นิยายของ scp ที่กำลังเขียน
แต่นิยายเสรจก่อน
นี่คือเรื่องราวของผม เรื่องที่เกิดเมื่อ 30 ปีที่แล้วสมัยผมยังเด็ก เรื่องที่ผมจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต เรื่องที่ทำให้ผมเกือบต้องไปอยู่โรงพยาบาลบ้า
วันนี้มีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามา ไม่มีชื่อ ผมคิดว่าเป็นพวกขายของหรือประกัน ผมจึงกดวางไป แล้วเบอร์นี้ก็โทรมาอีกหลายครั้งจนผมเริ่มที่จะรำคาญ ผมรับสายให้รู้ๆกันไป
"พี่เจใช่ไหมครับ" เสียงในสายถามทันทีที่กดรับ ไม่คุ้นซะเลย
"นั่นใคร รู้ชื่อผมได้ไง"
"นี่มุกนะ พี่จำผมได้ไหม ที่บ้านเช่าติดกันไง
ในตอนนี้สมองของผมกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อนึกให้ได้ว่าใครกัน แล้วผมก็จำได้ จำได้ทุกอย่างที่เป็นความทรงจำนั่นไม่อาจลืมได้ลง
"จำได้ ไม่ได้คุยกันนานมากเลยนะ สบายดีใช่ไหม"
"สบายดีครับพี่"
"แล้วหาพี่เจอได้ไง เราไม่ได้เจอกันเลยตั้ง…แต่ตอนนั้น"
"เรื่องมันยาวน่ะ พี่คือว่า…."
"มีอะไรหรือเปล่า"
"จำพี่สาวผมได้ไหม ฝ้ายน่ะ"
"ต้องจำได้สิ ฝ้ายเป็นไงมั่งล่ะ"
"คือ…ฝ้ายเสียแล้วพี่ เมื่อวาน ฆ่าตัวตาย"
ผมไม่รู้ว่าจะเศ้ราหรือจะอารมไหนดี ในใจตอนนี้คิดอย่างเดียวว่า มันจบไปแล้ว
"แล้วมุกโอเคนะ ไม่มีเรื่องอื่นใช่ไหม"
"ก็มีนะ ผมระแวงว่ามันจะเกิดขึ้นอีก"
"ไม่หรอก มันจะไม่เกิดขึ้นไม่ว่าจะกับใคร"
ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน ตอนที่ผม ฝ้าย มุก ยังเล่นซ่อนแอบและโดดหนังยางกันอยู่ เราสามคนอยู่บ้านใกล้กัน เป็นห้องแถวทำจากไม้ชั้นเดียว บางห้องก็ว่าง เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน เดินไปแค่ 2 กม.ก็ถึงแล้ว ผมโตสุด ส่วนฝ้ายกับมุกอยู่ชั้นเดียวกันเพราะฝ้ายเข้าเรียนช้า
ทุกวันเป็นปกติไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นได้
มันเริ่มมาจากที่ฝ้ายได้ตุ๊กตาตัวใหม่มา ฝ้ายบอกว่าเก็บได้ เป็นตุ๊กตาเสือสีส้ม ตุ๊กตากระต่ายและตุ๊กตาแมว ฝ้ายติดตุ๊กตามากจนไม่สนใจจะเล่นอย่างอื่น ไม่ยอมห่าง ไม่ให้ใครจับนอกจากผมและมุก ถ้าใครจับตุ๊กตาของฝ้าย ฝ้ายจะใช้มือทุบคนนั้นซึ่งฝ้ายไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
เคยมีครั้งนึงผมโมโหที่ฝ้ายไม่สนใจเล่นกันใคร ผมเอาตุ๊กตากระต่ายไปซ่อน ฝ้ายตามหาตุ๊กตานั่นทั้งวัน ไม่ไปเรียน ข้าวปลาไม่กิน ไม่คุยกับใคร นั่งก้มหน้าอยู่ตรงมุมเสาเอาแต่พูดถึงตุ๊กตากระต่ายจนดูเหมือนคนบ้า ผมเลยเอาไปคืนฝ้ายแล้วโกหกว่าผมหาเจอ ฝ้ายถึงกลับมาเป็นปกติ ผมมองไปที่ตุ๊กตาพวกนั้น มันไม่ได้น่ารักแบบตอนแรกอีกแล้ว ลักษณะของมันน่ากลัวเหมือนตุ๊กตาผีสิง มุกเองก็เห็นแบบผม
ความน่ากลัวมันเริ่มจากตรงนี้
แม่และน้องชายของแม่ที่อยู่บ้านเดียวกับฝ้ายกับมุกได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทุกคนช่วยกันตามหาทั่วทุกที่ ตำรวจก็ช่วยกัน มุกเอาแต่ร้องไห้ ส่วนฝ้ายก็นั่งเล่นตุ๊กตาพวกนั้นไม่สนใจว่าแม่ตัวเองหายไปไหน ผมไปหาฝ้ายเห็นว่ามีรอยตีหลายรอยที่ขาก็รู้ว่าโดนแม่ตี ฝ้ายบอกว่า โดนแม่ตี พวกเขาเลยลากแม่ออกไป ผมจึงถามต่อแต่ฝ้ายก็ไม่พูดกับผม ผมเห็นพวกตุ๊กตาก็หมุนหัวมา 360 องศามาทางผม ตาใสๆของตุ๊กตากลายเป็นตาจริงๆของคนที่นูนออกจากเบ้า ทำเอาผมช็อคไปเลย และจำมันได้จนถึงทุกวันนี้ ใครจะลืมได้ลง
หลายวันต่อมา ผมเอาเรื่องนี้ไปบอกครูแหวน ครูประจำชั้นห้องฝ้าย ประกอบกับฝ้ายไม่มาเรียนวันนั้น มุกมาคนเดียวและมุกก็เงียบตลอดท่าทางเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง หลังเลิกเรียน ผม มุก และครูแหวนได้มาที่บ้านมาหาฝ้าย ไม่เจอป้าที่มาอยู่ดูแลแทนแม่ แต่เจอกับฝ้ายนั่งคุยกับตุ๊กตาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ผมกับมุกตกลงกันที่จะเอาตุ๊กตาบ้าพวกนั้นออกจากฝ้าย แล้วเราก็เยื้อแย่งตุ๊กตากัน ฝ้ายก็กรีดร้องเหมือนคนไม่มีสติและใช้มือทุบหลังของมุกแรงมากๆ ครูแหวนก็มาช่วยห้ามไม่ให้ทะเลาะกันจนผมเอาตุ๊กตาออกจากฝ้ายได้สำเร็จ
พอแยกออกมีเสียงหัวเราะดังออกมาจากตุ๊กตา ผมรีบทิ้งมันลงพื้นทันที พวกตุ๊กตามัน…ขยับเองได้และเริ่มเปลี่ยนลักษณะน่ากลัวเหมือนกับว่ามันไม่ใช่ตุ๊กตา เป็นสัตว์ที่เละๆรูปร่างบิดเบี้ยว ทุกคนเห็นกันหมด มุกจับมือฝ้ายวิ่งออกจากบ้าน ผมกลัวมากตอนนั้นเลยวิ่งเข้าไปหลบใต้เตียงในห้องนอน สักพักครูแหวนก็วิ่งเข้ามา ผมได้แต่เอามือปิดหน้า จำได้ลางๆว่า มีเสียงกรี๊ดร้อง โหยหวน เสียงดังน่ากลัวที่อธิบายไม่ถูกอยู่รอบๆเตียง รู้สึกว่าฟูกเตียงถูกยกลอยขึ้นแล้วตกลงมาที่โครงเหล็กอย่างแรงแล้วทุกอย่างก็หยุดลง ผมไม่ได้ยินเสียงพวกนั้นมันหายไปตอนไหน รู้ว่าอะไรอยู่ข้างบนนั่น ผมรีบคลานออกมาแล้ววิ่งออกจากบ้านโดยไม่หันไปมอง
กลับมาปัจจุบัน ที่งานศพของฝ้ายไม่ได้จัดขึ้นในจังหวัดที่เราเคยอยู่ และจัดที่วัดในชนบท
ผมมาคนเดียว มีคนมาร่วมงานพอจะนับได้เลย มีน้อยมาก ผมไม่รู้จักใครเลยนอกจากมุก ส่วนคนอื่นคงเป็นญาติๆกัน ผมกับมุกนั่งกันตรงศาลาด้านนอก
"คนน้อยจังนะ" ผมถามมุก
"ไม่มีใครอยากมากัน"
"ทำไมล่ะ"
"พวกเขากลัวอาถรรพ์น่ะสิ"
"ชั้นแทบจะไม่รู้เรื่องของฝ้ายเลย หลังจากวันนั้น" "ไม่คิดว่าจะจบลงแบบนี้"
"ฝ้าย…ไม่ปกติตั่งแต่วันนั้นแล้ว พี่เจก็อยู่ด้วยนี่" "ฝ้ายน่ะ เป็นบ้า…"
"แล้วก่อนฝ้ายเสีย มีเรื่องอะไรแปลกอีกไหม"
"ก็ไม่นะ….ไม่รู้สิพี่ ผมรู้สึกเหมือนมันยังอยู่ มันไม่ได้ตายใช่ไหม"
จะให้ผมบอกยังไงดีล่ะ ก็ใช่..มันยังไม่ตาย ไอ้ตัวเวรตะไลนั่นมันยังอยู่ ถูกกักขังเอาไว้
ผมจะเล่าเท่าที่ผมจะจำได้ว่าหลังจากผมวิ่งออกจากบ้านหลังนั้นแล้วเกิดอะไรต่อ
มุกกับฝ้ายไปหาพระเพื่อขอให้ช่วย ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรบ้างนะแต่พอไปถึงก็พบว่ามีการทำพิธีทางศาสนากันแล้ว พวกเขาบอกว่าเพื่อขับไล่ปีศาจ ผมไม่รู้ว่าปีศาจอะไรแค่ได้ยินชื่อก็คิดว่าคงจะร้ายน่าดู อย่างที่ฆ่าครูแหวนได้แบบนั้น
ฝ้ายเป็นคนเดียวที่เชื่อมโยงถึงมันและมันจะมาหาฝ้าย พวกเขาจึงจับฝ้ายมัดเอาไว้ มุกคอยอยู่ข้างๆ พวกเขา 2 คนต้องนั่งอยู่ในรั้วสายสิญจน์สีประหลาดๆ ผมเดินผ่านชาวบ้านที่เข้ามาช่วยทำพิธีไปหาฝ้าย แต่ไม่ได้เข้าไปในรั่ว ฝ้ายมีอาการแปลกๆจะว่าถูกผีเข้าก็ไม่เชิง ฝ้ายบอกว่า มันอยู่แถวนี้แต่เข้ามาไม่ได้ คนเยอะเกินไป มันไม่ได้กลัวของพวกนี้ ถ้าฝ้ายออกไปได้มันจะฆ่าทุกคนที่นี่ ผมถูกห้ามไม่ให้เข้าใกล้สองคนนั่น ตอนนั้นพ่อแม่ของผมก็อยู่ที่วัดด้วยผมจึงโดนสั่งให้กลับบ้าน แต่ผมเป็นห่วยมุกกับฝ้ายมาก ผมจึงแอบดูจากที่ห่างไกล
ความจำได้ตัดมาอีกทีตอนที่ผมอยู่ข้างถนน ข้างๆมีรถจักรยานล้มอยู่ สายตาของผมก็เห็นว่ามีบางอย่างหลบอยู่หลังต้นดอกเข็มตรงทางเข้าวัด พวกมันตุ๊กตาผีพวกนั้นมันวิ่งเข้าไปในนั้นแล้ว
มีชายที่ไม่สวมรองเท้าวิ่งมาชนผมจนล้มเข้าไปข้างในแล้วตะโกนว่ามีคนตายที่ห้องแถวเต็มไปหมดเลย ผมเลยวิ่งตามไป ตอนนั้นมันชุลมุนมากมีเสียงร้องและเลือดมากเป็นกองเลย ก่อนจะมีคนมาคว้าตัวผมอุ้มวิ่งมาที่ๆฝ้ายกับมุกนั่งอยู่ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นพ่อแต่ไม่ใช่ ผมเห็นว่ามีเด็กคนอื่นอยู่ด้วย ใครบางคนยื่นแผ่นกระดาษเปล่ามาให้พวกเราแล้วบอกให้เราเขียนความฝันของตัวเองลงไป ตอนนั้นผมไม่มีอารมณ์จะเขียนอะไรทั้งนั้นแต่ผมก็ต้องเขียนเพราะเขาบอกว่าจะช่วยไล่มันไม่ได้ ไม่รู้ว่าจริงไหมแต่ผมไม่อยากให้เรื่องนี้ยุติลง
กลุ่มชายแปลกหน้า
ให้ผม ฝ้าย มุก และเด็กคนอื่นๆที่อยู่ตรงนั้นเขียนความฝันว่าโตขึ้นอยากจะเป็นอะไร มันดูบ้ามากใช่ไหมที่มาทำอะไรในเวลาแบบนี้ เขาบอกให้เขียนเยอะๆทุกแผ่น พวกคนแปลกหน้าเอากระดาษที่เด็กเขียนมาล้อมพวกเราไว้ และที่เหลือก็เอาไปไหนผมเองก็ไม่รู้ ตอนที่พวกคนแปลกหน้าไม่ได้อยู่แถวนั้นผมก็ลุกออกไป มุกจะไปด้วยแต่ผมอยากให้มุกอยู่ที่นี่
ความทรงจำได้ตัดมาอีกครั้งตอนที่ผมได้ยินเสียงดังที่อธิบายไม่ถูกแบบที่เจอพวกมันห้องนอน ในมือผมมีกระดาษเปล่าอีกหลายแผ่นกับปากกาเมจิกสีดำ อันที่จริงผมลืมเอาวางไว้ ผมหันกลับไปทางมุก มุกทำไม้ทำมือห้ามไม่ให้ผมเดินไปแต่ผมต้องเห็นให้ได้ ผมอยากจะเห็นมัน ผมไม่กลัวมันหรอก
เสียงนั่นเงียบไปแล้ว มีกระดาษที่ถูกเขียนปลิวว่อนไปมา บางแผ่นก็ถูกเอามาเรียงกันแล้วเย็บด้วยแม็ค ผมไม่ได้ตาฟาดใช่ไหมที่เห็นว่ากระดาษพวกนั้นมันส่องแสงสีเหลืองขาวนวลๆได้
ในที่สุดผมได้เห็นมันแล้ว มัน…ไม่ใช่อย่างที่ผมคิดเอาไว้ มันน่ากลัวกว่าที่เห็นก่อนหน้าเป็นร้อยเท่า ไม่ได้มีขนาดเท่าตุ๊กตาอีกต่อไป ความสูงของมันเท่าเด็ก 10 ขวบเท่ากับความสูงของผมตอนนี้ แต่ก็ยังคงความเป็นตุ๊กตา 50% อีก 50% เป็นเนื้อเลือดเละๆที่ไม่มีขน อาจมีขนบ้างนิดหน่อย ตัวบิดเบี้ยวผิดรูปร่าง ผมไม่รู้ว่ามันเป็นตัวบ้าอะไรกันแน่ ผมหายใจติดขัดเหมือนคนเป็นหอบมือกำกระดาษไว้แน่นมาก แล้วพวกคนแปลกหน้าหายไปไหนกันหมดพวกเขาหายไปไหน
มัน..รู้ว่าผมมองอยู่ มันได้หันมาทางผมทั้งสามตัวเลย อ่อมีตัวนึงเจ้ากระต่ายที่ยิ้มให้ผม พอมันยิ้มขากรรไกรล่างของมันก็หักห้อยลงมาแต่ยังไม่ขาด ส่วนอีกสองตัวพยายามจะกระโจนมาทางผมแต่เหมือนจะติดบาเรียที่มองไม่เห็น ผมถึงได้รู้ว่ากระดาษพวกนี้เอามันอยู่ แล้วผมก็พูดขึ้น นายเป็นปีศาจงั้นเหรอ จะบอกไว้เลยนะว่าอย่ามายุ่งกับฝ้ายกับคนอื่นไม่งั้นชั้นจะเอากระดาษพวกนี้แปะหน้านายให้หมด แล้วผมก็จะเดินไปหามัน แต่มีคนอื่นมาจับตัวไว้ ผมจำเรื่องราวอะไรไม่ได้หมดหรอกนะ ผมรู้แค่ว่าพวกตัวน่าเกลียดพวกนั้นโดนจับได้ พวกผู้ใหญ่ที่หมู่บ้านนั้นตายกันเยอะ สิ่งนั้นไปฆ่าพวกเขากันตอนไหนอันนั้นผมก็ไม่รู้ มันฆ่าครอบครัวของมุกกับฝ้าย รวมถึงของเด็กคนอื่น และก็ผมด้วย
ผมสูญเสียครอบครัวไป ทำให้ผมไม่อยากให้เกิดโศฏนาตกรรมอะไรแบบนี้ขึ้นอีก ผมตามหามันด้วยทุกวิธีการ แน่นอนว่าผมเจอ ผมเจอมันและผมอยากจะอยู่ใกล้ๆ จับตาดูมันให้ได้มากที่สุด ไม่มีใครทำงานนี้ได้ดีเท่าผมอีกแล้ว
Sorry, My english isn't good.