. , . ,. , . , ., . ,. PART 1
. ,. วันนี้เป็นวันที่2มกราคม ซึ่งอันที่จริงแล้วมันก็ควรจะเป็น
วันหยุดสำหรับบุคลากรส่วนใหญ่น่ะนะ….ถ้าผมไม่ได้มาสาย
แทบจะทุกครั้งที่มาทำงาน!!!
. ,. "สวัสดี พ่อเค็นตัวน้อย"!! ดร.ซิมสันที่กำลังถือแก้วกาแฟ
ร้อนๆทักทายผมอย่างสนิทสนม ก่อนที่เธอจะเริ่มจิบมัน
. ,. จริงๆแล้ว ผมก็ไม่ได้สนิทอะไรกับเธอมากเป็นพิเศษ
หรอกนะ หรือถ้าจะพูดตรงๆก็คือผมไม่ได้สนิทกับใครเป็น
พิเศษเลย
. ,. แต่เธอก็เป็นคนที่ใจดีและนิสัยดีพอดูเลยล่ะ ถ้าไม่นับ
เรื่องของแปลกๆ ที่เธอสะสมไว้น่ะนะ (อย่างพวกตุ๊กตา
อุนจิแคะขี้มูก!!)
ช่างเถอะ มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า…
. ,. หลังจากที่ดร.ซิมสันทักทายผมแล้ว ผมก็เดินตรงไป
ที่ห้องดร.SXE ใช่!! ถึงชื่อเขาจะแปลกๆ แต่ผมก็ไม่เคย
เจอหน้าเขาที่เป็นบุคลากรระดับสูงเลยซักครั้ง
. ,. ผมเดินไปเพื่อนำเอกสารที่หนักตึ้งทั้งลังนี่ ไปส่ง
ตามห้องทำงานของพวกนักวิจัยทั้งหลาย โดยเก็บไว้ตาม
โต๊ะทำงานกับตู้เก็บเอกสารของพวกเขา…
…..และแล้ว ในที่สุดก็ถึงห้องสุดท้ายซึ่งเป็นห้องของ
ดร.เซเฟียรอส ถ้าผมอ่านถูกน่ะนะ ป้ายหน้าห้องก็ไม่ได้
เขียนชื่อเต็มๆ ไว้ซะด้วยสิ แต่เหมือนจะเคยได้ยินดร.ซิมสัน
เรียกเขาว่า "ดร.บาตัน เซเฟียรอส"
. ,. ผมก็ได้เคาะประตูตามมารยาทเหมือนกันทุกห้องถึงแม้
จะรู้ว่าไม่มีใครอยู่ แล้วผมก็เปิดประตูเดินเข้าไปที่ตู้เอกสาร
ตามรหัสของปกเอกสารเพื่อที่จะจัดเก็บมันเข้าไป….
…พอดีกับที่ผมไปได้ยินเสียงเทปบันทึกเสียงในห้องดังขึ้นเอง
"…..ลืมๆมันไปซะเถอะ ยังไงมันก็เป็นอดีตไปแล้ว จะไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรก็ไม่ได้แล้ว….."
,. ผมตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะตกใจสุดขีดจากเสียงกรีดร้อง
ที่ตามมา!!!…มันดังมาจากหน้าห้อง!! ผมจึงรีบเปิดประตู
ออกไปดู และสิ่งที่น่าสยดสยองที่อยู่ตรงหน้าผมก็คือ
"ตัวประหลาดสูง2.4เมตรในชุดกาวน์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์
ผิวขาวซีด" แต่มันค่อยๆ'บิดเบี้ยว'และต่างจากมนุษย์ออกไป
ทุกที!!!
. ,. มันกำลังอาละวาดและมีศพของเจ้าหน้าที่อยู่ข้างๆ
มันได้ฉีกร่างของพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ มันหันมามองที่ผม!!!
ผมรีบวิ่งและกรีดร้อง มันวิ่งไล่ต้อนผมจนผมต้องหนีเข้าไป
หลบที่ห้องของดร.คนหนึ่ง ผมเห็นว่ามีกระดาษแผ่นหนึ่ง
พร้อมปากกาเล็กๆวางอยู่บนโต๊ะ มันเขียนว่า "เมื่อฉันเป็นSCP-096"
ตอนนี้ผมเริ่มจะมั่นใจแล้วว่ามันต้องเป็นใครสักคน..
. ,. แต่แล้ว!!! มันก็รู้แล้วว่าผมอยู่ในห้องนี้!!!! มันพังประตู
เข้ามา ผมจึงรีบคว้าปากกานั้นและกระดาษขึ้นมาเขียน
'บางอย่าง' แล้วมันก็ฟาดผมอย่างแรงจนผมหมดสติไป…
"นี่ผมฝันไปเหรอเนี่ย!?!" ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา "ช่างเถอะ!!
ตอนนี้ต้องรีบไป ปั๊ดโธ่!! วันนี้ก็สายอีกแล้ว"
ผมไปทำงานอย่างเร่งรีบ วันนี้เป็นวันที่สองมกราคมที่ต้องไป
เพราะโดนลงโทษที่ไปสาย แต่วันนี้ก็ดันมาสายอีกจนได้!!!!
เมื่อผมไปถึงที่อาคารฯ ผมก็รีบวิ่งเข้าไปที่เคาเตอร์เพื่อรับ
ลังเอกสารฯเพื่อจะนำไปส่ง
"สวัสดี พ่อเค็นตัวน้อย" ดร.ซิมสันทักทายอย่างสนิทสนม
แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ
วันนี้เธอก็ทักผมแบบนี้อีกแล้ว เหมือนกับที่เมื่อคืนผมฝันเลย
ช่างเถอะ มันคงบังเอิญล่ะมั้ง
หลังจากที่ดร.ซิมสันทักทายผมแล้ว ผมก็เดินเอาเอกสาร
ไปเก็บตามห้องต่างๆ…จนถึงห้องสุดท้าย..
ซึ่งเป็นห้องของดร.เซเฟียรอส ผมก็ได้เคาะประตูแล้วเปิด
เข้าไปที่ตู้เอกสารตามรหัสของปกเอกสารเพื่อที่จะจัดเก็บมัน….
…พอดีกับที่ผมไปได้ยินเสียงเทปบันทึกเสียงในห้องดังขึ้นเอง
"…..ลืมๆมันไปซะเถอะ ยังไงมันก็เป็นอดีตไปแล้ว จะไปแก้ไข
เปลี่ยนแปลงอะไรก็ไม่ได้แล้ว….."
"….ก็จริง ที่อดีตเราไม่อาจแก้ไข แต่ก็ยังปล่อยวางได้
แต่ทว่า อดีตไม่อาจลบลืม ตามหลอกหลอนอยู่
ทุกวัน..ทุกคืน
เหตุการณ์ร้ายๆยังคงฝังลึกอยู่ในหัว และแสดงตลอดมา
จนถึงวันนี้
หวาดระแวงกับภาพความทรงจำ…ที่ไม่น่าจดจำ
ตอกย้ำซ้ำเติมในความฝัน หลอมรวมกับปัจจุบัน จนเรา
แยกไม่ออกแล้ว ว่าอะไรคือความจริงหรือฝันร้าย
เหตุการณ์เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นในอดีต จะยังคงเกิดขึ้น
อีกในอนาคต
โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในความฝัน จะเกิดขึ้นอีกหลาย
ครั้งในความจริง
และทุกอย่างจะยังคงวนเวียนเกิดขึ้นอีกไม่จบไม่สิ้น…."
ผมตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะตกใจสุดขีดจากเสียงกรีดร้อง
ที่ตามมา!!!…มันดังมาจากหน้าห้อง!! ผมจึงรีบเปิดประตู
ออกไปดู และมันก็ไม่มีอะไร!!? ผมเลยไปถามดร.ซิมสัน ซึ่ง
เธอบอกผมว่าไม่ได้ยินอะไร พร้อมกับทิ้งท้าย "..มันก็เงี่ยบ
สงัดแบบนี้ทุกปีแหละ.." แล้วเธอก็นำแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม
คงอาจจะเป็นเพราะผมหูฝาดคิดขึ้นมาเองก็ได้…
ผมจึงเดินกลับไปที่โต๊ะฯผม
ขณะเดียวกันนั้นผมก็ได้เดินสวนกับ ดร.ผู้หญิงคนหนึ่งที่ดู
เหมือนจะพยายามซ่อนรอยยิ้มที่น่าขนลุกเอาไว้ แต่ มันคง
ไม่เป็นแบบนั้นหรอกมั้ง
"…ในที่สุด!! ไอ้เจ้าเอกสารกองมโหฬารพวกนี้ ก็ได้รับการ
จัดการจนเรียบร้อยซะที และใช่!! มันช่างบังเอิญเหลือเกินที่
มันเสร็จดีก่อนที่จะถึงกำหนด ผมคงได้กลับไปเยี่ยมที่บ้าน
ได้ถึง2วัน แต่จริงๆแล้วก็ควรจะได้3วันเหมือนคนอื่นๆ น่ะนะ
แต่เราก็ปฏิเสธการลงโทษไม่ได้นี่ ซึ่งก็ยังดีที่ได้ตั้ง2วัน
ดีกว่าไม่ได้กลับไปเลย…"
"…แต่ นี่มันอะไรกันนะ?!?!….."
ผมพูดเบาๆ ขณะที่กำลังมองไปยัง'ภาพถ่าย'อะไรบางอย่าง
ที่ไม่รู้ว่าใครนำเอามาวางไว้บนโต๊ะผม ทันใดนั้น…
!!!"….ปี๊บ…ปี๊บ..'!!! 'เคนัซ เอโวลแวร์ กรุณามาพบ ดร.เอ็ดเวิร์ด
ลิงกรัวฮ์ ที่ห้องวิจัยที่ห้าร้อยห้าสิบห้าอีในขณะนี้ …. ,เคนัซ
เอโวลแวร์ กรุณามาพบ ดร.เอ็ดเวิร์ด ลิงกรัวฮ์ ที่ห้องวิจัยที่ห้า
ร้อยห้าสิบห้าอีในขณะนี้ด้วย'…ปี๊บบ___!!!…"
เอาอีกแล้ว!!! เขาเรียกผมไปอีกแล้ว แต่คราวนี้ผมว่าผมไม่ได้
ทำอะไรผิดหรือพลาดไปนี่นา
ผมต้องรีบเก็บของแล้วรีบไปแล้ว!!!
"…นี่แก!!! อีกแล้ว!!!! แกรู้ไหมว่าถ้าใครเอามันไปเขียนอะไร
บ้าๆบอๆแล้วจะเกิดห่ามอะไรขึ้น!!!…"
"อาโหน่… ขอประทานโทษครับดร.ลิงกรัวฮ์ ไม่ทราบว่า
มันเกิดอะไรขึ้น??!?…"
"…แกยังจำไอ้ปากกาอันเล็กๆ ที่อีริคไปร่วมเก็บกู้กับทีมฯมา
ได้มั้ย??!?!! มันไปอยู่ในลิ้นชักของดร.เควินได้ยังไง?!!?! ฉัน
ดูกล้องฯทุกตัวแล้ว แกเป็นคนเดียวที่เข้าไปในห้องนั้น!!"
"..คือ… ..ผม…"
ดร.เซเฟียรอสได้เดินเข้ามาขัดการสนทนา
"ลิงกรัวฮ์ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย.."
"ไว้คราวหน้า แกต้องเจอดีแน่!!!!" ดร.ลิงกรัวฮ์ตะคอกใส่ผม
ก่อนที่จะเดินตามดร.เซเฟียรอสออกไป
"….เค็น..!!!" ดร.ซิมสันเรียกผม "…เธอน่ะ กลับบ้านไปได้แล้ว
มันหมดเวลาที่นายจะต้องอยู่นี่แล้ว"
"เอ่อ.. คือ…"
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น นายน่ะ รีบกลับบ้านไปได้แล้ว!! หรือ
นายยังไม่อยากกลับ!!?"
"ครับ!!"
ผมครุ่นคิดสงสัยอยู่ตลอดเวลาในระหว่างที่ผมเดินทางกลับบ้าน
"…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ!?…"
"…ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ทุกสิ่งจะหวนกลับมาใหม่ และในที่สุด
แล้ว มันจะเป็นความจริงที่น่าสยดสยอง เป็นฝันร้าย
ที่ไม่มีวันตื่น และเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีตอนจบ…"
เมื่อผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงพูดเหล่านี้ แท็กซี่ก็พาผม
กลับมาถึงบ้านพอดี หลังจากที่ชำระค่าโดยสารแล้วผมก็รีบ
เดินเข้าบ้าน
เพราะดูท่าเหมือนฝนใกล้จะตกแล้ว。
จบ Part 1。