พวกเขาเป็นอิสระ แต่ผมยังคงอยู่ที่นี่
สองมือของผมจับปืนแน่น กราดยิงทุกสิ่งอย่างบ้าคลั่ง กรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดที่ไม่มีใครรักษาได้ ความตายพรากพวกเขาไปและหลงเหลือเพียงผมกับร่างไร้ชีวิตอันเยือกเย็นเคียงข้างไว้ กลิ่นคาวเลือดจากร่างของนักวิจัย เจ้าหน้าที่และพวกศาสนจักรคละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณย้อมพื้นและกำแพงเป็นสีแดงสดและเมื่อผมหยุดทุกสิ่งก็ตกอยู่ในความเงียบงันอันอ้างว้างและเดียวดาย ผมมองร่างของพวกพ้องและศัตรูที่สมควรตายก่อนที่เสียงของหยดน้ำตาจะดังกระทบพื้น สองมือที่เปื้อนเลือดกุมใบหน้าเอาไว้ ภาพเบื้องหน้าช่างพล่าเลือนเหมือนภาพในความฝัน แต่สมองและหัวใจของผมรู้ดีว่าคือความจริงอันโหดร้าย…พวกเขาไม่มีวันกลับมา
"มีใครตายบ้างจากเหตุการณ์นี้?"
"ต้องถามว่าใครรอดบ้างต่างหากล่ะ เพราะถ้าให้ไปนับศพพวกบุคลากรล่ะก็ คงใช้เวลาเป็นวันๆเลย"
"คงต้องหาคนเพิ่มแล้วล่ะ มีเจ้าหน้าที่กับนักวิจัยตายไปเยอะเลย แย่จังนะ"
ผมได้ยินบทสนทนานั้นของพวกระดับสูง คำพูดที่ดูไม่ใส่ใจอะไรมากมายกับพวกที่ตายไป พวกที่สละชีวิตเพื่อปกป้องสถาบันแห่งนี้
ผมมองภาพสะท้อนในกระจกห้องน้ำ ภาพของชายคนหนึ่งสะท้อนอยู่ในนั้น แต่ดวงตาสีดำขลับของเขากลับดูมืดมนไร้แววใดๆช่างดูอ้างว้างแสนว่างเปล่า ไม่มีความรู้สึกใดๆสะท้อนในนั้น ผมยิ้มเงาก็ยิ้มตามแต่ดูขมขืนเหลือเกิน ผมรู้ดีว่าภาพสะท้อนนี้ไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไปนับจากวันนั้น ความสุขที่แตกสลายและไม่หวนกลับมาอีกผมนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นความสุขและความยินดีห้อมล้อมผมอย่างอบอุ่นแต่ตอนนี้….ไม่อีกแล้ว ผมหัวเราะอย่างเหนื่อยล้ากับตัวเองย้อนนึกไปถึงพวกพ้องที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันมาบทสนทนายังดังก้องในความทรงจำของผมอยู่เลย
"บางครั้งเราก็ต้องเดินต่อไป ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตามเพื่อทำหน้าที่ของเรา ปกป้องมวลมนุษย์" คำพูดปลอบตัวเองของเจ้าบ้านั้น เจ้าบ้าที่ตายไปแล้ว…จะเดินไปเพื่ออะไรในเมื่อไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกแล้วหนิแถมดูเหมือนชีวิตของเราจะไม่มีค่าอะไรด้วย
เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อภารกิจที่ผมต้องแบกรับไว้เริ่มขึ้นสองเท้าจึงก้าวเดินออกไปพร้อมกับปืนในมือ
ภาพของเลือดสีแดงสด ภาพของความตายอันเป็นนิรันดร์ เสียงของปืนเสียงของผู้คนที่ร่ำร้องด้วยความเจ็บปวด ผมยิงต่อไปแล้วก้าวต่อไปความสูญเสียเกิดขึ้นเรื่อยๆไม่รู้จบ เส้นทางของผมรายล้อมด้วยซากศพของคนที่รู้จัก เมื่อก้าวต่อเหมือนจิตใจของผมได้ถูกเฉื่อนไปทีละนิดด้วยน้ำมือของปีศาจร้าย และตอนนี้ภาพสะท้อนในกระจกที่มองเห็นไม่ใช่ภาพของชายผู้มีรอยยิ้มแล้วแววตาเต็มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นอันร้อนแรง ไม่ใช่ชายผู้มีแววตาไร้แวว แต่หลงเหลือไว้ตรงนี้เหลือไว้เพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่สิ้นหวังในทุกสิ่ง ผมคืออะไร? ผมมีชีวิตต่อไปเพื่อสิ่งใดกันในเมื่อสิ่งที่ผมรักได้หายไปแล้ว
พวกเขาเป็นอิสระ แต่ผมยังคงอยู่ที่นี่ถูกขังเอาไว้จนกว่าหัวใจจะหยุดเต้นจนกว่าร่างกายนี้นั้น…จะแหลกสลาย
ปัง!
และสิ่งสุดท้ายที่สมองผมได้คิดก็คือการสมเพธตัวเองที่อ่อนแอเหลือเกิน