สิ อ่อนไหวจังนะ ไม่มีอะไรให้จำเป็นต้องกินคุณหรอก

เลก: แล้วเรื่องทรมานผมนับล้าน ๆ ปีล่ะ? หรือไม่ก็เผาครอบครัวผมทั้งเป็นต่อหน้าต่อตา? ไหนจะทำให้ผมเป็นบ้าไปไม่รู้จบล่ะ? จะมีอะไรแบบนั้นไหมเนี่ย?

SCP-8000: เจาะจงจังเลยนะ

เลก: ตอบมาซะ

SCP-8000: เปล่าประโยชน์และสะเพร่าเกินไปหน่อย

เลก: แล้วนี่ผมยังไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าต้องทำอะไรบ้าง

SCP-8000: คุณพอล ฉันแค่อยากให้คุณใช้เวลาด้วยกันสักหนึ่งวัน

เลก: คุณพูดประโยคนี้ซ้ำสองแล้วนะ

SCP-8000: ฉันจะเข้าไปในรอยแยกนี้ช้า ๆ มันก็เปิดอ้าเอาไว้ไม่ได้นานนักหรอก แล้วการจะเปิดอีกรอบก็ยากด้วย เพราะงั้นก็ขอเถอะนะ เรามาช่วยกันให้พ้นจากปัญหาเถอะ คุณคงไม่อยากทำให้เกิดพาราด็อกซ์แค่เพราะไม่ยอมถ่ายภาพหรอกเนอะ คุณพอล?

SCP-8000 กลับเข้าไปในทางผ่านฯ อีกครั้ง ผู้อำนวยการเลกจ้องมองมันในขณะที่ขอบกำลังค่อย ๆ ซ่อมแซมตัวเองต่อไป

เอกสารที่ถูกกู้คืน 8000.1
02/13/2024

บริบท: ผู้อำนวยการพอล เลกได้รับคำสั่งให้เข้าพบกับเจเรไมอาห์ ซิมเมอเรียน ผู้ประสานงานจากคณะกรรมาธิการจริยธรรม ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติของเขาในฐานะผู้อำนวยการศูนย์-322

บทถอดความ


«เริ่มต้นการบันทึก»

ซิมเมอเรียน: คุณคิดว่าช่วงนี้ตัวเองเป็นไงบ้าง?

เลก: การที่คุณมานี่ไม่ค่อยทำให้รู้สึกดีเท่าไหร่เลยนะ

ซิมเมอเรียน: เราถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันใช่ไหม?

(ทั้งคู่เงียบ)

เลก: ใช่แหละ

ซิมเมอเรียน: งั้นมาเข้าเรื่องกัน คุณขาดประชุม O4 มาสิบสองครั้งจากการประชุมทั้งหมดสิบสี่ครั้งที่ผ่านมา ผลงานของศูนย์ของคุณ — เรื่องการกักกันสิ่งผิดปกติ การวิจัย ฯลฯ — ก็ลดลงอย่างหนักในช่วงสามเดือนมานี้ ผมได้คำร้องเรียนอยู่สิบหกฉบับที่เป็นเรื่องกลิ่น "ขยะเปียกและความน่าละอาย" โชยมาจากสำนักงานของคุณ และก็มีอีกหลายคนรายงานผมมาว่าคุณหลับในเวลางานอีกด้วย

เลก: อืม

ซิมเมอเรียน: คุณจะปฏิเสธข้อความเหล่านี้ไหม?

เลก: ผมไม่รู้ล่ะ ผม— ผมแค่ว่า— ช่างมันเถอะ

ซิมเมอเรียน: หมดไฟเหรอ?

เลก: คงงั้นมั้ง? ผมว่าผมคงแค่อยู่ในช่วงเงียบเหงาล่ะมั้ง

(ซิมเมอเรียนมองไปที่เลกอย่างเงียบ ๆ )

เลก: ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองเป็นซึมเศร้าหรืออะไรของมัน ผมนั่งลงที่โต๊ะ ทำงานเอกสารที่ต้องทำประจำวัน มอบหมายโครงงานที่ยังเหลือ จ้องหน้าจอจนกว่าจะกลับบ้านไปได้ ผมเบื่อหน่าย ทุกอย่างมันน่าเหนื่อยหน่ายไปหมด

ซิมเมอเรียน: คงมีสาเหตุมาจากปัญหาที่ใหญ่กว่านี้นั่นแหละ

เลก: ก็เห็นชัดแล้วนี่

ซิมเมอเรียน: เริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน?

เลก: ตอนที่ผมทำวิจัยไอ้สิ่งผิดปกติตัวหนึ่ง ผมจำไม่ได้นักหรอก แล้วก็— ไม่รู้ดิ — ผมนั่นจ้องไฟล์ข้อมูลห่า ๆ ของไอ้สิ่งผิดปกติห่าเหวนั่น แล้วก็รู้สึกว่าจะทำไปเพื่ออะไรกันนะ มันคงดับไฟในตัวไปหมดเลยล่ะ

ซิมเมอเรียน: คงงั้น ฟังนะพอล ผมเคยจัดการกับคนที่ประสบปัญหาแบบคุณตอนนี้มานักต่อนักแล้วล่ะ ว่าแต่คุณเป็นผู้อำนวยการมานานเท่าไหร่แล้วล่ะ?

เลก: แปดปีแล้ว

ซิมเมอเรียน: โห ก็เร็วกว่าปกติไปหน่อยแฮะ

เลก: บ่นไปแล้วจะช่วยแก้อะไรไหมล่ะ? ผมทำงานที่ผมต้องทำให้เสร็จอยู่นี่ไงเล่า เดี๋ยวผมก็จัดการเองน่า

ซิมเมอเรียน: บอกผมมาได้นะว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงได้รู้สึกแบบนี้? ผมมาเพื่อช่วยคุณนะ

เลก: ทำไมล่ะ? มันไม่มีความหมายเลยสักนิด ไม่มีเลย! ผมพอแล้ว แค่— ขอเวลาให้ผมสงบสติได้แป๊บเดียว แล้วเดี๋ยวผมจะกลับไปเป็นปกติเองนั่นแหละ ขอบคุณจริง ๆ นะ เจอร์

ซิมเมอเรียน: ผมไม่ได้มาเพื่อเขกหัวคุณสักที แล้วทำให้คุณกลับมาชอบงานได้เหมือนเดิมหรอกนะ คุณรู้นี่ว่าคุณทำงานได้ดีขนาดไหน เราต้องการแบบนั้นกลับมา เราต้องการอะไรที่มากกว่าที่คุณทำออกมาได้ในตอนนี้

เลก: เชื่อผมเถอะ ผมอยากทำให้ได้มากกว่าที่พวกคุณอยากอีก แต่มันไม่ได้จริง ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลย ถ้างั้นแล้วผมจะลองทำต่อไปทำไมล่ะ?

«สิ้นสุดการบันทึก»

ผู้อำนวยการเลกและ SCP-8000 ออกมาจากทางผ่านระหว่างมิติและเข้าสู่ห้องหนึ่งภายในหอสมุดขนาดใหญ่ ประตูขนาดใหญ่ถูกเปิดเอาไว้ เผยให้เห็นหนังสือนับพันที่ถูกจัดเรียงเอาไว้บนชั้นไม้มะฮอกกานีสีเข้ม ซึ่งทอดยาวออกไปสุดสายตาและขึ้นสู่ทิศของเพดาน อากาศนิ่งสงบ มีกลิ่นเขม่าและกระดาษเก่าเก็บคละคลุ้ง และดวงไฟขนาดเล็กอยู่ทั่วชั้นวาง ส่องสว่างให้กับทั้งหนังสือและโถงทางเดิน

เลก: ผมเคยไปที่หอสมุดผู้พเนจรมาก่อนแล้วล่ะนะ

SCP-8000: นี่คือหอสมุดของฉันเอง พวกคณะนั้นได้ไอเดียหอสมุดที่ไร้สิ้นสุดมาจากฉันเองนี่แหละ ส่วนฉันก็ไปหยิบยืมมาจากหอสมุดอเล็กซานเดรียอีกทีนึง

ทั้งคู่เดินออกจากห้อง ซุ้มประตูหินที่ถูกปกคลุมไปด้วยพืชพรรณและเถาวัลย์ตั้งอยู่ต่อหน้าทุกโถงทางเดินที่ทอดสาขาออกไป

เลก: ผมไม่เคยได้ยินว่ามีที่แบบนี้อยู่อีกหนึ่งแห่งเลยแฮะ

SCP-8000: ฉันไม่ชอบเปิดเผยเท่าไหร่หรอก ก็เลยเก็บเอาไว้คนเดียว ถึงอย่างนั้น ที่นี่ก็ไม่ใช่หอสมุดของฉันหรอก ตามจริงนะ มันเป็นของคุณต่างหาก

ทั้งคู่มาถึงซุ้มประตูหนึ่ง ที่ยอดโค้งของซุ้มสลักเป็นคำว่า "ตรอกทรงจำ" เอาไว้

SCP-8000: เดินเล่นกันสักหน่อยดีไหม?

เลกและ SCP-8000 เดินต่อไป ทั้งคู่เข้าสู่ส่วนย่อยของโถงทางเดิน

SCP-8000: ภายในนี้มีทุกประสบการณ์ ทุกช่วงเวลา ทุกองค์ความรู้ และทุกอารมณ์ความรู้สึก มันคือผังของตัวคุณเองนี่ไง คุณพอล

เลก: ที่นี่มันลงลึกได้แค่ไหนน่ะ?

SCP-8000: ความทรงจำของกล้ามเนื้อในด้านการเล่นเปียโนอยู่ข้างบนนั้น ฝุ่นเขรอะมากเลยล่ะ มีสี่เล่มเกี่ยวกับข้อมูลเรื่องฉลามและทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับฉลามตั้งแต่สมัยตอนคุณยังเด็กอยู่ข้างหน้า มีทุกช่วงเวลาของทุกคาบที่คุณนั่งเรียนในสมัยประถมอยู่ทางนี้

เลก: ก็แล้วมันลงลึกถึงแค่ไหนล่ะ?

SCP-8000: ฉันอ่านทุกอย่างมาหมดแล้ว […] ฉันก็ไม่ตัดสินอะไรหรอกนะ

เลก: แม้แต่ที่—

SCP-8000 บินขึ้นไปนอกขอบเขตการมองเห็น หยิบหนังสือที่มีฝุ่นจับออกมาจากบนชั้น และมอบให้เลก เขาเปิดมันขึ้นมาอ่าน

เลกอายุแปดขวบกำลังว่ายน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำสาธารณะ

เขาเกาะราวบันไดที่บริเวณที่น้ำลึกที่สุด เลกกดตนเองลงใต้น้ำและกลับขึ้นมาเรื่อย ๆ อยู่สี่รอบ

แล้วทันใดนั้น เลกพยายามจะกลับขึ้นผิวน้ำ แต่กลับทำไม่ได้ เนื่องจากกางเกงของเขาพันเข้ากับจุกอุดอากาศของสระซึ่งขาดออกที่อยู่ข้างล่างราวบันได

เลกตื่นตระหนก เขาตะเกียกตะกายและพยายามที่จะกลับขึ้นไปบนผิวน้ำ แต่ล้มเหลว เขาแก้เชือกกางเกงตนเอง และว่ายออกมา เขาเนื้อตัวล่อนจ้อน แต่ก็ยังรอดชีวิตอยู่

เด็กผู้หญิงสองคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และจ้องมองไปที่เขา หนึ่งในสองคนนั้นคือคนที่เลกแอบชอบ

เลกหอบหายใจ จากนั้นก็จับไปที่อกและแขนของตนเอง

SCP-8000: ใช่เลย เจ้าเรื่องนั้นด้วย

เลก: พระเยซูช่วยเถอะ! รู้สึกเหมือนจริงมากเลย

SCP-8000: เพราะมันจริงไงล่ะ คุณเคยอยู่ในจุดนั้นมาก่อน และฉันก็พาคุณกลับไปอีกครั้งเพื่อที่คุณจะได้สัมผัสอีกครั้ง

เลก: นี่เหรองานคุณน่ะ?

SCP-8000: ทำให้คุณต้องเจอประสบการณ์น่าอายอีกครั้งเหรอ? เปล่าหรอก เมื่อกี้แค่ทดลองให้ดูเฉย ๆ ฉันพาคุณย้อนกลับไปประสบการณ์นั้นได้ก็จริง แต่ก็ยังแค่ให้ดูในฐานะผู้ชมได้เหมือนกัน

เลก: พับผ่าเถอะ ผมขอล่ะ ช่วยบอกมาทีได้ไหมว่าเรามาทำอะไรที่นี่กันแน่?

SCP-8000: พวกเรามาเพื่อหาความทรงจำอันแสนล้มเหลวของคุณไงล่ะ มีอยู่เยอะเลยนะ มากกว่าที่คนทั่วไปมีกันเสียอีก

เลก: คุณกดหัวผมลงน้ำแบบเมื่อกี้เลยก็ได้นะ

เอกสารที่ถูกกู้คืน 8000.2
02/14/2024

บริบท: ดร.เจเรไมอาห์ ซิมเมอเรียนได้เรียกรวมตัวเพื่อนร่วมงานที่สนิทสนมกับผู้อำนวยการเลกมาจำนวนหนึ่ง โดยเขาเชื่อว่าการทำแบบนี้จะสามารถช่วยในการบรรเทาอารมณ์ของผู้อำนวยการเลกได้

บทถอดความ


สมาชิกที่เข้าร่วม
ผอ.แดเนียล แอชเวิร์ธ
ดร.แฮโรลด์ แบลงก์
ดร.เจเรไมอาห์ ซิมเมอเรียน
ดร.แอนโทนี คอยซ์
ผอ.แรนดัลล์ เฮาส์
ดร.โคล แธร์เอเวน
SCP-5595


«เริ่มต้นการบันทึก»

(ซิมเมอเรียนนำเลกเข้าไปภายในพื้นที่ประชุมของศูนย์-322 เพื่อนร่วมงานของเขาอยู่ตรงหน้า โดยกำลังนั่งล้อมกันเป็นวงกลม มีเก้าอี้ว่างอยู่ตรงหน้าเขา)

เลก: นี่เข้ามาแทรกแซงกันเรอะ? ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย?

ซิมเมอเรียน: ไม่ได้มีการแทรกแซงสักหน่อยนะ

SCP-5595: ดูยังไงมันก็เป็นการแทรกแซงกันชัด ๆ หมอนี่มันบื้อ ไม่ได้โง่สักหน่อย

(เลกนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่าง และพึมพำกับตนเอง)

ซิมเมอเรียน: พวกเราอยากที่จะคุยเรื่องหน้าที่การงานและสภาพอารมณ์ของคุณสักหน่อย มีบางคนในนี้เตรียมบทพูดเอาไว้แล้วด้วย ใครจะเริ่มก่อนดีล่ะ?

(แธร์เอเวนยกแขนขึ้น)

ซิมเมอเรียน: ว่าไงโคล?

(แธร์เอเวนนำกระดาษยับ ๆ ออกมาจากข้างใต้ขาของตน จากนั้นจึงเริ่มอ่าน)

แธร์เอเวน: คุณเลกครับ ผมเสียใจกับความสูญเสียที่คุณต้องประสบตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจริง ๆ ครับ ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าการเสียสัตว์เลี้ยงไปจะต้องรู้สึกเสียใจแค่ไหน ผมนึกไปถึงเจ้าไคลด์ ซึ่งเป็นตุ๊กแกที่ผมเลี้ยง ที่จากไปเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่รุนแรง เช่นเดียวกันกับที่สุนัขของคุณประสบ ผมขอแสดงความเสียใจต่อทั้งคุณ และสุนัขกับสัตว์เลี้ยงที่จากไปทั้งหมดด้วยครับ

ซิมเมอเรียน: โคล เรื่องนี้มันเกี่ยวกับ—

(เลกยกมือขึ้นหาซิมเมอเรียน)

เลก: ขอบใจจริง ๆ นะ โคล ซาบซึ้งจริง ๆ1

ซิมเมอเรียน: แอนโทนีล่ะ?

คอยซ์: ผมต้องให้คุณตรวจสอบและเซ็นเอกสารให้ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วคุณบอกว่าจะจัดการให้ แต่พอผมกลับเข้าไปในออฟฟิศของคุณในอีกไม่กี่ชั่วโมงให้กลัง ผมก็พบว่ามันอยู่ใต้หนังสือที่ถูกเขียนโดยศิลปินสอนจีบสาว ผมต้องทำงานล่วงเวลาตั้งห้าวันเพื่อแก้ไขเอกสารตามที่จำเป็น แถมผมยังต้องเข้าประชุมแทนคุณในการประชุมอยู่หกครั้ง โดยที่ผมไม่ได้ค่าจ้างล่วงเวลาเลยแม้แต่น้อย

เลก: หา? นี่คุณไม่ได้ค่าโอทีเรอะ?

คอยซ์: คุณเอาสิทธิ์พิเศษที่ควรได้ออกไปไง

เลก: ไม่นะ ผมเปล่าทำ

SCP-5595: อ่อ เออ ผมทำเองแหละ

เลก: เชี่ยไรวะ?

SCP-5595: ก็มันด่าผมว่าไอ้ห่าเพราะผมไปกดบัตรคอนดิเอราส์ทัวร์มาอัปราคานี่หว่า

แอชเวิร์ธ: เจ้าตู้กดลูกอมนี่มันอะไรนะ?

คอยซ์: เป็นสิ่งผิดปกติตัวแรกที่ผ่านโครงการบูรณาการ เลกให้มันทำงานในแผนกธุรการน่ะ

แอชเวิร์ธ: ไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่เลยนะ

เลก: ขอบใจนะพ่อตัวใหญ่ใจโต แหม ผมคงเผลอถามความเห็นคุณไปสักช่วงสินะ

แอชเวิร์ธ: นั่นประโยคบอกเล่า เจ้านี่มันเป็นสิ่งผิดปกติที่ควบคุมทุนทรัพย์ของสถาบันเลยนะ บางทีก็คงไม่ดีเท่าไหร่ที่—

เลก: อย่ามาหาเรื่องกันสิ แดน ทุกคนในนี้จำเรื่องสภาหมีกำกับการนั่นได้ แล้วทุกครั้งที่เห็นหน้านายคนเขาก็จะนึกถึงเรื่องนี้กันตลอดเลย

แอชเวิร์ธ: พ่อมึงเถอะ!

(แอชเวิร์ธเคลื่อนที่เพื่อออกจากห้อง)

แอชเวิร์ธ: เรื่องมันผ่านมานานแล้วโว้ย!

(แอชเวิร์ธออกไปจากห้อง พร้อมปิดประตูเสียงดัง)

เฮาส์: อย่างงี้ทุกที

แบลงก์: ผมต่อนะ ตลอดแปดปีที่ผ่านมานี้ คุณทำงานได้อย่างอิสระสุด ๆ ไปเลย — ดูจะอิสระกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป นาน ๆ ทีผมถึงจะได้รับสายไม่ก็อีเมลมาขอให้ช่วยตรวจรายงานส่ง ๆ ให้คุณบ้าง แต่ช่วงหลังมานี้คุณกลับขาดความมั่นใจไปมาก เอาแต่มานั่งวิเคราะห์วิธีทำงานกับแนวคิดของตัวเองไปมา แทนที่จะลงมือทำสักที คุณเป็นคนฉลาดนะ เพราะงั้นก็ทำตัวให้สมกับมันหน่อย

เลก: ตอนนี้ผมโดนสั่งห้ามขอคำปรึกษาแล้วหรือยังไง?

ซิมเมอเรียน: เขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

เลก: แล้วมันยังไงล่ะ? คือผมต้องนั่งนิ่ง ๆ แล้วยอมรับคำด่าไปเรื่อย ๆ อย่างนี้เหรอ?

ซิมเมอเรียน: ไม่มีใครตำหนิคุณสักหน่อย

แบลงก์: พอล คุณต้องรับฟังหน่อยนะ ชีวิตย่อมต้องมีขึ้นมีลง คุณคิดว่าตัวเองได้ไปถึงยอดสูงเสียดฟ้าสุด ๆ แล้ว และตอนนี้คุณก็กลับลงมายังจุดปกติ แต่คุณไม่คุ้นชินกับมัน เพราะคุณรู้สึกว่ามันดูต่ำจากที่เคยขึ้นไปถึง แค่นี้ไม่ได้ทำให้โลกแตกสักหน่อย เว้นแต่ว่าคุณจะปล่อยให้มันเป็นไปนะ

ซิมเมอเรียน: แรนดัลล์ว่าไงบ้าง?

เฮาส์: ผมขอพูดสั้น ๆ แล้วกัน คุณแม่งกลายเป็นอีนังขี้สำออยแล้วว่ะ รู้ป่ะว่าผมเจออะไรไร้สาระแค่ไหนในหนึ่งวัน? ผมทำงานในนรกของจริงเลยนะเว้ย ผมก็อยากวิจัยอะไรง่าย ๆ สบาย ๆ พักผ่อนบ้างนะ

SCP-5595: เห็นด้วยกับไอ้หยาบโลนนี่ว่ะ

เฮาส์: มันน่ารำคาญนะเว้ย คุณทำตัวโคตรน่ารำคาญ ผมเคยเห็นไอ้ภวังค์คิดแง่ลบแบบนี้มาเป็นพัน ๆ รอบได้แล้ว คนอื่น ๆ เขามีเรื่องกลุ้มกันบ้างไหม? ก็มีดิ แต่ผมไม่สนส้นตีนอะไรไอ้พวกนั้นไง เพราะ 99% ก็เป็นแค่พวกที่เอาแต่งอแงว่าตัวเองดีไม่พอไงเล่า ผมเบื่อไอ้พวกชอบทำตัวเป็นเหยื่อเต็มทีแล้ว กลับมามั่นใจให้ได้แล้วหยุดสำออยสักทีน่า

เลก: ขำตายล่ะ! ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเองไปสิ

ซิมเมอเรียน: ทุกคนโว้ย! ก็บอกไปเป็นสามสิบรอบได้แล้วไงว่า 'ไม่ตัดสินกัน' น่ะ

SCP-5595: ช่วยพูดให้ดูน่ารำคาญน้อยลงกว่านี้กันหน่อยไม่ได้เหรอวะ?

เฮาส์: ก็เขาต้องได้รู้ซะบ้างนี่หว่า

เลก: อยากคุยเรื่องที่ว่าจะเป็นอีนังขี้สำออยได้ยังไงบ้างเหรอ?

เฮาส์: ระวังปากหน่อย

เลก: โอ้โฮ นั่นมันผู้อำนวยการศูนย์สุดน่าเคารพยิ่งยวดนี่นา แกไม่ได้ไปหาเกณฑ์ปีศาจมาแค่เพื่อจะล่าไอ้นายเกมเมอร์ต่อต้านเนื้อคนนั้นหรือไงวะ? ไอ้เจ้าคนที่เอาแต่วาดรูปนายให้กลายเป็นคนผิวขาวน่ะ ใช่คนนี้ป่ะ? มั่นใจในตัวเองสุด ๆ เลยนะจ๊ะ พ่อแรนดี้

เฮาส์: อ๋อเหรอ พูดไรก็ช่างนะไอ้เพื่อนยาก เอางี้ไหมล่ะ: ทันทีที่มึงออกจากห้องนี้ไป มึงก็หัดพยุงชีวิตตัวเองให้ได้แล้วกัน

เลก: รู้เหี้ยอะไรป่ะ?

(เลกยืนขึ้น)

เลก: หัดพยุงชีวิตตัวเองให้ได้เรอะ? ของพรรค์นั้นกูทำเองได้อยู่แล้วเว้ย

เฮาส์: ไม่เห็นกับตาก็ไม่รู้จริงหรอกนะ

เลก: มึงคอยดูเอาไว้เถอะ

(เลกออกไปจากห้อง)

ซิมเมอเรียน: เก่งมากเลยพรรคพวก น่าทึ่งสุด ๆ ไปเลย ได้ผลดีจริง ๆ ด้วย

SCP-5595: ขอบใจที่ชมนะ

«สิ้นสุดการบันทึก»

เลก: จริงสิ ผมเห็นหางคุณแล้วล่ะ

SCP-8000: ไม่ล่ะ คุณไม่ได้เห็นหรอก

เลก: ผมเห็นมันแวบ ๆ ตอนที่คุณเข้าประตูมิติมาไง

SCP-8000: เป็นไปไม่ได้หรอก

เลก: ทั้งตัวคุณอยู่ในหอสมุดนี้แล้วเหรอ?

SCP-8000: ใช่ อืม คุณพูดจามีเหตุผลดีนะ แล้วมันเป็นยังไงบ้างเหรอ?

เลก: ก็หางแมวน้ำปกตินะ

SCP-8000: เยี่ยมยอดมาก ว่าแล้วก็ขอแก้เอกสารบ้างหน่อยแล้วกัน

SCP-8000 บินจากชั้นวางหนึ่งสู่อีกชั้น และนำหนังสือมาด้วยจำนวนมาก

SCP-8000: นี่เอกสารของคุณ หนังสือพวกนี้เป็นวัยเด็กของคุณเอง

ผู้อำนวยการเลกและ SCP-8000 ปรากฏตัวในห้องนอนเด็กแห่งหนึ่ง กำแพงห้องเป็นสีน้ำเงินเข้ม มีถ้วยรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันเยาวชนถูกวางเรียงอยู่บนชั้นวางที่ตั้งอยู่ตรงข้ามเตียง

เลก: ไม่มีทางน่า

เลกเดินผ่านเข้าไป และหยิบหนังสือการ์ตูนช่องแบทแมนที่วางอยู่บนโต๊ะที่ข้างเตียงมาเปิดออกทีละหน้า จากนั้นเขาก็หยุดอยู่ที่ฝั่งด้านในปกหลัง

SCP-8000: นั่นคืออะไรน่ะ?

เลก: ผมเคยวาดคอมิกส์แบทแมนเอาไว้ที่ท้ายเล่มหนังสือมันน่ะ แถว ๆ นี้น่าจะมีอีกอยู่นะ

เลกเดินตรงไปยังอีกฝั่งของเตียง

SCP-8000: คุณทำมาเท่าไหร่น่ะ?

เลก: เยอะเลยล่ะ อาจถึงร้อยเลยก็ได้ ผมจำไม่ค่อยได้หรอก แต่ผมชอบมันนะ ผมเคยอยากเป็นนักวาดคอมิกส์ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นนักชีววิทยาทางทะเลกับประธานาธิบดีทีหลัง ผมมีไอ้พวกหนังสือ 'สอนวาดการ์ตูน" อยู่หลายเล่มเลยล่ะ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากให้เทรซภาพหรอก แต่ยังไงมันก็เจ๋งอยู่ดี จนผมเลิกวาดไปวันหนึ่ง ผมจำสาเหตุไม่ได้แล้วล่ะ — อาจจะเพราะโรงเรียน หรือไม่ก็— ฉิบหายล่ะ!

เด็กอายุราวหกถึงเจ็ดปีกำลังนั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียงอย่างเงียบ ๆ มีภาพวาดยับ ๆ วางกระจัดกระจายรอบตัวเขาอยู่จำนวนมาก

SCP-8000: อย่าห่วงไปเลย เขามองไม่เห็นเราหรอก ไม่งั้นคงได้เกิดพาราด็อกซ์กันพอดี

เลก: นี่มันแปลกมากเลยนะเนี่ย

SCP-8000: ต่อจากที่คุณบอกว่าเลิกวาดไปทีสิ

เลก: ผมก็ไม่ได้อยากเลิกหรอกนะ แต่มันก็เป็นแค่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ คุณก็รู้นี่ ชีวิตคนเราก็งี้แหละ

ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาภายในห้อง เธอมองไปรอบ ๆ ตนเอง

ผู้หญิงคนหนึ่ง: ลูกเป็นอะไรมั้ย?

เธอขยับเข้าไปหาเด็กคนนั้น และนั่งลงสบตากับเขา

ผู้หญิงคนหนึ่ง: ลูกเป็นอะไรไปน่ะ?

เด็กคนหนึ่ง: มันห่วยมากเลย

ผู้หญิงคนหนึ่ง: แม่ว่าหนูคิดผิดไปแล้วนะ

เด็กคนหนึ่ง: มันไม่ดีเลยสักนิด!

เธอใช้ปลายแขนเสื้อปาดน้ำตาจากหน้าของเด็กชายคนนั้น

ผู้หญิงคนหนึ่ง: ลูกรัก ถ้าหนูยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ลูกก็ไม่มีวันจะพอใจกับอะไรได้หรอก

เด็กคนหนึ่ง: ผมพอแล้ว! ผมจะไปรักษาปลาแล้วก็จะไม่วาดรูปอีกแล้ว

ผู้หญิงคนหนึ่ง: ลูกอยากเป็นอะไรแม่ก็จะสนับสนุนเสมอเลยนะ มาช่วยแม่ชุบเกล็ดขนมปังให้ไก่มั้ย?

เด็กคนหนึ่ง: […] ครับ

ทั้งคู่ยืนขึ้นและออกจากห้องไป ผู้หญิงคนนั้นจับมือของเด็กชายเอาไว้

ผู้หญิงคนหนึ่ง: แม่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเรียนชีววิทยาทางทะเล แต่ถ้าลูกอยากเป็นจริง ๆ แม่ก็จะพยายามนะ

เลก: นั่นแหละวันที่ผมเลิกวาดไปน่ะ คงเป็นอย่างนั้นแหละ ตอนนี้กลับมาดูอีกที มันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นเลยนะ สำหรับผลงานของเด็กหกขวบน่ะ ตอนนั้นผมคงทำตัวแย่ไปเองนั่นแหละ

SCP-8000: แค่ตอนนั้นหรอ?

เลก: ปากเก่งดีนะ

SCP-8000: แล้วทำไมไม่พยายามต่อล่ะ?

เลก: โอกาสที่จะได้งานสำคัญ ๆ ในสายงานนั้นมันแทบจะต่ำจรดดินเลยล่ะ ผมอยากถูกคนยอว่าเป็นแจ็ก เคอร์บี้ หรือไม่ก็สแตน ลีคนใหม่ แต่คงไม่มีวันจะได้เป็นอย่างนั้นหรอก พ่อผมทำงานเป็นแมวมองอเมริกันฟุตบอลระดับมหา'ลัย ท่านพูดถึงพวกนักกิฬาที่ท่านเฝ้าดูอยู่เสมอ บอกว่าพวกเขาอาจจะเป็นที่สุดในโรงเรียนตัวเองที่มีคนอยู่สามร้อยคนก็จริง แต่ทันทีที่คนพวกนี้ก้าวออกไปสู่สนามจริงระดับมหา'ลัย พวกเขาก็จะตกไปอยู่รั้งท้ายในด้านทักษะจริง ๆ และท่านไม่เคยคิดผิดเลย

SCP-8000: คุณคิดว่าเชาพูดถูกแล้วเหรอ? การด้อยค่าความสามารถของตัวเองและคนอื่น ๆ มันก็เป็นแค่การมองโลกในแง่ร้ายเท่านั้นนั่นแหละ

เลก: เขาจะพูดเรื่องนี้ทุกครั้งที่ผมเริ่มสนใจสิ่งใหม่ ตลอดทุกครั้งเลย พอถึงวันถัดไป เขาก็จะหยิบยกเรื่องนี้มาพูดให้ได้

SCP-8000: งั้นก็แสดงว่าเขาหมายถึงคุณน่ะสิ

เลก: มีสายตาเฉียบแหลมจริง ๆ เลยนะ

SCP-8000: คุณพอล คุณรู้ใช่ไหมว่าเกณฑ์อะไรก็ตามมันขึ้นอยู่กับคุณเองว่าจะกำหนดมันยังไง?

เลก: ผิดแล้วล่ะ ทั้งประวัติศาสตร์มนุษยชาติทั้งหมดไม่เคยมีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นสักหน่อย

เลกนั่งอยู่ที่โต๊ะในห้องที่หนาวเย็นและเงียบเชียบ เขาเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกปีแล้ว มีวัยรุ่นคนอื่น ๆ กำลังนั่งที่โต๊ะเช่นเดียวกันกับเขา ทั้งหมดกำลังจ้องมองไปยังกระดาษของการสอบมาตรฐานที่กำลังจัดขึ้นอยู่นี้


เลกนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับแม่ของตน เขาเปิดซองจดหมายสีน้ำตาลออก

เลก: 1520

ผู้หญิงคนหนึ่ง: โอ้โฮ! ยินดีด้วยนะลูก!

เลก: แม่ ผมต้องเรียนสูง ๆ นะ คะแนน 1520 มันถึงเกณฑ์ซะที่ไหน

ผู้หญิงคนหนึ่ง: หมายความว่ายังไงน่ะ? มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนเต็มเลยนะ

เลก: เฮนรี เนท กับอิซาเบลลาได้สูงกว่า 1540 กันหมด

ผู้หญิงคนหนึ่ง: เนทเนี่ยนะ? โกงหรือยังไงเนี่ย?

เลก: ไม่ใช่ประเด็น คะแนน 1520 หัวคว—ขวดนี่มันไม่ถึงเกณฑ์เลย

ผู้หญิงคนหนึ่ง: 1520 กับ 1540 ก็มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนเต็มอยู่ดีนั่นแหละ ลูกหยุดทำตัวเหลวไหลได้แล้ว

เลก: ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ดีพอที่—

ผู้หญิงคนหนึ่ง: แม่ทนกับท่าทีแบบนี้มาตั้งแต่ลูกเกิดแล้วนะ หัดรู้สึกยินดีกับตัวเองซะบ้างเถอะ แม่ภูมิใจในตัวลูกแล้วไงพอล ไม่ดีเหรอ?

เลก: แต่สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายถูกนะ ผมเข้าม.ในเครือไอวี่ลีกไม่ได้

SCP-8000: ตอนมหาลัยคุณก็ซิ่ววิชาเอกไปตั้งอีกตั้งห้ารอบ จากคอมไปวิศวะไปกราฟิกดีไซน์ไปคหกรรมแล้วก็ไปวิศวะเครื่องกล ทำทั้งหมดนี้ในปีครึ่ง

เลกนั่งลงบนพื้นหอพักของตน หนังสือฟิสิกส์ถูกเปิดค้างเอาไว้ที่บทว่าด้วยความยืดหยุ่น เขากำลังร้องไห้

เลก: เอาไอ้นั่นออกไปเลยนะ! สุดท้ายผมก็ได้ชีววิทยา และผมก็เรียนจบทันด้วย

SCP-8000: ทำไมไม่ลองเรียนตัวเลือกก่อนหน้านี้ต่อก่อนล่ะ?

เลก: เพราะแนวคิดของมันอย่างกับทำมาเพื่อไม่อยากให้คนเข้าใจได้—

SCP-8000: ไม่จริงสักหน่อย คุณทำงานกับสถาบันเลยนะ คุณเป็นคนฉลาดจริง ๆ

เลก: พูดจริงไหมเนี่ย?

[…]

Lague: มัน— มันก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรนี่ ผมแค่ศึกษาจากงานของคนที่ประสบความสำเร็จกว่าตัวเองแค่เพื่อที่จะจบมาใช้ชีวิตเป็นฟันเฟืองในเครื่องจักรที่ตั้งอยู่ได้เพราะการค้นพบของคนพวกนั้น ไม่มีการก้าวหน้าหรือถอยหลังทั้งนั้น แค่ติดอยู่ที่เดิม ผมยอมไม่ได้ ผมคงทำลายตัวเองไปแล้วจริง ๆ — อาจารย์ที่ปรึกษาคงเกลียดขี้หน้าผมไปตั้งแต่ซิ่วรอบสามแล้ว แต่ยังไงผมก็ฝืนใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้จริง ๆ

SCP-8000: คุณอยากทิ้งร่องรอยให้คนจดจำได้เหรอ?

เลก: ก็ใช่สิ แล้วมันผิดหรือไง?

เอกสารที่ถูกกู้คืน 8000.3-4
02/18/2024 - 02/19/2024

บริบท: ผอ.เลกได้รับอนุญาตให้ทำการนำเสนอโครงการดังต่อไปนี้ต่อสภากำกับการ

seekerm.png

โครงการ SEEKER (ซีกเกอร์)
ใครดีใครได้ ใครพ่ายก็ร้องไป

SEEKER เป็นเครื่องจักรวิทยาการผิดปกติซึ่งถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์-322 โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำการตรวจจับเหตุการณ์ วัตถุ และตัวตนผิดปกติซึ่งยังคงไม่ถูกค้นพบในขอบเขตระดับพหุจักรวาล โครงสร้างของระบบถูกระบุเอาไว้ข้างล่าง ดังนี้

ระบบปรับเสถียรภาพรูหนอนแบบจำกัดขอบเขต (Localized Wormhole Stabilizer)
ระบบปรับเสถียรภาพรูหนอนแบบจำกัดขอบเขต (LWS) คือ ระบบที่สามารถสร้างและรักษาสภาพของสะพานไอน์สไตน์-โรเซนที่อยู่ภายใต้การควบคุมและถูกจำกัดขอบเขตเอาไว้ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลให้รอยแยกในความเป็นจริงยังคงอยู่ได้ ทำให้ SEEKER สามารถตรวจสอบเข้าไปภายในจักรวาลที่อยู่ใกล้เคียงได้ โครงสร้างพลังงานลบได้ถูกติดตั้งเอาไว้กับตัวสะพานฯ ซึ่งป้องกันไม่ให้สสารทางกายภาพสามารถผ่านไปได้ แต่ก็ยังคงสามารถนำข้อมูลออกมาได้

แกนคำนวณเชิงควอนตัม (Quantum Computational Core )
แกนคำนวณควอนตัม (QCC) ประกอบด้วยเมทริกซ์ขนาดความจุเพตาฟล็อปคิวบิต หน้าที่หลักของ QCC คือการประมวลผลและเรียบเรียงข้อมูลที่พัวพันกันซึ่งรวบรวมจาก LWS ซึ่งมีส่วนช่วยลดความไม่แน่นอนที่มีโอกาสเกิดขึ้นลงได้เป็นอย่างมาก กระบวนการนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับมาจากจักรวาลคคู่ขนานได้สูงสุดถึง 35,000,000 จักรวาล

โครงสร้างปัญญาประดิษฐ์เพื่อการคาดการณ์ (Quasimodo.AIC)
Quasimodo.AIC คือ โครงสร้างปัญญาประดิษฐ์ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยสถาบันที่ผ่านกระบวนการเรียนรู้ข้อมูลจากคลังข้อมูลสิ่งผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของสถาบัน รายงานเหตุการณ์ และบันทึกการคาดการณ์ในระดับพหุจักรวาลที่ได้รับจาก LWS และผ่านการเรียบเรียงโดย QCC โดย Quasimodo.AIC รวบรวมข้อมูลนี้ และใช้งานรูปแบบการจำแนกประเภทอันเป็นจำเพาะของมัน จากนั้นจึงทำการคาดการณ์การปรากฏตัวของสิ่งผิดปกติ ความสามารถผิดปกติ พิกัดตำแหน่ง และจำแนกประเภทวัตถุอย่างแม่นยำ โดยอ้างอิงจากความถี่และความแปรปรวนของข้อมูลที่พบในจักรวาลต่าง ๆ

SEEKER ถูกเปิดการทำงานและควบคุมผ่านส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ และกระบวนการค้นหาตามตัวชี้วัด ผู้ควบคุมสามารถคัดกรองวัตถุได้ด้วยการกำหนดลักษณะและหมวดหมู่นับพันรายการ เมื่อถูกกระตุ้นการทำงาน LWS จะทำการตรวจสอบชุดตัวอย่าง และจะนำข้อมูลมาจากแหล่งในระดับพหุจักรวาล จากนั้น QCC จะทำการรวบรวมผลลัพธ์เป็นแผนผังของความเป็นไปได้ ท้ายที่สุด Quasimodo.AIC จะเรียบเรียงและสังเคราะห์แผนผังที่ได้มา และมอบข้อมูลสิ่งผิดปกติที่เสร็จสมบูรณ์แล้วออกมา

บริบท: ส่วนหนึ่งของการนำเสนอโดยผู้อำนวยการเลกต่อสภากำกับการ

บทถอดความ


«เริ่มต้นการบันทึก»

O5-2: คุณผู้อำนวยการ คุณมองว่างานของคุณเป็นการแข่งขันวัดขนาดไอ้จ้อนชิงศักดิ์ศรีความเป็นชายรึคะ?

เลก: ไม่ครับท่าน

O5-2: ฉันไม่เห็นเหตุผลเลยว่าทำไมเราต้องทุ่มงบหลายล้านให้—

เลก: จากการประเมินของผมแล้วนั้น—

O5-2: โห ยิ่งดีไปใหญ่เลยนะเนี่ย ตั้งพันล้านเลยนี่นา เป็นเงินของสถาบันที่จะทุ่มให้กับเครื่องมือเชิงทฤษฎีที่ทำงานได้แบบเดียวกันกับที่พวกเราก็ทำกันตั้งแต่แรกแล้ว ฉันไม่เห็นว่ามันมีประโยชน์อะไรนอกจากสนองนี้ดคุณได้เลย

(เครื่องถ่ายเอกสารที่ตั้งอยู่บนที่นั่งของ O5-13 พูดขึ้นมา)

O5-13: ยุคนี้เขาฮิตทำเครื่องเบิ้ม ๆ เล่นใหญ่กันแล้ว

O5-1: ไม่น่าแปลกใจที่คุณสนใจเจ้านี่เลยนะ ฉิบฉาม

O5-13: อย่าเรียกแบบนั้นนะโว้ย

O5-2: แล้วใครมันไปเริ่มกระแสทำเครื่องเบิ้ม ๆ เล่นใหญ่ตั้งแต่แรกกันล่ะ?

O5-13: พวก DEEPWELL ศูนย์-17

O5-1: พวกนั้นมันทำอะไรดี ๆ กันเป็นบ้างไหมเนี่ย? พวกนั้นเอาแต่ทำความเป็นจริงล่มไม่ก็ฆ่าเทพ—

O5-2: ก็เพราะมีคนที่ไหนไม่รู้คอยโปรยเงินให้พวกมันใช้ไงเล่า

O5-13: คงเพราะผมไม่อยากโดนขังเป็นเครื่องปรินต์ทั้งปีทั้งชาติมั้ง มีใครเคยคิดถึงเรื่องนี้กันบ้างไหมเนี่ย?

เลก: ผมไปปรึกษากับ Deepwell ที่ 17 มาแล้วล่ะครับ

(O5-7 พิมพ์ด้วยแป้นพิมพ์ของตน)

O5-7: แล้วคุณจะมาชักใบให้เรือตัวเองเสียทำไมเนี่ย

O5-5: คุณเลก รู้ไหมว่าผมดีใจแค่ไหนที่ได้เจอคุณอีกน่ะ? อย่างแรกเลย ผมว่านี่เป็นไอเดียที่ยอดไปเลยล่ะ! คุณคิดออกมาได้ยังไงกันเนี่ย? เจ๋งโคตร! ก็คือ ผมคิดว่าเจ้านี่พอจะมีประโยชน์กับสถาบันได้ แต่อย่างไรก็เถอะ ผมสงสัยอยู่ว่าคุณมีเจตนายังไงกันแน่พอดีว่าผมได้อ่านรายงานจากคุณซิมเมอเรียนที่คณะกรรมการจริยธรรมมาน่ะ และเขาบอกไว้ว่าคุณมีอาการเศร้าซึมเล็กน้อย

เลก: เรื่องแบบนี้มันควรเก็บเป็นความลับไม่ใช่เหรอครับ?

(O5-7 พิมพ์ด้วยแป้นพิมพ์ของตน)

O5-7: ที่นี่ไม่เคร่งพรบ.คุ้มครองข้อมูลสุขภาพบุคคลแบบเมกาหรอกนะ

O5-13: เราอยู่ห่างจากแอฟริกามากพอที่ไอ้พวกตัวโตนั่นจะเข้ามายุ่งไม่ได้แล้วนะ เจ็ด หัดเข้าใจตรงกับคนอื่นได้แล้ว

O5-1: พอล รบกวนตอบคำถามของหมายเลขห้าด้วย

เลก: ครับ ตอนนั้นผมรู้สึกไม่ดีเท่าไร แต่ก็เนื่องมาจากเหตุผลส่วนตัว หลังจากทบทวนกับตัวเองและพิจารณาดูแล้วว่าทำไมกันนะ ผมก็เลยทุ่มกายใจให้กับโครงการนี้ เพื่อที่ทั้งศูนย์ของผมและตัวผมเองจะสามารถไต่เต้าขึ้นไปเป็นแนวหน้าในการวิจัยที่น่าสนใจใหม่ ๆ ได้ครับ

O5-2: พวกเรามีระบบตรวจจับสิ่งผิดปกติอยู่ทั่วทุกกระเบียดนิ้วบนโลกแล้ว คุณอยากให้เราไปรื้อมันออกมาด้วยไหมคะ?

เลก: ไม่ครับ นี่มันเป็นการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ มันใช้สำหรับการคาดการณ์ในอนาคต จริงที่ว่าระบบตรวจจับสิ่งผิดปกติของเราดีเยี่ยม ผมจะทั้งปฏิเสธหรือไม่ก็พยายามยกยอให้โครงการนี้ดูดีกว่านั้นก็ไม่ได้ มันเป็นแบบตามเวลาจริง มันจะแสดงให้เราเห็นว่าสิ่งผิดปกติจะโผล่ออกมาเมื่อไหร่ ที่ไหน ยังไง และทำไม ก่อนที่มันจะโผล่ออกมาจริง ๆ เสียอีก มันไม่มีอะไรที่เทียบได้แล้ว

«สิ้นสุดการบันทึก»

บริบท: การนำเสนอของผู้อำนวยการเลกต่อสภากำกับการ

บทถอดความ


«เริ่มต้นการบันทึก»

คอยซ์: ไปได้สวยไหม?

เลก: พวกนั้นซื้อกัน

คอยซ์: เหมาเครื่องคนขาดความมั่นใจไปยกแผงเลยเหรอ?

เลก: ผมอยากให้เรียกกันว่าเครื่องหัดพยุงชีวิตตัวเองให้ได้มากกว่า แล้วก็ใช่ พวกเขาอนุมัติ

คอยซ์: ผมคงรู้จักคุณดีเกินไปแล้วมั้ง แต่ผมพอมองทะลุกำแพงบาง ๆ นั่นได้ทะลุปรุโปร่งเลย และพวกเขาก็น่าจะทำได้เหมือนกันนี่ละ

เลก: อ๋อ ใช่สิ พวกนั้นมองทะลุปรุโปร่งเลยล่ะ

คอยซ์: […] นี่คุณทำอะไรลงไปน่ะ?

เลก: ผมไม่ได้ติดต่อกับพวก Deepwell แล้วก็แน่อยู่แล้วว่าผมไม่ได้สร้างเครื่องนี่มาเพื่อตรวจจับสิ่งผิดปกติจริง ๆ

[…]

เลก: ผมโกหกไปน่ะ

«สิ้นสุดการบันทึก»

เลก: ถ้าผมวิเคราะห์คุณกลับบ้างคุณจะชอบไหม? ผมไม่ใช่กรณีไว้ศึกษานะ รู้ไว้ด้วย

SCP-8000: ไม่มีใครบังคับไม่ให้คุณถามคำถามฉันบ้างสักหน่อย

เลก: งั้นคุณมีชื่อไหม?

SCP-8000: อืม ฉันไม่มีหรอก ก็ไม่รู้นะว่าทำไม ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้นานแล้วนะ

เลก: โอเค คุณดูเหมาะกับชื่อวิลเลียมนะ ที่ไม่ใช่พวกวิลเลียมที่ชื่อเล่นว่า 'วิลล์' แต่ดูเหมาะกับชื่อเล่นบิลล์มากกว่า

SCP-8000: ทำไมต้องแยกกันด้วยล่ะ?

เลก: เวลาผมเห็นอะไรโล้น ๆ ผมก็จะชอบนึกถึงชื่อบิลล์น่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

SCP-8000: แต่ฉันมีผมนะ ทั้งตัวฉันมีขนเต็มตัว ก็ถ้าตาคุณยังพอมองเห็นได้นั่นแหละนะ

เลก: ก็ใช่ แต่คุณดูโล้นนี่ ถ้างั้นเกร็กล่ะ ว่าไง?

SCP-8000: พอไม่มีเหตุผลเบื้องหลังชื่อเล่นแล้วมันดูไม่ค่อยพิเศษเลยนะ

เลก: ฟรานซิสก็ได้ ชื่อเล่นแฟรงกี้

SCP-8000: ฉันพอจะจำได้แล้วล่ะว่าทำไมถึงไม่เคยเลือกใช้ชื่อเล่นเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครคิดว่าจริงจังแน่ ๆ ตอนที่ไปโผล่แล้วบอกว่า "ไง คุณพอล ฉันชื่อแฟรงกี้"

เลก: คุณเป็นแมวน้ำตัวยาวเฟื้อยเลยนะ นั่นก็ทำให้สถานการณ์ดูน่าตลกพออยู่แล้ว

SCP-8000: ฉันคิดว่าการที่หน้าที่ของตัวเองขัดกับการที่ฉันเผอิญดูเหมือนเลี้ยงลูกด้วยนมเปิ่น ๆ ตัวหนึ่งก็เป็นเรื่องน่าตลกระดับจักรวาลที่เรียกเสียงฮาจากใครที่ไหนไม่ได้พอแล้วล่ะ

เลก: ผมเชี่ยวชาญด้านนี้นะ คุณต้องเลือกมาสักอย่างนั่นแหละ เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมเพิ่งได้จัดการกับ—

SCP-8000: นั่นไง เทพแห่งการแกะสลักกระดูกและงานแกะจากกระดูกวาฬ นายสกอร์โดห์ทำงานตัวเองได้ดีเลยล่ะ ส่วนฉันมีแนวทางที่ต่างออกไป

เลก: เลือกชื่อมาเถอะนะ

SCP-8000: นี่มันน่าสนใจจริง ๆ

เลก: เอาอีกแล้วนะ

SCP-8000: จากที่ฉันดูมา ฉันพบว่าคุณค่อนข้างยึดติดและไม่เคยรู้สึกพอใจกับอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ความสามารถทางศิลป์ของคุณสำหรับคนวัยนั้นแล้วก็ไม่ได้แย่อะไร บางคนก็ยังอาจคิดว่าทำได้ดีด้วยซ้ำไป แต่คุณคิดว่ามันยังดีไม่พอ ความยึดติดกับความสมบูรณ์แบบอย่างนั้นแหละที่ทำให้คุณจำใจล้มเลิกไป

เลก: ผมว่าการรั้งตัวเองที่กำลังจะหมดอนาคตไปมันไม่ได้เป็นเรื่องแย่อะไรนะ

SCP-8000: คุณเป็นแบบนี้กับแทบทุกกิจกรรม ทั้งการเรียน งานอดิเรก หรืออะไรก็ตาม ทุกครั้งที่คุณรู้สึกได้ว่าอาจเกิดอุปสรรคขึ้นมาได้ในระหว่างพัฒนาการนี้ ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม

SCP-8000 หยิบหนังสือปกอ่อนสีดำที่อยู่ใกล้เคียง

เลกลงเล่นในการแข่งขันบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัย

ทั้งสองฝ่ายมีคะแนนเสมอกันในช่วงเวลาที่สี่ ทีมของเลกได้ลูกโดยมีเวลาคงเหลืออยู่สิบห้าวินาที โดยทั้งสองทีมไม่มีการขอเวลานอก

ลูกถูกส่งไปให้กับเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่ง ซึ่งถูกขวางโดยผู้ป้องกันสองคนอย่างรวดเร็ว เขารีบส่งลูกไปยังมุมตรงกันข้ามเพื่อให้กับเพื่อนร่วมทีมอีกคน เหลือเวลาอยู่เจ็ดวินาที

เพื่อนร่วมทีมคนนั้นหลอกทำท่าชู้ต และเลี้ยงลูกไปบริเวณใต้แป้นบาส จากนั้นจึงหลอกเลย์อัปและส่งลูกให้กับเลก เหลือเวลาอีกสามวินาที

เลกรับลูกไม่ได้ มันกระดอนไปอยู่กับผู้ป้องกันคนหนึ่ง เขาตรงเข้าไปที่ห่วงของฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว เหลือเวลาอีกหนึ่งวินาที

ผู้เล่นชู้ตลูกจากหลังเส้นสามแต้ม มันลงห่วงและพวกเขาชนะ

เลกออกไปและไม่ได้ร่วมพูดคุยหลังจบการแข่งขัน เขาไม่ได้ซ้อมในรอบถัดไป

เลก: โธ่ เอาเถอะน่า! สมเหตุสมผลดีออก ก็ใช่แหละ ผมงอแงเรื่องการวาดไปเอง แล้วก็อารมณ์เสียที่เข้ามหา'ลัยที่อยากเข้าไม่ได้อีก มันน่าอายสุด ๆ

SCP-8000: คุณจะด้อยค่าเรื่องพวกนั้นยังไงก็ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งหมดนั้นทำให้คุณเป็นตัวคุณเองได้อย่างทุกวันนี้

เลก: จะพูดแบบนั้นกับอะไรก็ได้ทุกเรื่องนั่นแหละ นั่นมันก็แค่พื้นฐานการเข้าสังคม

SCP-8000: คุณแพ้แค่นัดเดียวก็ล้มเลิกไปเลยนะ ความอับอายมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?

เลก: ให้ไปสู้หน้าเพื่อนคนอื่น ๆ หลังจากที่พลาดทำแต้มง่าย ๆ ไปอ่ะนะ? เออ โคตรน่าอายเลยล่ะ

SCP-8000: ทำไมถึงต้องไม่ชอบขนาดนั้นด้วยล่ะ? การอับอายมันก็เป็นปกติของชีวิตที่ต้องเจออยู่แล้วนะ

เลก: รู้อะไรไหม คุณเป็นพวกปากอย่างใจอย่างนะ คุณไม่คิดจะหาชื่อให้ตัวเองด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไงตอนที่รู้ชื่อนั่น ผมเป็นคนที่ผิดพลาดมาตลอด แค่คนคนนี้คนเดียวเลย ผมไม่กล้าโชว์งานของตัวเองให้ทั่วโลกได้เห็น เพราะมันไม่ได้ดีพอที่จะให้ใครมามอง ผมอารมณ์เสียที่เข้าเครือไอวี่ลีกไม่ได้ เพราะคนอื่นจะรู้ว่าผมไม่ได้ฉลาดพอที่จะไปถึงระดับนั้น คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับผม แต่ตราบใดที่ผมยังลงมือทำอะไรได้ ผมก็จะไม่มีวันให้ไอ้พวกโง่เง่าพวกนี้คิดว่าตัวเองเหนือกว่าผมได้เด็ดขาด

SCP-8000: นั่นไงเล่า

เลก: เหยดเข้ โดนจับไต๋ได้แล้วสิเรา เก่งนะเนี่ย แต่ถึงงั้นคุณก็ยังเป็นพวกปากอย่างใจอย่างอยู่ดีนั่นแหละ

SCP-8000: คุณพอล ฉันชื่อว่าวอลเลซ ชื่อเล่นว่าวอลลี่ ฉันชื่อวอลเลซ ชื่อนี้มาโดยตลอด แต่คุณก็ยังติดอยู่ในหลุมที่ขุดเอาไว้เองอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ฉันก็หวังจะให้คุณรู้ตัวสักทีว่าฉันพยายามช่วยคุณออกมาอยู่

เอกสารที่ถูกกู้คืน 8000.5-8
03/13/2024 - 03/20/2024

บริบท: ย่อความรายการสิ่งผิดปกติที่ถูกค้นพบโดยซีกเกอร์

SEEKER.01

จักรวาลที่ป้อนเข้า: 104,257
ขอบเขต: 'CLOSE' 'มีชีวิต' 'ตัวใหญ่' 'อันตราย' 'ภายในฟิลาเดลเฟีย'


การค้นพบของซีกเกอร์: สิ่งผิดปกติถูกระบุว่าอยู่ในบริเวณซิติเซนส์ แบงก์ พาร์ก ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมเบสบอลฟิลาเดลเฟีย ฟิลลีส์


ppheader.png

SCP-01-SEEK

รายละเอียดฉบับคัดตอน: SCP-01-SEEK คือ สิ่งผิดปกติรูปร่างคล้ายมนุษย์ซึ่งมีลำตัวอ้วนกลม สีเขียว และสวมชุดของทีมฟิลาเดลเฟีย วิลลีส์ โดย SCP-01-SEEK มีสติสัมปชัญญะ มีสติปัญญา และสามารถพูดได้

บทถอดความ


เลก: ไอ้นั่นไม่ใช่ชุดคอสตูมเหรอ?

SCP-01-SEEK: ไม่

เลก: นี่คุณเป็นสิ่งมีชีวิตมาตลอดเลยเหรอเนี่ย

SCP-01-SEEK: ใช่ ได้อ่านหนังสือฉันหรือเปล่า? อธิบายเอาไว้ในนั้นหมดเลย

เลก: ครับ เห็นว่ามันเขียนว่าคุณมาจากหมู่เกาะกาลาปาโกสน่ะ แต่มันก็มีเอกสารในประวัติศาสตร์เหมือนกันว่าร้านเฮนสันมอนสเตอร์ช็อปเป็นคนสร้างฟิลลี่ แฟเนติกขึ้นมา

SCP-01-SEEK: ฉันเคยเจอกับชาลส์ ดาร์วินมาก่อนนะ

เลก: เอาจริงเหรอ?

SCP-01-SEEK: ฉันเผยแพร่แนวคิดต่อต้านทฤษฎีวิวัฒนาการมาเจ็ดสิบปีแล้ว ฉันนี่แหละคนที่คิดค้นระบบสถานศึกษาทางเลือกขึ้นมา

เลก: งั้นทำไมเขาไม่ได้เขียนเกี่ยวกับคุณเอาไว้เลยล่ะ?

SCP-01-SEEK: ฉันบังคับไม่ให้เขาทำ

เลก: ได้ยังไงน่ะ?

SCP-01-SEEK: ฉันบอกว่าไม่งั้นจะกินเขา

เลก: แล้วทำไมเขาต้องเชื่อด้วย?

SCP-01-SEEK: ก่อนหน้านี้ฉันกินผู้ช่วยเขาเข้าไป

เลก: จริงไหมเนี่ย?

SCP-01-SEEK: กลืนทั้งร่างเลย

เลก: ดีจริง

SCP-01-SEEK: จมูกของชั้นยืดออกได้เหมือนกับพวกงู

เลก: คุณชอบกินคนเหรอ?

SCP-01-SEEK: เป็นกิจกรรมโปรดเลยแหละ

เลก: คุณโอเคกับอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ?

SCP-01-SEEK: แล้วนายเคยโกรธที่ฉลามทำแบบนี้ไหมล่ะ?

เลก: ฉลามไม่ได้ล่าคนสักหน่อย

SCP-01-SEEK: ฉันไปบอกว่าฉันล่าคนตอนไหน

เลก: งั้นคุณล่าคนไหม?

SCP-01-SEEK: ก็ใช่ ส่วนใหญ่ก็เด็กนะ ฉันชอบยืนค้ำประตูไว้จนกว่าพวกนั้นจะรู้ตัวว่าฉันอยู่ตรงนั้น

เลก: คุณพยายามทำให้ผมกลัวอยู่ไหมเนี่ย?

SCP-01-SEEK: เคยเห็นปืนฮ็อตดอกของฉันไหมล่ะ? ไส้กรอกที่ใส่เป็นกระสุนทำมาจากเนื้อมนุษย์นี่ละ พวกมนุษย์ที่ฉันล่ามา

เลก: เยี่ยมจัง

SCP-01-SEEK: เคยโดนฉันยิงไส้กรอกใส่มาก่อนไหม?

เลก: ไม่อ่ะ

SCP-01-SEEK: มันทำมาจากเนื้อคนน่ะ

เลก: ผมว่ามันดูเหลือเชื่อไปหน่อยที่คุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีหน้าตาแบบนั้น อายุเกือบ 200 ปีได้ และกินคนเป็นอาหาร

SCP-01-SEEK: ส่วนฉันว่ามันดูเหลือเชื่อไปหน่อยที่นายไม่คิดว่าตัวเองจะโดนฉันกินบ้าง

SEEKER.04

จักรวาลที่ป้อนเข้า: 30,124,610
ขอบเขต: 'ตัวใหญ่' 'น่ากลัว' 'อันตราย' 'สัตว์ประหลาด'


การค้นพบของซีกเกอร์: สิ่งผิดปกติถูกระบุว่าอยู่ในบริเวณภูมิภาคเอเวอร์เกลดส์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา


guy.jpg

SCP-04-SEEK ในตอนที่ค้นพบ

รายละเอียดฉบับคัดตอน: SCP-04-SEEK คือ สิ่งผิดปกติรูปร่างมนุษย์ที่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายผ่านปริภูมิ-เวลา

บทถอดความ


เลก: ฮัลโหล?

SCP-04-SEEK: ไง เป็นไงบ้างล่ะหนุ่ม?

เลก: คุณอาศัยอยู่ที่นี่เหรอ?

SCP-04-SEEK: เปล่า แค่มาชิลเฉย ๆ

เลก: คุณมาที่นี่ได้ยังไงน่ะ?

SCP-04-SEEK: ผมชอบวาร์ป

เลก: แค่นั้นเหรอ?

SCP-04-SEEK: ผมข้ามเวลาได้

เลก: คุณเคยทำอะไรน่าสนใจด้วยพลังนั่นไหม?

SCP-04-SEEK: นายเคยสงสัยไหมว่าทำไมช่วงที่มีพวกอัศวิน ราชา เหี้ยอะไรต่อมิอะไรเพ่นพ่านกันถึงได้มีเด็กตายเยอะนักน่ะ?

เลก: ไม่ค่อยหรอก

SCP-04-SEEK: ผมย้อนเวลาไปกินเด็กเล่น

บริบท: ผู้อำนวยการเลกจัดการประชุมร่วมกับบุคคลที่มีส่วนร่วมในการทดลองใช้งานซีกเกอร์เป็นครั้งแรก

บทถอดความ


«เริ่มต้นการบันทึก»

เลก: พวกแกทำอะไรลงไปวะ?

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: […] สร้างเครื่องตามที่คุณอยากได้มั้ง?

เลก: ทำไมมันเอาแต่ส่งมนุษย์กินคนมาให้ล่ะ?

วิศวกรแวกเกอร์แมน: บางทีตัว AI อาจเชื่อมโยงว่าการกินคนถือเป็นขอบเขตลักษณะที่อันตรายล่ะมั้ง

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: คุณลองเจาะจงมากกว่านี้สิ

เลก: จริง ๆ ผมน่าจะเจาะจงกับคุณกว่านี้ต่างหาก เครื่องนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้หาตัวอะไรก็ได้ที่แค่ยัดมันเข้าตู้แล้วจบงานไปได้นะเว้ย

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: มันไม่ได้อยู่ในรายละเอียดที่ให้นะ

เลก: หัดตีความกันหน่อยสิวะ!

คอยซ์: พอล คุณทำตัวไร้สาระแล้วนะ

เลก: ไม่ ไม่ ไม่ใช่สักหน่อย โครงการนี้เป็นตัวแทนของงบทั้งพันล้าน เป็นตัวแทนของผม ผมต้องแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่ามันสามารถตรวจหาภัยคุกคามระดับทำลายโลกได้ก่อนที่มันจะได้แตะต้องอะไรแม้แต่ปลายเล็บ

คอยซ์: ใครบอกมาน่ะ?

เลก: ใครบอกอะไรนะ?

คอยซ์: ใครบอกว่าคุณต้องหาภัยคุกคามระดับโลกน่ะ พวกสภากำกับการเหรอ?

เลก: ผมต้องหามันให้ได้ ผมเองนี่แหละที่บอก! ผมไม่ยอมทนกับเทคโนโลยีผิดปกติราคาหลักพันล้านที่ทำได้แค่ปล่อยตุ๊กตา Tickle-Me-Elmo จอมเขมือบเด็กออกมาเพ่นพ่านหรอกนะ รู้ไหมว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมจะดูโง่แค่ไหน?

คอยซ์: ใจเย็นลงหน่อย

เลก: แอนต์ ถ้าไม่ยังหยุดผมคงได้ส่งคุณไปศูนย์-120 ที่โปแลนด์แน่ ๆ จิม ไอ้เครื่องนี้สแกนได้มากสุดกี่จักรวาล?

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: ประมาณสามสิบห้าล้านจักรวาลแล้ว

เลก: ผมอยากให้เลขมันเพิ่มขึ้นกว่านี้

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: บ้าไปแล้วหรือไงกัน? ได้ซะที่ไหนล่ะ ไม่งั้นมันต้องรื้อทั้งเครื่องมาประกอบใหม่ทั้งหมดเลยนะเว้ย

เลก: ทำไมเล่า?

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: แต่ทางเทคนิคแล้ว แค่อาจจะนะ ผมอาจจะเพิ่มมาเป็นสี่สิบได้อยู่ แต่ระดับนั้นมัน—

เลก: ก็คือเปลี่ยนเลขได้

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: ใช่

เลก: แล้วสรุปมีขีดจำกัดอยู่เท่าไร?

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: ไม่มีจำกัด ฟังนะ ความเสถียรของเครื่องนั้นมัน—

เลก: จิม คุณเป็นคนสร้าง ถ้าพังคุณก็ซ่อมสิ พระเจ้าช่วยเถอะ!

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: ผมไม่เปลี่ยนขีดจำกัดจักรวาลหรอกนะ

เลก: ก็แล้วแต่คุณเลย ผมไม่ติดใจอะไรหรอก

คอยซ์: หยุดเอาไว้ก่อนเลย อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ คุณตกวิศวกรรมศาสตร์ไม่ใช่หรือไง?

เลก: คุณไปเรียนภาษาโปแลนด์เอาไว้เลยนะ

«สิ้นสุดการบันทึก»

SCP-8000 บินออกไป และนำหนังสือปกหนัง 18 เล่มมา ทั้งหมดมีตราสัญลักษณ์ของสถาบัน SCP ประทับอยู่

SCP-8000: คุณผู้อำนวยการศูนย์มาตั้งแปดปีแล้ว อีกอย่างหนึ่งนะ คุณยังเด็กเกินไปสำหรับตำแหน่งนี้เสียอีก ถูกไหม? ถึงหน้าตาจะเกินวัยไปหน่อยก็เถอะ

เลก: อ่า ขอบคุณแล้วกัน

SCP-8000 หยิบหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งและพลิกหน้า

SCP-8000: คุณไต่เต้าได้เร็วอยู่พอควร ส่วนมากจะเป็นเพราะคุณเป็นเพื่อนกับคนใหญ่คนโตนั่นแหละนะ

เลก: สร้างกำลังใจให้ได้มากเลยนะนั่น

SCP-8000: เมื่อกี้ไม่ได้ตำหนิหรอกนะ คุณพอล มันคือเรื่องจริง คุณไม่ได้บกพร่องคุณสมบัติเลย แต่คุณได้คุณสมบัติพวกนั้นมาจากโอกาสที่คนแบบคุณนายมูสหรือคุณแม็กอินนิสมอบให้ต่างหาก

เลก: ใคร ๆ ก็มาอยู่ในจุดเดียวกันกับผมได้ ไม่ได้มีใครบังคับให้ผมทำงานที่ต้องทำ และตอนที่ผมได้รับเลือกมันก็ไม่มีใครอยู่ในตำแหน่งที่จะเป็นผู้อำนวยการได้เลย

SCP-8000: ถ้างั้นทำไมคุณถึงได้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ล่ะ?

เลก: แล้วอยากให้ทำอะไรล่ะ? คุยโวหรือไง? ผมเป็นคนที่มีคุณสมบัติพอเหมาะกับตำแหน่งที่สุด ผมก็ไม่รู้สิ ผมแค่บังเอิญไปอยู่ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นแหละ

SCP-8000: ยังจำสัญญาเรื่องความซื่อตรงของเราได้อยู่เนอะ คุณพอล นี่ก็คือบทสนทนาระหว่างคุณกับคุณแอนโทนีในปี 1993

เลก: เขาให้ไอ้กะล่อนเวรนั่นได้ศูนย์ไปว่ะ

คอยซ์: พวกคุณเฮาส์เขาจัดการกับพวกตัวตนทาร์ทาเรียนมาตั้งแต่ช่วงปี 40 แล้วล่ะ ยังไงก็ได้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

เลก: ไม่ใช่ละ แอนต์ มันยุติธรรมตรงไหนกัน?

คอยซ์: ผมไม่เคยงั้นสักหน่อย

เลก: ไอ้หมอนั่นอายุน้อยกว่าผมอยู่สองปีเลยนะเว้ย! ห่าอะไรวะ!

คอยซ์: ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าคุณทำไมถึงได้อารมณ์เสียถึงขนาดนี้ คุณได้เป็นถึงนักวิจัยอาวุโสตั้งแต่อายุแค่ 25 เชียวนะ กว่าผมจะได้ทำโครงงานเป็นชิ้นเป็นอันก็ปาไปตอน 34 ปีแล้ว นับประสาอะไรกับตำแหน่งนักวิจัยอาวุโสกันล่ะ

เลก: ผมเป็นคู่แข่งกับแรนดัลล์อยู่ฝ่ายเดียวมาตั้งแต่ที่เข้ามาทำงานที่นี่แล้ว และตอนนี้เขาก็นำหน้าผมอยู่ทุกทางเลย

คอยซ์: พระคริสต์เถอะ บางทีคุณนี่เข้าใจยากนะ รีบจัดการตัวเองแล้วก็กองเอกสารในออฟฟิศได้แล้ว มานั่งบ่นให้ผมฟังไม่ทำให้คุณได้เลื่อนเป็นสมาชิกสภาหรอกนะ

เลก: ตอนนั้นผมก็เป็นแค่เด็กไม่รู้ประสา แล้วก็อิจฉาคนอื่นไป

SCP-8000: ทำไมคุณต้องอิจฉาด้วยล่ะ? คุณแรนดัลล์ก็เป็นเพื่อนกับคุณไม่ใช่เหรอ?

เลก: ก็ใช่แหละ

SCP-8000: คุณเกลียดคุณแรนดัลล์ไหม?

เลก: ไม่ล่ะ ผมไม่เคยรู้สึกเกลียดเขาเลย เขาคอยอบรมผมมาตั้งแต่เริ่มเลยด้วยซ้ำ

SCP-8000: แต่ตอนนั้นคุณดูเกลียดเขามากเลยนะ

เลก: พระเจ้าช่วย นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย?

(SCP-8000 เพ่งมองไปที่เลก)

เลก: ผมแค่คิดว่าผมควรได้เป็นผู้อำนวยการก่อนเขาน่ะ

SCP-8000: ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?

เลก: เพราะผมคิดไปเองว่ามันจะชะล้างความไม่มั่นใจทั้งหมดที่ผมมี ถ้าผมชิงทำให้ได้ก่อนเขา มันก็จะได้ไม่มีใครจะกล้ามามองว่าผมไม่คู่ควร

SCP-8000: แต่ตอนนี้คุณก็ได้มีศูนย์เองบ้างแล้วนี่

เลก: ก็ใช่แหละ แต่มันก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นแค่ของปลอบใจไปแล้ว แม่งเอ๊ย ผมทำอะไรกับตัวเองไปวะเนี่ย?

SCP-8000: มันไม่ดีพอสำหรับคุณเหรอ?

เลก: มันดีสิ— มันน่าจะเป็นแบบนั้นสิ ผม— ผมแต่อยากได้ทำอะไรสำคัญ ๆ กับเขาบ้าง — ได้ทำอะไรสักอย่างที่จะทำให้ผมได้มีชื่ออยู่จุดสูงสุดของมันได้บ้าง ผมตามหลังอยู่หนึ่งก้าวมาทั้งชีวิต ผมก็แค่อยากถูกยอมรับบ้าง ถึงจะน้อยแค่ไหนก็ยังดี คุณก็เห็นแล้วนี่!

SCP-8000: คงจะไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยที่องค์กรซึ่งรับผิดชอบในการรักษาและสร้างความปลอดภัยให้กับจักรวาลจะให้ใครสักคนได้บริหารศูนย์เป็น "ของปลอบใจ" ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?

SCP-8000 พลิกไปยังอีกหน้าหนึ่ง

Lague: ผมอยากถามความเห็นจากคุณหน่อย เพราะว่าคุณเป็นสิ่งผิดปกติ เป็นเรื่องการกักกันน่ะ

SCP-5595: พูดคำนั้นแบบนั้นแล้วดูเป็นคำเหยียดชอบกลว่ะ

Lague: ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว ให้ผมได้พักบ้างหน่อยเถอะ ฟังนะ นักวิจัยฝึกหัดคนนึงอยู่ ๆ ก็นึกจะเป็นไข้หวัดใหญ่วันนี้ แล้วมันก็ไม่มีใครจะมาช่วยทำโปรเจกต์น่าเบื่อนี่ได้แล้ว

SCP-5595: เรื่องอะไร?

เลก: เครื่องปิ้งขนมปังที่เปลี่ยนขนมปังที่ใส่เข้าไปเป็นขนมปังประเภทอื่น เอาไปลงรายการวัตถุผิดปกติ

SCP-5595: ผมหวังว่าคุณจะมองไอ้นั่นอยู่ต่ำกว่าผมนะ

เลก: นึกคึกอะไรถึงได้ทำตัวขาดความมั่นใจล่ะเนี่ย?

SCP-5595: ผมก็อปคุณไง

เลก: ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมต้องมานั่งพิมพ์ไอ้นี่ลงอยู่เนี่ย ผมเป็นผู้อำนวยการนะ ไอ้นี่ไม่ควรเป็นงานที่ผมต้องได้มาทำด้วยซ้ำ

SCP-5595: คุณเคยเป็นผู้นำใครมาก่อนไหมเนี่ย? งานของคุณคือไปเก็บเศษอาหารที่พวกหนูตัวอื่น ๆ กินไม่หมดโว้ย พวกมัน— ผม— ไม่ได้จ้างคุณให้มานั่งเล่น แล้วค่อยเริ่มทำงานตอนโลกจะแตกเว้ย ผมเคยทำงานนี้เก่งกว่าที่คุณทำได้ แล้วผ่านไปวันเดียวผมก็โดนแย่งไปแล้ว

SCP-8000: คุณได้สิ่งที่ไขว่คว้ามาตลอดแล้ว แต่มันก็ยังไม่สมใจคุณ

เลก: ผมทำแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว เราหยุดอยู่ตรงนี้เลยได้ไหม? ผมรู้แล้ว ผมเข้าใจแล้วว่าคุณอยากบอกอะไรกับผม ขอสาบานเลย

SCP-8000: แน่ใจเหรอ? คุณเพิ่งจะบอกไปว่าอยากถูกยอมรับบ้าง แต่คุณถูกยอมรับแล้วนี่ คุณประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ก่อนได้เป็นผู้อำนวยการศูนย์เสียอีก คุณแอนโทนีก็บอกว่า คุณได้เป็นถึงตำแหน่งสูง ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ก็ยังไม่รู้สึกพอใจกับมัน คุณก็เลยพยายามต่อไปอีก จนตอนที่คุณได้เป็นผู้อำนวยการศูนย์แล้ว หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบก็ดันไม่เป็นอย่างที่คุณหวังเอาไว้ แต่คุณก็คิดว่าไม่เป็นไรอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะตอนนั้นความรู้สึกแปลกใหม่ของมันยังไม่หายไป

เลก: การถูกยอมรับมันจะสำคัญอะไร ถ้าการไล่ตามมันทำให้ผมกลายเป็นไอ้สวะรกโลกไป ผมได้มาอยู่ที่จุดสูงสุดแล้ว ผมมีทุกอย่างที่ต้องการตั้งแต่เด็กแล้ว — ทั้งเงินทอง อำนาจ ความเคารพ เพื่อนที่ใส่ใจกัน — แต่มันก็ยังไม่พออยู่ดี มันจะมีอะไรให้ไขว่คว้าได้อีกหรือไง? ไม่มีอะไรเหนือไปกว่านี้แล้ว

SCP-8000: คุณพูดถูก มันไม่มีอะไรให้ไขว่คว้ามากแล้วก็จริง แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็จะยังพยายามคว้ามันมาให้ได้ต่อไปอีก

เอกสารที่ถูกกู้คืน 8000.9-10
03/22/2024

บริบท: ย่อความรายการสิ่งผิดปกติที่ถูกค้นพบโดยซีกเกอร์ต่อจากก่อนหน้า

SEEKER.13

จักรวาลที่ป้อนเข้า: 629,814,230
ขอบเขต: '' 'มีชีวิต' 'มีสติปัญญา' 'อาวุธ' 'เก่าแก่'


การค้นพบของซีกเกอร์: สิ่งผิดปกติถูกระบุว่าอยู่ในบริเวณทะเลทรายในรัฐเนวาดา


spaghettijones.png

SCP-13-SEEK

รายละเอียดฉบับคัดตอน: SCP-13-SEEK คือ ตัวตนรูปร่างมนุษย์ที่มีสติปัญญาซึ่งมีลักษณะเป็นภาพลักษณ์ของคาวบอยที่พบในสื่อต่าง ๆ ร่างกายของ SCP-13-SEEK ก่อขึ้นมาจากสปาเกตตีทั้งหมด

บทถอดความ


SCP-13-SEEK: ว่าไง

เลก: คุณคืออะไรน่ะ?

SCP-13-SEEK: คุณชื่ออะไร?

เลก: เถอะน่า ผมขอล่ะ คุณคืออะไรกันแน่?

SCP-13-SEEK: คุณดูลุกลี้ลุกลนที่จะไม่คืบหน้าไปไหนนะ สหาย ผมชื่อสปาเกตตี โจนส์ ส่วนเจ้านี่ก็คือม้าของผม เจ้าริกกี้โทนี่

(SCP-13-SEEK และม้าของมันโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียงกัน)

เลก: แล้วคุณทำอะไร?

SCP-13-SEEK: ผมไปทุกที่ที่สายลมนำพาไปสู่

เลก: ก็แสดงว่าไม่ทำอะไรเลยน่ะสิ

SCP-13-SEEK: จะว่าอย่างนั้นก็ได้นะ เป็นชีวิตที่สงบสุขดีเลยล่ะ

เลก: แล้วคุณกินอะไร?

SCP-13-SEEK: อาหาร

เลก: แล้วประเภทไหนล่ะ? อาหารที่คุณชอบกินคืออะไร?

SCP-13-SEEK: ผมชอบสเต๊กเนื้อชุ่มฉ่ำที่ไม่สุกมากเท่าไร

เลก: เนื้อวัวเหรอ?

SCP-13-SEEK: ผมไม่คิดว่าเขาจะใช้เนื้อสัตว์ประเภทอื่นทำสเต๊กกันนะ

เลก: อ่าฮะ ก็คือ คุณเป็นชายที่ทั้งตัวเป็นเส้นสปาเกตตี และคิดว่ากำลังอยู่ในยุค 1870

SCP-13-SEEK: ก็แล้วมันไม่ใช่ยุค 1870 หรือไง?

เลก: ถ้าคุณเป็นผมและกำลังหาอะไรที่น่าอัศจรรย์ คุณจะรู้สึกดีใจไหมถ้าได้มาเจอตัวเองน่ะ?

SCP-13-SEEK: ผมพอใจกับตัวเอง ผมก็คิดว่าตัวเองเป็นคนดี และเจ้าริกกี้โทนี่ก็ดีไม่ต่างกัน ผมพึงพอใจแบบนี้ มันแย่นักหรือไง?

เลก: ผมไม่ได้ถามแบบนั้น

SCP-13-SEEK: แน่ใจเหรอ สหาย? นายพอใจกับตัวเองแล้วยัง?

เลก: ผมไม่พอใจเลยที่วิทยาการมูลค่านับพันล้านดอลลาร์พามาหาคุณ

SCP-13-SEEK: นี่นะ ผมก็ไม่ได้อยากถูกใครหาเจอหรอก แล้วคุณก็ไม่ได้ตอบคำถามผมเหมือนกันนั่นแหละ

เลก: ผมขอโทษจริง ๆ แต่คุณไม่ดีพอเลย

SCP-13-SEEK: สหายเอ๋ย ถึงคุณจะหยาบคายกับผมแค่ไหนก็ตาม แต่ก็สายัณห์สวัสดิ์นะ

(SCP-13-SEEK และม้าของมันโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นก็เคลื่อนตัวห่างออกไปจากเลก)

SEEKER.22

จักรวาลที่ป้อนเข้า: 932,143,994
ขอบเขต: '' 'มีชีวิต' 'KETER' 'ดุร้าย' 'หุ่นยนต์'


การค้นพบของซีกเกอร์: สิ่งผิดปกติถูกระบุว่าอยู่ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา


elmo.png

SCP-22-SEEK

รายละเอียดฉบับคัดตอน: SCP-22-SEEK คือ ของเล่นยี่ห้อ Tickle-Me-Elmo ที่มีสติสัมปชัญญะ

SCP-22-SEEK จะแสดงสติสัมปชัญญะของมันเพียงหลังจากที่ทำการสนทนากับมันพร้อมกับการจั๊กจี้บริเวณหน้าท้องของมันเท่านั้น แม้ว่ามันจะมีท่าทางการพูดที่เหมือนกับตัวละครสมมุติที่มีชื่อว่าเอลโม่ก็ตาม แต่ SCP-22-SEEK ก็ไม่ได้มีบุคลิกที่คล้ายคลึงกับตัวละครดังกล่าวแต่อย่างใด

TRANSCRIPT


เลก: คุณกินเด็กไหม?

(เลกทำการจั๊กจี้ที่หน้าท้องของ SCP-22-SEEK)

SCP-22-SEEK: ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า ไม่ นี่นายหัวกระทบกระเทือนมาหรือยังไงเนี่ย?

เลก: ช่วงไม่กี่วันมานี้มันหนักเอาการเลย

(เลกทำการจั๊กจี้ที่หน้าท้องของ SCP-22-SEEK.)

SCP-22-SEEK: ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า ฮ่า-ฮ่า-ฮ่า เอลโม่ไม่รู้นะว่าสัตว์ประหลาดที่ไหนจะกินเด็ก เอลโม่ชอบกินผู้ใหญ่มากกว่า เนื้อเยอะกว่าตั้งแยะ

บริบท: ดร.ซิมเมอเรียนได้สั่งให้ผู้อำนวยการเลกเข้าร่วมการประชุมฉุกเฉิน

«เริ่มต้นการบันทึก»

เลก: เจอร์ ผมขอพูดตรง ๆ เลยนะ มันไม่มีอะไรที่คุณพูดออกมาแล้วจะไม่ทำผมอารมณ์เสียเลยแม้แต่ประโยคเดียว

ซิมเมอเรียน: ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าต้องทำตัวอ่อนโยนแค่ไหน แต่ผมเป็นห่วงคุณนะ—

เลก: ผมทำไอ้นี่เองคนเดียวมาตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา คุณอยากให้ผมทำงานอย่างที่ต้องทำ ผมก็ไปหาสิ่งผิดปกติที่อันตรายที่สุดที่เรายังไม่ได้กักกัน แล้วผมก็กักกันมันนี่ไง

ซิมเมอเรียน: คุณพบสิ่งผิดปกติไปทั้งหมด 25 ตัว และส่วนมากชอบกินมนุษย์

เลก: พระเจ้าช่วย ผมก็นึกว่าคุณจะเป็นคนที่เข้าใจหลักการวิทยาศาสตร์พื้นฐานได้เสียอีก! ผมพยายามอยู่นี่ไงเล่า ก่อนที่อยู่ดี ๆ คุณก็บังคับให้ผมมาเข้าประชุมนี่น่ะ ผมปรับแต่งส่วนที่เหลือเกือบเสร็จอยู่แล้วเชียว

ซิมเมอเรียน: แล้วคุณอยากจะพบอะไรกันแน่? พระเป็นเจ้าหรือไง?

เลก: อย่างนั้นมันก็คงไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดหรอก

ซิมเมอเรียน: ก็แล้วยังไงต่อล่ะ? จะกักกันมันเองอีกเรอะ? คุณต้องวิเคราะห์สถานการณ์นี่ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มเลย

เลก: ผมกำลังจะจัดการกับปัญหาชีวิตของตัวเองได้

ซิมเมอเรียน: ผมไปคุยกับพวกวิศวกรมาแล้ว พวกเขาคิดว่าถ้าคุณปรับไปถึง 1 พันล้านจักรวาล เรื่องนี้มันจะได้จบไม่สวยแน่ ๆ คุณยัดระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังเข้าไปในศูนย์ตัวเอง นี่รู้ตัวไหมเนี่ยว่าคุณกำลังเอาทั้งตัวเองและคนอื่น ๆ ไปเสี่ยงกับอันตรายอะไรอยู่?

เลก: พอจบวันนี้ผมก็จะพอแล้ว ผมปรับส่วนขอบเขตบ้างแล้ว และก็จะได้สิ่งที่กำลังมองหาแน่ ๆ ขอสาบานด้วยเกียรติของลูกเสือเลยว่าเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเจอกัน!

(ผู้อำนวยการเลกออกไป)

«สิ้นสุดการบันทึก»

บริบท: ผู้อำนวยการเลกเรียกประชุมกับบุคลากรทั้งหมดของศูนย์-322 เพื่อที่จะแสดงสิ่งผิดปกติที่กำลังจะถูกค้นพบโดยซีกเกอร์

«เริ่มต้นการบันทึก»


คำนำ: เลกได้สั่งการให้บุคลากรทั้งหมดของศูนย์-322 ไปรวมตัวที่ห้องปฏิบัติการซีกเกอร์


เลก: พวกคุณคงจะสงสัยกันว่าทำไมผมถึงได้เรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ ในวันนี้ ผมได้บรรลุถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของตัวเองแล้ว สิ่งผิดปกติที่เจ้าเครื่องจักรแสนทรงพลังนี้จะได้ค้นพบในวันนี้จะไม่ใช่แค่มนุษย์กินคน แต่สำหรับทั้งผม และให้ขยายความอีกหน่อย ก็คือสำหรับคุณด้วย สิ่งนี้จะเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของพวกเรานั่นเอง

(เสียงปรบมือดังขึ้น)

เลก: ผมทุ่มเทให้มันอย่างหนักหนา และบางคนอาจบอกว่าหนักหนาเกินไปเสียด้วยซ้ำ ผมได้ทำการปรับซีกเกอร์ให้สมบูรณ์แบบ—

คอยซ์: เจ้านั่นกำลังจะระเบิด

เลก: ทำไมต้องทำตัวมืดมนขนาดนั้นด้วยเล่า? ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ตัวขอบเขตก็กำหนดไว้เรียบร้อยดี แล้วผมก็ถึงกับแก้ไขเสถียรภาพใหม่เพื่อให้รองรับรูหนอนได้เลยด้วยซ้ำ

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: ฮะ?

เลก: ที่ผมต้องทำก็เหลือแค่กดปุ่—

(กล้องภาพดับ)

«สิ้นสุดการบันทึก»

ทั้งคู่เข้าสู่ส่วนที่มืดมิดของโถงทางเดิน ดวงไฟสีทองไม่ปรากฏอีกต่อไป เหลือก็แต่เพียงแสงสลัวขนาดเล็กที่ดูคล้ายกับเศษแก้วที่ล่องลอย

SCP-8000: สำหรับคุณแล้ว สิ่งนี้ยังคงไม่เกิดขึ้น ฉันเคยดึงคุณออกมาจากจุดนั้นแล้ว แต่คุณก็ได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ทำให้เราต้องมาอยู่ที่นี่

//ชั้นวางว่างเปล่ามากขึ้นเรื่อย ๆ //

SCP-8000: ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นหากฉันปล่อยให้คุณไปตัวคนเดียว คุณจำการประชุมก่อนที่ฉันจะมาได้ไหม?

เลก: ไม่หรอก คือว่านะ ผมจำได้ว่ามีประชุม แต่ผมจำรายละเอียดไม่ได้

SCP-8000: ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมนักเดินทางอันแสนเหนื่อยล้าของฉันถึงต้องเจอแบบนี้กัน เจอกับความหลงลืม

SCP-8000 และเลกมาถึงยังชั้นวางสุดท้าย ความว่างเปล่าของมันได้เติมเต็มเข้ากับช่องว่างที่อยู่เหนือมีหนังสือเล่มหนึ่งถูกวางอยู่บนชั้นนี้ มันเป็นหนังสือสีขาวที่ไม่มีปกหลัง เนื่องจากดูเหมือนว่ามันได้เคยถูกเผาไป

SCP-8000: อ่านซะสิ

บทสนทนากับมิตรผู้กังวลใจ

การเข้าแทรกแซงอย่างไม่สมบูรณ์

การนำเสนอโครงการ

การฉ้อฉลต่อสภากำกับการ

ความดื้อรั้นและความเชื่อของชายหน้าทนว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถจัดการกับปัญหาของตนเองได้

สี่สัตว์ที่ไม่อาจเอื้อมไปถึงมาตรฐานอันเกินเอื้อม

ความดื้อรั้นของชายคนหนึ่งปรากฏชัดต่อหน้าบุคคลสุดท้ายซึ่งเอื้อมมือเข้าช่วยเหลือตน

ความผิดพลาดอันไม่อาจเลี่ยงหนี


ผู้อำนวยการเลกและ SCP-8000 ปรากฏตัวในหลุมริมฝั่งแม่น้ำที่ถูกกั้นเออาไว้ มีเศษผลึกอยู่รอบ ๆ พวกเขา รวมไปถึงก้อนคอนกรีต เหล็กเส้น และกระจก อากาศอบอ้าวคลุ้มกลิ่นกำมะถัน เลกมองไปรอบ ๆ ใบหน้าเขาตื่นกลัวขึ้นมาอย่างชัดเจน

SCP-8000: รู้ไหมว่าเราอยู่ที่ไหนกัน?

เลก: ผม—

SCP-8000: คุณรู้ คุณรู้อยู่แก่ใจเลย

[…]

เลก: เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?

SCP-8000: เครื่องซีกเกอร์ได้พังลงไป คุณพอล มันพังลงเอง ฉันรู้มาว่ารูหนอนมีเสถียรภาพต่ำมาก แต่คุณกลับสร้างเครื่องนั้นให้ออกมาทนทานได้ คุณได้ก้าวข้ามขีดจำกัดนั้นไปด้วยความยึดติดในศักดิ์ศรีของคุณ คุณกำหนดขอบเขตเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ในจักรวาลใด ๆ เลย— ขอบเขตที่เจาะจงจนเป็นไปไม่ได้ที่จะมีอยู่ — มันจึงได้พังลง

เลกเดินไปรอบ ๆ และพบเศษเสื้อผ้าและอุปกรณ์ห้องแล็บ

SCP-8000: ศูนย์ของคุณหายไปแล้ว

เลกพบเข้ากับเศษไม้ซึ่งเคยเป็นโต๊ะทำงานของเขา

SCP-8000: คนของคุณก็เหมือนกัน

เขาขุดลงไปในโคลนตม และพบกับสายคล้องบัตรคีย์การ์ดศูนย์-322 ของตน

SCP-8000: และคุณก็ไม่ต่าง

(เสียงเงียบลง)

SCP-8000: คุณพอล?

เลก: คุณบอกว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น แล้วมันเกิดขึ้นแล้วยัง?

SCP-8000: มันเกิดขึ้นแล้ว แต่เป็นในเส้นเวลาที่พวกเราไม่ได้พบกัน

เลก: คุณหยุดมันลงได้เหรอ?

SCP-8000: ฉันไม่เคยหยุดอะไรหรอก คุณพอล ฉันเกิดสนใจคุณขึ้นมาก็เพราะโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ ฉันเห็นคนล้มตายและการทำลายล้างอยู่ทุกวันทุกคืน และแทบทั้งหมดก็เป็นกลุ่มคนที่ตัดสินใจด้วยลู่ทางจากประวัติของตัวเองที่ฉันสามารถเข้าใจเหตุผลของพวกเขาได้ แต่ฉันก็ได้รู้มาว่าคุณต่างออกไป ฉันค้นหาทั่วประวัติของคุณเพื่อหวังจะพบชนวนเหตุที่มอบคำอธิบายให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่มันกลับไม่มีเลย ทุกย่างก้าวที่ผ่านมา คุณได้ทำสิ่งที่ขัดกับทั้งความคติของตัวเองและคำแนะนำจากคนอื่น ๆ คุณปล่อยให้นิสัยเสียของตัวเองแผดเผาเป็นเปลวไฟไร้ควบคุม และสุดท้ายก็จบลงอย่างนี้

เลก: ทำไมกันล่ะ? ให้ผมได้แก้ไขมันดูเถอะน่า! ผมต้องแก้ได้สิ ผมทำได้สิ ให้โอกาสผมแค่สักครั้ง แค่— แค่พาผมกลับไปที่เดินก็พอแล้ว!

SCP-8000: ฉันคิดว่าบางที แค่บางทีนะ ฉันอาจจะหยุดยั้งมันได้ ฉันพอจะไปแทรกแซงก่อนที่คุณจะก้าวลงคลองไปได้ แล้วมาดูกันว่าฉันจะพาคุณกลับขึ้นมาได้ไหม ซิมเมอเรียนฟางเส้นสุดท้ายของคุณ ให้ไปเริ่มที่ตอนนั้นถึงจะดูสมเหตุสมผล

เลก: พระเจ้าช่วย ไม่อยากเชื่อเลย ไม่จริงน่า

SCP-8000: ฉันเคยลองมาแล้ว คุณพอล แต่คุณเป็นคนดื้อด้าน คุณไม่รับฟังอะไรที่ฉันพยายามให้คุณได้เห็นเลย

เลก: ผมรู้แล้ว ผมเข้าใจหมดแล้วล่ะ รู้ไหมว่าการรู้แบบนี้จะจะทำให้ตอนสุดท้ายเป็นยังไง? ผมเป็นอย่างที่ตัวเองเป็น ผมไม่มีวันที่จะสมดังใจ มันต้องเป็นแบบนั้น

SCP-8000: ความคิดแบบนั้นนั่นแหละที่ทำให้มันกลายเป็นอย่างนี้

เลก: ผมแก้ไขเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้หรอก

SCP-8000: คุณทำได้ คุณแค่ต้องทบทวนตัวเองใหม่ มองตัวเองอย่างที่ฉันมอง คุณประสบความสำเร็จมา และคุณต้องภูมิใจไปกับมัน

เลก: ยังไงล่ะ? ผมจะแก้ยังไงจากทั้งหมดที่คุณเห็นมา?

SCP-8000: ฉันเห็นเด็กคนหนึ่งที่ไม่เชื่อในตัวเองได้เติบโตเป็นชายหนุ่มที่ยอมรับกับความคิดที่ว่าไม่มีใครเชื่อในตัวเขาไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ลองมองดูตัวเองสิ

SCP-8000 ใช้ครีบวาดสัญลักษณ์ของแบทแมนลงบนพื้นทราย เลกน้ำตาเอ่อคลออยู่ที่เบ้า

SCP-8000: ฉันไม่ได้อยากเกี่ยวพันกับความรุนแรงอะไร เพราะงั้นรีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ คุณพอล

SCP-8000 ปิดหนังสือ ทั้งคู่กลับมายังหอสมุด อากาศดูนิ่งสงบกว่าที่เคย และเศษแก้วที่ส่องแสงได้หายไป พวกเขาจึงตกอยู่ภายในความมืดมิด

เลก: ผมไม่เคยดีใจกับตัวเองเลย ไม่เลยสักครั้ง

ชั้นวางเริ่มสั่นไหว

SCP-8000: นั่นแหละนะ

เลก: ผมจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้— ผมไม่ได้เพียบพร้อมอะไรเลยนะ

SCP-8000: คนส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน แต่ทุกคนก็หาทางของตัวเองได้ คุณก็เหมือนกัน

เลก: ผมจะไม่ปล่อยให้ความทุ่มเทและเวลาที่สูญไปได้เสียเปล่า ผมจะไม่ปล่อยให้ทุกอย่างที่ผมลงแรงไปต้องกลายเป็นแค่หลุมในใจกลางที่รกร้าง ผมจะไม่ยอมกลายเป็นไอ้ปวกเปียกที่ทำได้แค่มองดูปัญหาที่สร้างเอาไว้เด็ดขาด

SCP-8000: คุณเชื่อมั่นในตัวเองไหม?

เลก: พระคริสต์ช่วยเถอะ นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย?

ชั้นวางสั่นไหวอย่างรุนแรง เสียงกระทบกระทั่งดังก้องไปทั่วห้อง พร้อมกับที่หนังสือต่าง ๆ ตกลงมาสู่พื้น

SCP-8000: คุณมีปัญหาก็จริง แต่คุณก็มีความสามารถในการแก้ไขทุกอย่างได้เหมือนกัน

เลก: พระเจ้า ผมมีทั้งเพื่อนและชีวิตของตัวเองอยู่ที่นั่น ทุกอย่างที่ผมทุ่มเทให้ทั้งหมดก็อยู่ในตึกนั้น มันคือความสำเร็จของผม นี่แหละที่เป็นความสำเร็จของผมเอง ผมเอาแต่ร้องไห้เพราะไม่กล้าสู้หน้าตัวเอง แทนที่จะเป็นเพราะการกระทำของตัวเอง

พื้นที่อยู่ข้างใต้ทั้งสองสั่นไหว พื้นเบื้องล่างเลกแตกออกราวกับมีแรงมหาศาลมากดทับมัน หนังสืออีกหลายเล่มร่วงหล่นลงมา ราวกับเป็นเสียงห่าลูกเห็บ เครือเถาและพืชพรรณที่อยู่บนชั้นวางโอนเอนราวมีลมพายุกรรโชกใส่

SCP-8000: คุณเชื่อมั่นในตัวเองไหม?

เลก: ผมทนอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ผมเบื่อที่จะเอาแต่คิดว่าตัวเองดีไม่พอเต็มทีแล้ว ผมจะเห็นคนอื่นมีความสุขแล้วเอาแต่รู้สึกแย่แทนที่จะร่วมยินดีให้กับเขาไม่ได้แล้ว ผมดีพอแล้ว ผมดีเท่านี้มาโดยตลอด

ทันใดนั้น ชั้นวางที่ว่างเปล่าที่ข้างหลังเลกกลับส่องแสงสว่างวาบขึ้นมา เสียงกึกก้องเงียบลง หนังสือลอยกลับขึ้นไปบนชั้นวางในตำแหน่งเดิม พืชพรรณกลับไปอยู่ในสภาพเดิม รอยแตกยังคงอยู่ที่เบื้องล่างเลกเช่นเดิม

SCP-8000: คุณพอล คุณเชื่อมั่นในตัวเองแล้วยัง?

เลก: ผมเชื่อในตัวเองแล้ว ผมแก้ไขเรื่องนี้ได้

SCP-8000: นั่นไงเล่า

ชั้นที่เดิมเคยว่างเปล่าได้ถูกเติมเต็มด้วยหนังสือสีขาวนับร้อยเล่ม ทั้งต่างขนาดและรูปทรง เลกจ้องมองด้วยความตกตะลึง

เลก: อะไรกันเนี่ย?

SCP-8000: พวกนี้ก็คือความทรงจำที่ยังไม่ถูกเขียนขึ้นมา ชีวิตของคุณไม่ได้จบลงก่อนเวลาอันควรอีกต่อไปแล้ว ทีนี้คุณก็กลับไปได้แล้ว ไปหาเพื่อนพ้อง ไปหาการงาน คุณประสบความสำเร็จได้ในแบบของตัวเอง และจะได้เติมเต็มหนังสือพวกนี้

เลก: ทุกอย่างถูกกำหนดเอาไว้อยู่แล้วงั้นเหรอ?

SCP-8000: เปล่าหรอก คุณพอล พวกนี้ก็คือหนังสือว่างเปล่าที่รอการเขียน และจะถูกเติมด้วยทางเลือกของคุณ คุณจะกลับไปและไม่สนใจคำแนะนำและองค์ความรู้ของฉัน และหนังสือพวกนี้ก็จะได้หายไปอีกครั้งหนึ่ง หรือคุณจะกลับไปยังที่เดิม และสร้างเรื่องราวให้ฉันติดตามชมต่อไปก็แล้วแต่คุณเลย

เอกสารที่ถูกกู้คืน 8000.9-10
03/22/2024

บริบท: ดร.ซิมเมอเรียนได้สั่งให้ผู้อำนวยการเลกเข้าร่วมการประชุมฉุกเฉิน

«เริ่มต้นการบันทึก»

เลก: เจอร์ ผมขอพูดตรง ๆ เลยนะ มันไม่— เชี่ย คุณพระช่วย!

(ผู้อำนวยการเลกนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับดร.ซิมเมอเรียน)

ซิมเมอเรียน: คุณห่วยว่ะ

เลก: คงงั้นมั้ง! โธ่ถัง ขอบคุณพระเจ้า

ซิมเมอเรียน: นี่นะ พอล ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าต้องทำตัวอ่อนโยนแค่ไหน แต่ผมเป็นห่วงคุณนะ จากที่ผมได้อ่านและเห็นมาตลอดทั้งเดือนก่อนมันทำให้คุณดูไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้เลย โครงการนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของคนทั้งศูนย์นี้ และยิ่งไปกว่านั้น ผมห่วงความปลอดภัยของคุณด้วย

เลก: ก็จริง คุณพูดถูกเลยล่ะ

ซิมเมอเรียน: คุณพูดจริงดิ?

เลก: […] เออสิ

ซิมเมอเรียน: อ่า โอเค อย่างกับว่าผมได้ไปมองคุณทนทุกข์ในความเงียบที่สร้างขึ้นมาเองเลย ขอเถอะนะ บอกผมมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นเถอะ

เลก: ผม—

[…]

เลก: ผมน่าจะฟังที่คุณบอก ตอนนั้นคุณก็แค่อยากจะช่วยผม

ซิมเมอเรียน: ตอนนี้ผมก็ยังอยากนะ

เลก: ผมขอโทษที่ผลักไสออกไป ไม่ใช่แค่คุณนะ แต่คนอื่น ๆ ก็ด้วย ผมติดในวังวนความอิจฉาและขาดความมั่นใจมาทั้งชีวิต ผมหลุดพ้นมาได้ก็เพราะทุกคนที่ห่วงใยผมจริง ๆ

ซิมเมอเรียน: จะว่าไงดีว่ะ ผมนั่งเฉย ๆ โดยทำเป็นว่าคาดไว้แล้วเชียวว่าต้องพูดแบบนี้ไม่ได้หรอก

เลก: คุณไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าผมเพิ่งไปเจออะไรมา คือมันมีไอ้เจ้าแมวน้ำอยู่ตัวหนึ่งนะ แล้วทีนี้— แล้ว—

(ซิมเมอเรียนขมวดคิ้วของตน)

เลก: ผมไม่ได้บ้านะ คือไอ้เจ้าแมวน้ำตัวนี้นะ แล้วทีนี้ผมก็เข้าไปในหอสมุด—

ซิมเมอเรียน: อยากให้ผมตามใครมาให้ไหม?

เลก: ไม่ต้อง

ซิมเมอเรียน: ผมสับสนนะเนี่ย

เลก: คุณเพิ่งบอกผมไปว่าคุณมาเพื่อช่วยผมไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

ซิมเมอเรียน: ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมนะ

เลก: ปัญหามันมาเริ่มขึ้นหลังจากที่ผมทำข้อเสนอ 001 ของตัวเองเสร็จไป

ซิมเมอเรียน: ถือเป็นความสำเร็จใหญ่หลวงเลยล่ะ ได้ข่าวมาว่าคุณพอใจกับมันนะ

เลก: ใช่ ผมพอใจ ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยล่ะ ผมทำจนเสร็จและเผยแพร่ แต่— แบบ— ก็แค่นั้น เสียงตอบรับจากเพื่อนร่วมงานก็ดี สภาประทับตราอนุมัติให้ผม แล้วผมก็ฝ่าฟันอะไรต่อมิอะไรเพื่อที่จะทำให้เสร็จ ที่ทุ่มเทไปก็คุ้มค่าดี ในตอนที่ผมก็เผยแพร่ ผมดีใจสุดขีดปรอท แต่จากนั้น… มันก็จบเท่านั้น ผมกลับมาสู่โลกความจริงอีกครั้ง ที่ที่ผมทำได้แค่— ได้แค่ติดแหง็กกับงานซ้ำซาก

ซิมเมอเรียน: คุณเข้าใจใช่ไหมว่าที่คุณต้องทำไม่ได้มีแค่โครงการใหญ่ยักษ์แบบนี้น่ะ?

เลก: ไม่— คือตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะ ตอนนั้นผมรู้สึกไปว่าตัวเองตกต่ำลง

ซิมเมอเรียน: ก็มีเหตุผล คุณได้กลับไปทำงานตามปกติ คงไปกระทบกับระบบการทำงานเข้า

เลก: ผมรู้สึกเหมือนว่าได้ถึงจุดสูงสุดของงานวิจัยหลังจากที่ได้ฐานะเป็นผู้อำนวยการมาแปดปี แปดปีเชียวนะ! ผมสลัดความรู้สึกหวาดกลัวออกไปไม่ได้ ในสถาบันมีคนที่เป็นอมตะ ผมนึกไม่ออกเลยว่าผมจะใช้ชีวิตที่เหลือ ไม่ก็ที่ถูกต่อเวลาเพิ่มไปกับการแสวงหาความสำเร็จที่จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าเราจะคิดว่าอะไรถือเป็น 'โครงการใหญ่' ก็ตาม พวกการเผยแพร่ข้อเสนอถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานและความคาดหวังให้สูงขึ้น ที่ซึ่งผมเอื้อมไม่ถึง และไม่มีวันที่ผมจะได้เอื้อมถึง

ซิมเมอเรียน: แล้วนั่น—

เลก: เหมือนกับว่ามันเป็นงานประจำวัน— บันไดที่นำสู่ความสำเร็จกลายเป็นแค่วงจรไร้จบ— เป็นสิ่งเตือนใจว่าผมไม่ได้อยู่ในที่ตรงนั้นอีกต่อไปแล้ว ความรับผิดชอบมันย้อนกลับมา และที่มันทำได้ก็มีแค่ย้ำให้รู้ว่าความสำเร็จในครั้งนี้ก็แค่ให้พักหายใจ ผมยอมรับไม่ได้

ซิมเมอเรียน: ผมเข้าใจนะ คุณไม่ใช่คนเดียวที่เคยรู้สึกแบบนั้น

เลก: ผมรู้น่า แต่ตอนนั้นมันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย

ซิมเมอเรียน: เข้าใจได้

เลก: รู้ไหมว่าผมตระหนักถึงเรื่องอะไรได้?

ซิมเมอเรียน: หืม

เลก: มันไม่ใช่ข้อเสนอของผมเลย มันไม่ได้แก้ไขอะไรแม้แต่นิดเดียว ที่ผมฝ่าอุปสรรคมาได้สำเร็จก็เป็นเพราะทุกคนที่นี่คอยสนับสนุน และทำให้ผมเชื่อว่าผมทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ พวกเขาช่วยผมเรื่องมาตรการกักกัน พวกเขาเป็นคนที่ทำให้ผมสงบสติอารมณ์ลงได้ในตอนที่คิดว่าใกล้จะเสียงานไปเต็มที และก็เป็นคนที่ผมเมินหนีไปตลอดในช่วงที่เผชิญปัญหานี้ ผมน่าจะรู้ตัวเร็วกว่านี้

ซิมเมอเรียน: ตอนนี้คุณก็ได้โอกาสแก้ไขแล้ว

เลก: รู้น่า ผมเข้าใจว่าจะกำจัดความรู่สึกนั้นให้สิ้นซากไปไม่ได้ เพราะผมก็อยู่กับมันมาทั้งชีวิต และมันได้นำพาผมมาถึงจุดที่ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงได้ ผมไม่รู้ความเสียหายที่มาพร้อมกับมันเลย ความสัมพันธ์ที่ต้องเสียไป เวลาที่สูญเปล่า และความรู้สึกแบบ 'เอาไงก็เอาวะ' แล้วทุกอย่างไม่เคยจะดีขึ้นเลย ผมทนได้ก็จริง ผมทนมันมาตั้งแต่แรกเริ่มเลย แต่ผมปล่อยให้มันทำลายตัวผมไปแล้วครั้งหนึ่ง มันจะไม่เกิดซ้ำสอง ผมจะไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น

ซิมเมอเรียน: พอล ถ้าตัดเรื่องการเมืองกับความวุ่นวายระหว่างเราสองคนไป สุดท้ายแล้ว มาตรฐานของคุณคนที่กำหนดก็ต้องเป็นคุณอยู่ดี

เลก: พระเจ้า ผมรู้อยู่น่า ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กับผมอีกรอบเลยนะ

«สิ้นสุดการบันทึก»

บริบท: ผู้อำนวยการเลกเรียกประชุมกับบุคลากรทั้งหมดของศูนย์-322

«เริ่มต้นการบันทึก»


คำนำ: เลกได้สั่งการให้บุคลากรทั้งหมดของศูนย์-322 ไปรวมตัวที่ห้องปฏิบัติการซีกเกอร์


เลก: ผมทราบดีว่าตอนนั้นทำตัวสันดานเสียไป

SCP-5595: ค่อกแค่ก ๆ ก็ยังไม่เปลี่ยน ค่อกแค่ก ๆ

เลก: ขอบใจนะ ผมพลั้งพลาดไป พลาดมหันต์เลยล่ะ ผมต้องขอโทษด้วย ผมรู้ว่าพวกคุณหวังดีกับผมจากใจจริง ผมคิดมากไปเองและโยนปัญหาให้ทุกคนเพราะว่าอยากทำ ไม่ใช่การเป็นผู้นำที่ดีเลย

คอยซ์: พอล พวกเราก็ซึ้งใจกันอยู่นะ แต่เจ้าเครื่องนั่นก็ไม่เสถียรมากอยู่ดี

เลก: ผมรู้ดี พวกคุณไม่เชื่อแน่ว่ามันไร้เสถียรมากขนาดไหน

(เกิดเสียงพึมพำขึ้นในกลุ่มบุคลากร)

เลก: พวกเราจะไม่เป็นอะไรกันหรอก อย่าห่วงไปเลย คือมันมีเจ้าแมวน้ำตัวหนึ่ง— ช่างไปเถอะ พูดไปพวกคุณคงมองว่าผมเสียสติมากกว่าเดิมอีก พวกเราจะมาแก้ไขมันด้วยกัน

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: พวกเราต้องลดค่าจำนวนจักรวาลให้หมด แล้วก็เปิดเครื่องใหม่อีกรอบ ทำแบบนั้นแล้วทุกอย่างจะกลับมาเสถียรตามเดิม

เลก: เข้าใจล่ะ

(เลกเปิดส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ของซีกเกอร์ขึ้นมา จากนั้นก็ทำการลดจำนวนจักรวาลให้กลายเป็น 1)

เลก: เท่านี้เนอะ?

หัวหน้าวิศวกรฮาร์ตเวลล์: นั่นแหละ เปิดใหม่ได้เลย

SEEKER.25

จักรวาลที่ป้อนเข้า: 1
ขอบเขต: ไม่มี


การค้นพบของซีกเกอร์: สิ่งผิดปกติถูกระบุว่าอยู่บนท้องฟ้าเหนือศูนย์-322

คอยซ์: มีอะไรด้วยล่ะ

เลก: เจ้านั่นเลย

«สิ้นสุดการบันทึก»


[[include :scp-th:component:anomaly-class-bar-source
|item-number= 8000
|clearance= 1
|container-class= safe
|secondary-class= none
|disruption-class= none
|risk-class= none
]]

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|containment-class= safe
|containment-image= https://scp-wiki.wdfiles.com/local--files/component%3Aanomaly-class-bar/safe-icon.svg
|containment-color= 176, 216, 247
|inc-neutralized-layout = —]]]

[[include :scp-wiki:component:customizable-acs
|clearance-one= 176, 216, 247
|inc-clearance= —]]]


sealsky.png

SCP-8000.


มาตรการกักกันพิเศษ: ขณะนี้ SCP-8000 ยังคงไม่ได้รับการกักกัน

รายละเอียด: SCP-8000 คือ ตัวตนที่ไม่สามารถระบุได้ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับแมวน้ำฮาร์เบอร์ (Phoca vitulina) ที่มีความยาวมากกว่าปกติ โดยมีความยาวประมาณ 75 ถึง 150 เมตร ยังคงไม่ทราบความสามารถผิดปกติของ SCP-8000 ที่แน่ชัด แต่จากคำบอกเล่าของผู้พบเห็น SCP-8000 สามารถบินได้ด้วยตนเองโดยไม่ทราบวิธีการ

ต้นกำเนิดของ SCP-8000 ยังคงไม่เป็นที่ทราบอย่างแน่ชัด เนื่องจากมันได้หายไปจากระยะสายตาเพียงไม่นานหลังจากการค้นพบ อากาศยานของสถาบันได้ถูกส่งไปยังตำแหน่งสุดท้ายของ SCP-8000 ที่ทราบ และพบเพียงรอยแยกมิติขนาดเล็กซึ่งหลงเหลืออยู่ภายในความเป็นจริงปัจจุบันที่กำลังซ่อมแซมตนเอง





















รายการ #: SCP-XXXX
ระดับการควบคุม: Euclid

มาตรการกักกันพิเศษ:
SCP-XXXX จะต้องถูกกักภายในถังควอตซ์ปิดผนึก (ความหนา 50 ซม.) ซึ่งตั้งอยู่ในห้องกักกันแรงดันลบที่ปลอดภัยใน Site-██
ต้องมีการเปิดใช้งานเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวและระบบเฝ้าระวังภายในตลอด 24 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ที่เข้าพื้นที่กักกันของ SCP-XXXX ต้องสวมชุดป้องกันเคมีระดับ Class-IV และหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงทุกกรณี

หากเกิดการ “หลอมรวมบางส่วน” ระหว่าง SCP-XXXX กับบุคคล ให้ดำเนินการตัดอวัยวะส่วนนั้นภายในสิบ (10) วินาทีหลังเริ่มต้นการหลอมรวม
หลังเหตุการณ์ XXXX-B กองกำลังเคลื่อนที่พิเศษ Alpha-9 ("Last Hope") จะต้องทำการเฝ้าระวัง Site-██ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากฝ่าย Chaos Insurgency

คำอธิบาย:
SCP-XXXX เป็นของเหลวสีเงินคล้ายปรอท มีการเคลื่อนไหวได้ด้วยตนเองและปล่อยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าในระดับต่ำ

เมื่อบุคคลจุ่มมือข้างหนึ่งลงใน SCP-XXXX และกำมือแน่นก่อนดึงออก ของเหลวจะกลายสภาพเป็นคาตานะญี่ปุ่นทันที ซึ่งจากการตรวจคาร์บอนพบว่าอายุประมาณ 400–600 ปี

ดาบที่เกิดขึ้นมีความคมและความทนทานสูงผิดปกติ สามารถตัดผ่านเหล็กหนาถึงสิบ (10) เมตรได้โดยแทบไม่มีแรงต้าน
อย่างไรก็ตาม หากมีการสัมผัสกับ SCP-XXXX ในสภาพของแข็งเป็นเวลานานเกินกว่า 90 วินาที จะเกิดการหลอมรวมในระดับโมเลกุลระหว่างดาบกับมือของผู้ถือ
จากนั้นวัสดุที่หลอมรวมจะเริ่มดูดเลือดและอวัยวะภายใน จนร่างของผู้ใช้แห้งเหือดภายในสาม (3) นาที

ภาคผนวก XXXX-1:

บันทึกการทดสอบโดย ดร.███
“เมื่อผู้ทดสอบมองของเหลวในระยะ 1 เมตร ภาพที่เห็นจะเปลี่ยนไปตามความกลัวในใจของผู้มอง”

ภาคผนวก XXXX-2:

เหตุการณ์การรั่วไหลของ SCP-XXXX ที่ไซต์-██
รายละเอียดอยู่ระหว่างการสืบสวน

—-

หมายเหตุ:
ผมยังเป็นผู้เขียนใหม่ครับ ฝากทุกท่านช่วยตรวจสอบ และให้คำแนะนำด้วยครับ 🙏


[[user: Nattawut]] "Not everything that is strange is dangerous, but everything that is dangerous is interesting."

ต้นฉบับ: SCP-6380 - The Irish Problem


[[include :scp-th:component:classified-bar-woed
|lv=2
|item=6380
|oc=Neutralized
|lang=TH
]]


chappellheader.png

ริชาร์ด แชปเปลล์ในช่วงปี ค.ศ. 1904


มาตรการกักกันพิเศษ: คดีได้ถูกปิดลงในปี ค.ศ. 1940 พร้อมกับการยุบของ GoI-001 ซากศพและหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้ถูกกำจัดอย่างปลอดภัย

รายละเอียด: สิ่งผิดปกติ คือ รหัสเรียกรวมศพของตัวตนรูปร่างมนุษย์จำนวนสี่สิบสามศพที่ถูกค้นพบในสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงฤดูหนาว ค.ศ. 1925 จำนวนสี่สิบเอ็ดศพจากทั้งหมดเป็นเช่นเดียวกับเผ่าพันธุ์ในก่อนหน้า และอีกสองศพเป็นมนุษย์สูงวัยเพศชายและหญิง

ศพเหล่านี้มีความผิดปกติในการตั้งชื่อที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งจำกัดคำศัพท์และชื่อที่สามารถใช้เรียกพวกมันได้ รวมถึงภายในเอกสารที่ถูกเขียนขึ้นนี้ด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนี้ ก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนของศพใดได้อีกด้วย แม้พวกมันไม่ได้ขาดลักษณะที่สามารถใช้ในการระบุตัวตนได้เลยก็ตาม แต่ลักษณะเหล่านี้กลับไม่สามารถใช้งานในการแยกแยะศพเหล่านี้ออกจากกัน หรือระบุตัวตนของศพใดศพหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจงได้ การตรวจสอบลักษณะและขอบเขตที่แน่ชัดยังคงอยู่ในระหว่างดำเนินการ แต่ทั้งสองประการนี้มีลักษณะที่สอดคล้องกันกับภัยอันตรายทางการตั้งชื่อซึ่งพบในสิ่งผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับชนแห่งพนาไพรอันงามอื่น ๆ

ผู้สัมภาษณ์: เจ้าหน้าที่โซโลมอน เชลบี้

ผู้ถูกสัมภาษณ์: เบอร์เคน 'บลัดฮาวด์' โนวาโควสกี้ อดีตเคยพัวพันกับ GoI-001 ("ปิศาจชิคาโก")

«เริ่มต้นข้อความที่คัดตอนมา»


[[include component:image-block name=https://scptestwiki.wdfiles.com/local--files/wipyurt3/Nowakowski.png|
caption=เบอร์เคน โนวาโควสกี้
]]
โนวาโควสกี้: ผมไม่ปริปากพูดห่าอะไรให้ฟังทั้งนั้นแหละ

เชลบี้: คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเราต้องการอะไร

โนวาโควสกี้: จะอะไรก็ช่างหัวมันเถอะคุณตำรวจ ยังไงก็ไม่

เชลบี้: เอาเถอะน่า คุณก็รู้นี่ว่าถ้าไม่ให้ความร่วมมือมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

โนวาโควสกี้: ไม่โว้ย แม่งไม่เข้าใจห่าอะไรเลยใช่ไหมเนี่ย? ผมทำไม่ได้จริง ๆ แชปเปลล์เขาเป็นคนมีเวทมนตร์ ใครปากสว่างบอกตำรวจเขาก็จะรู้ตัว ได้ยังไงก็ไม่รู้หรอกนะ แล้วเขาก็จะจัดการไอ้พวกนั้นด้วยตัวเอง

เชลบี้: เบิร์ก ไอ้หมอนั่นแม่งโดนขังลืมอยู่ในคุก มันจะแตะต้องตัวใครแม้แต่ปลายเล็บไม่ได้อีกแล้ว แถมเป็นคุกซิงซิงอีกต่างหาก อีกอย่างหนึ่งนะ ผมไม่ใช่ตำรวจ พวกเราขังมันเอาไว้อย่างดีในแบบที่มันจะไม่มีโอกาสได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้งในชีวิตนี้ หมอนั่นอาจตายไปแล้วก็ได้ - แล้วถ้าคุณไม่ยอมตอบคำถามผม คุณก็ได้ตายห่าตามมันไปแน่

โนวาโควสกี้: ก็แล้วอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ?

เชลบี้: ก็เรื่อง… เมื่อสิบสามปีก่อน ช่วง 1925 มีการสังหารโดยพวกกลุ่มอาชญากรอยู่หลายครั้งตลอดช่วงฤดูหนาวในเมือง พวกเราเจอศพที่ทั้งคุณแล้วก็ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่มนุษย์ พวกเราก็ไม่ใช่ตำรวจหรอกนะ แต่พวกเราก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ศพพวกนั้นไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง

โนวาโควสกี้: เออ เหี้ยเอ๊ย แม่งเรื่องโสมมเลยนะนั่น โคตรจะโสมม ถ้ารู้ว่าพวกนั้นคืออะไร คุณคงจะรู้สึกว่าถ้าไม่สืบคงจะดีกว่าโขเลยล่ะ

เชลบี้: เริ่มพูดสักทีน่า

โนวาโควสกี้: เติมควันหน่อยคงได้เนอะ?

เชลบี้: ก็เอาสิ

[นิ่งไปครู่หนึ่ง]

โนวาโควสกี้: แล้วนี่คุณเป็นคนที่ไหนน่ะ?

เชลบี้: เกิดและโตที่ชิคาโก

โนวาโควสกี้: เออ ๆ ไงก็ช่างมันเหอะ อย่างที่รู้ว่า เมืองนี้พวกผู้อพยพเป็นคนสร้างขึ้นมา พวกเราเป็นคนปูพื้นถนนที่พวกคุณเดินกันนั่นแหละ

เชลบี้: ทั้งชีวิตนี้คุณไม่เคยตั้งใจทำงานสุจริตเลยด้วยซ้ำ

โนวาโควสกี้: พวกเราก็ไม่ได้ทำกันแค่สร้างเมืองหรอกนะ พวกเราก็ทำงานสกปรกที่ไม่มีใครอยากเอามือไปแตะต้องด้วย และค่าตอบแทนก็ได้เท่ากระผีกริ้น ต้องไปอยู่ในกระต๊อบสังกะสีข้างแม่น้ำ และจมไปกับมลทินในตัวพวกเรา

เชลบี้: แย่นะนั่น

โนวาโควสกี้: แล้วพวกเราก็สร้างวัฒนธรรมด้วย อย่างผม ผมมีเชื้อโปแลนด์มาจากพ่อ พวกเราหอบวัฒนธรรมของเรามากับเรือและรถม้า แล้วก็เก็บรักษามันเอาไว้ภายในตึกรามบ้านช่อง

เชลบี้: ก็คงไม่มีตัวเลือกเหลือมากนักหรอก ถ้ามองตามว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นที่ยุโรปน่ะนะ

โนวาโควสกี้: นั่นแหละประเด็น ผมมีเชื้อโปแลนด์จากพ่อก็จริง แต่ผมก็ได้เชื้อไอริชจากแม่มาด้วย นั่นแหละเหตุผลที่แชปเปลล์ให้ผมทำงานด้วย แล้วก็ - ผมก็ไม่ใช่คนใจเสาะอะไรนะ แน่แชปเปลล์แม่งน่ากลัวฉิบหาย ไอ้ห่าไร้ปรานี ผมแทบไม่รู้จักเขาเลย เป็นคนประเภทที่ทุกคนจะยืนขึ้นรับทันทีที่เขาก้าวเข้าห้องมา เขาจ้องเข้ามาที่ตาผม เข่าผมก็สั่น ภายในท้องไส้มันกำลังตะโกนบอกผมว่าให้รีบหนีไปจากไอ้ปีศาจคราบมนุษย์นี่ แล้วเขาก็บอกผมว่าเขากำลังมองหาคนที่มีเชื้อไอริชอยู่

เชลบี้: สายเลือดไอริชมันทำไมครับ?

[นิ่งไปครู่หนึ่ง]

โนวาโควสกี้: ชาวโปแลนด์นำพาวัฒนธรรมของพวกเรามาที่อเมริกาเพื่อช่วยให้มันปลอดภัยจากไฟศึก แต่พวกไอริชน่ะเรอะ? พวกมันนำมาซึ่งสิ่งที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง


«สิ้นสุดข้อความที่คัดตอนมา»

ศพเหล่านี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์สองขาและหกรยางค์ (แขนคู่หลักอยู่เหนือแขนคู่รองที่มีขนาดเล็กกว่า และมีขาแบบดิจิไทเกรดอยู่สองข้าง) ทั้งหมดสวมใส่เครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับยุคสมัย ซึ่งได้รับการดัดแปลงเพื่อให้สามารถเข้ากับโครงสร้างร่างกายที่เป็นเอกลักษณะของพวกมัน ผิวหนังมีขนปกคลุมและมีสัมผัสนุ่มนวล ใบหน้ามีดวงตาหกดวงที่เรียงกันเป็นแนวโค้งในระยะห่างเท่า ๆ กัน โครงสร้างใบหน้าที่ยืดยาวและกระดูกงอกขนาดใหญ่บริเวณหลังถือเป็นความแตกต่างภายนอกร่างกายที่โดดเด่นจากมนุษย์ปกติมากที่สุด (โครงสร้างโครงกระดูกและอวัยวะภายในร่างกายมีความแตกต่างไปอย่างมีนัยสำคัญ เช่น อวัยวะที่มีลักษณะเฉพาะจำนวนมาก)

ผู้สัมภาษณ์: เจ้าหน้าที่โซโลมอน เชลบี้

ผู้ถูกสัมภาษณ์: คิลเลียน โอมาลลีย์ สมาชิกกลุ่มชิคาโกส์นอร์ธไซด์แก๊ง1

«เริ่มต้นข้อความที่คัดตอนมา»


[[include component:image-block name=https://scptestwiki.wdfiles.com/local--files/wipyurt3/omalley.png|
caption= คิลเลียน โอมาลลีย์
]]
โอมาลลีย์: อะไรล่ะนี่ แค่เพราะผมเป็นคนไอริชก็เลยคิดว่าผมขี้เหล้าเนี่ยนะ? อย่างนี้ก็ได้เหรอ?

เชลบี้: ใจเย็นเถอะ ผมไม่ใช่ตำรวจหรอก

โอมาลลีย์: เออ ตำรวจก็พูดแบบนี้กันทุกรายไม่ใช่เรอะ ก่อนที่สักพักจะพังประตูเข้ามาบุกบาร์เถื่อนน่ะ?

เชลบี้: ผมไม่สน เข้าใจไหม? คุณจะต้มเหล้ากลั่นในอ่างอาบน้ำตัวเองหรือทำทุจริตยังไงผมก็ไม่สนห่ามันหรอก ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเรื่องนั้น

โอมาลลีย์: แล้วต้องการอะไรล่ะ?

เชลบี้: บอกผมมาทีครับว่าคุณมาที่อเมริกาทำไม คุณโอมาลลีย์.

โอมาลลีย์: ฮะ?

เชลบี้: ได้ยินแล้วนี่ คุณร่วมรบในสงครามใช่ไหมล่ะ?

โอมาลลีย์: ก็ใช่ กองพันทหารราบไอริช จากนั้นผมก็โดนยิง เขาก็เลยไล่ตะเพิดผมกลับบ้านไป

เชลบี้: ซึ่งคุณก็ทำอย่างนั้น และจากนั้นคุณก็เจอปัญหาเข้าให้

โอมาลลีย์: ปัญหาห่า ๆ ช่างมัน ผมก็ยืนหยัดร่วมกับเพื่อนร่วมชาติตัวเองนั่นแหละ พวกอังกฤษแม่งกดขี่เรามาตั้งแต่จำความได้ แล้วจากนั้นพวกมันก็อยาก-

เชลบี้: เข้าใจน่า คุณเป็นตัวเองเลยล่ะในช่วงอีสเตอร์ แล้วหยิบอาวุธมาร่วมรบกับ IRA ใช่ไหมล่ะ เป็นพวกปลุกปั่นโดยเนื้อแท้เลยสิ

โอมาลลีย์: ไปรู้มาได้ยังไงวะ?

เชลบี้: คุณได้รับความช่วยเหลือด้วยใช่ไหมล่ะ? ระหว่างช่วงปฏิวัตินั่นน่ะ

โอมาลลีย์: หมายถึงพวกเยอรมันเรอะ?

เชลบี้: เปล่า เหล่าคนที่โบราณและเป็นธรรมชาติกว่านั้น.

[นิ่งไปครู่หนึ่ง]

เชลบี้: ผมรู้เรื่องศพแล้ว โอมาลลีย์ แล้วก็เกาะไฮ-บราซิลที่ลอยผ่านผาโมเฮอร์ทุกเจ็ดปีเป็นเวลาตลอดสามศตวรรษ มรกตพันธุ์มีพันธะกับไอร์แลนด์อย่างแม่อาจแยกออกได้ - แล้วพวกเขามาที่ชิคาโกได้ยังไงกันน่ะ?

โอมาลลีย์: ผม…

เชลบี้: พูดตามตรงมาหน่อยนะ

โอมาลลีย์: พวกเราทำข้อตกลงจากพวกเขา เป็นกลุ่มหนึ่ง แต่ไม่ใช่กลุ่มหลักบนเกาะ พวกกลุ่มปลุกปั่น ถึงจะเป็นช่วงไหน ๆ พวกนั้นก็ไม่เคยจะชอบมนุษย์เลย แต่สงครามก็โหดร้ายกับพวกเขาเหมือนกัน ตายกันเยอะแยะ พวกนั้นอยากออกจากเกาะ แล้วก็ให้เวทมนตร์ที่ต้องใช้ให้กับเรา ถ้าไม่มีมนตร์นั่นเราคงชนะสงครามมาไม่ได้แน่ มันก็ไม่ได้เปลี่ยนทิศทางสงครามไปหรอก - ก็แค่ทำให้ผมกับคนดี ๆ อีกหลายคนรอดชีวิตจากตอนที่จะตายจมกองตมได้ มันช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้

เชลบี้: แล้วหลังจากเสนอสนธิสัญญา คุณก็เลือกข้างผิด

โอมาลลีย์: นั่นแหละ พวกเขากะจะยิงผม แต่ผมพอมีเพื่อนอยู่ที่ท่าเรือ พวกเราก็เลยลักลอบขึ้นเรือไปท่าเรือนิวยอร์ก และที่ท่าตอนนั้นนั่นแหละที่ไอ้พวกเวรนั่นโผล่มาไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วบอกผมว่าถึงเวลาชำระแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกัน - มีคนนับได้ร้อยเศษคน และพวกปราณีเปี่ยมเกียรติแห่งขุนเขาซ่อนอยู่ใต้ดาดฟ้าเรืออีกสองตัว

เชลบี้: งั้นเอง นิวยอร์กสินะ ว่าแต่พวกคุณไปถึงชิคาโกได้ยังไง ในเมื่อมีพวกบุคคลแห่งเชิงเนินที่แตะต้องเหล็กไม่ได้อยู่ตั้ง 40 ตัว?

โอมาลลีย์: ผมมีลูกพี่ลูกน้องที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่นตั้งแต่จบมหาสงคราม พวกขี้ขลาด แต่พวกนั้นมันรู้ว่าควรรีบหนีไปตอนไหน ผมอาศัยเส้นสายหน่อย ยัดพวกนั้นลงกล่องเหมือนเป็นปลา แล้วก็ให้เรือขนส่งข้ามแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์และพวกทะเลสาบไปยังชิคาโก

เชลบี้: ตอนนั้นปีไหนครับ?

โอมาลลีย์: 1924 คงราว ๆ นั้น

เชลบี้: อ่าฮะ แล้วหลังจากที่พวกเขาไปถึงชิคาโกล่ะ?

โอมาลลีย์: หลังจากนั้นก็ไม่รู้แล้วโว้ย ผมแค่พาพวกนั้นมาที่นี่ ไม่ได้เข้าร่วมกับพวกนอร์ธไซด์จนกระทั่งสามปีให้หลัง แล้วก็ไอ้เรื่องนั่นมันก็จบไปนานมากแล้ว ดีจริง ๆ เลยนะเนี่ย

เชลบี้: ทำไมอย่างนั้นล่ะ?

โอมาลลีย์: มันมีเหตุผลที่พวกใต้ดินไม่อยากพัวพันกับเวทมนตร์ห่าเหวอะไรเหมือนอย่างที่พวกปิศาจทำกัน ก็แบบ ดูที่เกิดกับเจ้าแชปเปลล์สิ เนอะ? เคยเจอแชปเปลล์ไหมล่ะ?

เชลบี้: ก็ไม่เคยหรอกครับ แต่ผมพอคุ้นกับเขาอยู่

โอมาลลีย์: แต่ผมเคยนะ ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ เขาประชุมกับดักแกน ถกกันเรื่องยักยอกเหล้าเถื่อนอะไรเทือกนั้น เขาเดินเข้ามา และ- ในแวดวงนี้น่ะนะ พวกตัวเป้ง ๆ ก็มือเปื้อนเลือดกันทั้งนั้น หมอนี่เดินเข้ามา ยืนซะมิดประตู แล้วเขาก็ไม่มีปืนติดมือมาเลยด้วย เขาไม่ได้ยิ้มอยู่ ไม่มีอะไรเลยทั้งนั้น แต่ผมพอบอกได้ว่าไอ้เจ้านี่ทำอะไรทราม ๆ มามากแล้ว ไอ้หมอนี่ไม่ได้มือเปื้อนเลือด มันชุ่มเลือดที่เทียบเท่าคนทั้งเมืองมากกว่าหนึ่งเมือง และจะทำแบบนั้นอีกรอบในไม่ช้า แค่มองดูก็รู้แล้วว่าเป็นอย่างนั้น

[นิ่งไปครู่หนึ่ง]

โอมาลลีย์: เขาชนะสงครามย่อม ๆ ของเรามาได้ แล้วลองดูสิว่าเขาเป็นยังไง ทุกกเรื่องที่พันเกี่ยวเข้ากับป่าใหญ่มันต้องสาปทั้งหมด


«สิ้นสุดข้อความที่คัดตอนมา»

ในช่วงฤดูหนาวก่อนการพบศพทั่วเมืองชิคาโก ได้เกิดสงครามขนาดเล็กระหว่างกลุ่มปิศาจชิคาโกและนอร์ธไซด์แก๊งเพื่อแย่งชิงอำนาจเหนือท่าเรือชิคาโก เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ของนอร์ธไซด์แก๊งเป็นชาวไอริช-อเมริกันที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไอร์แลนด์ จึงมีการสันนิษฐานว่าพนาปุคคลได้ร่วมมือกับพวกเขา โดยเสนอบริการทางด้านเวทมนตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของตนแลกเปลี่ยนกับการทำงานและการป้องกันพวกมันจากหน่วยงานต่าง ๆ

ผู้สัมภาษณ์: เจ้าหน้าที่โซโลมอน เชลบี้

ผู้ถูกสัมภาษณ์: SCP-032-ARC: ชาลส์ เดอร์ริงเกอร์ อดีตผู้หมวดของ GoI-001 ("ปิศาจชิคาโก")

«เริ่มต้นข้อความที่คัดตอนมา»


[[include component:image-block name=https://scptestwiki.wdfiles.com/local--files/wipyurt3/derringer.png|
caption=SCP-032-ARC
]]
เดอร์ริงเกอร์: สงครามกับนอร์ธไซด์แก๊งเรอะ? มันก็ตั้งสิบปีก่อนแล้วนา ทำไมถึงมาสนใจกันล่ะ?

เชลบี้: ไม่มีเหตุผลที่คุณต้องรู้หรอก แล้วก็นะ ผมต่างหากที่ต้องถามคำถามน่ะ ไอ้สันดาน

เดอร์ริงเกอร์: เออ เออ แต่จำไว้หน่อยนะว่าผมเป็นคนที่สามารถหักกระดูกคุณจากภายในร่างกายได้น่ะ

เชลบี้: เหรอ แล้วผมก็คือคนที่บอกผู้คุมได้ว่าคุณควรเห็นเดือนเห็นตะวันได้สักกี่ชั่วโมง แล้วตอนนี้เลขชั่วโมงเป็นศูนย์

เดอร์ริงเกอร์: [หัวเราะ] ชอบมึงว่ะ! ก็นะ สงครามน่ะ ถึงจะบอกว่าสงครามก็เถอะ แต่มันเหมือนเป็นการสังหารหมู่มากกว่า จำไว้ด้วยนะว่าพวกนั้นมันเป็นคนยุยงน่ะ กลุ่มปิศาจไม่เคยทำร้ายใครก่อน

เชลบี้: อ่าฮะ ศักดิ์ศรีในหมู่โจรอะไรงั้น แล้วพวกเขาทำอะไรล่ะ?

เดอร์ริงเกอร์: ไอริชเรอะ? อ้อ นั่นก็แค่บาดหมางกันหน่อยน่ะ พวกนั้นมันดักรถเรา แล้วก็ชิงเหล้าเถื่อนไปจากท่า พวกเราจะไปแจ้งตำรวจก็ไม่ได้ - เพราะตอนนั้นพวกกลุ่มอาชญากรคุมตำรวจไว้ - พวกเราก็เลยส่งคนไปสองสามคนพร้อมปืน แล้วก็จัดการปัญหาไปได้น่ะนะ

เชลบี้: คุณคงนึกอยู่แล้วล่ะสิว่ามันต้องจบลงที่การฆ่าล้างแค้นน่ะ

เดอร์ริงเกอร์: ก็นั่นแหละ มันก็เป็นอย่างนั้นนี่ พวกมันกำลังทดสอบเรา - ทดสอบแชปเปลล์ - เพื่อที่จะหาจุดอ่อน ทั้งชีวิตโสมมของแชปเปลล์ไม่เคยมีจุดอ่อนเลย เขาจัดการเก็บคนของพวกนั้นไปสองสามคนเพื่อจะส่งสารให้ทราบ

เชลบี้: สารสินะ

เดอร์ริงเกอร์: "อย่ามาแหย็มกับพวกปิศาจ" สารจากปิศาจมันต่างจากอะไรที่คุณเคยเห็นมาก่อน - ผมเป็นคนจัดการเรื่องนั้นเอง ก็เอาเป็นว่างานศพไอ้พวกนั้นไม่สวยเท่าไรหรอก - ไม่มีโลงให้ เพราะมันเละไม่มีชิ้นดีซะจนยัดลงขวดโหลได้เลย

เชลบี้: พระเยซูช่วยเถอะ แล้วมันมีปัญหาอะไรล่ะ?

เดอร์ริงเกอร์: พวกเราไม่รู้มาก่อนว่าพวกมันร่วมงานกับไอ้พวกพงพุ่ม ก็นะ เราก็เคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยเห็นตัวเป็น ๆ มาก่อน แล้วก่อนเริ่มยิงเราก็ไม่ได้ดูให้ดี เราก็เจอศพคนห้าคนกับอีกหนึ่งเป็น… เจ้าพวกนั้น พวกเราก็ไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี

เชลบี้: แล้วหลังจากนั้นพวกนอร์ธไซด์ได้ล่าถอยไปไหมครับ?

เดอร์ริงเกอร์: อ๋อ ใช่สิ อย่างที่ผมบอกไป สำหรับพวกเขาแล้วมันก็เป็นแค่ธุรกิจ ที่นี่เขาเล่นกันอย่างนี้ แต่สำหรับพวกสิ่งมีชีวิตจากดินแดนห่าแฟนตาซีโคตรอัศจรรย์ที่ศักดิ์ศรีเหนือทุกสิ่งน่ะเรอะ? มันเป็นจุดเริ่มต้นของความแค้นและการนองเลือด พวกนั้นมันไม่เข้าใจว่าธุรกิจนี้เขาเล่นกันยังไง แล้วเราก็โคตรจะไม่เข้าใจเลยว่าพวกแม่งทำสงครามกันยังไง ไม่นานนักก็มีศพแรกมาถึงเรา

เชลบี้: พวกคุณก็น่าจะคุ้นกับการฆ่าล้างแค้นอยู่แล้วนี่ มันต่างจากครั้งอื่นยังไง?

เดอร์ริงเกอร์: พวกเราไม่รู้ว่าศพนั้นคือใคร

เชลบี้: คนนอกเหรอ?

เดอร์ริงเกอร์: ไม่ คนของพวกเรานี่แหละ แค่ว่าไม่มีใครในกลุ่มบอกได้เลยว่าเป็นใคร

[นิ่งไปครู่หนึ่ง]

เดอร์ริงเกอร์: พวกนั้นแม่งชิงชื่อเขาไป ในแวดวงนี้ที่คนเรามีติดตัวก็คือชีวิต ปืน และชื่อของตัวเอง มันชิงชื่อเขาไป แล้วก็พรากชีวิตด้วยปืนของเขาเอง หลังจากนั้นจะเหลืออะไรอีกล่ะ?

เชลบี้: ไม่เหลือ

เดอร์ริงเกอร์: นั่นแหละ ไม่มีอะไรเหลือเลย แล้วก็มีแบบเดียวกันอีกสองศพก่อนที่แชปเปลล์จะจัดประชุมกับหมวดคนอื่น ๆ

เชลบี้: มีใครบ้างครับ?

เดอร์ริงเกอร์: ก็ผม วีลส์ ซอว์ทีธ ฟิตซ์ คนรุ่นเก๋า ๆ ที่เขามี พวกเราทำงานกับเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วพวกเราก็กลัวเขาฉิบหายเลย

เชลบี้: นึกว่าคุณเคารพเขาซะอีก

เดอร์ริงเกอร์: ก็ใช่ ผมเคารพเขาก็จริง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมไม่กลัวเขาสักหน่อย ถ้าใครนั่งข้าง ๆ คนที่สามารถทำลายตัวเองให้สิ้นซากจากข้างในจนข้างนอกได้โดยไม่เยี่ยวเล็ดแม้แต่หยดเดียว ไอ้คนนั้นก็คงเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดหรือไม่ก็บ้าบิ่นที่สุดในโลกแล้วล่ะ

เชลบี้: เรื่องประชุมล่ะ ชาลส์

เดอร์ริงเกอร์: อ๋อ ก็นะ มันก็ชัดมากแล้วว่าเราต้องทำอะไร พวกเราต้องจัดการกับปัญหาพวกแกลิกให้มันสิ้นไปให้ได้


«สิ้นสุดข้อความที่คัดตอนมา»

ศพเหล่านี้ถูกค้นพบในหลายพื้นที่ทั่วเมืองชิคาโก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ตอนเหนือของเมืองบริเวณใกล้เคียงชายฝั่งน้ำ สามารถเข้าดูรายการสถานที่ที่มีการค้นพบทั้งหมดได้ที่นี่ แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นพื้นที่ที่ลับจากสายตาของผู้คนมากเพียงพอที่จะไม่ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกหรือดึงดูดความสนใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มักจะถูกพบโดยบุคคลยากไร้และกลุ่มอาชญากรรมในท้องที่อยู่เสมอ สามศพพบว่าถูกเสียบเข้ากับเสาธง และหนึ่งศพถูกตรึงกางเขน ศพจำนวนมากถูกพบภายในตู้แช่เนื้อและกล่องน้ำแข็งภายในร้านขายเนื้อที่เกี่ยวข้องกับนอร์ธไซด์แก๊งอยู่หลายร้าน จากการชันสูตร พบว่าศพส่วนมากเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บภายใน อันเป็นผลมาจากการที่ถูกจัดวางในลักษณะดังนั้น และถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ให้เสียชีวิตอย่างเปิดเผยเพื่อให้ถูกพบเห็น วิธีการประหารชีวิตในลักษณะนี้สอดคล้องกับหลายกรณีในอดีตที่กลุ่มปิศาจชิคาโกใช้การจัดท่าทางของศพ เพื่อเป็นการส่งสารถึงกลุ่มศัตรู

ผู้สัมภาษณ์: เจ้าหน้าที่โซโลมอน เชลบี้

ผู้ถูกสัมภาษณ์: คุณแม่อเลสเซีย ริชชี แม่มดอาราเดียนที่อาศัยอยู่ภายในเมืองชิคาโก

«เริ่มต้นข้อความที่คัดตอนมา»


[[include component:image-block name=https://scptestwiki.wdfiles.com/local--files/wipyurt3/witch.png|
caption=อเลสเซีย ริชชี
]]
ริชชี: ที่นี่ถือว่าวางตัวเป็นกลาง ฉันไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายไหน ๆ ในการปะทะของพวกอาชญากรข้างถนนทั้งนั้นค่ะ

เชลบี้: แต่คุณก็รับงานจากพวกเขานะ

ริชชี: [นิ่งไปครู่หนึ่ง] ก็ใช่ ร่ายคำสาป มนตร์พิธี เสกคาถา

เชลบี้: เขาบอกกันว่าคุณขโมยดวงวิญญาณได้ แล้วก็จะขายให้กับปีศาจ

ริชชี: อย่าไปฟังไปเชื่อข่าวลือสิคะ คุณพัศดี

เชลบี้: ฮะ-

ริชชี: ฉันเป็นแม่มดนะคะ คุณคิดว่ายังไงเอ่ย?

เชลบี้: … จริงของคุณนะ ผมก็นึกว่าแม่มดจะทำงานกันในชุมนุมแม่มดของตัวเองกันเสียอีก

ริชชี: อันนั้นเป็นธรรมเนียมของมาตุภูมิค่ะ แต่ก็อย่างที่รู้กันดี ที่อเมริกามันไม่เหมือนกัน นางคณิกาเดินเตร็ดเตร่บนถนน เด็ก ๆ ทำงานในโรงงาน และแม่มดก็ไม่มีชุมนุม

เชลบี้: ครับ ก็คือว่า ผมอยากถามเรื่องมนตร์พิธีที่คุณทำเมื่อหลายปีก่อนน่ะครับ ที่ทำบริการให้กับคุณแชปเปลล์ของกลุ่มปิศาจชิคาโก

[ริชชีทำการสวดอย่างรวดเร็ว]

ริชชี: เจ้านั่นมันเป็นปีศาจที่ฉันเคยไปยุ่งเกี่ยวด้วย

เชลบี้: เขาทำอะไรเหรอครับ?

ริชชี: ฉันก็ไม่รู้ ฉันอ่านบาปที่แต่ละคนทำไม่ได้ แต่ฉันมองเห็นดวงวิญญาณ และวิญญาณของเขามันบิดเบี้ยว ขึ้นเป็นปมสีดำมิด - เหมือนเป็นรากของต้นไม้ที่กำลังเปื่อยเน่าลง ทั้งหมดอยู่ในภาชนะสูงยาว แต่งตัวภูมิฐาน และเกลี้ยงเกลา ความขัดแย้งกันนี้น่าสะพรึงเมื่อได้มองเห็นว่าที่ในดวงตามืดดำคู่นั้นไม่มีอะไรอยู่เลย

เชลบี้: เขาจ้างคุณในฤดูหนาวนั้นทำไมกันแน่?

ริชชี: คลายเวทมนตร์ของพวกแฟรี่

เชลบี้: เดี๋ยวนะ นี่คุณทำแบบนั้นได้-

ริชชี: ใช่ ฉันพูดชื่อพวกนั้นได้ ถ้าฉันคลายให้ตัวเองไม่ได้ ฉันก็ทำให้คนอื่นไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็นะ พระแม่อาราเดียช่วยเถอะ กว่าจะทำได้มันก็ใช่เวลาอยู่เหมือนกัน

เชลบี้: ผมไม่ค้อยคุ้นกับการทำงานของเวทมนตร์เท่าไรนัก ถ้าคุณพอจะบอกรายละเอียดได้บ้าง…

ริชชี: แน่นอนสิคะ ให้รวบรัดหน่อยก็คือ ฉันใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการค้นหาคาถาต้านเวทมนตร์ทางด้านชื่อที่มันฝังอยู่ในสายเลือดของพวกแฟรี่ทุกตน สิ่งที่จะทำให้พวกนั้นถูกระบุตัวตนและตกเป็นเป้าหมายได้

เชลบี้: ซึ่งดูเหมือนว่าคุณจะหาเจอสินะ

ริชชี: ค่ะ เจอในตำราคาถาแถบตอสกานาโบราณจากช่วงศตวรรษที่ 15 ถูกเขียนโดยนักบวชที่เดินทางไปที่ไอร์แลนด์ แล้วจากนั้นก็ไปยังเกาะลอยฟ้าที่ปรากฏขึ้นมาแค่ทุกสิบปี

เชลบี้: เกาะไฮ-บราซิลสินะ

ริชชี: นั่นแหละค่ะ เขาค้นพบความลับจากโบราณกาล - มีอยู่มาก่อนมนุษย์ พวกแฟรี่ กระทั่งเหล่าบุตร - ความลับในการป้องกันตัวจากพวกแฟรี่ และจากนั้นก็กลับจากการเดินทางไปพร้อมกับที่ยังมีชื่อของตนติดตัวเอาไว้

เชลบี้: แล้วถ้างั้นคุณใช้งานมันยังไงครับ?

ริชชี: ฉันใช้เวลาอยู่หลายสัปดาห์ในการสร้างวัตถุสำหรับมนตร์พิธีที่ทรงอำนาจมากเพียงพอที่จะร่ายทั่วพื้นที่หลักของตัวเมือง แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในนาทีสุดท้าย

เชลบี้: ยังไงกันครับ?

ริชชี: หนึ่งในคนยศคาโปเรไจม์ของซินญอร์แชปเปลล์พังประตูเข้ามา แล้วก็กระซิบข้างหูเขา หน้าเขานิ่งเฉยไปทั้งใบ แล้วเขาก็ตรงเข้ามาหาฉัน และบอกว่าเปลี่ยนแผนแล้ว บังเอิญว่าพวกนั้นทั้งหมดกระจุกรวมกันอยู่ในตึกหนึ่ง ที่ฉันต้องทำก็มีแค่ร่ายคาถาทั่วตึกนั้นเพื่อปลดความสามารถ พลังอำนาจ - และตัวตนของพวกมัน


«สิ้นสุดข้อความที่คัดตอนมา»

ศพมนุษย์ทั้งสองศพแสดงผลความผิดปกติทางการตั้งชื่อ เช่นเดียวกับศพอื่น ๆ เพียงแต่ว่าเป็นศพมนุษย์ ทั้งสองศพเป็นมนุษย์ผิวขาวในช่วงวัยราวปลาย 70 ปี ศพหนึ่งเป็นเพศชายและอีกศพหนึ่งเป็นเพศหญิง ที่แตกต่างไปจากศพอื่น ๆ คือการที่ทั้งสองไม่ได้ถูกจัดท่าทางเพื่อรอการพบเห็นหลังจากการประหารชีวิตเหมือนกับศพอื่น ๆ หากแต่ว่าศพของพวกเขาถูกส่งไปยังสถานเก็บศพทันที หลังจากที่มีการรายงานถึงเหตุยิงปืนกลที่อาคารชุดแห่งหนึ่งในบริเวณตอนเหนือของเมืองชิคาโก ซึ่งนำไปสู่การเข้าตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพบว่าทั้งคู่ถูกยิงเสียชีวิตภายในอาคารห้องชุดร้างที่เต็มไปด้วยรูกระสุน

ผู้สัมภาษณ์: เจ้าหน้าที่โซโลมอน เชลบี้

ผู้ถูกสัมภาษณ์: SCP-046-ARC: ริชาร์ด เดวิส แชปเปลล์ ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้นำปิศาจชิคาโก

«เริ่มต้นข้อความที่คัดตอนมา»


เชลบี้: ผมได้ฟังเรื่องมาจากปากของคนอื่น ๆ แล้วครับ คุณแชปเปลล์ แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมยังคาใจไม่หายสักทีเลย

แชปเปลล์: เล่ามา

เชลบี้: ทำไมจู่ ๆ เหล่าชนต้องมนตร์แห่งผืนป่าก็ไปรวมตัวกันในที่ที่เดียว เป็นสภาพที่พร้อมจะถูกจัดการกันหมดเลยล่ะ?

แชปเปลล์: ชาร์ลีบอกคุณแล้วนี่ ใช่ไหมล่ะ?

เชลบี้: นี่คุณ-

แชปเปลล์: ผมอาจลงมือทำอะไรไม่ได้ก็จริงนะ คุณเจ้าหน้าที่เชลบี้ แต่ผมก็รู้ตัวเวลาที่มีคนพูดถึงได้อยู่ดี อย่างไรก็เถอะ สาเหตุมันก็เป็นเพราะว่าพวกนั้นคิดว่าจะสร้างความได้เปรียบทางยุทธวิธีให้กับตัวเอง หรืออย่างน้อยพวกดักดานนั่นก็คิดไปเองนั่นแหละ

เชลบี้: แล้วการจับคู่สมรสสูงอายุที่ไหนไม่รู้มาเป็นตัวประกันจะสร้างความได้เปรียบได้ยังไงกันครับ?

แชปเปลล์: ก็ถ้ามันไม่ใช่ใครที่ไหนไม่รู้ยังไงล่ะ

เชลบี้: ถ้างั้นใครล่ะครับ? คุณรู้จักด้วยเหรอ?

แชปเปลล์: เหล่าคนจากเกาะมรกต คุณรู้ดีเนอะ พวกปลุกปั่นนั่นน่ะ พวกนั้นมันห่วงเกียรติศักดิ์ศรี ครอบครัว และวงศ์ตระกูลกันจะตายชัก พวกมันก็เลยใช้งานจุดนี้นี่แหละ พวกมันคิดว่าถ้าหากว่าเข้าถึงตัวผมไม่ได้ อย่างนั้นพวกมันก็จะเอาลำดับสองไปแทน

เชลบี้: หมายความว่ายังไงน่ะครับ คุณแชปเปลล์?

แชปเปลล์: ผมหมายความว่า ถึงจะถูกชิงความเป็นมนุษย์ไปแล้ว เหมือนกับพวกแฟรี่ แต่ผมก็ยังคงบอกชื่อของมนุษย์คนนั้น ๆ ได้อยู่

เชล█: ถ้างั้นใครล่ะครับ?

แชปเปลล์: อาร์เธอร์และเอลิซาเบธ แชปเปลล์

[เสียงเงียบลง]

เ█ล█: นี่คุณ-

แชปเปลล์: ใช่แล้ว คุณเชลบี้ พวกมันทำพลาดมหันต์แล้ว พวกมันพยายามจะใช้งานคุณพ่อคุณแม่ของผม แต่พวกมันไม่รู้ไปเสียแล้วว่าตัวเองกำลังเล่นอยู่กับใคร ริชาร์ด แชปเปลล์ไม่มีจุดอ่อนห่าอะไรทั้งนั้น

██ล█: ไอ้ปีศาจ

แชปเปลล์: ไม่ใช่หรอก เซราส มักคาเลย์ บาร์รอม ผมเลวร้ายกว่านั้นเยอะ ผมเป็นมนุษย์ ไอ้ห่าแฟรี่ระยำตีน

[เสียงกรีดร้อง]

████: มึง…ได้ไง…?

แชปเปลล์: นั่นเหรอแผนมึงน่ะ? ขโมยชื่อเจ้าหน้าที่สักคน เอารูปลักษณ์มา สืบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคณาญาติน่าสมเพชของมึง? จากนั้นก็จะมาแก้แค้นกูที่ไม่มีอาวุธในคุก?

████: ผม…

แชปเปลล์: ไอ้เดรัจฉานปัญญานิ่ม กูจะเอาชื่อมึงมาซะ เซราส มักคาเลย์ บาร์รอม และกูขอสาปส่งให้มึงหมกไหม้ในนรก

[เสียงกรีดร้องหยุดลง]

[เสียงเงียบลง]

แชปเปลล์: อย่ามาแหย็มกับริชาร์ด แชปเปลล์


«สิ้นสุดบันทึก»


ส่งโดย: ทิม วิลสัน
ผู้รับ: ดร.เจเรไมอาห์ กรีน
วันที่: 11/12/2021

ดร.กรีน

นี่มันไม่ใช่สัตว์ มันเรียกว่าเรือ พวกเราไม่ใช้โกดังเก็บของให้ใช้สอยโว้ย

ทิม วิลสัน
ววซ


SCP-6226 หน้าสอง โดย ImetImet, 26 Oct 2025 12:46
page 1123...next »
Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License