จ้าวแห่งการหลอกลวง

สายลับ เจสัน ซัตเธอร์ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับการเริ่มคิดว่าหนทางเดียวที่เขาจะรู้สึกแบบนี้ได้คงเป็นการที่ใบหน้าของเขาถูกไฟไหม้ จากสิ่งที่เขาสามารถบอกได้ก็คือ ศีรษะของเขาถูกคลุมด้วยผ้าพันแผลหนาหนักและเขารู้สึกราวกับว่าใบหน้าของเขาทุกส่วนเสียโฉม จมูกของเขาพองขึ้นและรู้สึกเหมือนกับว่าปากของเขาฉีกขาด เมื่อลุกขึ้นนั่ง สัญชาตญาณของเขากรีดร้องใส่เขาให้มองรอบๆ อย่างถี่ถ้วนและคิดให้ออกว่าเขาอยู่ที่ไหน

อืม มันดูเหมือนกับว่าเขาอยู่ในที่ว่างเปล่าที่ไซต์-18 เมดิเคิล วิงซ์ ความว่างเปล่าช่วยเขาไว้ อุปกรณ์การแพทย์ กระเป๋าบนเคาน์เตอร์ใกล้เคียงและจอมอนิเตอร์สิบสองตัวหรือมากกว่านั้นซึ่งติดตั้งอยู่บนผนังที่อยู่ไกล มีเพียงเครื่องเดียวที่เปิดอยู่ และในนั้นมีผู้ชายที่อยู่ในห้องพักที่คล้ายกันซึ่งมีผ้าพันแผลพันศีรษะ เหมือนกับซัตเธอร์มาก

เมื่อมองหน้าจอที่กำลังทำงานใกล้ๆ เขาก็ตระหนักว่านั่นคือเขา เขาเหลือบมองร่างกายส่วนที่เหลือ ซัตเธอร์เห็นว่าร่างทั้งหมดของเขาดูเหมือนจะผ่านการผ่าตัดมา เขาแทบจะจำตัวเองไม่ได้เลย เกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่

โอ้ … .ใช่แล้ว การโจมตี

ก่อนวันนั้น ซัตเธอร์ทำงานเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายวัตถุอันตรายบางอย่างไปยังหน่วยบรรจุใหม่กับสายลับคนอื่นๆ ซึ่งได้รับการดูแล ไม่มีใครอื่นนอกจาก ดร.เคลฟ ผู้เป็นตำนาน ซัตเธอร์ชื่นชมเรื่องราวอันเลวทรามของด๊อคเตอร์ที่เก่ง และเป็นหนึ่งในสายลับที่อาวุโสที่สุดที่นี่ กระโดดเข้าหาโอกาสเพื่อสามารถทำงานภายใต้อำนาจของเขา

การเคลื่อนย้ายเริ่มต้นอย่างราบรื่นมาก มากเกินไป จนกระทั่งห้องโถงที่พวกเขากำลังเคลื่อนย้ายเกิดระเบิด พัดพวกเขาแยกออกจากกันด้วยเสียงดังน่ากลัว มันคือการโจมตีของหน่วยจลาจลสร้างความโกลาหล พวกสายลับพยายามรวมตัวกัน แต่ผู้ก่อการร้ายเข้ามาราวกับค้อนแห่งเทพเจ้า ฉีกกระฉากพวกเขาอย่างรุนแรงก่อนที่จะหลบหนีไปพร้อมกับวัตถุอันตรายร้ายแรง ซัตเธอร์และเคลฟถูกทุบอย่างแรง ทั้งสองคนติดอยู่ในการระเบิดครั้งแรก

ต้องขอบคุณโชคที่เขายังมีชีวิตอยู่ ซัตเธอร์พยายามจะดึงตัวเองออกจากเตียง ทดสอบดูว่าเขาสามารถยืนด้วยเท้าทั้งสองของเขาได้หรือไม่ ขณะที่เขาลุกขึ้น มอนิเตอร์ตัวอื่นๆ ที่อยู่บนผนังก็ส่องแสงราวกับมีชีวิต แต่ละตัวมีภาพที่มองแทบไม่เห็นซึ่งปกคลุมด้วยเงา ซัตเธอร์จ้องมัน เขาเห็นการเหลือบมองเป็นครั้งคราวของหนึ่งหรือสองคนก่อนหน้านี้ เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องรายงานการปฏิบัติภารกิจสำคัญเป็นพิเศษหรือการมีส่วนร่วม แต่ไม่เคยมากขนาดนี้มาก่อน เขานับ สิบ สิบเอ็ด สิบสอง ทั้งหมดมีสิบสองคน

O5 สภาผู้ควบคุมทั้งหมดตัดสินใจที่จะพูดกับเขา

"ยินดีต้อนรับกลับสู่โลกแห่งการใช้ชีวิต สายลับ คุณโชคดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่วันนี้" จากท่าทางที่พวกเขาถูกปกคลุมด้วยเงามืด ซัตเธอร์ไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาคนไหนที่กำลังพูด หรือพวกเขาทุกคนที่พูดพร้อมกัน

"เอ่อ ครับท่าน" เขาแสดงความเคารพ เขาแทบไม่ได้ยินเสียงตัวเองจากใต้ผ้าพันแผลเลย

"ไม่จำเป็นหรอก สายลับ เราอยู่ที่นี่เพื่อแจ้งให้ทราบว่าคุณได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นตำแหน่งพิเศษภายในองค์กร คุณมีบันทึกที่ยอดเยี่ยม ภารกิจที่ประสบความสำเร็จนับพันภายใต้เข็มขัดของคุณ พร้อมกับวัตถุที่ยึดและเก็บไว้มากมาย และในแง่ของการโจมตีที่ผ่านมา มีการตัดสินใจให้ตำแหน่งในอันดับที่สูงขึ้น ซึ่งก็คือตำแหน่งของ ดร.เคลฟ แก่คุณ"

ซัตเธอร์หยุดชะงัก "อะไรนะครับ"

"ดร.เคลฟ เสียชีวิตในการโจมตีก่อนหน้านั้นวันนี้ คุณได้รับเลือกให้มาแทนที่เขา"

"เป็นไปไม่ได้ ดร.เคลฟเป็นคน ไม่ใช่ตำแหน่ง"

"ดร.เคลฟคือการเก็บรวบรวมเรื่องราวและตำนาน ความแปลก…ของเขา…มักจะให้ประโยชน์แก่องค์กร ให้ภาพลักษณ์ที่แน่นอนของการจ้างคนที่มีความสามารถซึ่งดูราวกับเหนือมนุษย์ ผู้ที่เป็นเคลฟดั้งเดิมนั้นมีความรอบรู้ เจ้าเล่ห์และมีประวัติแห่งการหลอกลวง เช่น กล่าวอ้างว่าเขาเป็นซาตาน มีแนวโน้มที่จะสร้างแรงบันดาลใจและความกลัวกับผู้ที่เขาทำงานด้วย ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะรักษาแนวคิดของบุคลิกบางอย่างภายใต้อาณัติของเราเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเคลฟที่ให้แก่เรา เมื่อเคลฟดั้งเดิมเสียชีวิตไปเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว จึงการตัดสินใจว่าการกระทำที่ดีที่สุดคือการปกปิดความตายและหาทางดำเนินตำนานต่อไป จนถึงวันนี้ มันประสบความสำเร็จ คุณเป็นผู้ชายคนที่สี่ในสายงานที่ได้รับตำแหน่งของอัลโต เคลฟ"

"ผม … .ผมเข้าใจแล้ว" ซัตเธอร์มองที่จอมอนิเตอร์ "ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ผมยิ่งกว่าเต็มใจที่จะรับตำแหน่งนี้"

"เยี่ยมมาก ในกระเป๋าตรงหน้าคุณคือเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการเป็นดร.เคลฟ จากนี้เป็นต้นไป สายลับ เจสัน ซัตเธอร์ ตายไปแล้วในการโจมตีของกบฎ นำเอกสารออกมา อ่านมันแล้วทำลายมันหลังจากนั้น"

เมื่อกระชากผ้าพันแผลออกจากศีรษะ เขาดูที่มอนิเตอร์ซึ่งแสดงภาพห้องของเขา ซึ่งเหมือนกัน ยกเว้นผู้ชายที่นั่งอยู่ในนั้นมีมะเขือเทศสีแดงสดตรงที่ซึ่งปกติแล้วควรจะเป็นศีรษะของเขา เขารู้สึกว่าจมูกโป่งพองและแสยะยิ้ม รู้สึกว่ามุมปากของเขายกขึ้นถึงหู สายลับ เจสัน ซัตเธอร์ถูกนำตัวเข้ามาในห้องในคราแรก แต่ดร.อัลโต เอช เคลฟ จ้าวแห่งการหลอกลวง เดินออกไปจากห้อง