“ฮืออออ!!!” เสียงร้องของเอเย่นต์ยูทำให้เอเย่นต์สไตน์เบิร์กหันมาที่เธอ
“ฉันเครียดมากๆเลยคะหัวหน้า” เธอมองหน้าเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างมาก ก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นมาและดื่มมัน
สไตนเบิร์กลูบหัวเธอเบาๆ
”ที่นี่ไม่ใช่ไซต์ และไม่ใช่เวลางานไม่ต้องสุภาพ ที่สำคัญเรียกฉันว่า กร เฉยๆก็พอ”
เมื่อพูดจบเขาก็หันมามองที่เนลสันที่นั่งอยู่ข้างๆเขา เนลสันอยู่ในอารมณ์ที่ต่างจากยูมาก เขาดื่มเบียร์หมดไปไม่รู้กี่แก้วแล้ว
และกำลังจะสั่งเพิ่มอีก พร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุข ท่าทางของเนลสันทำให้เอเย่นต์ยูไม่พอใจอย่างมาก
“เฟท… ในสถานการณ์แบบนี้ นายยังมีอารมณ์หัวเราะอีกเหรอ ?” ยูหันมามองเนลสันด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์
เนลสันยังคงยิ้มและดื่มต่อไปอย่างไม่สนโลก
“เอาน่ายู… ฉันพาพวกเธอออกมาเลี้ยงเหล้า ก็เพื่อผ่อนคลาย” สไตนเบิร์กพูด
ทาง SCP สาขาไทยมีแผนที่จะทำวิจัยอะไรบางอย่างโดยมีดร.รันเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งสไตนเบิร์กและลูกน้องในหน่วยของเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่สไตนเบิร์กรู้แค่ว่าพวกเรากำลังขาดแคลนตัวทดลองอย่างหนักจนไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ พวกเขายังไม่สามารถหาคนมาเพิ่มได้ซึ่งผิดปกติมากๆ
ต่อมาพวกเขาได้เรียกสไตนเบิร์กมาและได้รับข่าวว่าพวกเขาจะขอสมาชิกในหน่วยของสไตนเบิร์กที่บาดเจ็บสาหัสจากการทำภารกิจเก็บกู้วัตถุครั้งที่แล้วซักสองสามคนมาทดลองในงานวิจัยนี้ นั่นทำให้เอเย่นต์ยูไม่พอใจอย่างมาก สไตนเบิร์กเลยพาพวกเขาออกมาเลี้ยงเหล้าข้างนอกซึ่งเป็นโมเมนต์ที่หายากมากสำหรับเขาเพราะเขาไม่ค่อยออกไปไหนนอกเวลางาน
สไตนเบิร์กมองที่แก้วเบียร์ของเขา เขาไม่มีอารมณ์ที่จะดื่มอะไรตอนนี้ และเอาแต่คิดว่าควรจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง
“ยางงงงงงายยยยยซะ โคนเราก็ต้องงงงงตายยยยยย!!!” เนลสันพูดขึ้นมา เขาดื่มหนักมากจนกลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมาจากปากเขาอย่างแรง
เอเย่นต์ยูทุบโต๊ะ และหันมาทางเนลสัน ”นายไม่สนใจเลยเหรอ พวกนั่นก็เพื่อนของเรานะ!!!” ยูพูดขึ้นด้วยความโกรธ ทำให้คนในร้านหันมามองที่พวกเขา
เนลสันหันมาที่เธอ ”ก็แล้วทามมมายยล่ะ มีโคนตายยยในไซซซซซซต์ทุกวันอยู่แล้วนี่”
เอเย่นต์สไตนเบิร์กกุมขมับ นึกได้ว่าเขาไม่ควรพาเนลสันมาด้วยเลย สไตนเบิร์กลุกขึ้นแล้วแยกทั้งสองออกห่างกัน
”ไปกันเถอะ” เขาพูดกับยู
แม้สีหน้าของสไตนเบิร์กจะนิ่งเฉย แต่ก็ทำให้ยูตระหนักได้ว่าตัวเองเผลอทำอะไรลงไป สไตนเบิร์กประคองร่างของเนลสันที่เมาอย่างหนักออกไปจากร้านหลังจากจ่ายเงินเสร็จท่ามกลางสายตาคนจำนวนมากโดยมียูเดินตามมาข้างๆ ทั้งสามตัดสินใจจะเดินเที่ยวต่ออีกหน่อยจนเวลาผ่านไปสามชั่วโมง เนลสันเริ่มได้สติเขาจึงตัดสินใจว่าจะเดินเอง
“คงได้เวลาที่จะกลับไปไซต์แล้วล่ะ” สไตนเบิร์กพูดขึ้น
เขาและลูกทีมกำลังจะเดินไปที่ลานจอดรถ สไตนเบิร์กก็ทำสัญญาณมือบอกให้พวกเขาหยุด
“มีคนสะกดรอยตามเรามา!” สไตนเบิร์กพูดขึ้น
ยูหันไปข้างหลังและพบชายสามคน หนึ่งในพวกเขาถือแฟ้มบางอย่าง พวกเขาจ้องมาที่ทั้งสาม
“เราควรทำยังไงดี?” เนลสันถาม
“ที่นี่มีคนมากเกินไปอย่าพึ่งทำอะไร เดินไปที่ลับตาคนดีกว่า” สไตนเบิร์กพูดขึ้น
ยูและเนลสันพยักหน้า ทั้งสามเดินออกมาและเข้าไปที่ตรอกที่อยู่ห่างจากจุดนั้นไม่มาก ชายทั้งสามวิ่งไล่ตามพวกเขามา
ทำให้สไตนเบิร์กนำยูและเนลสันมาหลบอยู่หลังตู้เสื้อผ้าที่ถูกทิ้งไว้ในตรอก
“คิดว่าพวกนั้นจะเป็นใคร?” เนลสันกระซิบ
“ฉันไม่รู้ แต่ดูจากสภาพพวกเขาน่าจะไม่พกอาวุธ” สไตนเบิร์กชักปืนออกมา
“แต่ฉันเดาว่าน่าจะเป็นพวกศาสนจักร เพราะพวกเขาพกอะไรบางอยู่ในแฟ้ม ฉันอาจจะกังวลไปเองแต่มันอาจจะเป็นวัตถุบางอย่าง”
เนลสันและยูต่างชักปืนพกขึ้นมาเหมือนกัน
“ฟังเสียงและรอจังหวะจากฉัน” สไตนเบิร์กพูดขึ้น เขามองผ่านรูเล็กๆของตู้เสื้อผ้าที่เขาแอบอยู่ด้านหลัง ชายสามคนวิ่งมาละหยุดอยู่ที่ด้านหน้าตู้เสื้อผ้า
สไตนเบิร์กทำสัญญาณมือ พวกเขาพุ่งออกมาจากที่ซ่อน และเล็งปืนไปที่ชายทั้งสาม
“หยุดอย่าขยับวางอะไรก็ตามที่พวกนายถืออยู่ลงบนพื้นซะ แล้วเอามือวางไว้บนหัวถ้าพวกนายไม่อยากถูกยิง!!” สไตนเบิร์กสั่ง
ชายทั้งสามตกใจมาก พวกเขาทำตามที่สไตนเบิร์กสั่งโดยไม่ขัดขืน ยูและเนลสันค้นตัวพวกเขา
“พวกเขาไม่มีอาวุธครับ” เนลสันรายงาน
สไตนเบิร์กหยิบแฟ้มของพวกเขาขึ้นมาและเปิดดู ในแฟ้มมีแต่เอกสารบางอย่างเกี่ยวกับสินค้า
“บอกฉันมาสิพวกนายตามพวกฉันมาทำไม?!” เขาถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“อย่าทำอะไรพวกเราเลยครับ!” หนึ่งในทั้งสามพูดขึ้น
”พวกเราแค่อยากจะชวนพวกคุณเข้ามาฟังโปรเจคของเราเฉยๆ แต่ท่าทางของพวกคุณดูแปลกๆพวกเราเลยไม่ได้เข้าไปหาในตอนแรก เชื่อพวกเราเถอะครับเราไม่มีเจตนาร้ายอะไรเลยจริงๆ!!” อีกคนนึงพูดขึ้นด้วยเสียงสั่น
สไตนเบิร์กเก็บปืน และวางแฟ้มลง "ปล่อยพวกเขาได้”
ยูและเนลสันเก็บอาวุธและเดินออกมา พวกเขารู้แล้วว่าพวกชายทั้งสามเป็นคนธรรมดา
“พวกเราต้องขอโทษพวกคุณด้วย พวกเราเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ” สไตนเบิร์กโกหก เขายื่นนามบัตรปลอมที่สถาบันออกให้เขาให้ทั้งสามดู
“พวกคุณสะกดรอยตามเรามา เราก็เลยสงสัย” เนลสันเสริม
“ว่าแต่พวกคุณต้องการอะไร?” ยูถาม
ทั้งสามพยายามควบคุมสติ หนึ่งในคนนั้นหยิบแฟ้มขึ้นมา เขาหยิบเอกสารใบนึงขึ้นมายื่นมาให้สไตนเบิร์ก เขารับเอกสาร
ในนั้นเขียนเกี่ยวกับธุรกิจ การชวนคน และการวางแผนรายได้
“สนใจไหมครับ?” เขาถาม
สไตนเบิร์กและลูกทีมของเขารู้ว่ามันเป็นการหาคนเพิ่มของบริษัทที่น่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ เนลสันทำท่าจะพูดแต่ก็ถูกสไตนเบิร์กขัด
“น่าสนใจมากครับ” เขาตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ชายทั้งสามยิ้ม ยูมองหน้าเนลสันด้วยความตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่สไตนเบิร์กทำเลย
“งั้นจะโอเคไหมครับ ถ้าพวกเราจะนัดคุณมาคุยเรื่องนี้พรุ่งนี้?”
“ได้ครับ แต่เราอาจจะขอเปลี่ยนสถานที่นัดหมายนิดนึง”
หลังจากสไตนเบิร์กตกลงสถานที่และเวลาเรียบร้อย สไตนเบิร์กและลูกทีมของเขาที่กำลังมึนงงกับสิ่งที่เขาพึ่งจะทำก็เดินมาที่รถ
“ ยู รายงานกลับไปที่ไซต์ด้วยว่าเราหาตัวทดลองมาได้สามคนสำหรับงานวิจัยมาแทนสมาชิกหน่วยของเราที่บาดเจ็บได้แล้ว ให้มารับพวกเขาไปที่สถาบันตามเวลาและสถานที่ที่ฉันนัดพวกเขาไว้ด้วย” สไตนเบิร์กบอกแล้วยิ้มที่มุมปาก