14:20 น. ของวันนี้ ดร.เฟมัสได้ถือโอกาสเข้าร้านตัดผมเพราะผมของเขามันเริ่มยาวได้ 2 เซนติเมตรแล้ว และเขาต้องการจะโกนมันออก ทรงสกินเฮดคือทรงที่เหมาะรับกับใบหน้าของเขา อีกอย่างมันไม่เกะกะลูกตาเวลาทำงาน
"โกนออกให้หมดเลยนะ อ่อ เหลือติดไว้ที่หนังหัวด้วย ผมไม่อยากหัวล้าน" เฟมัสบอกช่างตัดผมประจำ
การตัดผมใช้เวลาไม่นานนัก เฟมมัสลุกขึ้นแล้วเอามือปัดเศษผมที่ไหล่ หน้า และบนหัว เขาหันหน้าไปทางกระจก มีรอยแผลเป็นที่ถูกเย็บอย่างประณีตเป็นทางยาวตั้งแต่หน้าถึงหลังอยู่บนศีรษะทางด้านซ้ายและมันออกจะเด่นชัดมากเพราะไม่มีเส้นผมขึ้นตรงนั้น ที่หูข้างซ้ายก็มีรอยแผลแบบเฉียดๆไปในทิศทางเดียวกัน
มันคือรอยแผลผ่าตัดกับรอยถูกยิง เป็นเครื่องเตือนความทรงจำว่าเขาผ่านการเฉียดตายมาแล้วและสมองของเขาต้องได้รับการผ่าตัดใหม่ มันทำให้เขาเป็นคนใหม่เหมือนกับมีใครอีกคนอยู่ในนั้น แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ดีมันช่วยให้เขาทำงานได้ดีขึ้นและเลื่อนขั้นจากนักวิจัยกระจอกๆมาเป็นระดับด็อกเตอร์ ได้มาทำงานกับดร.รัน และอาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นรองหัวหน้าแผนกในอีกไม่นาน มันคือบททดสอบ
หลายปีก่อนหน้านั้น สมัยที่เฟมัสยังเป็นเพียงนักวิจัยระดับล่างๆ ผู้ต้องสงสัยที่เป็นชายสวมชุดกาวน์สีขาววิ่งออกจากโกดัง-29a ในมือของเขาถือกล่องขนาดเล็กที่บรรจุวัตถุ SCPs ระดับ Safe เอาไว้ กำลังหลบหนี เขาเดินผ่านโรงอาหารอย่างใจเย็นไม่ให้เป็นที่สงสัยของใคร แต่เขาก็ยังออกไปไม่ได้จนกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน ไม่งั้นจะมีคนสงสัยเอาได้
เฟมัสกระวนกระวายใจอย่างมากที่มีของหายไป เขาทำงานอยู่ในโกดัง-29a ตอนที่ของหาย นี่มันวาระระดับชาติสำหรับเขาเลยก็ว่าได้ เขาอาจตกงาน โดนเด้ง โดนย้ายไปที่อื่นที่แย่กว่า ใครจะส่งเงินให้แม่ใช้ ตาของเขาแทบจะถลนออกมาตอนที่เห็นหัวขโมยในเทปบันทึกย้อนหลังจาก CCTV แต่เห็นหน้าไม่ชัด
"คุณไม่รู้เหรอว่าเขาเป็นใคร?" เจ้าหน้าที่ในห้องสอบสวนได้ชี้ไปยังภาพของหัวขโมย
"ไม่รู้จริงๆครับ" เฟมัสตอบ
"บางทีนี่อาจช่วยให้คุณจำได้"
เจ้าหน้าที่ได้เอาภาพถ่ายอีกใบมาให้ เป็นภาพที่ได้จากล้องอีกตัวเมื่อหลายวันก่อน ทำเอาเฟมัสถึงกับหน้าซีด
"เฟมัส ถามอีกครั้ง เคยเจอเขาไหม?"
ในภาพเป็นภาพที่เฟมัสกำลังยืนคุยกับพนักงานคนหนึ่งที่เป็นเจ้าหน้าที่เอกสาร เขาจำได้แล้วเป็นคนเดียวกับที่ขโมยของไป
"…ใช่ นั่นผมเองและนั่นเขา ผมไม่รู้จักเขา ไม่รู้ชื่อ เขามาถามทางผม ผมไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้"
"คุณให้คีย์การ์ดเขาใช่ไหม?"
"ไม่ ผมรักษากฏนะ"
"คนตรวจสอบแจ้งผมว่ามีการใช้คีย์การ์ดของคุณเข้าออกโกดังและส่วนอื่นๆของไซต์ รวมๆแล้วก็ 27 ครั้ง"
"บ้าไปแล้ว นั่นไม่ใช่ผม คนนั้นต้องก็อปบัตรผมไปใช้แน่"
"คีย์การ์ดของคุณจะโดนบล็อคไว้ก่อนจนกว่าจะจับชายคนนั้นได้"
เฟมัสเดินคอตกออกจากห้องสอบสวน บัตรของเขาถูกบล็อค มันต้องใช้เข้าออกที่ทำงาน เขาจะทำไงละทีนี้
"ให้ตายสิเฟมัส ตั้งแต่ชั้นอยู่มาเนี่ยยังไม่เคยโดนขโมยของ แต่พอนายเข้ามาก็มีเรื่องซะแล้ว" นักวิจัยเกรต เพื่อนร่วมงานของเฟมัสพูด
"ชั้นจะไปรู้ได้ไงว่าเขาเป็นคนนอกแฝงตัวเข้ามา"
"งั้นนายก็ต้องพักงานจนกว่าจะได้ของคืน"
"ไม่นะ ถ้าชั้นหยุดพวกเขาจะไม่จ่ายเงินให้ระหว่างที่ชั้นหยุด"
"ชั้นช่วยไรไม่ได้ ปัญหาของนาย"
"นายนี่มัน…น้ำใจมากๆ" เฟมัสพูด "แต่ช่างเถอะ ชั้นจะจัดการไอ้หมอนั่นเอง"
"นายจะทำไงวะ?"
"ชั้นจะ..อัดมันให้เละไปเลย"
เกรตหัวเราะใส่เฟมัส "นายจะตืบคนนั้น จริงเหรอวะ อ่อ เรียกชั้นไปดูด้วยตอนที่นายจะตื้บหมอนั่นน่ะ ชั้นอยากเห็น"
"ชะ-ชั้นเอาจริงนะ แล้วจะได้เห็นดีกัน"
เฟมัสเดินออกจากห้อง ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนหรือเริ่มจากจุดไหน ต้องคิดหาทางเอาของกลับมาให้ได้ ไม่ว่ายังไงเขาจะไม่ให้ใครมาว่าว่าเป็นพวกไม่ได้เรื่องอีก เขาจะทำทุกอย่างให้ทุกคนเห็นว่าเขากล้าหาญขนาดไหน
เฟมัสเดินตามหาชายคนนั้น เขาถามคนอื่น แต่ไม่มีใครรู้ แถมบอกว่าเขาทำให้เสียเวลา แค่นี้เขาก็เสียเวลามากพอแล้ว เขาไม่แคร์ เขามีภารกิจที่ต้องทำ จนในที่สุดเฟมัสก็เจอตัว มันเดินอยู่ในกลุ่มคนอื่นทำตัวตีสนิทเนียนเชียวนะมึง วันนี้จะเป็นจุดจบของแกไอ้สารเลว
เฟมัสเดินตามหลังคนนั้นแล้วกระชากเสื้อไปยังมุมหนึ่ง
"เอาของคืนมา เดี๋ยวนี้!"
"เฮ้ ใจเย็น มีไรคุยกันได้"
"ชั้นเห็นนายเข้ามาในโกดัง มันไม่ใช่ที่ของนาย" เฟมัสพูดแบบข่มขู่ "เอาของที่ขโมยไปคินมาให้ชั้น แล้วชั้นจะไม่ตื้บนาย"
"เดี๋ยวก่อนๆ ชั้นว่านายเข้าใจผิดแล้วล่ะ"
"อย่ามาตอแหล ในเป้นั้นมีอะไร เปิดออกมา"
"นายกำลังละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอยู่นะ"
"ชั้นไม่สน นายจะเปิดหรือจะให้ชั้นเรียกรปภ.มาค้น"
"ก็ได้ๆ เปิดก็ได้"
ชายคนนั้นค่อยๆเอามือไปหยิบเป้ที่ด้านหลัง แต่แล้วทันใดนั้นมันก็เอามือเหวี่ยงมาฟาดที่หน้าของเฟมัสก่อนจะวิ่งไป
"นึกแล้วว่าต้องเป็นแก ไอ้เลว"
เฟมมัสตามหัวขโมยไป มันพยายามจะหนีออกจากไซต์ วิ่งไปตามทางพร้อมผลักคนอื่นๆที่ขวางอยู่ให้ล้ม
"หลีกไปสิวะ"
มันมาถึงโรงอาหารแล้วผลักคนอื่นๆแล้วขึ้นเหยียบบนโต๊ะ เฟมัสหยิบพวกขวดอะไรที่อยู่ตรงรถเข็นขว้างใส่หมอนั่น ทำเอาคนอื่นๆตกใจ เฟมัสวิ่งตามมันไปเหยียบขึ้นบนโต๊ะตรงหน้าที่มีพวกบรรดาหัวหน้าแผนก 2-3 คนนั่งคุยกันอยู่
"เฟมัส ทำบ้าอะไรวะ" ดร.อาทิตตะโกนด่าใส่ตามหลัง
ทางข้างหน้ามีรปภ.คนหนึ่งพยายามจะหยุดหัวขโมย แต่ก็โดนมันอัด ดูเหมือนหมอนั่นจะเก่งการต่อสู้ ส่วนเฟมัสก็ทำได้แค่ต่อยธรรมดาๆเท่านั้น มันแย่งปืนจากรปภ.แล้วหันมายิงใส่เฟมัสกะจะฆ่าให้ตาย เฟมัสก็หลบทันไปที่หลังกำแพง เสียงปืนในไซต์ทำให้เจ้าหน้าที่คนอื่นเริ่มตื่นตัวและถูกสั่งให้จัดการกับสองคนนี้
"เห็นวิ่งตามกูนึกว่าจะเก่ง" มันพูด
"เอาของคืนมานะเฟ้ย"
"มึงนี่ไม่เลิกจริงๆ" แล้วก็มีรปภ. 2 คน มาทางนี้ และถูกหมอนั่นยิงกราดใส่ตายคาที่ก่อนจะหนีไปอีก
เฟมัสไม่กล้าขยับตัว เขายังไม่อยากตาย มือของเขาสั่นไม่หยุด นี่สินะความกลัวของจริง หมอนั่นได้ปืนไปแล้วทีนี้จะทำไงต่อล่ะ จะเอาอะไรไปสู้กับมันได้ แต่ถึงจะสู้ได้มันก็เสี่ยงอย่างมาก
"ไม่ตามเจ้านั่นไปหรอ?"
มีคนพูดอยู่ใกล้ๆเขา เฟมัสเงยหน้าขึ้นไปเจอกับลุงภารโรงคนหนึ่งที่ไว้ผมปิดหน้าปิดตา สวมแว่นตาแตกๆกำลังถูกพื้นอยู่ มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
"ไม่รู้สิ กลัวมั้ง"
"ทุกคนก็กลัวกันทั้งนั้นแหละ" ภารโรงพูด "ผมเห็นคุณทำโรงอาหารเลอะไปหมด"
"ขอโทษด้วย ผมต้องจับเขาให้ได้"
"แล้วทำไมถึงหยุดล่ะ?"
"ก็…เขามีปืน คุณไม่เห็นเหรอ"
"คุณไม่ได้กลัวปืน คุณกลัวว่าจะหยุดเขาไม่ได้" ภารโรงบอกขณะถูพื้นไปด้วย
เฟมัสอาจไม่ได้กลัวปืนจริงๆอย่างที่ภารโรงบอกก็ได้ เขาสามารถจับหัวขโมยได้เพียงแค่ต้องทำมันเท่านั้น คนอื่นในนี้ก็คงเจอปัญหาเดียวกับเขา แต่บางคนก็ผ่านมันไปได้ และบางคนก็ไม่ เขาไม่อยากเป็นประเภทหลัง
หัวขโมยได้เข้าไปในรถของพนักงานที่จอดอยู่ ต่อสายตรงแล้วขับรถออกไปเป็นจังหวะเดียวกับที่เฟมัสมาถึงแต่ไม่ทัน เฟมัสรีบวิ่งไปที่รถมอร์เตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู เอฟ 800 อาร์ คันโปรดของเขาที่จอดอยู่แถวๆนั้นเพื่อขับตามไป หมอนั่นได้ขับชนที่กั้นด่านแรกออกไปได้และชนเข้ากับรถของคนอื่นที่ขวางทางอยู่ รปภ.หน้าป้อมได้ยิงปืนใส่พร้อมกับกดสวิทยกตะปูเรือใบที่ซ่อนอยู่ตรงถนนขึ้นมา ทำให้รถคันนั้นเหยียบตะปูจนยางแตก รถเสียหลักเล็กน้อยแต่ยังไม่คว่ำและไปต่อได้อีก เฟมัสขับรถเหินออกมาอย่างรวดเร็วปานเหาะ ข้ามรถสองคันที่จอดเสียอยู่ออกไปและลงพื้นอย่างนุ่มนวล
เฟมัสตามไปไม่นานก็เจอรถที่มันขโมยไว้จอดนิ่งอยู่ แต่แล้ว…
ปัง!
วัตถุบางอย่างวิ่งเฉียดหัวเขาไปทางด้านซ้ายก่อนที่เฟมัสจะทิ้งรถแล้วโดดหลบไปอยู่หลังของรถคันที่ถูกขโมยมา เขารู้สึกเจ็บๆที่หูซ้าย แล้วเอามือไปสัมผัส เลือด! หูของเฟมัสบาดเจ็บน่าจะถูกกระสุนบาด มันทำให้เลือดของเขาเลอะเสื้อกาวน์ด้วย
"สัส! นี่แม่งซักไม่ออกด้วยนะเว้ย"
เฟมัสชะโงกหน้าออกไปเห็นหมอนั่นอยู่หลังแนวหินยิงใส่เขาแบบมั่วๆจนกระสุนหมดแล้วทิ้งปืนไปก่อนจะหนีไปต่อ เฟมัสค้นดูในรถแล้วก็เจอขวาน มีขวานแบบนี้ในรถของพนักงานด้วย? เขาอาจใช้เป็นอาวุธได้หรือไม่ก็แค่ขู่เฉยๆให้มันส่งของมา
"วันนี้เป็นไงเป็นกัน"
เฟมัสตามหมอนั่นไป มันคงไม่คิดว่าจะโดนพนักงานกระจอกๆคนนี้ไล่ตามมาจนถึงตอนนี้ได้
"เชื่อเลยว่ะว่ามึงยังตามกูมาอยู่ กูคงจะประเมินมึงต่ำไป" มันพูด
"เอาของคืนมาโว้ย" เฟมัสตะโกนแล้วชูขวานขึ้นมา "เห็นนี้ไหม๊ กูจะเอาสับหัวมึง"
หัวขโมยวางเป้ลง "เก่งจริงก็เข้ามาแย่งสิ"
เฟมัสกลืนน้ำลายถึงแม้เขาจะเคยต่อยกับคนอื่นมาแล้ว แต่ไอ้นี่ท่าทางจะเก่ง เหมือนถูกฝึกการต่อสู้มาอย่างดีและตัวเขาอาจแพ้ไม่เป็นท่าได้ มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หนีก็กลายเป็นพวกขี้แพ้น่ะสิ
เฟมัสวิ่งไปโจมตีก่อน ใช้ขวานเป็นอาวุธแต่หมอนั่นหลบได้และชกเข้าที่หน้าเฟมัส จากนั้นก็ทำการปลดอาวุธจากเขา เฟมัสยังไม่ยอมเขาเหวี่ยงขาไปเตะขาของมัน เฟมัสคิดว่าแรงพอที่จะทำให้มันล้มแต่ไม่และสวนกลับเข้าที่ท้องของเฟมัสจนล้มลง เฟมัสจับเสื้อมันเอาไว้แล้วดึงให้ล้มตามน้ำหนักตัวของเขา
เฟมัสถีบที่หน้าอกหมอนั่นให้ออกไปพ้นๆแล้วกลิ้งตัวออกไป คลานไปหาเป้ที่วางอยู่ไม่ไกลนัก แต่เขาก็โดนดึงขาเอาไว้ เฟมัสถีบเข้าที่หน้าของมันอย่างเต็มแรง แล้วรีบคว้าเป้มาไว้ในอ้อมอกจากนั้นก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะวิ่ง
ปึ๊ก!
เฟมัสรู้สึกหนักๆที่หัวมันเจ็บแปล๊บๆ รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนจะเป็นลม ร้อนที่หัวเหมือนมีอะไรอยู่บนนั้น แล้วเฟมัสก็ล้มลงไปขณะที่ยังกอดเป้เอาไว้อย่างแน่น เขานอนหงายอยู่และเห็นหมอนั่นถือขวานเอาไว้ มันง้างขวานขึ้นมาอีกครั้งเพื่อจะฆ่าเขา แต่จู่ๆมันก็ล้มตัวลงมาทับเฟมัสแล้วทุกอย่างก็มืดไปหมด
…มีแสงเจิดจ้าเกิดขึ้นจนทำให้เฟมัสต้องลืมตาขึ้นมา พบว่าตนเองนอนอยู่บนพื้นดินที่เดิม รอบๆตัวนั้นไม่มีใครเลย มันแปลกมาก เขาลุกขึ้นเอามือป้องแสงไว้ เงาของใครบางคนอยู่ตรงแสง
"ผมอยู่ที่ไหน?" เฟมัสถาม
เงาค่อยๆตรงมาทางเขาและสูงขึ้นๆจนเลยหัวของเขาก่อนจะยื่นมือมาให้ เฟมัสลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปหา ขณะที่เขากำลังเอื้อมมือไปนั้นจู่ๆก็มีบางอย่างกระชากเสื้อจากข้างหลังจนเขาต้องหันไป แล้วต้องตกตะลึงเมื่อสิ่งนั้นคือเฟมัสอีกคน ใช่แล้วนั่นคือเขาอีกคนราวกับฝาแฝดที่สวมเสื้อกวาน์เปื้อนเลือดทั่วแต่ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บ
"นายมาทำอะไรที่นี่?" เฟมัสถาม
"นายต่างหากที่มาทำอะไรที่นี่" เฟมัสอีกคนพูด
"ชั้นไม่รู้"
"นายต้องกลับบ้านแล้วล่ะ"
"กลับไปไหน นายเป็นใครกัน"
"ชั้นก็คือนายไง นายจะเจอชั้นเมื่อนายตื่นแล้ว"
"ว่าไงนะ?"
จู่ๆความมืดก็ปกคลุมรอบทิศทาง แสงสว่างได้หายไป เฟมัสอยู่ตัวคนเดียวกำลังจมดิ่งสู่ความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด รู้สึกเหมือนตกจากที่สูงที่ไม่อาจหวนคืนได้
…เฟมัสลืมตาขึ้นอีกครั้ง แสงจากหลอดไฟทำให้เขาแสบตา ตาของเขาค่อยๆปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม หันมองข้างๆที่มีเครื่องวัดต่างๆ มีสายเต็มไปหมด ห้องที่ค่อนข้างจะคุ้นตา ที่แห่งนี้คือโรงพยาบาล ดูเหมือนเฟมัสจะฟื้นมาจากความตาย อยู่ในที่ๆปลอดภัย
เฟมัสพยายามจะลุกตัวขึ้นจนพยาบาลได้เข้ามาหา
"เกิดอะไรขึ้น?"
"คุณได้รับบาดเจ็บสาหัส"
"ผมพอจะจำได้ละ ละ-แล้วผมนอนอยู่นี่นานแค่ไหนแล้ว"
"26 วันค่ะ"
"ยะ-26 วัน เชียวเหรอ"
"ค่ะ ตอนนี้พักผ่อนก่อนนะคะ"
เฟมัสมองตามนางพยาบาลที่เดินออกจากห้องไป เขาหลับตาลง อีกไม่นานเขาก็จะหายดีและกลับไปทำงานกระจอกๆเหมือนเดิม เขาพยายามที่จะทำให้ใจสงบ แต่ก็มีความรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ทำให้เขาต้องลืมตาขึ้นอีกรอบ
"อรุณสวัสดิ์ เฟมัส"
นั่นทำให้เฟมัสสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อดร.อาทิต1 มาแบบไม่ให้สุ้มเสียง(อีกคน)นั่งอยู่ที่ข้างเตียง
"คุณมาได้ไงเนี่ย?"
"ก็ชั้นไปไหนก็ได้ที่นี่"
"จะบอกว่าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลงั้นเหรอ?"
"เฟมัส นายน่ะเกือบจะตายแล้ว"
"ผมรู้ มันแย่มากเลยใช่ไหม ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าสภาพตัวเองเป็นยังไง"
"ก็เหมือนเดิม" ดร.อาทิตบอก "พวกเขา…ไม่ให้ชั้นบอกนาย"
"บอกอะไร?"
"ชั้นจะไม่โกหกนะ สมองของนายเสียหายหนักมาก ถูกตีจนกระโหลกเปิด เข้าไปถึงเนื้อสมอง"
"นั่น…ฟังดูเลวร้ายมาก"
"นายอาจไม่เหมือนเดิม พวกเขาเลยจะปล่อยให้นายตาย"
"งั้นทำไมผมถึงยังอยู่ที่นี่"
"ชั้นขอร้องให้พวกเขาผ่าตัดสมองให้โดยเอาสมองของคนอื่นมาเปลี่ยนตรงที่เสียหาย"
"โอ้…"
"บางทีนายอาจจะอยากได้รับความเห็นใจบ้าง"
"เขาควรได้รับความขอบคุณจากผม"
"ไม่หรอก เฟมัส ถ้านายรู้ว่าสมองที่เปลี่ยนเป็นของคนที่พยายามจะฆ่านาย"
"…อะไรนะ? ไม่ ผมไม่อยากได้"
"ไม่ต้องห่วง คนนั้นเขาตายจากโลกนี้ไปแล้ว ความทรงจำความนึกคิดยังเป็นของนายอยู่ บางทีนายอาจไม่รู้สึกถึงสมองที่เปลี่ยนด้วยซ้ำ"
"ฮือ นั่นมันแย่มากเลย"
"ไม่หรอก เอาล่ะ ชั้นจะปล่อยให้นายอยู่เงียบๆคนเดียว" ดร.อาทิตลุกจากเก้าอี้ "อ่อ อีกอย่างนะ นายไม่ได้ทำงานที่โกดังอีกแล้ว พวกเขาย้ายนายมาอยู่ชั้นใต้ดิน นายจะได้งานใหม่ ตำแหน่งใหม่ แล้วก็หัวหน้างานคนใหม่ของนาย ขอให้โชคดี"
"แต่ผมชอบคุณมากกว่า"
ดร.อาทิตยิ้มที่มุมปากให้นิดๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป เฟมัสเริ่มกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับสมองใหม่ที่เขาไม่ชอบมัน ปล่อยให้เขาตายยังจะดีกว่าเอาใครไม่รู้มาอยู่ในหัวเขา ยิ่งคนๆนั้นเป็นคนไม่ดีด้วยแล้วก็ไม่รู้ว่าวันไหนที่เขาจะคิดไม่ดี เขาไม่อยากถูกเปลี่ยนให้เป็นคนอื่นโดยเฉพาะเมื่อคนนั้นเป็นศัตรู
หลายเดือนต่อหลังจากได้กลับมาทำงาน เขาเหมือนเป็นคนใหม่ อันที่จริงก็แค่งานใหม่ ตำแหน่งใหม่ กับหัวหน้าชื่อรันที่แม่งเคี่ยวเป็นว่าเล่นจนเขาอยากกลับไปอยู่ที่โกดังอย่างเดิม แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ากับงานพวกนี้ งานของเขามีความหมาย หัวหน้างานให้เขาทำงานที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด งานสกปรกเลวทรามที่อยู่ใต้เงาของสถาบันแห่งนี้ ที่ๆเคยมีคนพูดถึงการเอาชีวิตของคนไปทดลอง แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่ดูเหมือนว่าเฟมัสจะไม่ใช่เฟมัสคนนั้นอีกแล้วเมื่อตอนที่เสื้อกาวน์ของเขาเปื้อนเลือดของคลาส-D หลังจากที่เขาระบายใส่พวกนั้นด้วยท่อนไม้หน้าสามขนาดใหญ่ ตอนที่ดร.รันเข้ามาห้ามเขาแล้วมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง เขาไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป เหมือนกลายเป็นอีกคน คนที่อยู่ในหัวเขา เขารู้สึกผิดต่อตัวเองอย่างมากจนอยากจะตายให้พ้นๆไปจากโลกนี้ซะ
หลายวันต่อจากเหตุการณ์นั้น ไม่มีใครกล้าจะคุยกับเฟมัส พวกเขาคงกลัวว่าเฟมัสจะไปทุบหัวพวกเขา เขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานรวม บนโต๊ะมีกระดาษแผ่นหนึ่ง มันคือใบลาออกแต่ยังไม่ได้กรอกอะไรลงไป เขารู้สึกว่ากำลังถูกใครบางคนจ้องมองอยู่เป็นเวลานาน มันทำให้เฟมัสหงุดหงิดเลยหันไปที่โต๊ะข้างๆ เป็นชายสวมแว่นคนหนึ่งมองมาทางเขา ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา น่าจะเป็นพนักงานใหม่ คนนั้นยิ้มให้ตอนเฟมัสหันไปหา
"หวัดดี ที่นี่เยี่ยมไปเลย ว่าไหม๊"
"หวังว่างั้น" เฟมัสตอบแล้วหันกลับมาที่กระดาษ
"อยู่นี่มานานแล้วเหรอ?"
"ก็หลายปีล่ะ แต่พึ่งมาอยู่แผนกนี้ได้ไม่กี่เดือน"
"ชั้นย้ายมาจากที่อื่น พอจะแนะนำอะไรหน่อยได้ไหม?"
"…รักษาชีวิตเอาไว้ อย่าตายก่อนวัยอันควร"
"นั่น..มันดีมาก"
แล้วคนนั้นก็ลุกจากโต๊ะเดินมาทางเฟมัส ขาของเค้าดันไปชนกับโต๊ะทำให้น้ำชาที่วางอยู่หกใส่กระดาษใบลาออกที่เฟมัสกำลังกรอกอยู่ เฟมัสชักยั๊วะเจ้านี่แล้วล่ะ
"โอ๊ะ โทษที คงไม่โกรธนะที่ทำใบ..ลาออกเลอะ แต่นายเขียนใหม่ได้"
คนนั้นได้ยื่นมือมาทางเฟมัส "เช็คแฮนด์ไง ไม่รู้จักเหรอ"
เฟมัสถอนหายใจแล้วเช็คแฮนด์กับเจ้านี่
"โอเค ด้วยความยินดี"
"ทอมสัน นิรนาม ยินดีที่ได้ร่วมงานกับนาย"